นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา - บทที่ 42 เป็นผู้ชายที่ดีจริงๆ
นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา บทที่42 เป็นผู้ชายที่ดีจริงๆ
“ท่านแม่อายุมากแล้ว จะวิ่งไม่ได้นะขอรับ ถ้าล้มขึ้นมาจะทำยังไง? กุ้ยหลานเป็นภรรยาของข้า เรื่องที่บ้านข้าให้นางตัดสินใจขอรับ”
สวีฉางหลินพูดทีเดียวเยอะมาก นี่เป็นคำอธิบายงั้นเหรอ
โจวกุ้ยหลานอึ้ง ผู้ชายคนนี้กำลังอธิบายงั้นเหรอ? เขากลัวเหล่าไท่ไท่จะล้มจนเกิดเรื่อง? แล้วนางเป็นภรรยาของเขา งั้นก็หมายความว่านางจะใช้เงินที่บ้านยังไงก็ได้? ถ้าเหล่าไท่ไท่ไม่สบายใจ เขาจะโดนตบแทนนางเอง?
หัวใจเหมือนถูกอะไรเติมเต็ม อบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
ผู้ชายคนนี้……
ถึงแม้จะไม่ชอบพูด และเป็นแค่นายพราน แต่เป็นผู้ชายที่ดีมากจริงๆ……
ในระยะเวลาสั้นๆแบบนี้ นางรู้สึกได้ถึงคำที่เรียกว่า ‘รัก’ จริงๆ
ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนรักและอบอุ่นกับนางขนาดนี้มาก่อน
โจวกุ้ยหลานใช้มือจับอกตัวเองไว้ กัดริมฝีปากไว้แน่น ความอบอุ่นในใจพลุ่งพล่านไปทั่วร่าง ทำเอานางใจเย็นต่อไปไม่ไหว
ถ้า……ถ้าอยู่กับเขาต่อไปเรื่อยๆ เป็นสามีภรรยากันจริงๆ ต่อไปคงจะมีความสุขน่าดู
หลายวันมานี้ ถึงแม้นางจะตัดสินใจอยู่ที่นี่ต่อไป แต่ในใจก็ยังกลัว กอดเจ้าก้อนน้อยนอนเข้านอนทุกวัน กลัวว่าเขาจะทำอะไรกับนาง นางอยากเหลือทางให้ตัวเองได้ถอยกลับ
หรือนางควรจะนอนกับเขาให้จบไป……
“อุ๊ย พวกเจ้าทำอะไรตอนเช้าเหรอ?”
เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งทำลายความคิดของโจวกุ้ยหลาน นางหันไปมอง ก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา และคนที่พูด ก็คือป้าของนางหลี่ซิ่วยิง
เหล่าไท่ไท่กำลังตกใจกับการกระทำของสวีฉางหลิน ตอนนี้เพิ่งรู้สึกตัวขึ้นมา เห็นคนมากมายมาที่บ้าน ก็รีบเปลี่ยนสีหน้า: “พี่ใหญ่พี่สะใภ้มาแล้วเหรอ? ตอนนี้กำลังทำข้าวเช้าอยู่?”
ว่าแล้ว นางก็เดินไปต้อนรับ
“ทำข้าวต้มธัญพืชเถอะ อิ่มและทำงานได้นานด้วย” โจวต้าซานพูดขึ้นก่อน
หลี่ซิ่วยิงกลอกตาไปมา พูดด้วยรอยยิ้มว่า: “ข้าวต้มธัญพืชก็ได้ แต่กลัวเดี๋ยวทำงานจะไม่มีแรงน่ะสิ”
นางมากินของอร่อย มาทั้งทีจะกินแค่ข้าวต้มธัญพืชเหรอ?
สะใภ้รองหวังหยู่ชุนที่อยู่ด้านหลังไม่พอใจ: “สร้างบ้านเป็นเรื่องใหญ่ อาหารเช้าต้องกินดีกินอิ่มถึงจะมีแรงทำงาน กินแค่ข้าวต้มธัญพืชได้ที่ไหนกัน? เมื่อวานทำหมั่นโถวไม่ใช่เหรอ? อาหารเช้าก็กินอันนั้นสิ”
นึกถึงหมั่นโถวที่ได้จากเมื่อวาน นางก็รู้สึกอยากกินอีก
ลูกชายอีกสามคนของนางก็รีบพูดว่า: “อยากกินหมั่นโถว!”
