นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา - บทที่ 45 ตาทึ่ม!
นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา บทที่45 ตาทึ่ม!
ไม่เห็นหรือไงว่าผู้หญิงคนนั้นเข้ามาด้วยเจตนาอะไร?!
ตาทึ่ม!
สวีฉางหลินรู้สึกเหมือนมีคนจ้องเขาอยู่ จึงมองไปตามความรู้สึก ก็เห็นน้องนางตัวเองเข้าพอดี
นี่ก็คือการแอบส่งสายตาของคนอื่นที่นางบอกกับเขาเหรอ?
คิดแล้วก็รู้สึกพึงพอใจ
เขากระตุกยิ้มมุมปาก ยิ้มเหมือนรู้ว่านางคิดอะไรอยู่
แต่น่าเสียดายที่อยู่ไกลกันเกินไป โจวกุ้ยหลานมองไม่เห็น ในสายตานางคือ สวีฉางหลินกำลังยิ้มกลบเกลื่อนความผิดของตัวเอง
เหอะ กล้าส่งสายตาให้ผู้หญิงคนอื่นต่อหน้านาง กลางคืนอย่าคิดจะนอนเตียงกับนาง!
สะบัดหน้าหนี ไม่สนใจสวีฉางหลินอีก
เหล่าไท่ไท่ไม่ได้สนใจพวกนี้ ในใจนางกำลังคิดอยู่ว่าจะสอนให้ลูกสาวตัวเองประหยัดยังไง
โจวชิวเซียงที่ยืนข้างสวีฉางหลินได้เห็นรอยยิ้มของเขาเต็มๆตา หัวใจก็เต้นตึกตักจนแทบกระเด็นออกมา
พี่ฉางหลินยิ้มให้นางเหรอ หรือเขาจะชอบนาง?
นั่นสิ นางสวยขนาดนี้ พี่ฉางหลินก็ต้องชอบนางอยู่แล้ว
“ทำไมเจ้ายื่นน้ำให้ฉางหลินตลอด? ไม่เห็นเหรอว่า พวกเราก็หิวน้ำเหมือนกัน?” ซานเฉียงโยนจอบลงพื้น พูดอย่างไม่พอใจ
เขารออยู่นานมาก แต่น้องสาวเขายืนอยู่กับที่ไม่ขยับ เขาร้อนจะตายอยู่แล้ว
บรรยากาศดีขนาดนี้ก็ถูกพี่สามของนางพูดแทรก โจวชิวเซียงรู้สึกโกรธเคือง
“มาแล้ว!”
ชอบขัดจริงๆ!
โจวชิวเซียงตักน้ำยื่นให้ซานเฉียงอย่างโมโห ซานเฉียงรับมาแล้วยื่นให้พ่อโจวต้าซานที่อยู่ข้างหลัง: “ท่านพ่อดื่มก่อนสิ”
โจวชิวเซียงตากเสื้อผ้าเสร็จแล้ว ก็ล้างกระดูกอีกครั้ง แล้วต้มลงไปในหม้อ
แล้วเอาไส้หมูไปหั่น
โจวชิวเซียงยกถังน้ำมาอย่างโมโห เห็นโจวกุ้ยหลานกำลังหั่นของ ได้กลิ่นแล้วก็ขมวดคิ้ว: “นี่คืออะไร?”
“ไส้หมู”
“เจ้าจะให้พวกเรากินของสกปรกแบบนี้เหรอ?” โจวชิวเซียงพูดอย่างตกใจ
พอตะโกนออกไปแบบนี้ ก็ดึงดูดสายตาพวกผู้ชายที่กำลังทำงานอยู่ข้างนอกมองมาทางนี้
หลี่ซิ่วยิงที่เด็ดผักอยู่ข้างๆก็ตบมือ แล้วเดินมาทางนี้ หวังหยู่ชุนก็เดินตามมาเหมือนกัน
“อะไรเหรอ?”
หลี่ซิ่วยิงตะโกนถามจากที่ไกลๆ
โจวชิวเซียงรีบเดินไปหาหลี่ซิ่วยิง จับแขนนางไว้แล้วชี้ไปยังโจวกุ้ยหลาน “ท่านแม่ นางให้พวกเรากินไส้หมู! คนเราจะกินอะไรแบบนั้นได้เหรอ?”
พอได้ยินว่าเป็นไส้หมู สีหน้าของหลี่ซิ่วยิงก็เปลี่ยนไป รีบเดินไปตามกลิ่น นางมองไปก็เห็นหลานสาวตัวเองหั่นไส้หมูไม่หยุด
“ไอ้หยา จะกินของแบบนี้ได้ยังไง?”
