นางสนมแพทย์อัจฉริยะ - บทที่ 350 ฆ่าตกรรม ได้เวลาลงมือแล้ว
ตระกูลหวังและตระกูลเซี่ยนั้นแข็งแกร่งอย่างมาก ในเวลาเพียงหนึ่งวัน เรื่องราวของซีหลิงเหยาหวาและตงหลิงจื่อชุนถูกเผยแพร่จนรู้กันทั่วบ้านทั่วเมือง ซีหลิงเทียนเหล่ยโกรธเคืองเสียจนหน้าเสีย ซีหลิงเหยาหวาทุบพังข้าวของในห้องจนสิ้น
สองพี่น้องแทบรอไม่ไหวที่จะฆ่าเสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉิน ทั้งๆ ที่พวกเขาสัญญาว่าจะเก็บเรื่องนี้เอาไว้ แต่สุดท้ายเป็นไง?
ทันทีที่วันเฉลิมพระชนมพรรษาของจักรพรรดิผ่านไป เรื่องนี้ก็ถูกเปิดเผยออกมา และเปิดเผยโดยเรื่องอื้อฉาวเช่นนี้ ใช้เพื่อทำให้ข่าวเรื่องไฟไหม้จวนเฟิ่ง และเฟิ่งชิงเฉินหายดีถูกกล่าวถึงน้อยลง
หยามกันเกินไป!
ซีหลิงเทียนเหล่นรีบเข้าไปในพระราชวัง เพื่อขอความยุติธรรมจากจักรพรรดิ แต่พบว่าจักรพรรดิแห่งแคว้นตงหลิงน่าสงสารกว่าพวกเขาอีก
ทุกคนรู้ดีว่าสถานการณ์ในราชวงศ์ตงหลิงเปลี่ยนไป จักรพรรดิยอมจำนนต่อเหตุการณ์นี้โดยไม่คัดค้าน เดิมทีจักรพรรดิวางแผนที่จะใช้โอกาสนี้ในการเอาคนของตนเข้าไป แต่ไม่คาดคิด……..
ในวันที่สองของวันเฉลิมพระชนมพรรษาของจักรพรรดิ มีใต้เท้าฝ่ายตรวจการได้สั่งฟ้องผู้บัญชาการทหารราบเก้าประตูและราชองครักษ์ โดยกล่าวว่าพวกเขาไร้ศีลธรรม บ้าอำนาจ กดขี่ประชาชน ข่มเหงผู้ชายทำร้ายผู้หญิง และได้เอาหลักฐานที่น่าอนาถต่างๆ ออกมาแสดง ขอให้ฝ่าบาททรงลงโทษคนอำมหิตเหล่านี้อย่างหนัก
หลักฐานที่นำเสนอโดยใต้เท้าฝ่ายตรวจการ ทุกตัวสามารถสืบหาที่มาได้ มีคนได้รับทุกข์จำนวนมาก หนึ่งในนั้นวีรกรรมที่หนักและมากที่สุดคือผู้บัญชาการทหารราบเก้าประตู ซึ่งเป็นพระเชษฐาของพระราชินี
พระเชษฐาของพระราชินีชอบเด็กสาว และว่ากันว่ามีเด็กสาวหลายสิบคนเสียชีวิตทุกเดือนเพราะเขา และเด็กสาวอายุเจ็ดแปดขวบแต่ละคนเสียชีวิตอย่างน่าอนาถ
อีกอย่างจักรพรรดิให้ความสำคัญกับผู้บัญชาการของราชองครักษ์มากที่สุด ซึ่งเขานั้นชอบการทรมานและสังหารผู้คน เขาแย่งชิงที่ดินชาวบ้าน สังหารลูกเมียคนอื่น และนักโทษจำนวนมากเสียชีวิตจากการทรมานของเขา
จักรพรรดิรู้เรื่องของผู้บัญชาการทหารราบเก้าประตูและผู้บัญชาการของราชองครักษ์มาบ้างเล็กน้อย แต่เมื่อทุกอย่างถูกใต้เท้าฝ่ายตรวจการเปิดเผยออกมา จักรพรรดิก็รู้สึกอับอาย เพราะนี่เป็นคนของเขาทั้งหมด
จักรพรรดิจงใจลำเอียงและต้องการทำเรื่องใหญ่เรื่องเล็ก และทำเรื่องเล็กให้เงียบหายไป แต่เขาไม่คิดว่าใต้เท้าฝ่ายตรวจการจะเป็นคนที่หัวดื้ออย่างมาก เมื่อเห็นว่าฮ่องเต้ลำเอียง เขาจะกล้าที่จะเปิดโปงและกัดไม่ปล่อยเช่นนี้ อีกทั้งเขาได้ยื่นสารสังหารเพื่อขอให้ฝ่าบาทลงโทษคนเหล่านี้อย่างนัก
จักรพรรดิโกรธเคืองอย่างมาก อยากจะจัดการใต้เท้าฝ่ายตรวจการนั้นเสีย แต่เขาทำไม่ได้ เพราะหากเขาทำจริง เช่นนั้นเขาจะกลายเป็นจักรพรรดิเผด็จการ เมื่อถึงเวลาบัลลังก์ของเขาก็จะ…..
