นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา - บทที่ 41 บ้านเจ้าเลี้ยงหมากี่ตัว
นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา บทที่41 บ้านเจ้าเลี้ยงหมากี่ตัว?
ตอนนี้เห็นแค่คนบ้านนอกสองคน คงจะมาแข่งขายของกับเขา!
พ่อค้าจางไม่สนแผงขายของของเขา ยกมีดเชือดหมูของเขาขวางสองสามีภรรยาไว้
“พวกเจ้ายังกล้ามาอีกเหรอ?”
“ทำไมจะไม่กล้ามาล่ะ?” โจวกุ้ยหลานตอบกลับอย่างไม่เกรงใจ
เดือนก่อนเขามาหาเรื่องพวกเขาก่อน จากนั้นก็ถูกสวีฉางหลินจัดการ ตามหลักแล้ว เขาควรจะกลัวพวกเขาไม่ใช่เหรอ?
คนคนนี้ตลกจริงๆ!
“คนบ้านนอกอย่างพวกเจ้า กล้ามาทำร้ายข้าในพื้นที่ของข้าอีก?” พ่อค้าจางมองค้อน นัยน์ตาปะทุไปด้วยไฟแห่งความแค้น
มองโจวกุ้ยหลานเสร็จก็มองไปยังสวีฉางหลินต่อ
สวีฉางหลินขมวดคิ้ว เห็นภรรยาตัวเองปัดมือ ท่าทางเหมือนไม่อยากสนใจ เขาก็มองไปยังพ่อค้าจาง ตะคอกเสียงดังว่า: “ถอยไป!”
เสียงตะคอกนี้ ทำเอาพ่อค้างจางตกใจจนไขมันบนร่างกายสั่นสะเทือน
หันกลับไปดู กำลังจะยกมีดฟันไปยังสวีฉางหลิน ก็เผชิญเข้ากับสายตาที่เย็นยะเยือกของสวีฉางหลิน หัวใจสั่นเทา ในสมองก็นึกถึงเรื่องที่ถูกเขาเตะออกไปไกล ในใจก็สั่นมากขึ้นกว่าเดิม
ตอนนี้พอนึกย้อนกลับไป ท้องกับหลังก็เหมือนยังปวดๆอยู่
มือที่จับมีดของเขาก็ปล่อยออกแล้วก็กำแน่นขึ้น แต่พอกำแน่นก็ปล่อยออกอีกครั้ง ในที่สุดก็ตัดสินใจ: “พวกเจ้า ฝากไว้ก่อนเถอะ!”
หลังจากที่พูดข่มเสร็จแล้ว ก็รีบวิ่งหนีออกไปโดยไม่สนใจแผงขายของของตัวเองอีก
โจวกุ้ยหลานพูด: “ข้าโง่เหรอ ยังจะรออีก!”
พูดจบก็กลับหลังหัน โบกมือกับสวีฉางหลิน: “ไปเถอะ!”
สวีฉางหลินมองด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม แล้วเดินตามภรรยาตัวเองไปซื้อผักต่อ
โจวกุ้ยหลินซื้อผักกาดกวางตุ้งเพิ่ม เห็นว่าตะกร้าใส่ไม่ได้แล้ว ก็ถึงเดินไปหน้าประตูเมืองพร้อมกับสวีฉางหลิน แล้วนั่งรถเหล่าหม่าโถวกลับบ้าน ทุลักทุเลกลับมาถึงหมู่บ้าน
รอพ่อค้าจางพาผู้ชายร่างใหญ่สิบกว่าคนมาถึง ก็เห็นว่าไม่มีคนอยู่แล้ว
พ่อค้าจางโยนมีดเชือดหมูลงพื้นอย่างแรง แล้วตะโกนอย่างหงุดหงิดว่า: “พวกชั้นต่ำ ปล่อยหนีไปจนได้!”
รอโจวกุ้ยหลินพวกเขากลับมาถึงหมู่บ้าน ฟ้าก็สว่างแล้ว โจวเหล่าไท่ไท่กับโจวต้าไห่ก็มาแล้ว
เห็นพวกเขาซื้อของมากมายกลับมา โจวเหล่าไท่ไท่ก็รู้สึกปวดใจอย่างมาก
“ข้าว่านะ จะซื้อเนื้อมาเยอะแยะทำไมกัน? สามีเจ้าหาเงินก็ไม่ง่ายเลย?” โจวเหล่าไท่ไท่อยากจะตบลูกสาวตัวเองสักฉาดจริงๆ
โจวกุ้ยหลานรีบจับแขนสวีฉางหลิน “เขาเป็นคนซื้อนะ ใช่ไหม?”