หลี่ซิ่วยิงพูดขึ้น
“พวกเรามาช่วยทำงานนะ เจ้าเอาไส้หมูมาให้พวกเรากินได้ยังไง?” หวังหยู่ชุนพูดเสียงดังอย่างไม่พอใจ
นางมากินของอร่อยนะ เหมือนซุปไก่ เนื้อ ข้าวสวยกับหมั่นโถวอย่างเมื่อวาน
หรือเมื่อวานทำของกินอร่อยหมดแล้ว ต่อไปก็ได้กินแค่ของสกปรกแบบนี้เหรอ?
นึกถึงตรงนี้นางก็รู้สึกเสียใจที่มา นอนขี้เกียจอยู่บ้านยังจะดีกว่าอีก!
โจวกุ้ยหลานหั่นไส้หมูไม่หยุด แล้วก็พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า: “ไม่อยากกินก็ไม่ต้องกิน”
ใครใช้ให้พวกนางมาช่วยล่ะ อยากมาช่วยเองไม่ใช่เหรอ?
ก่อเรื่องแต่เช้าไม่หยุดเลย!
“เจ้าพูดอะไรกันน่ะ พวกเรามาช่วยงานนะ จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้พักเลย เจ้าทำหน้าแบบนั้นหมายความว่ายังไง!” โจวชิวเซียงพูดประชดโจวกุ้ยหลาน
นางจะให้พี่ฉางหลินดูว่าภรรยาของเขาไม่ดีแค่ไหน
พวกผู้ชายที่ทำงานอยู่ข้างๆก็มองมาทางนี้ ก็เริ่มทำงานในมือต่อไป
เมื่อวานเริ่มทำงานวันแรกได้กินของอร่อยก็ดีมากแล้ว จะให้เงินค่าจ้างทุกวันแล้วยังจะกินของดีทุกวันอีกก็ไม่ได้ แค่ให้พวกเขาอิ่มและให้เงินค่าจ้างก็พอแล้ว
ส่วนโจวต้าซาน เขาก็รู้สึกไม่สบายเล็กน้อย
นั่นเป็นหลานสาวของตัวเอง ช่วยประหยัดได้ก็ช่วยกันไป ทำไมภรรยาตัวเองถึงทำตัวแบบนั้นนะ? ยังมีชิวเซียงอีก เขาสั่งสอนไม่ดีเอง!
โจวกุ้ยหลานนำไส้หมูที่หั่นเสร็จไว้ในถ้วย จากนั้นก็กลับหลังหัน กวาดตามองพวกผู้หญิงพวกนั้น แล้วพูดด้วยสีหน้าเย็นชาว่า: “ข้าบอกแล้ว เจ้าไม่อยากกินไส้หมูก็ไม่ต้องกิน ไม่มีใครบังคับ ถ้าเจ้าคิดว่าเหนื่อย ข้าก็ขอบใจเจ้าด้วย เจ้ากลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ”
รีบไป อย่ามาเกะกะที่นี่
โจวชิวเซียงพูดไม่ออก โกรธจนจับแขนของหลี่ซิ่วยิงไว้แน่น ขอบตาแดงก่ำไปหมด
“ท่านแม่ ดูนางพูดสิ!”
“นั่นสิ กุ้ยหลาน พวกเรามาช่วยงานเจ้านะ เจ้าพูดแบบนี้ พวกเรารู้สึกเสียใจนะ! พวกเรามาช่วยเจ้า เจ้าไม่ให้ของกินดีๆอีก ใครจะมีแรงทำงานต่อล่ะ!”
หวังหยู่ชุนไม่ยอม
นางอยู่บ้านตัวเองยังไม่เหนื่อยเท่านี้เลย
โจวกุ้ยหลานอยากจะหัวเราะเสียงดัง
พูดอย่างกับพวกนางมีบุญคุณค้ำฟ้าต่อนางงั้นแหละ เมื่อวานพวกนางไม่มา นางก็ทำกับข้าวกับแม่สองคนนี่?
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?” โจวเหล่าไท่ไท่รีบวิ่งมาดู
นางจูงแพะเปลี่ยนที่กินหญ้าครู่เดียว ทำไมถึงทะเลาะกันขึ้นมาอีกแล้วล่ะ?
หวังหยู่ชุนรีบเล่าเรื่องทั้งหมด โจวเหล่าไท่ไท่ได้ยินแล้วก็ขมวดคิ้ว: “ก็แค่เรื่องอาหาร พวกเจ้ากินจานอื่นก็ได้นี่?”