นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา - บทที่ 85 พยายามไปก็สูญเปล่า
นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา บทที่ 85 พยายามไปก็สูญเปล่า
เมื่อออกมาก็เห็นพ่อแม่ตนเองยืนอยู่ตรงหน้าประตูใหญ่ เขารีบวิ่งไปหา คว้าจับมือโจวกุ้ยหลาน แล้วหลบอยู่ข้างหลังนาง
“เจ้าเด็กคนนี้ กลางดึกค่ำคืนไม่นอนหลับแล้วมาที่นี่ทำไม? เจ้าถูกหมาป่าคาบไป แม่จะทำยังไง?”หลี่ซิ่วยิงพูดแล้วก็หวาดกลัว
เมื่อกี้นางตื่นขึ้นมา แล้วก็เดินผ่านไปดูในห้องของลูกสาวตน เมื่อเปิดประตูเข้าไปดู บนเตียงไม่มีคน นางร้อนใจมาก แต่ก็ไม่กล้าเรียกใคร ทำได้เพียงวิ่งขึ้นมาบนเขา ได้ยินเสียงร้องไห้ของลูกสาวแต่ไกล นางรีบวิ่งมา แล้วก็เห็นลูกสาวของตัวเองร้องห่มร้องไห้ยิ่งรุนแรงกว่าเดิม
นางเจ็บปวดทรมานใจอย่างมาก
“แม่ พวกเขารังแกข้า โจวกุ้ยหลานรังแกข้า”
โจวชิวเซียงร้องไห้ไปด้วยพูดฟ้องไปด้วย
ในใจหลี่ซิ่วยิงคิดไว้อยู่แล้วว่าจะเป็นเรื่องนี้ แต่ถ้าลูกสาวของตนเองไม่พูด น่าจะช่วยยังไง? ตอนนี้ในที่สุดลูกสาวก็พูดออกมาแล้ว ไฟแห่งความโกรธของนางก็ได้ระบายออกมาเสียที
นางลุกขึ้นมา มือดึงแขนเสื้อขึ้น พร้อมกัดฟันพูดขึ้นว่า “ดี ข้าถึงว่าทำไมชิวเซียงถึงร้องไห้ขนาดนี้ ที่แท้ก็เจ้านี่เองรังแกนาง ทำไม สามีของข้าช่วยบ้านพวกเจ้ายังไม่มากพออีกหรือ? นี่ช่วยจนกลายเป็นศัตรูเลยหรือ”
สวีฉางหลินหรี่ตาลง กำลังจะอ้าปากพูด แขนก็ถูกโจวกุ้ยหลานบีบ จากนั้นก็เห็นภรรยาของตนเดินออกมา หัวเราะกับหลี่ซิ่วยิงพร้อมพูดขึ้นว่า “ป้าใหญ่ ชิวเซียงบอกล่วาข้ารังแกนาง งั้นทำไมป้าไม่ถามนางว่าทำไมข้าถึงรังแกนาง?”
หลี่ซิ่วยิงอึ้ง แล้วก็พูดอะไรไม่ออก
ไม่รอให้นางทันพูดอะไร โจวกุ้ยหลานก็ยิ้มพูดต่อไปว่า “นางเป็นแม่ของชิวเซียง แต่ก็เป็นป้าใหญ่ของข้า ถึงแม้ป้าใหญ่จะรักนางมากกว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ก็จะรังแกหลานของป้าใหญ่แบบนี้ไม่ได้ ข้าเคารพนับถือป้าใหญ่มาตลอด อยู่ดีๆ แล้วจะมาใส่ร้ายข้าคงไม่ได้มั้ง?”
“เจ้ายังมีหน้ามาพูด? เจ้านั่นแหละที่รังแกข้า แม่ของข้าอยู่ที่นี่เจ้ายังกล้าไร้สาระหรือ?”โจวชิวเซียงก็นั่งยองไม่ไหวแล้ว พรวดลุกขึ้นมา พร้อมพูดใส่โจวกุ้ยหลานอย่างโกรธโมโห
เมื่อพูดออกมาเช่นนี้ ท่าทีหลี่ซิ่วยิงที่เมื่อกี้อ่อนลงก็แข็งกร้าวขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “พวกเจ้ามีกันสามคน หากไม่ใช่เจ้ารังแกลูกสาวข้า ชิวเซียงจะร้องไห้เจ็บปวดขนาดนี้หรือ? นางบ้าไปแล้ว กลางค่ำกลางคืนนางวิ่งขึ้นเขามาเพื่อร้องไห้?”