สีหน้าของโจวเหล่าไท่ไท่แข็งทื่อขึ้นมาทันที พูดมาขนาดนี้แล้ว นางจะพูดอะไรได้อีกล่ะ?
โจวต้าซานขมวดคิ้ว กำลังจะพูดอะไร ก็ได้ยินโจวกุ้ยหลานพูดก่อนว่า: “งั้นได้ เช้านี้กินหมั่นโถวกัน”
เด็กๆสกปรกสามคนกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจ แล้ววิ่งอย่างตื่นเต้น
โจวชิวเซียงที่เดินอยู่ข้างหลัง จ้องมองไปยังสวีฉางหลินด้วยสายตาเปล่งประกาย
พี่ฉางหลินเก่งจริงๆ ไม่นานก็สร้างบ้านแล้ว……
พอตรงนี้เสียงดังขึ้น ก็ทำเอาเจ้าก้อนน้อยที่นอนในห้องตื่นขึ้น เขาลุกจากเตียงอย่างสะลึมสะลือ ขยี้ตาเดินออกมาข้างนอก ยืนอยู่หน้าประตู เห็นคนมาที่บ้านมากมาย เขาก็ตะโกนเรียกแม่ด้วยน้ำเสียงหน่อมแน้ม
ไม่รอโจวกุ้ยหลานตอบ หลี่ซิ่วยิงก็ยิ้มแล้วพูดว่า: “อุ๊ย นี่เป็นลูกของกุ้ยหลานสินะ? หน้าตาน่ารักน่าชังจริงๆ หยู่ชุน รีบไปล้างหน้าล้างตาให้เด็กเร็ว ให้น้องเจ้าได้พักผ่อนบ้าง”
หวังหยู่ชุน ‘เจ้าค่ะ’ แล้วเดินไปหาเจ้าก้อนน้อย
พูดจบ ก็ลากโจวเหล่าไท่ไท่เข้าไปในครัว: “น้องสะใภ้ พวกเราสองคนมาทำหมั่นโถว ให้พวกเขาไปทำเรื่องอื่นแทน ต้องทำให้เร็ว เดี๋ยวต้องพักแป้งหมั่นโถวด้วย!”
โจวเหล่าไท่ไท่ทำอะไรไม่ได้ จึงต้องฝืนยิ้มแห้ง แล้วเดินเข้าไปในครัวพร้อมหลี่ซิ่วยิง
โจวกุ้ยหลานเดินเข้ามาจับมือเจ้าก้อนน้อย พูดกับหวังหยู่ชุนว่า: “พี่สะใภ้ไปนั่งพักก่อนเถอะ เดี๋ยวข้าล้างหน้าให้เสี่ยวเทียนเอง เขากลัวคนแปลกหน้าน่ะ”
ไม่ต้องทำงาน หวังหยู่ชุนชอบกว่าอีก
“งั้นได้ เจ้าทำเองแล้วกัน เห้อ ข้าเดินมาแต่เช้า เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว” ว่าแล้วก็เดินเข้าไปในบ้าน หาเก้าอี้แล้วนั่งลงไป
โจวกุ้ยหลานก็ไม่สนใจ และไปล้างหน้าแต่งตัวให้เจ้าก้อนน้อย
สวีฉางหลินพาพวกผู้ชายเริ่มทำงาน เด็กสามคนวิ่งไปมาในลานบ้าน
รอโจวกุ้ยหลานแต่งตัวให้เจ้าก้อนน้อยเสร็จ ก็ลูบหัวเขาเบาๆ ให้เขาออกไปเล่นกับคนอื่นๆ
หลังจากที่ทำเสร็จแล้ว นางก็ไปปล่อยไก่และนกกระทาออกจากรัง ให้อาหารพวกมัน แล้วจูงแพะไปกินหญ้า
หลังจากทำเสร็จทุกอย่างแล้ว นางก็กลับมา ก็เห็นโจวชิวเซียงกำลังยื่นน้ำให้สวีฉางหลิน: “พี่ฉางหลินดื่มน้ำสิ”
สายตาคู่นั้นแทบจะติดอยู่บนหน้าของสวีฉางหลินอยู่แล้ว แถมยังเข้าไปใกล้สวีฉางหลินอีก
โจวกุ้ยหลานดวงตาเป็นประกาย ภาพนี้ดูแปลกๆนะ?