เสด็จอาเก้ากำลังจ้องมองบัลลังก์ของเขาอย่างดุดัน ลูกชายของเขาก็โตแล้วเช่นกัน จักรพรรดิกัดฟัน และสั่งให้องครักษ์เสื้อโลหิต ตรวจสอบ
ผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อโลหิตลู่เส้าหลิน เป็นคนของจักรพรรดิ จักรพรรดิขอให้หลู่เส้าหลินตรวจสอบ เห็นได้ชัดว่าสั่งเพื่อปกปิดเรื่องนี้ และเป็นการแสดงว่าตนให้ความสำคัญกับลู่เส้าหลิน
แม้ว่า องครักษ์เสื้อโลหิต จะถูกใต้เท้าฝ่ายตรวจการเปิดโปงเช่นกัน แต่ว่าลู่เส้าหลิน
ฉลาดแกมโกงอย่างมาก เขารักนวลสงวนตัวเสียจนแม้แต่หอนางโลมก็ไม่ไป ส่วนกฎลงโทษอาญาขององครักษ์เสื้อนั้น เดิมทีคือหากจักรพรรดิเห็นพ้องต้องกัน แม้ว่าเหล่าขุนนางจะใจกล้าเพียงใด ก็มิอาจต่อว่าจักรพรรดิ
ลู่เส้าหลินรับคำสั่ง เขาแอบเช็ดเหงื่อตนอย่างลับๆ โชคดีที่ตอนนั้นเขาทำดีต่อเฟิ่งชิงเฉิน มิเช่นนั้นวันนี้คงโดนใต้เท้าฝ่ายตรวจการเปิดโปงอย่างหนักแน่นอน
แม้ว่าเขาไม่ได้กดขี่ประชาชน แต่ก็ทำเรื่องซื้อขายราชการไปมากมาย ก่อนหน้านี้ด้านนั้นของเขาไม่เอาไหน เขาจึงมุ่งเข้าไปที่เรื่องเงิน หวังจะใช้เงินเพื่อพิสูจน์ว่าเขาเป็นผู้ชายจริงๆ โชคดีที่เขาได้พบกับเฟิ่งชิงเฉิน จึงได้รอดพ้นภัยครั้งนี้ไป
จักรพรรดิตั้งใจที่จะปกป้องผู้บัญชาการทหารราบเก้าประตู และผู้บังคับบัญชาราชองครักษ์ แต่ไม่คิดว่าทั้งสองจะทำให้ผิดหวังเช่นนี้ ลู่เส้าหลินยังไม่ทันไปตรวจสอบ บ้านเด็กหญิงที่ผู้บัญชาการทหารราบเก้าประตู ทำไว้ถูกค้นพบ ศพมากมายของเด็กหญิงที่เสียชีวิตอย่างอนาถปรากฏอยู่ที่หน้าประตูเมือง
นี่คือการตบหน้า เขาตบหน้าจักรพรรดิ ฮองเฮาและตงหลิงจื่อลั่วอย่างแรง จักรพรรดิออกคำสั่งทันทีว่าให้จับตัวเขามา ฮองเฮาโกรธเคืองอย่างหนักจนหมอสติ ส่วนลั่วอ๋องต้องการช่วยพวกเขา แต่ว่าหลักฐานหนักแน่นเช่นนี้ เหล่าประชาชนต่างโกรธเคืองอย่างมาก เขาเองไม่มีกำลังพอที่จะเปลี่ยนแปลงมัน
ผู้บัญชาการราชองครักษ์ ไม่ได้ดีไปกว่าเขาเลย จู่ๆ บ้านของเขาก็เกิดไฟไหม้ มีคนมากมายเข้าไปช่วยดับไฟ แต่กลับพบว่า…. ผนังทั้งสี่รอบบ้านของเขาเต็มไปด้วยอิฐทอง อย่าว่าแต่ชาวบ้านเลย แม้แต่จักรพรรดิเองกฌโกรธเคืองอย่างมากเช่นกัน
