นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา - บทที่ 79 ไม่ต้องมายุ่งกับ
นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา บทที่ 79 ไม่ต้องมายุ่งกับ
“อย่าไปสนใจเรื่องอื่นเลย เจ้าคุยกับฉางหลินเรื่องงานแต่งงานของพี่ชายเจ้าหรือยัง?”เหล่าไท่ไท่ถามขึ้น
โจวกุ้ยหลานตกใจ อ้าก หลายวันมานี้มัวแต่เสียใจเรื่องสวนผัก ลืมเรื่องนี้ไปเลย…..
เมื่อเห็นท่าทีของนาง โจวเหล่าไท่ไท่ก็รู้ว่านางไม่ได้พูด เขกหัวของนางทันที พร้อมพูดขึ้นว่า “แต่งงานไปแล้วก็เหมือนอย่างพี่สาวรองของเจ้า? คิดถึงแต่ครอบครัวตัวเอง ไม่เห็นข้าที่เป็นแม่อยู่ในสายตาแล้วใช่ไหม? เสียแรงที่เลี้ยงเจ้ามาจนโต”
เมื่อถูกเข้าใจผิดแบบนี้ โจวกุ้ยหลานไม่ยอม พร้อมพูดขึ้นว่า “แม่ ที่ผ่านมาข้ามีของกินอะไรอร่อยแล้วไม่แบ่งแม่บ้างหรือ แม่พูดขนาดนี้ ข้ายังเป็นลูกสาวแม่อยู่ไหม? พี่สาวรองเป็นยังไง ข้าจะไปเหมือนนางได้อย่างไร? หากข้าเหมือนนาง ข้าคงไม่มาหาแม่ทุกวี่ทุกวันแล้ว”
ลูบหน้าผากของตนที่ถูกเขกจนเจ็บ เหล่าไท่ไท่อายุก็เยอะขนาดนี้แล้ว ทำไมยังมีแรงเยอะขนาดนี้?
เหล่าไท่ไท่พูดขึ้นมาอย่างโมโหว่า “เจ้าก็รู้จักแต่ไปเปรียบเทียบกับพี่สาวรองแล้งน้ำใจของเจ้า ทำไมเจ้าไม่เปรียบเทียบกับพี่ชายเจ้า? พี่ชายเจ้าอยู่ดูแลข้าตลอดทั้งวัน”
“แม่เองก็คิดแต่รังแกข้า อะไรก็คิดถึงแต่ลูกชายสุดที่รักของแม่”โจวกุ้ยหลานรีบพูดฟ้องทันที
เหล่าไท่ไท่เห็นลูกชายสำคัญกว่าลูกหญิงนั้นเห็นได้ชัดอย่างมาก
“เจ้ามีความสามารถ เจ้าเถียงเก่ง ข้าพูดคำหนึ่งเจ้าพูดเถียงได้สิบคำ เจ้าเป็นแม่ข้าหรือข้าเป็นแม่ของเจ้า”เหล่าไท่ไท่โกรธจนแทบจะยกฝ่ามือตบลูกสาวคนนี้
คนน่าเบื่อ อยากได้อะไรก็วิ่งมาเอาที่บ้าน นางก็ต้องดั้นด้นช่วยเหลือนางทำให้นาง ยังกล้ามาเถียงนาง
“ยังไงเจ้าก็เป็นคนคลอดข้า ล้วนเรียนรู้จากเจ้าทั้งนั้น”โจวกุ้ยหลานพูดขึ้นทันที
“ได้ได้ได้ ต่อไปก็ขอให้เจ้าเก่งแบบนี้แหละ อย่าถูกคนอื่นรังแก ไม่อย่างนั้นเจ้าก็จะไม่ใช่ลูกสาวของข้า ไปอยู่ข้างนอกก็ต้องเก่ง อย่ากล้าแต่กับข้าเพียงอย่างเดียว”
เหล่าไท่ไท่พูดเสร็จก็โบกมือ พร้อมพูดขึ้นว่า “รีบกลับไปเถอะ อย่ามากะง่อนกะเเง่นตรงหน้าข้า รำคาญ”
โจวกุ้ยหลานไม่ขยับ พร้อมพูดขึ้นว่า “โถหนักขนาดนี้ ข้าจะเอากลับไปเองยังไง รอพี่ชายข้ากลับมาส่งข้าขึ้นไปบนเขา”
“เวลาแบบนี้คิดถึงความดีของพี่ชายเจ้าแล้วหรือ? รีบกลับไปคุยกับสวีฉางหลิน วันมะรืนนี้พี่ชายของเจ้าก็จะไปคุยที่หมู่บ้านนั้นแล้ว”เหล่าไท่ไท่พูดเตือนอีกครั้ง
“รู้แล้ว พี่ชายมีเสื้อผ้าไหม?”โจวกุ้ยหลานถามขึ้นมา
เหล่าไท่ไท่ถอนหายใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “นี่ก็กำลังคิดจะทำเสื้อผ้าใหม่ให้พี่ชายของเจ้าไง ยังทำไม่เสร็จเลย ป้าชุยฮวาของเจ้ารีบร้อน เดิมข้าคิดว่าพรุ่งนี้รีบทำทั้งวันก็น่าจะพอประมาณแล้ว ใครจะไปคิดว่าพรุ่งนี้ป้าใหญ่ของเจ้าจะบีบบังคับให้ไปในตำบล?”