ว่าแล้วก็เงยหน้า ยิ้มตาหรี่มองสวีฉางหลิน
มองดูแววตาที่เปล่งประกายคู่นั้นของเขา สวีฉางหลินก็รู้สึกน่ามองมาก ปากก็ตอบกลับว่า: “อืม”
โจวเหล่าไท่ไท่แทบจะเป็นลม โกรธจนนางกลับหลังหันเดินออกไป
ให้สามีมารับแทน นางก็ไม่กลัวอะไรแล้วหรือไง เดี๋ยวถึงเวลานางได้ร้องไห้กลับมาแน่!
นางทำหน้าบึ้งตึงอยากไปทำข้าวต้ม ทันใดนั้นก็มีแป้งกระสอบหนึ่งหนึ่งปรากฏขึ้น นางเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นลูกสาวตัวเองกำลังมองตัวเองด้วยรอยยิ้ม
“แม่ ข้าวเช้ากินหมั่นโถวนะ?”
โจวเหล่าไท่ไท่โกรธจนยกมือขึ้นตีโจวกุ้ยหลาน โจวกุ้ยหลานรีบหลบ
ยังกล้าหลบอีก!
โจวเหล่าไท่ไท่ไม่สนสี่สนแปด วิ่งไล่ตีโจวกุ้ยหลานทั่วบ้าน โจวกุ้ยหลานรีบไปหลบอยู่หลังสวีฉางหลิน
“ท่านแม่ตีข้าทำไม? ข้าทำอะไรผิด?”
โจวกุ้ยหลานร้องขอความเป็นธรรม แม่นางจะตีคนโดยไร้เหตุผลไม่ได้นะ!
โจวเหล่าไท่ไท่กัดฟันกรอดด่าว่า: “ถ้าไม่ตีอีก เจ้าคงได้ทำตัวเหิมเกริมกว่านี้! ลูกไม่เอาไหน เจ้าได้กินข้าวอิ่มแค่สองวันก็จะไม่สนโลกแล้วหรือไง! ฉางหลินหลบไป วันนี้ข้าจะสั่งสอนเจ้าลูกไม่รักดีคนนี้ให้เข็ดหลาบ”
นางข่มอารมณ์โกรธมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ผ่านไปคืนหนึ่ง ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ ลูกไม่เอาไหนคนนี้ยังกล้าหุงหมั่นโถวอีกเหรอ? จะตีให้ตายเดี๋ยวนี้เลย!
สวีฉางหลินจับตัวผู้หญิงที่อยู่หลังเขาไว้ ลากตัวนางมาไว้ตรงหน้าเหล่าไท่ไท่
เหล่าไท่ไท่ดีใจ รีบก้าวไปข้างหน้า
ผู้ชายคนนี้! ทำแบบนี้กับนางได้ยังไงกัน!
โจวกุ้ยหลานจะบ้าตายกับสวีฉางหลินจริงๆ ปล่อยให้นางโดนเหล่าไท่ไท่ตีได้ยังไงกัน?
ในใจคิดอยู่นั้น นางเหยียบเท้าของเขาแรงๆ และบดขยี้ลงไปด้วย
แต่สวีฉางหลินกลับไม่ขมวดคิ้วเลยด้วยซ้ำ ปล่อยให้นางเหยียบไป
โจวกุ้ยหลานก็ถึงนึกขึ้นได้ว่า ตัวเองไม่ได้ใส่ส้นสูง เหยียบยังไงเขาก็ไม่เจ็บหรอก
ในใจโกรธอยู่นั้น มือของเหล่าไท่ไท่ก็ตบมายังตัวของนางอย่างแรง
โจวกุ้ยหลานหลับตาลง หดตัวลง รอฝ่ามือตบลงมาบนตัว
เสียง ‘เพี๊ยะ’ ดังขึ้น คิดไม่ถึงเลย ฝ่ามือนั้นไม่โดนตัวนางเลย นางแอบลืมตาขึ้น ก็เห็นสวีฉางหลินใช้แขนปกป้องนางไว้
มือของเหล่าไท่ไท่ชะงักค้างกลางอากาศ สีหน้ายังคงไม่อยากจะเชื่อ
“ฉางหลิน เจ้าทำอะไรกัน?”
เหล่าไท่ไท่ถามเขาอย่างแปลกใจ ไม่คิดเลยว่าลูกเขยตัวเองจะปกป้องลูกสาวตัวเองแบบนี้
โจวกุ้ยหลานก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ เมื่อกี้สวีฉางหลินโดนเหล่าไท่ไท่ตบไปป๊าบหนึ่ง