ไอ้บ้าเอ๊ย กรมการคลังขาดแคลนเงินเช่นนี้ ตำแหน่งแค่ผู้บัญชาการราชองครักษ์ กลับมีเงินยิ่งกว่ากรมการคลังของแคว้น ยึดทรัพย์สินทั้งหมด ยึดอย่างเด็ดขาด
หมากตัวใหญ่ทั้งสองในมือของจักรพรรดิถูกกำจัดไปเช่นนี้ จักรพรรดิปวดหัวอย่างมาก เขากำลังครุ่นคิดเรื่องผู้เข้ารับตำแหน่งคนใหม่ แต่กลับเกิดเรื่องอีกครั้ง………
บัญชีลับของเจ้าหน้าที่เจียงหนานถูกเปิดเผยออกมาได้อย่างไรก็ไม่ทราบ จากนั้นเจ้าหน้าที่ทั้งเมืองเจียงหนานก็ได้รับผลกระทบตามกันไป และเจียงหนานถือเป็นสถานที่ที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในตงหลิง เจ้าหน้าที่เมืองนี้ส่วนมากเป็นคนของฝ่าบาท และคนของเหล่าองค์ชายต่างๆ
ในเวลานี้แม้แต่คนโง่ก็ยังรู้ว่านี่คือฝีมือของตระกูลใหญ่ ฝ่าบาทโกรธเคืองอย่างมาก ตระกูลใหญ่กล้าดียิ่งนัก กล้าที่จะมายั่วยวนจักรพรรดิ ฝ่าบาทตอบโต้กลับไปทันที เขาจับตระกูลชื่อดังขนาดเล็กมาสองสามตระกูลและหาเรื่องจับผิดจัดการพวกเขาแล้ว
เวลาเก้าวัน เพียงเก้าวันเท่านั้น สงครามโหมกระหน่ำในราชสำนัก ณ เวลานี้ใครจะมีเวลาไปสนใจว่าเฟิ่งชิงเฉินจะอยู่หรือตาย ใต้เท้าทุกคนต่างก็ระแวงอย่างมาก กลัวว่าตนจะกลายเป็นคนโชคร้ายคนต่อไป
วงการการเมืองของตงหลิงเริ่มปั่นป่วน ทุกคนตกอยู่ในสภาวะอันตราย คนที่ใจกล้าถือโอกาสนี้ใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า ส่วนคนที่ขี้กลัวนั้นปิดประตูปิดกั้นตัวเอง ไม่เข้าร่วมการวุ่นวายในครั้งนี้
เรือนจำขององครักษ์เสื้อโลหิตเต็มไปด้วยผู้คน และลู่เส้าหลินก็ยุ่งอย่างมาก บุคคลที่สง่างามที่สุดในเมืองหลวงช่วงที่ผ่านมานี้คือเขา ตระกูลใหญ่หาความผิดเขาไม่เจอ เขาทำงานได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาทอีก อีกทั้งฝ่าบาทเชื่อใจเขาอย่างมาก
ลู่เส้าหลินรู้ดีว่าเขามีสถานะในวันนี้ ก็เพราะเฟิ่งชิงเฉินคอยช่วยอยู่ห่างๆ เขาจึงที่ตอบสนองทันที เขาได้จบคดีพ่อของซุนยี่ฉือ จากนั้นก็ปล่อยเขาออกมา
มีข้าราชการจำนวนมากที่ทุจริตและรับสินบน เรื่องพ่อของซุนยี่ฉือหากเป็นปกติ ทุกคนจะต้องจับตามองอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้ไม่มีใครอยากเข้ามายุ่งเกี่ยวกับองครักษ์เสื้อโลหิต เพราะหากเข้าไปยุ่งก็จะซวยไปด้วย
