นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา - บทที่ 4 ผู้ชายคนนี้เก่งมากเลย
นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา บทที่ 4 ผู้ชายคนนี้เก่งมากเลย
ในใจครุ่นคิด เดินไปที่เตียง ยกเฉินโหยวซวนขึ้นบ่า เดินออกจากบ้านไป
โจวกุ้ยหลานพาเจ้าก้อนน้อยเดินออกมาจากห้อง มองดูสวีฉางหลินลงเขา อดไม่ได้ที่จะส่ายหัว เฮ้อ ผู้ชายคนนี้ร่างกายแข็งแรงจริงๆ
ในขณะที่กำลังคิดอยู่ ก็หันไปเห็นสัตว์ที่ล่ามาได้อย่างไม่ได้ตั้งใจ
นี่คือ…..กวางซิก้า?
นางเดินเข้าไปใกล้ ค่อยพบว่าเป็นกวางซิก้าจริงๆด้วย
ดูรูปร่างกวางซิก้า น้ำหนักน่าจะประมาณร้อยกว่ากิโล และกวางซิก้าแบบนี้ทั้งตื่นตัวทั้งวิ่งรวดเร็วอย่างมาก สวีฉางหลินกลับสามารถล่ามาได้?
โอ้พระเจ้า ผู้ชายคนนี้เก่งมากเลย
โจวกุ้ยหลานหมุนรอบตัวกวางซิก้า คิดอยู่ว่าจะแบ่งยังไง
เขากวางอ่อน เขากวาง หางกวาง เลือดกวาง หนังกวาง…..
เงินทั้งนั้น เงินทั้งนั้น
เจ้าก้อนน้อยก็ก้าวเท้าน้อยๆเดินมา ตามมองดูอยู่ด้านหลังโจวกุ้ยหลาน ไม่เข้าใจว่าท่านแม่กำลังทำอะไรอยู่ แต่เขารู้ว่าท่านแม่มีความสุขมาก
ท่านแม่มีความสุข เขาก็มี
“ลูกรัก วันนี้เรากินของอร่อยแล้ว”
โจวกุ้ยหลานหันมายิ้มหวานให้กับเจ้าก้อนน้อย พร้อมพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น
ทานแต่ข้าวต้มมาสองมื้อแล้ว จนนางรู้สึกว่าท้องของตนเองไม่มีน้ำย่อยแล้ว ตอนนี้มองเห็นเนื้อ นางแทบน้ำลายไหล
เจ้าก้อนน้อยกลืนน้ำลายลง พร้อมพูดขึ้นอย่างลังเลว่า “พอบอกว่าต้องเอาไปแลกอาหาร……”
“ไม่เป็นไร เก็บเนื้อไว้กิน เรายังสามารถแลกอาหารได้”
นี่คือกวางซิก้าหนึ่งตัวเลยนะ เอาไปขายทั้งหมด จะได้ซื้ออาหารกลับมาตั้งเท่าไหร่?
เฮ้อ เสียดายนางจัดการไม่เป็น ต้องรอสวีฉางหลินกลับมาก่อน
โจวกุ้ยหลานเอาอ่างไม้กับกิ่งไม้ วิ่งมาขุดไส้เดือนอยู่ข้างกวางซิก้า
เหลือบมองดูกวางซิก้าอยู่เป็นครั้งคราว ในใจกำลังคิดคำนวณอยู่ว่าจะขายได้เท่าไหร่ แล้วจะซื้ออะไรเข้าบ้านบ้าง
โจวกุ้ยหลานที่กำลังดื่มด่ำอยู่กับความสุขในการที่จะมีเงิน มือจึงเคลื่อนไหวช้าลง เจ้าก้อนน้อยขุดได้เยอะกว่านางเสียอีก
รอเมื่อสวีฉางหลินกลับมาอีกครั้ง ก็หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว
เขากลับมา โจวกุ้ยหลานก็เอามีดหั่นผักมาวางตรงหน้าเขา คมมีดที่แวววาวทำให้สวีฉางหลินมองดูนางอย่างระมัดระวัง
ผู้หญิงคนนี้ คิดจะฆ่าสามีตนเองหรือ?