“งั้นเดี๋ยวพี่ชายไปบ้านข้า ไปเอาเสื้อตัวใหม่ของสวีฉางหลินไปใส่ ไปดูตัวจะสวมเสื้อผ้าเก่าได้อย่างไร”โจวกุ้ยหลานพูดพร้อมกับคิดถึงเสื้อผ้าชุดใหม่ที่นางซื้อให้สวีฉางหลินที่ตำบลเมื่อหลายวันก่อน หลายวันมานี้ไม่ได้ใส่เลย มอบให้พี่ชายดีกว่า วันหลังค่อยไปซื้อใหม่
เหล่าไท่ไท่ฟังแล้วก็ดีใจอย่างมาก ตบบ่าลูกสาวของตนอย่างพอใจนางมาก
ลูกสาวคนเล็กคนนี้ใจดีที่สุด ตอนนี้ดูแล้ว ลูกสาวคนเล็กเหมือนนางที่สุด ตั้งแต่แต่งงานไปแล้ว ลูกสาวคนเล็กยิ่งอยู่ก็ยิ่งเหมือนลูกสาวตน ตอนที่ยังไม่ได้แต่งงานเป็นคนไม่แจ่มใส นางยังกลัวว่าต่อไปจะถูกคนอื่นรังแก
“ใช่แล้วแม่ อาหารไก่ที่ข้าทำ แม่จะไม่ลองดูจริงๆหรือ?”โจวกุ้ยหลานคิดถึงเรื่องที่ผ่านมา แล้วถามเหล่าไท่ไท่
ก่อนหน้านี้นางก็คิดที่จะแบ่งให้เหล่าไท่ไท่อยู่แล้ว แต่มีเรื่องอื่นๆอยู่ตลอด เหล่าไท่ไท่ก็ไม่ได้นำมาใส่ใจ ไม่ขอจากนาง ตอนนี้ว่างจึงคิดขึ้นมาได้
“งั้นเดี๋ยวเจ้าให้พี่ชายของเจ้าเอากลับมาให้ข้าลองดูหน่อย ไม่เคยเห็นใครใช้ดินเลี้ยงไก่”ยังไงเหล่าไท่ไท่ก็เป็นคนเฒ่าที่ดื้อรั้น ไม่ค่อยเชื่อถือในวิธีการเลี้ยงไก่ของโจวกุ้ยหลาน
โจวกุ้ยหลานหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “ที่บ้านข้ามีนกกระทายี่สิบตัวแล้ว ไก่ก็มีสิบสี่ตัว แม่ไก่ออกไข่วันฟอง แม่ยังไม่มั่นใจอาหารไก่ของข้าหรือ?”
เหล่าไท่ไท่เบิกตาโต พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าเลี้ยงเยอะขนาดนี้แล้วหรือ?”
