นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา - บทที่ 53 เงินนี้ร้อนมือ
นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา บทที่ 53 เงินนี้ร้อนมือ
โจวกุ้ยหลานพูดจากใจจริง
ถึงแม้จะรู้สึกแย่กับพวกหลี่ซิ่วยิงกับโจวชิวเซียง แต่ลุงใหญ่ของตนกับพี่ชายผู้พี่หลายคนนั้นถือว่าดี หากไม่มีพวกเขามาช่วย บ้านหลังนี้จะสร้างเสร็จได้อย่างไร? และนี่ก็เป็นบ้านที่ทำจากหิน พวกเขาลงแรงอย่างมากจริงๆ
โจวต้าซานทำหน้าไม่ถูก คิดถึงคำพูดของภรรยาตนเองก่อนหน้านี้ เขาก็พูดขึ้นอย่างอับอายว่า “ ข้าเป็นลุงใหญ่ของเจ้า ควรที่จะช่วยเจ้า เงินพวกนี้เจ้าเอากลับไป ไม่อย่างนั้นลุงจะโกรธเจ้าแล้วนะ“
หลี่ซิ่วยิงที่นั่งอยู่ด้านข้าง มองดูทั้งสองคนยื่นให้กันไปมา จนลูกตาแทบกระเด็น
นั่นล้วนเป็นเงิน
ผัวของนางนั้นบักเดียวจริงๆ กุ้ยหลานให้ก็รับไว้สิ นั่นล้วนเป็นค่าแรงทำงานของพวกเขานะ
โจวเหล่าไท่ไท่ที่อยู่ด้านข้างเห็นแบบนี้ จึงช่วยพูดขึ้นว่า “พี่ชาย รับไว้เถอะ ยังไงก็เป็นความตั้งใจของกุ้ยหลาน”
“ใช่ใช่ใช่ นี่เป็นน้ำใจของกุ้ยหลาน หากเจ้าไม่รับไว้ จะไม่เป็นการทำให้นางเสียน้ำใจหรือ?” หลี่ซิ่วยิงรีบพูดเสริมตามโจวเหล่าไท่ไท่
หวังหยู่ชุนที่อยู่ด้านข้างก็มองดูตาละห้อย สามีของตนช่วยพวกเขาทำงานตั้งครึ่งเดือน หากมีเงินพวกนี้ พวกเขาก็จะได้ซื้อของอร่อยไม่น้อย
“พ่อ พ่อไม่เอาก็ให้ข้าเถอะ พวกลูกๆยังไม่มีเสื้อผ้ากันหนาวเลย”
คำพูดนี้ทำให้เอ้อเฉียงที่อยู่ด้านข้างไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
“เจ้าคนนี้ ไม่พูดอะไรแล้วมีใครว่าเจ้าเป็นใบ้หรือ?”
“ทำไม? ข้าไม่ได้ขอกุ้ยหลาน กุ้ยหลานเป็นคนต้องการให้เองไม่ใช่หรือ?”
เอ้อร์เฉียงเป็นคนซื่อคนหนึ่ง ตามไม่ทันภรรยาที่เจ้าเล่ห์และขี้เกียจของตนไม่ได้
สายตาชิวเซียงเหลือบจ้องมองดูสวีชางหลินที่ยืนอยู่ด้านข้าง ในใจคิดว่านี่จะต้องเป็นความตั้งใจของพี่ชางหลินแน่
พี่ชางหลินเป็นคนมีความสามารถ หาเงินเก่ง เห็นนางไม่มีเสื้อผ้าชุดใหม่ใส่ อยากที่จะดูแลนาง แต่ก็ไม่สามารถเอาเงินให้นางโดยตรง จึงให้โจวกุ้ยหลานหาเหตุผลเอาเงินให้พ่อของนาง…..
เมื่อคิดเช่นนี้ ก็เข้าใจเรื่องทั้งหมด นางหมุนชายเสื้อของตนเอง แล้วก็พูดขึ้นอย่างเอียงอายว่า “พ่อ พี่กุ้ยหลานให้ก็รับไว้เถอะ…..”
