นางสนมแพทย์อัจฉริยะ - บทที่ 1045 พี่น้อง,ก็ธรรมดาทั้งคู่
นางสนมแพทย์อัจฉริยะ บทที่ 1045 พี่น้อง,ก็ธรรมดาทั้งคู่
กลไกถูกเปิดออก ไม่มีกับดักแต่อย่างใด ผู้ที่กดปุ่มเปิดการทำงานของกลไกก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เช็ดเหงื่อเย็นที่ไหลลงมาจากหน้าผาก ตะโกนออกไปด้านนอกว่า “มีเส้นทางลับอยู่สายหนึ่ง นำคบเพลิงเข้ามา มองไม่ค่อยเห็นเลย”
หัวหน้าได้ยินเช่นนั้นก็รีบสั่งให้คนนำคบเพลิงเข้าไป ห้องสว่างขึ้นทันตา แต่มันเป็นเพียงห้องหนังสือธรรมดา ไม่มีอะไรพิเศษไปมากกว่านี้
“เป็นเส้นทางลับจริง ๆ ทิ้งคนครึ่งหนึ่งไว้คอยเฝ้าที่นี่ไว้ ส่วนที่เหลือตามข้าเข้ามา” เรือนแยกของเสด็จอาเก้านั้นงดงามมาก คนพวกนี้เองก็ถือเป็นยอดฝีมือ แต่คนตั้งมากมายขนาดนี้ใช้เวลาตั้งครึ่งชั่วโมงกว่าจะหาที่แห่งนี้เจอ
หัวหน้าพาลูกน้องของเขาเข้าไปในเส้นทางลับ เหลือคนส่วนหนึ่งไว้เฝ้าตรงปากทางเข้าเพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดฝัน แต่ในตอนนั้นเอง มีเสียงลั่นดังเอี๊ยดอ๊าด และจู่ ๆ ปากทางเข้าของเส้นทางลับก็ถูกปิดอย่างกะทันหัน
“เร็วเข้า ดุนั่น ตรงนั้นเกิดปัญหาอะไรขึ้น”
“ใครกัน? ออกมาเดี๋ยวนี้”
พวกที่ดูลาดเลาอยู่ตื่นตระหนก ยกคบเพลิงขึ้นและมองไปรอบ ๆ ทันใดนั้นก็เห็นชายชุดดำคนหนึ่งนั่งหันหลังให้พวกเขาอยู่ตรงหน้าโต๊ะหนังสือ
คนผู้นี้ไปนั่งตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ เหตุใดตอนที่พวกเขาเข้ามาถึงไม่สังเกตเห็น?
เหล่าพวกที่คอยดูลาดเลามองหน้ากัน แววตาของพวกเขาเผยให้เห็นถึงความตื่นตระหนก จากนั้นก็พยักหน้าและพุ่งเข้าไปหาชายชุดดำเพื่อหวังเอาชีวิต
“อย่างพวกเจ้านะหรือคิดจะเอาชีวิตข้า?” หันเก้าอี้กลับมา ชายชุดดำผู้นั้นเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขา
“เสื้อผ้าสีดำ หน้ากากสีเงิน เจ้าคือหลานจิ่วชิงงั้นหรือ?” คนดูลาดเลาผงะ แต่ในตอนนั้นเอง ดาบของหลานจิ่วชิงก็หลุดออกมาจากฝัก……
ปัง……เสียงดังขึ้น หลานจิ่วชิงดับไฟในมือของพวกเขาทำให้ห้องมืดลงในทันที หลานจิ่วชิงใช้แรงดีดจากโต๊ะกระโดดขึ้นไปบนอากาศ พร้อมกับดาบในมือ พุ่งแทงทะลุหัวใจของอีกฝ่าย