“พูดแบบนี้ก็ไม่ผิด กลางค่ำกลางคืนพวกเราไม่นอนหลับ เพื่ออยู่รอชิวเซียงมาแล้วรังแกนาง”โจวกุ้ยหลานพูดออกมาทีละคำอย่างหนักแน่น
แต่ละคน ไม่จบไม่สิ้น
หากไม่เห็นแก่หน้าโจวต้าซาน นางอยากที่จะปิดประตูใส่เลยจริงๆ
คำพูดประโยคนี้ทำให้หลี่ซิ่วยิงโกรธจนอึ้ง คำพูดของโจวกุ้ยหลาน นางไม่สามารถที่จะตอบโต้ได้ ยังไงพวกเขาก็อยู่ที่บ้านของตนเอง ชิวเซียงของนางมาหาถึงที่เอง
นางเองก็รู้ว่า ลูกสาวของตนเองปล่อยวางสวีฉางหลินไม่ได้จึงมาหาเขา แต่นี่ก็ไม่สามารถพูดออกมา ไม่อย่างนั้นจะทำให้ชื่อเสียงของลูกสาวตนเสียหาย
“เจ้าพูดไปเรื่อย ข้ามาเพื่อบอกลาพวกเจ้า เจ้าก็พูดจาประชดประชันข้า ล้วนเพราะเจ้า….”
โจวชิวเซียงร้องไห้จนตาบวม เพราะนางมีแม่อยู่ด้วย นางจึงพยายามที่จะพูดใส่ร้ายโจวกุ้ยหลาน แต่พูดยังไม่ทันเสร็จ หลี่ซิ่วยิงก็พูดแทรกขึ้นมาว่า
“จะพูดมากอะไรอีก กลางค่ำกลางคืนใครใช้ให้เจ้ามาให้คนอื่นด่า? รีบกลับไปกับข้า”หลี่ซิ่วยิงเดินไปดึงตัวโจวชิวเซียง
ยังไงก็เป็นคนทำงานมาตลอด มีแรงกำลังที่โจวชิวเซียงแทบไม่ได้ โจวชิวเซียงอยากดิ้นรน แต่ก็ถูกหลี่ซิ่วยิงดึงวิ่งไปข้างหน้า โจวชิวเซียงร้องไห้หนักกว่าเดิม พร้อมพูดขึ้นว่า “แม่ ข้าไม่ไป พวกเขารังแกข้า ข้าไม่ไป”
“ไม่ไปแล้วจะอยู่ทำไม? ไม่เห็นหรือว่าบ้านของพวกเขามีผู้ชาย? เจ้าสู้ไหวหรือด่าไหว? ผู้ชายคนหนึ่งที่มีลูกแล้วมีอะไรดี ต่อไปนางมีลูกเป็นของตนเอง ลูกชายคนนี้ไม่รู้ว่าจะถูกทรมานกลายเป็นยังไง ถึงตอนนั้นพวกเขาทั้งสองคนก็จะทะเลาะกันทุกวี่ทุกวัน”หลี่ซิ่วยิงพูดพร้อมกับออกแรงดึงเพิ่มยิ่งกว่าเดิม ผลักดึงโจวชิวเซียงไป
โจวกุ้ยหลานโกรธโมโห รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าอารมณ์ของเจ้าก้อนน้อยที่อยู่ด้านหลังผิดปกติ
มือของนางวางอยู่ด้านหลังเจ้าก้อนน้อย โอบกอดเขาไว้แน่น ปลอบโยนเขาอยู่อย่างเงียบๆ
ด่าว่านางนางก็ยังจะทนได้ แต่คำพูดแบบนี้ ทำไมจะต้องพูดต่อหน้าเจ้าก้อนน้อย?
ในเมื่อคนพวกนี้ไม่ไว้หน้า แล้วนางจะไว้หน้าพวกคนแบบนี้ทำไม?
“ก็ถูก ผู้ชายที่มีลูกมีภรรยาแล้ว ยังจะมีอะไรน่าสนใจ กลางค่ำกลางคืนขนาดนี้เป็นผู้หญิงคนหนึ่งยังขึ้นมาบนเขาคนเดียว?”โจวกุ้ยหลานพูดพร้อมกับทำเป็นผลักสวีฉางหลินหนึ่งที ถลึงตาใส่เขา พร้อมพูดขึ้นว่า “วันวันรู้จักแต่ไปเที่ยวทำตัวเจ้าชู้อยู่ข้างนอก”
เวลานี้สวีฉางหลินก็ให้ความร่วมมือ ก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวพร้อมแรงของนาง ยังพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า “ข้าไปล่าสัตว์ทั้งวัน จะเอาเวลาที่ไหนไปเที่ยวเจ้าชู้? คงผิดที่ข้าเข้าไปช่วยคน ต่อไปก็จะมองดูคนอื่นถูกหมาป่ากัดจริงเถอะ”
ร่างกายโจวชิวเซียงที่ถูกผลักเดินไปข้างหน้าแข็งทื่อ ยืนนิ่งอึ้ง ไม่อยากเชื่อว่าเมื่อกี้นั้นเป็นคำพูดที่สวีฉางหลินพูดออกมา
นี่คือพี่ฉางหลินที่ชอบนางมาตลอดหรือ? ทำไมเขาจะต้องพูดแทงใจดำนางขนาดนี้?