เสียงออดอ้อนนั้นทำให้โจวกุ้ยหลานอดไม่ได้ที่จะสั่นสะเทือน ขนลุกขนพองไปหมด
นางหันไปมองสวีชางหลิน แล้วเห็นสวีชางหลิน กำลังเดินมาหานาง จึงค่อยสบายใจขึ้น
“เอากลับไปเอากลับไป หากข้ารับเงินของเจ้าไว้ ข้าจะกลายเป็นคนอย่างไรแล้ว?” โจวต้าซานพูดปัดกลับไปอีก พร้อมลุกขึ้นมาเตรียมตัวกลับ
ช่วยงานในหมู่บ้านยังไม่เอาเงิน อย่าว่าแต่ช่วยงานญาติพี่น้องเลย
เขาไม่อยากถูกคนในหมู่บ้านด่าลับหลัง
โจวกุ้ยหลานก็ไม่ชอบยืดเยื้อกันอยู่แบบนี้ และเงินนี้นางเอาออกมาแล้วก็ไม่ได้คิดที่จะเอากลับไป
เมื่อคิดเช่นนี้ นางจึงเดินไปตรงหลี่ซิ่วยิงหน้า แล้วยื่นเงินให้หลี่ซิ่วยิง พร้อมพูดขึ้นว่า “ป้าใหญ่ เงินนี้เจ้ารับไว้แล้วเถอะ?”
“ไอโย้ นี่จะให้พูดว่ายังไง เราจะรับเงินของเจ้าได้ยังไง? เราช่วยงานเจ้าไม่เป็นเรื่องที่สมควรหรือ?” พูดเสร็จ หลี่ซิ่วยิงรับเงินนั่นมาเก็บไว้
โจวกุ้ยหลานพูดไม่ออก ป้าใหญ่ของตนเองมีความสามารถจริงๆ ปากอย่างใจอย่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง….
“นี่เจ้าทำอะไร รีบเอาเงินคืนให้กุ้ยหลาน” โจวต้าซานเห็นภรรยาตนเองรับเงิน ก็รีบพูดขึ้น
เงินนี้ร้อนมือ
“เจ้าเฒ่านี่ ทำไมจะทำให้ทุกคนสบายใจไม่ได้หรือ? กุ้ยหลานจะให้ เพราะนางกตัญญู เราที่เป็นผู้อาวุโส รับไว้ถือเป็นการรับน้ำใจของนาง” หลี่ซิ่วยิงพูดเสร็จ ก็ลุกขึ้นมา
“บ้านนี้ยังต้องเก็บกวาด เราไม่รบกวนพวกเจ้าล่ะ”
พูดเสร็จ หลี่ซิ่วยิงก็รีบก้าวเท้าเดินออกไป รอเมื่อนางพูดประโยคสุดท้ายเสร็จ คนก็เดินเข้าป่าไปแล้ว
โจวต้าซานก็รีบตามไปอย่างโกรธโมโห
หวังหยู่ชุนกลัวไม่มีของตนเอง จึงรีบไล่ตามไป เมื่อนางไป ลูกทั้งสามคนก็ตามนางไป
พ่อแม่ไปแล้ว เอ้อร์เฉียงซานเฉียงก็ไม่รู้จะอยู่ต่อไปทำไม จึงรีบตามไปเหมือนกัน
แต่เพียงแปบเดียว ก็เหลือเพียงโจวชิวเซียงยืนอยู่ที่เดิมคนเดียว ขยับชายเสื้อผ้า ก้มหน้า แก้มแดงระเรื่อ
ดูท่าทีของนาง โจวกุ้ยหลานอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้า
หญิงสาวลุ่มหลงในความรักจริงๆ คนอ่อนไหวกว่าดอกไม้จริงๆ
“ชิวเซียง ให้พี่ต้าไห่ส่งเจ้ากลับไปไหม? ในป่านี้อันตราย” โจวต้าไห่พูดขึ้นมาอย่างเป็นห่วง
“ไอหยาพี่ใหญ่ ยังดีมีเจ้าคิดรอบคอบ นางลงเขาไปคนเดียวเราก็ไม่วางใจ รีบส่งนางกลับไปเถอะ?”