“คนที่จักรพรรดิเลือกมานับวันยิ่งไม่ได้เรื่อง” คำพูดนี้ของหลานจิ่วชิง นอกจากดูถูกว่าอีกฝ่ายไม่ได้เรื่อง ยังเป็นการเปิดเผยตัวตนของอีกฝ่ายด้วย
คนที่อยู่ดูลาดเลาไม่คิดอะไรมาก เห็นว่าตัวตนของพวกเขาถูกเปิดเผย จึงตะโกนออกมาด้วยความโกรธ “หลานจิ่วชิง เจ้าอย่าโอหังให้มากนัก อย่าลืมว่าตอนแรกเจ้าเป็นใคร ถูกใต้เท้าฝู่ทุบตีเหมือนสุนัขข้างถนนไม่มีผิด หากไม่ใช่เพราะเจ้าโชคดี เวลานี้หลุมฝังศพของเจ้าคงมีหญ้าขึ้นมาเต็มแล้ว”
“ใต้เท้าฝู่? ฝู่หลิน? เหตุใดเขาถึงไม่มา? ที่ข้ามาในวันนี้ก็เพราะอยากจะเจอกับเขา” ด้วยความแข็งแกร่งของหลานจิ่วชิง หากต้องการจะเอาชีวิตคนเหล่านี้ แค่พริบตาก็เกินพอ แต่เขาเลือกที่จะค่อย ๆ จัดการไปทีละคน พร้อมกับพูดออกมาเป็นบ้างครั้ง ดูเหมือนว่าจะต้องการเล่นสนุกกับชีวิตของพวกเขา
ตอนแรกพวกที่อยู่ดูลาดเลายังไม่รู้สึกตัว แต่เมื่อคำถามของหลานจิ่วชิงมากขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาจึงตระหนักได้ว่า วันนี้คำถามของหลานจิ่วชิงนั้นมากเกินไป ดังนั้นพวกเขาจึงตะโกนออกมาว่า “อย่าไปเสียเวลาพูดกับมัน มันกำลังหาข้อมูลจากพวกเรา”
“น่าเสียดายจริง ๆ พวกเข้ารู้ตัวแล้วอย่างนั้นหรือ ในเมื่อพวกเจ้าหมดประโยชน์แล้ว เช่นนั้นก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องมีชีวิตอยู่อีกต่อไป” ร่างกายของหลานจิ่วชิงสั่นไหวราวกับเสือที่กระโจนเข้าไปในฝูงแกะ ดาบของเขาแทงเข้าสู่หัวใจของอีกฝ่าย จากนั้นดึงออกมาด้วยความรวดเร็ว เลือดหยดลงมาจากปลายดาบของเขา พร้อมกับเสียงการปะทะและการแหลกสลาย……
ในตอนที่หลานจิ่วชิงกระโดดออกมาจากกลุ่มคนเหล่านั้น คนพวกนั้นยังคงยืนอยู่ จนกระทั่งหลานจิ่วชิงเช็ดเลือดบนปลายดาบของเขา คนพวกนั้นถึงจะล้มลงพื้นทีละคน
“ท่านอ๋องสาม เจ้าออกมาได้แล้ว” หลานจิ่วชิงหันไปพูดกับชั้นหนังสือ
แน่นอนว่าชั้นหนังสือไม่อาจตอบกลับมาได้ หลานจิ่วชิงเองก็ไม่ได้โกรธ เก็บดาบและเดินออกไปด้านหน้า ใช้แรงผลักชั้นหนังสือ จากนั้นชั้นหนังสือก็เลื่อนไปทางขวาด้วยตัวของมันเองราวกับประตูที่เปิดออกมา หลังจากนั้นก็มีห้องเล็ก ๆ ปรากฏอยู่ด้านใน และในห้องก็มีชายผู้หนึ่งนั่งอยู่