“สวีฉางหลินเจ้าเก่งมากเลย มามามา มาจัดการกวางซิก้าตัวนี้เร็ว เราจะได้ไปขายตอนช่วงบ่าย”
พูดเสร็จ แล้วก็ยื่นมีดคมที่แวววาวนั่นให้กับสวีฉางหลิน สวีฉางหลินรีบมาคุกเข่าลง แล้วก็จะลงมือฟันหัวกวางตัวนั้น
โจวกุ้ยหลานร้องขึ้นมาอย่างตื่นตระหนกว่า “รอก่อน”
สวีฉางหลินหยุดมือ เงยหน้ามองดูนาง เห็นนางจ้องมองดูเขาอย่างไม่อยากเชื่อ
“เจ้าจะตัดหนังแบบนี้เลยหรือ?”
“อืม”
“เจ้าทำลายสิ่งของให้เสียหายตามอำเภอใจจริงๆ ตอนนี้ เจ้าฟังคำสั่งข้า”
โจวกุ้ยหลานเอามือเท้าเอว แล้วชี้ไปที่เขากวาง ให้เขาตัดลงมาก่อน
ผู้ชายคนนี้ ไม่รู้จักของมีค่าจริงๆ ถึงว่าทั้งๆที่เขาล่าสัตว์เก่งขนาดนี้ ที่บ้านก็ยังจนขนาดนี้
ภายใต้การสั่งการของเขา สวีฉางหลินจัดการกวางซิก้าตัวนี้ได้อย่างรวดเร็ว แบ่งออกเป็นสัดส่วนที่แตกต่างกัน แล้ววางไว้ในตะกร้าแต่ละตะกร้า
โจวกุ้ยหลานเก็บเนื้อกวางไว้เจ็ดแปดชั่ง เตรียมทำอาหารมื้ออร่อย เนื้อกวางเป็นสิ่งของดี นางจะต้องบำรุงทุกคนในบ้าน
สวีฉางหลินเห็นท่าทางนางอย่างมีความสุข ในใจก็ค่อยโล่งอกไม่น้อย
เห็นท่าที่ว่านางคงจะยอมอยู่ต่อแล้ว
เมื่อคิดเช่นนี้ จึงพูดขึ้นมาว่า “เก็บเนื้อไว้ห้าสิบชั่ง”
“เยอะขนาดนี้ ทานไม่หมดแล้วจะเสียหรอก”ถึงแม้โจวกุ้ยหลานก็เห็นว่าเนื้อกวางเป็นของดี แต่สภาพอากาศร้อน เก็บเนื้อไว้ได้ไม่นาน
“พรุ่งนี้เจ้ากลับไปเยี่ยมบ้าน เอากลับไปด้วย”
โจวกุ้ยหลานจึงคิดขึ้นมาได้ว่า ผู้หญิงคนทางนี้แต่งงาน วันที่สามจะต้องกลับไปบ้านตนเอง ถือเป็นการกลับไปเยี่ยมบ้าน
คิดถึงท่านแม่ของเจ้าของเดิม ในใจนางก็สั่นไหวเล็กน้อย นั่นถือว่าเป็นคนไม่ธรรมดา คงจะจับผิดนางไม่ได้ใช่ไหม?
หลังจากเอาเนื้อที่สวีฉางหลินให้เก็บไว้ไปไว้ในบ้านแล้ว โจวกุ้ยหลานก็เสนอตัวทำอาหารเที่ยงด้วยตนเอง
แต่เสียดาย ในขณะที่นางเห็นว่าในบ้านมีเพียงเกลือเท่านั้น นางก็คิดว่า แบบนี้ไม่สามารถที่จะปรุงอาหารอร่อยได้
ต่อให้ไม่พอใจยังไง ก็สามารถทำได้เพียงเอาน้ำเปล่าต้มเนื้อกวาง เอาเกลือเม็ดโตเป็นก้อนโรบลงไป ส่วนอาหารหลัก ยังเป็นข้าวต้มอีก
เจ้าก้อนน้อยคุกเข่าอยู่บนพื้น ขุดไส้เดือนต่อไป
สวีฉางหลินเดินเข้าไป เห็นอ่างไม้ที่ปกติเอาไว้ใช้ซักผ้าเต็มไปด้วยไส้เดือนที่เคลื่อนไหวไปมา
“ขุดอันนี้ทำไม?”
เจ้าก้อนน้อยพูดตอบอย่างไม่เงยหน้าว่า “ท่านแม่ชอบ ข้าจะขุดให้ท่านแม่”