โจวกุ้ยหลานยิ้มกริ่ม พี่ชายคนนี้ยิ่งดูก็ยิ่งชอบ จัดการได้ดีจริงๆ
โจวชิวเซียงที่กำลังคิดอยู่ว่าจะให้สวีชางหลินไปส่งนาง สีหน้าเปลี่ยนไปทันที ท่าทีอ่อนหวานก็ไม่มีแล้ว สีหน้าเต็มไปด้วยความโมโห
“เจ้าไม่ต้องส่ง พี่ชางหลินล่าสัตว์เก่ง เขาไปส่งข้าวางใจมากกว่า”
ครั้งนี้โจวชิวเซียงก็ไม่เกรงใจ พูดขึ้นมาตรงๆ
นางกำลังคิดอยู่ว่าจะหาโอกาสอยู่กับพี่ชางหลินเป็นการส่วนตัวยังไง เมื่อกี้ก็ตั้งใจที่จะไม่กลับไปกับทุกคน พี่ต้าไห่คนนี้กลับดี อยากที่จะไปส่งนาง?
เชอะ
สวีชางหลินที่ยืนอยู่ด้านข้างโจวกุ้ยหลานอึ้ง ทำไมถึงเอาเขาเข้าไปเกี่ยวข้องอีก?
สายตาโจวเหล่าไท่ไท่จ้องมองดูโจวชิวเซียง นังเด็กคนนี้พูดออกมาแบบนี้ไม่เหมาะสม
“เจ้าเป็นเด็กผู้หญิง อยู่กับพี่เขยตามลำพังไม่เหมาะสม ให้พี่ต้าไห่ไปส่งเจ้า” โจวเหล่าไท่ไท่พูดพร้อมหันหน้าไปสั่งโจวต้าไห่ว่า “ต้าไห่ ไปส่งน้องชิวเซียงกลับไปที่บ้านลุงใหญ่ของเจ้า”
โจวต้าไห่ยังคงยิ้มแย้มอย่างเป็นมิตร ตอบรับแม่ของตนเอง แล้วเดินไปหาโจวชิวเซียง พร้อมพูดขึ้นว่า “น้องชิวเซียง ไปเถอะ พี่ต้าไห่ล่าสัตว์ไม่เป็น แต่ก็สามารถปกป้องเจ้าได้”
“งั้นรบกวนพี่ต้าไห่ด้วย” สวีชางหลินก็พูดขึ้นมา
โจวชิวเซียงมองดูสวีชางหลินอย่างไม่อยากเชื่อ นางคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะไม่ไปส่งนาง
โจวกุ้ยหลานมองดูสวีชางหลินอย่างชื่นชม อืม ไม่เลว วันนี้ทำตัวได้ดี
“พี่ชาย รีบไปส่งนางแล้วกลับมาทานข้าว เย็นนี้เราทานมื้ออร่อยกัน” โจวกุ้ยหลานพูดกับโจวต้าไห่อย่างยิ้มแย้ม
คนที่นี่ล้วนจะให้โจวต้าไห่ไปส่งนาง โจวชิวเซียงรู้ว่าตนเองพูดอะไรอีกก็ไม่มีประโยชน์ จึงรีบวิ่งกลับไป
ทุกคนต่างคิดไม่ถึงว่านางจะทำเช่นนี้ โจวต้าไห่มองดูเวลา กลัวว่านางจะเป็นอันตราย จึงรีบวิ่งตามไป
โจวกุ้ยหลานเม้นริมฝีปาก นังเด็กคนนี้วิ่งกลับไปแบบนี้เป็นครั้งที่สองแล้วนะ ครั้งแรกเป็นช่วงเที่ยงไม่เป็นไร แต่ครั้งนี้เป็นช่วงพลบค่ำ
เฮ้อ ยังทำตัวเป็นเหมือนอย่างเจ้าหญิง
สวีชางหลินมองดูเงาหลังโจวชิวเซียงที่วิ่งกลับไปอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมถึงโกรธ แล้วก็หันไปมองภรรยาของตนเอง
ยังดีที่ภรรยาของตนเองดี ไม่วิ่งหนีไปเพราะโกรธโมโห ยังคงเป็นภรรยาดีที่สุด
โจวเหล่าไท่ไท่ก็ลุกขึ้นมาจากที่นั่ง มองดูทิศทางที่ชิวเซียงวิ่งกลับไป ในใจมีความคาดเดาอย่างหนึ่ง
“ชางหลิน ฟืนมีใช้ไม่พอแล้ว เจ้าไปเก็บไปไว้บ้าง เดี๋ยวจะทำกับข้าว”
โจวเหล่าไท่ไท่พูดสั่งสวีชางหลิน
สวีชางหลินตอบรับ กลับไปเอามีดตัดฟืนในบ้านแล้วก็ไปตัดฟืนด้านหลังบ้าน