ชายผู้นั้นก็คือคนที่จักรพรรดิต้องการตัว ท่านอ๋องสาม
ข่าวที่จักรพรรดิได้มานั้นถูกต้อง ท่านอ๋องสามมาถึงคอกม้าก่อนเสด็จอาเก้าก้าวหนึ่ง และถูกเสด็จอาเก้าขังไว้ในเรือนแยก แต่คนของจักรพรรดิหมดความหวังที่จะพาตัวของท่านอ๋องสามออกไป
“หลานจิ่วชิง? เจ้ากับตระกูลหลานในราชวงศ์ก่อนมีความสัมพันธ์อย่างไรกัน? เจ้ามีจุดประสงค์อะไร?” ท่านอ๋องสามอยู่หลังชั้นหนังสือ และรับรู้เกิดการที่เกิดขึ้นตรงหน้าเป็นอย่างดี
“ท่านอ๋องสาม ท่านช่างฉลาดหลักแหลมเหลือเกิน ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมจักรพรรดิองค์ปัจจุบันถึงได้หวาดกลัวเจ้า หากข้าบอกว่าข้ามาเพื่อช่วยให้เจ้าได้นั่งบนตำแหน่งนั้น เจ้าจะเชื่อข้าหรือไม่?” คำพูดนี้ของหลานจิ่วชิงเหมือนเป็นการล้อเล่น แต่เขาใช้คำพูดที่เยือกเย็นและเฉยยาในการพูดออกมา ทำให้คนที่ได้ยินคิดว่ามันอาจเป็นความจริง
ท่านอ๋องสามไม่ได้ตอบคำถาม เขามองไปที่หลานจิ่วชิงอย่างระมัดระวัง ผ่านไปครู่หนึ่งถึงกล่าวออกมาว่า “พูดเช่นนี้ก็แสดงว่าเจ้าเป็นรัชทายาทของตระกูลหลานในราชวงศ์ก่อน?”
ท่านอ๋องสามเคยได้ยินชื่อเสียงของหลานจิ่วชิง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกัน และท่านอ๋องสามก็ไม่ค่อยรู้ข้อมูลของหลานจิ่วชิง คนในยุทธจักรเพียงคนเดียว ท่านอ๋องสามไม่ได้เห็นหลานจิ่วชิงอยู่ในสายตา
“ในเมื่อท่านอ๋องสามรู้อยู่แล้ว เช่นนั้นจะถามออกมาเพื่อสิ่งใด” หลานจิ่วชิงไม่ได้ปฏิเสธ เขาชี้ดาบยาวที่เปื้อนเลือดของเขาไปยังท่านอ๋องสามด้วยความสง่างาม
ท่านอ๋องสามไม่ได้แสดงออกมาอย่างชัดเจน แต่ในความเป็นจริงเขาได้รับอิทธิพลจากไอสังหารของหลานจิ่วชิงเป็นอย่างมาก เขารู้สึกไม่สบายใจ เผชิญหน้ากับดวงตาอันเยือกเย็นของหลานจิ่วชิง ท่านอ๋องสามถอยออกห่างโดยไม่รู้ตัว จากนั้นกล่าวออกมาว่า “พูดเช่นนี้ เจ้ามาเพื่อแผนที่จิ่วโจวในมือของข้าอย่างนั้นหรือ?”
แผนที่จิ่วโจว?
ในมือของท่านอ๋องสามมีแผนที่จิ่วโจวอยู่อย่างนั้นหรือ?
ท่านอ๋องสามอยู่ในกำมือเสด็จอาเก้ามาตั้งนาน เหตุใดจึงไม่รับรู้เรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย?