แม้ว่าคุณพ่อซุนจะไม่ทนทุกข์ในตอนที่อยู่ในคุกองครักษ์เสื้อโลหิต และการที่เขาสามารถมีชีวิตรอดออกมาจากคุกองครักษ์เสื้อโลหิตที่มืดมิดมาได้นั้น พ่อซุนหลั่งน้ำตาในทันที
พ่อซุนรู้ดีว่าเขาสามารถเอาชีวิตรอดจากคุกองครักษ์เสื้อโลหิตได้ เพราะเฟิ่งชิงเฉิน และเฟิ่งชิงเฉินทำเช่นนี้เพราะลูกสาวของเขาซุนยี่จิน บางทีซุนยี่จินอาจไม่เชื่อจนกว่าจะตายว่า การที่นางช่วยเหลือคนอย่างกระตือรือร้นในตอนนั้น จะสามารถได้รับผลตอบแทนกลับคืนมาเช่นนี้
เก้าวันต่อมา พ่อซุนได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำ และความวุ่นวายในราชสำนักก็ค่อย ๆ สงบลง ทุกคนตกลงโดยปริยายที่จะหยุดโจมตี สิ่งที่สำคัญที่สุดคือสิ่งที่เฟิ่งชิงเฉินต้องการมาถึงแล้ว นางกำลังจะจบเรื่องนี้
“เฟิ่ง ชิงเฉิน ดูซิว่านี่คือกระจกที่เจ้าต้องการใช่หรือไม่” ซูเหวินชิงเดินไปที่ประตูและนำกระจกที่เฟิ่งชิงเฉินมอบหมายให้เขาทำออกมา
ใสสว่าง ราบรื่นและไร้ที่ติ รูปลักษณ์ของเฟิ่งชิงเฉินปรากฏบนกระจกอย่างชัดเจน เฟิ่งชิงเฉินเดินออกไป เอากระจกกันเข้าหาพระอาทิตย์ แสงอาทิตย์ตกกระทบที่กระจกและสะท้อนเข้าประตู
“ผลดีมาก เจ้าทำมากี่ใบ?” เฟิ่งชิงเฉินพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ พรุ่งนี้ถึงเวลาสำหรับคำทำนาย แล้ว และเราสามารถเริ่มสังหารคนได้แล้ว
“หนึ่งพันหน้า ทำไมหรือ? เจ้าบอกเองว่าหากข้าทำออกมาได้ ของชิ้นนี้ถือว่าเป็นของข้า ข้าจะซื้อหรือขายอย่างไรก็ได้” ซูเหวินชิงเป็น นักธุรกิจ รู้คุณค่าของกระจกเงานี้ และเร่งกล่าวอย่างประหม่า
เฟิ่งชิงเฉินมองบนใส่เขา “ไม่ต้องกังวล ข้าไม่ใช่เจ้า ข้าไม่ได้เห็นแก่เงินขนาดนั้น กระจกหนึ่งพันอันนี้ เอามาให้ข้ายืมก่อน และต้องให้ข้ายืมคนมาอีกหนึ่งพันคน”
“เจ้าจะทำอะไร” ซูเหวินชิงพูดอย่างกังวล แม้ว่าจิ่วชิงได้บอกให้เขาร่วมมือกับเฟิ่งชิงเฉินอย่างเต็มที่ แต่เห็นได้ชัดว่าเฟิ่งชิงเฉินไม่ได้จะทำความดี และเขาไม่อยากเข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องนี้
น่าเสียดายที่มันสายเกินไป เฟิ่งชิงเฉินยิ้ม “ฆาตกรรม!”
เฟิ่งชิงเฉินสั่นสะท้าน หักเหแสงบนกระจกเข้าที่ใบหน้าของซูเหวินชิง…