สีหน้าหลี่ซิ่วยิงเคร่งเครียด
โจวกุ้ยหลานนังสารเลวคนนี้ปากดีจริงๆ กล้าพูดด่าแทงใจดำลูกสาวตนเองขนาดนี้
เชื้อสวีเหมยฮวาแรงจริงๆ
ไม่มีมโนธรรม
โจวกุ้ยหลานค่อนข้างไม่อยากเชื่อว่าสวีฉางหลินจะฉลาดขนาดนี้ สามารถพูดแบบนี้ออกมาได้ด้วย
แต่ไม่ช้านางก็เข้าใจแล้ว หากผู้ชายคนนี้ไม่มีหัวสมอง พวกเขาจะสร้างบ้านหลังใหม่ขึ้นมาได้อย่างไร?
“รีบไป ยังจะรอให้คนอื่นหัวเราะเยาะหรือ”หลี่ซิ่วยิงตะคอกใส่โจวชิวเซียง
วันนี้โจวชิวเซียงโกรธโมโหมามากพอแล้ว นางควบคุมตนเองไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ทั้งโกรธทั้งร้องไห้แล้วก็วิ่งไป
“นังเด็กคนนี้จะวิ่งไปไหน? รอข้าด้วย”หลี่ซิ่วยิงร้องตะโกนขึ้นอย่างร้อนใจ แล้วก็รีบวิ่งตามไป
ในที่สุดก็ไปแล้ว….
โจวกุ้ยหลานค่อยโล่งอก ช่างเป็นสองคนที่วุ่นวายจริงๆ
แต่…..
“พวกนางสองคนเป็นผู้หญิง กลางค่ำกลางคืนลงเขาไปแบบนี้คงไม่เป็นไรมั้ง?”โจวกุ้ยหลานอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมา
สวีฉางหลินเงียบไปสักพัก แล้วก็พูดตอบว่า “ข้าไปส่งพวกนางลงเขา”
“ก็ดี ไม่อย่างงั้นหากเกิดอะไรขึ้นกับพวกนาง เรายังจะต้องรับผิดชอบ”โจวกุ้ยหลานนวดหว่างคิ้วของตนเอง รู้สึกวุ่นวายจริงๆ
สวีฉางหลินพูดตอบ แล้วเดินไปที่ข้างกำแพง หยิบมีดมาหนึ่งเล่ม เปลี่ยนรองเท้า แล้วก็เดินออกไปข้างนอก เมื่อไปถึงหน้าประตูก็ถูกโจวกุ้ยหลานดึงไว้
“เจ้าตามอยู่ข้างหลังพวกนาง อย่าให้พวกนางเห็นเจ้า”ไม่อย่างนั้นโจวชิวเซียงก็จะคิดหลงตัวเองอีกแล้ว
สวีฉางหลินพูดตอบอีกครั้ง แล้วก็ออกจากประตูไป ร่างกายหายเข้าไปในความมืด
โจวกุ้ยหลานพาเจ้าก้อนน้อยเข้าไปในห้อง ปิดประตู พอหันมาก็เห็นในสายตาเจ้าก้อนน้อยที่หันมามองนาง แฝงไปด้วยความหวาดกลัวอีกแล้ว
หมดกัน
ไม่ง่ายเลยกว่าที่จะทำให้เจ้าก้อนน้อยมีความกล้าหาญขึ้นมาบ้าง เพราะคำพูดของหลี่ซิ่วยิงในวันนี้ ทำให้กลับไปเป็นเหมือนเดิมแล้ว
นางอุตส่าห์ตั้งใจมันนานขนาดนี้
โจวกุ้ยหลานอยากที่จะก่นด่าคนจริงๆ แต่เวลานี้หากนางโกรธโมโห สถานการณ์ของเจ้าก้อนน้อยก็จะยิ่งรุนแรง
นางก้าวเดินไปข้างหน้าสองก้าว โจวกุ้ยหลานนั่งยอง มือทั้งคู่วางบนหลังเจ้าก้อนน้อย พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า “เสี่ยวเทียน ครอบครัวเราอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ไม่ต้องฟังคำพูดของคนอื่น”