ในความทรงจำของนาง โจวชิวเซียงไม่ใช่คนที่จะเข้าใกล้คนอื่นง่ายๆ
สวีฉางหลินอาจจะหิวน้ำ จึงรับมาดื่มจนหมด
ต่อมาก็ยื่นถ้วยคืนให้โจวชิวเซียง แล้วพูดขอบคุณ
โจวกุ้ยหลานเลิกคิ้ว เขาไม่คิดที่จะปฏิเสธบ้างเลยหรือไง?
โจวชิวเซียงรับถ้วยเปล่ามา มองสวีฉางหลินด้วยแววตาอ่อนโยน
เห็นภาพแบบนี้แล้ว โจวกุ้ยหลานก็รู้สึกโกรธเคืองขึ้นมาในใจ
ยังไม่ทันได้คิดว่านี่เป็นความรู้สึกแบบไหน ซานเฉียงที่อยู่ข้างๆก็พูดตัดความคิดของนาง: “เจ้าเอาน้ำให้ข้าด้วยสิ ไม่เห็นเหรอว่า พี่สามเจ้าหิวน้ำเหมือนกัน?”
โจวชิวเซียงเกลียดจนกัดฟันกรอด อยากจะตอบโต้กลับ แต่ก็กลัวคนอื่นจะมองออก จึงไปเทน้ำอย่างไม่พอใจ
โจวกุ้ยหลานรู้สึกสะใจ อยากยกนิ้วโป้งให้ซานเฉียงจริงๆ
“ท่านแม่?”
เจ้าก้อนน้อยเห็นแม่ตัวเองยืนอยู่กับที่ไม่ขยับ ก็เรียกอย่างสงสัย
โจวกุ้ยหลานได้สติ ก็รีบจัดการอารมณ์ตัวเอง จับมือเจ้าก้อนน้อยไปถึงหน้าประตู แล้วหาเก้าอี้มาให้เขานั่ง แล้วบอกกับเขาว่า: “เสี่ยวเทียนเด็กดี นั่งตรงนี้ดีๆนะ เดี๋ยวแม่ทำของอร่อยให้เสี่ยวเทียนกิน ดีไหม?”
เจ้าก้อนน้อยพยักหน้า แล้วปล่อยมือของโจวกุ้ยหลานก่อน: “เสี่ยวเทียนจะนั่งนิ่งๆอยู่กับที่ ไม่ขยับไปไหนขอรับ”
โจวกุ้ยหลานลูบหัวเขาเบาๆ แล้วลุกขึ้นเดินไปยังห้องครัว
หลี่ซิ่วยิงถือถุงแป้งแล้วเทแป้งออกมา เหล่าไท่ไท่เห็นแล้วก็ปวดใจ: “พอแล้วๆ”
“นี่แค่เท่าไหร่เอง พวกเรามีคนเยอะขนาดนี้ ต้องกินให้อิ่มนะ”
ว่าแล้ว ก็เทแป้งออกจากถุงให้หมด ไม่รอเหล่าไท่ไท่ได้ตั้งตัว นางก็ราดน้ำลงไปทันที
นี่เป็นแป้งยี่สิบชั่งเชียวนะ!
สีหน้าของเหล่าไท่ไท่แย่ลง พี่สะใภ้ของนางมาช่วยหรือมาก่อเรื่องกันนะ?
เด็กหนึ่งในนั้นที่เห็นแป้ง ก็ยื่นมือไปจับ แป้งสีขาวก็กลายเป็นสีดำทันที
“อุ๊ย นี่เป็นของกิน อย่าจับเล่นนะ!” โจวเหล่าไท่ไท่รีบห้าม
“จู้จื่อ อย่าเล่นสิ พาน้องชายสองคนไปเล่นข้างนอกก่อนไป!” หลี่ซิ่วยิงเสียดายแป้ง นี่เป็นเมล็ดข้าวพันธุ์เชียวนะ
เด็กที่ชื่อจู้จื่อ อายุแค่เจ็ดแปดขวบ ตัวสกปรกเปื้อนไปหมด พอโดนย่าตัวเองตะคอกใส่แบบนี้ ก็วิ่งไปข้างๆ เด็กอีกสองคนก็วิ่งตามออกไป