สีหน้าของหลานจิ่วชิงยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แต่ความคิดที่อยู่ในใจของเขานั้นท่วมท้น เขาคิดไม่ถึงเลยว่า ในมือของท่านอ๋องสามจะมีแผนที่ของจิ่วโจวแผ่นนั้นอยู่ นี่มันช่าง……บังเอิญเสียเหลือเกิน
หลานจิ่วชิงไม่ได้ตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย เขาพยักหน้าและพูดอย่างเย็นชา “ท่านอ๋องสามฉลาดอย่างที่คิด ในเมื่อท่านรู้แล้วว่าข้ามาเพื่อสิ่งใด เช่นนั้นท่านอ๋องสามก็โปรดให้ความร่วมมือ ท่านอ๋องสามน่าจะเข้าใจว่าข้าผู้นี้เป็นคนหยาบกระด้าง”
หลานจิ่วชิงเชื่อว่าสิ่งที่ท่านอ๋องสามพูดออกมานั้นเป็นเรื่องจริง คนที่รู้เรื่องแผนที่ของจิ่วโจวนั้นมีน้อยมาก ท่านอ๋องสามพูดมันออกมาในเวลานี้ แน่นอนว่าในมือของเขาต้องมีมันอยู่
“แผนที่ของจิ่วโจวจะมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อมีครบทั้งเก้าแผ่น ในมือของข้ามีอยู่แผ่นเดียวมันก็ไร้ประโยชน์ จะมอบให้ผู้ผดุงความยุติธรรมหลานก็ไม่เสียหาย เพียงแต่……” ท่านอ๋องสามเห็นว่าเหยื่อที่เขานำออกมานั้นมีประโยชน์ เขาจึงแสดงท่าทีลึกลับซึ่งยากจะเข้าใจ รอให้หลานจิ่วชิงกินเบ็ด
“แต่ว่าอะไร?” หลานจิ่วชิงให้ความร่วมมือเป็นอย่างมาก “กินเบ็ด” แล้ว
ท่านอ๋องสามแอบดีใจ แต่ไม่ได้แสดงออกมาให้เห็น เขากล่าวออกมาอย่างเฉยเมย “เพียงแต่ว่า……หากข้ามอบแผนที่ของจิ่วโจวให้ผู้ผดุงความยุติธรรมหลานแล้ว ผู้ผดุงความยุติธรรมหลานจะนำอะไรมาตอบแทนข้า?”
“ตอบแทนเจ้า? เหลือศพที่สมบูรณ์ไว้ให้เจ้าเป็นอย่างไร?” ดาบในมือของหลานจิ่วชิงขยับไปด้านหน้า หากจากท่านอ๋องสามเพียงแค่เล็บมือ ท่านอ๋องสามตะลึงงัน ร่างกายของเขาตั้งตรงโดยไม่รู้ตัว เห็นว่าหลานจิ่วชิงไม่ได้ต้องการจะฆ่าเขา เขาถึงโล่งใจ
“ผู้ผดุงความยุติธรรมหลานล้อเล่นเก่งจริง ๆ ผู้ผดุงความยุติธรรมหลานเป็นคนของราชวงศ์ก่อน น่าจะรู้ถึงความสำคัญของแผนที่จิ่วโจว ข้ามอบแผนที่จิ่วโจวให้กับเจ้าเพื่อแลกกับชีวิตของข้า มันก็คงไม่มากเกินไปเจ้าว่าไหม?” ท่านอ๋องสามพูดเงื่อนไขของตนเองออกไป
สำหรับหลานจิ่วชิง สิ่งที่ท่านอ๋องสามต้องการนั้นไม่ได้มากมายอะไร เพียงแค่ขอมีชีวิตรอดออกไป แต่สำหรับเสด็จอาเก้าแล้ว เงื่อนไขนี้ค่อนข้างมากพอตัว
หากท่านอ๋องสามหายตัวไปในตอนนี้ เสด็จอาเก้าก็จะถูกกล่าวหาว่ากลั่นแกล้งจักรพรรดิ หากเขาไม่อยากตาย เขาก็ต้องสู้อย่างสุดชีวิต……
ต้องบอกเลยว่าในฐานะพี่น้อง พวกเขามีความคล้ายคลึงกันเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิ ท่านอ๋องสาม หรือว่าเสด็จอาเก้า ทุกคนต่างโหดเหี้ยมพอ ๆ กัน พวกเขาไม่มีภราดรภาพต่อพี่น้องของตัวเองเลยแม้แต่น้อย……