“ข้าฝักออกมาเอง แล้วก็ให้อาหารไก่ที่ทำเอง”โจวกุ้ยหลานพูดขึ้นมา
ตอนนี้นางให้ทุกคนในบ้านกินไข่วันละฟอง ที่เหลือก็จะนำมาฟักเป็นไก่น้อยกับนกกระทาน้อยแล้ว ถึงแม้อุณหภูมิควบคุมยาก แต่ก็มีผลดีไม่น้อยแล้ว
เหล่าไท่ไท่ตกตะลึง ก่อนหน้านี้นางรู้สถานการณ์ของลูกสาวตนเอง ไก่บางตัวนางก็เป็นคนช่วยฝักออกมา แต่คิดไม่ถึงว่าลูกสาวของนางจะเลี้ยงไก่ได้มากมายขนาดนี้แล้ว
“เจ้าเลี้ยงเองคนเดียวหรือ?”ยังไงเหล่าไท่ไท่ก็ไม่อยากเชื่อ
“แน่นอน หากแม่ไม่ใช่แม่ของข้า ข้าไม่เอาอาหารไก่ให้แม่หรอก”โจวกุ้ยหลานพูดด้วยน้ำเสียงได้ใจ
ยังไงนางก็เรียนจบจากมหาวิทยาลัยเกษตร ในด้านการทำฟาร์มนั่นถือเป็นวิทยาศาสตร์
การทำฟาร์ม
รอนางเรียนรู้ทุกอย่างแล้ว ถึงตอนนั้นนางก็จะสามารถมีเงินเป็นกอบเป็นกำ
“เจ้านางเด็กคนนี้ รีบเอามาให้ข้าสิ มาก็มาตัวเปล่า ไม่รู้จักเอามาด้วย”เหล่าไท่ไท่พูดขึ้นอย่างโมโห
โจวกุ้ยหลานไม่รู้จะพูดยังไงกับเหล่าไท่ไท่ ก่อนหน้านี้นางไม่สนใจอาหารไก่เลย ตอนนี้กลับตื่นเต้นขนาดนี้
คิดถึงสถานการณ์ของตนเอง แล้วโจวกุ้ยหลานก็พูดกับเหล่าไท่ไท่ว่า “แม่เลี้ยงนกกระทาดีกว่า”
“ตัวเล็กขนาดนั้น ออกไข่มาก็ไม่พอทิ่มฟัน เนื้ออะไรก็ไม่มี ข้าจะเลี้ยงทำไม”คิดถึงนกกระทาที่นางเห็นที่บ้านลูกสาว เหล่าไท่ไท่ไม่สนใจเลย
โจวกุ้ยหลานเม้นริมฝีปาก พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงต่ำว่า “แม่เป็นแม่ของข้า ข้าถึงบอก แม่ห้ามพูดออกไปนะ นกกระทาเลี้ยงง่าย ให้อาหารไก่ที่ข้าให้ก็พอแล้ว จากที่ฟักตัวจนถึงออกไข่ ใช้เวลาเพียงเดือนเดียว ไข่เล็กกว่าไข่ไก่ แต่มีประโยชน์ต่อร่างกายเหมือนไข่ไก่ อีกอย่าง มียังไงก็ดีกว่าไม่มี? ออกไข่หนึ่งปี เจ้ายังได้กินเนื้อต้ม ตัวเล็กแค่นั้น แม่ก็เลี้ยงหลายตัวสิ”
“เดือนหนึ่งก็ออกไข่แล้ว? เร็วเกินไปไหม เจ้าหลอกข้าหรือเปล่า?”เหล่าไท่ไท่เบิกตาโต จ้องมองดูโจวกุ้ยหลาน
โจวกุ้ยหลานโบกมือ พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าจะหลอกแม่ทำไม? รอให้แม่มาก่นด่าข้าหรือ?”
คิดแล้วก็ถูก เหล่าไท่ไท่ค่อยดีใจขึ้นมา เร่งเร้าจะกลับไปกับโจวกุ้ยหลาน
โจวกุ้ยหลานพูดห้ามเหล่าไท่ไท่ว่า “รอพี่ชายกลับมาก่อน เดี๋ยวข้าให้พี่ชายเอากลับมา”
ต่อให้ไม่อยากรอ เวลานี้เหล่าไท่ไท่ก็จำเป็นต้องอดทนรอ
“ยังไงลูกสาวเล็กข้าก็ดีที่สุด รู้จักกตัญญูแม่”คราวนี้เหล่าไท่ไท่มองดูโจวกุ้ยหลานแล้วก็ชอบใจ พร้อมพูดขึ้นอย่างยิ้มแย้ม
โจวกุ้ยหลานกระหยิ่มใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “เมื่อกี้ยังพูดว่าข้าไม่มีน้ำใจ”
“เมื่อกี้เจ้าก็ไม่ได้พูดเรื่องพวกนี้ให้ข้าฟัง”เหล่าไท่ไท่พูดขึ้นมาอย่างมั่นใจ
ไม่รอโจวกุ้ยหลานตอบ ข้างนอกก็มีเสียงโจวต้าไห่ดังขึ้นว่า “พูดเรื่องอะไรหรือ?”
กลับมาแล้ว
เหล่าไท่ไท่รีบลุกขึ้นมาจากที่นั่ง ก้าวเดินออกไปจากห้องทันที โจวกุ้ยหลานมองดูตามหลังอย่างประหลาดใจ เหล่าไท่ไท่ในตอนนี้ ไม่เหมือนคนเฒ่าอายุห้าสิบเลย…..
“ไอโย้ต้าไห่ เจ้ารีบช่วยน้องสาวของเจ้าเอาโถนี้กลับไปส่งที่บ้านของนาง เดี๋ยวนางเอาของให้แล้วเจ้าเอากลับมา เจ้าระวังหน่อย อย่าให้ใครเห็น”