นางสนมแพทย์อัจฉริยะ - บทที่ 549 วินาทีเดียว พลิกเกมอย่างสิ้นเชิง
นางสนมแพทย์อัจฉริยะ บทที่ 549 วินาทีเดียว พลิกเกมอย่างสิ้นเชิง
การเปลี่ยนแปลงในราชสำนักนั้นรวดเร็วมากจนไม่อาจเข้าใจ ในชั่วข้ามคืน หน้าจวนที่มีผู้คนพลุกพล่านกลับเงียบสงบขึ้นมาทันที
ใต้เท้ากั๋วจ้างระดับสูง เป็นท่านลุงของแคว้นที่มีอำนาจ กลายเป็นนักโทษในค่ำคืน เรือนจำองครักษ์เสื้อ โลหิต เต็มไปด้วยคนของจวนกั๋วจ้าง ทั้งเรือนจำเต็มไปด้วยคำด่าทอต่อว่า
“นายปล่อยเราไปเสียดีกว่า ข้าเป็นพี่ใหญ่ของลั่วอ๋อง เจ้าทำเช่นนี้กับข้า ระวังลั่วอ๋องประหารเจ้า”
“ใต้เท้าลู่ ข้าเป็นอาของฮองเฮา เจ้าต้องคิดให้ถี่ถ้วน”
“ใต้เท้าลู่ พวกเราคือคนของตระกูลฮองเฮา เมื่อฮองเฮาขอร้องวิงวอนฝ่าบาท ฝ่าบาททรงสงบลง พวกเราก็จะได้ออกจากตรงนี้ไป ถึงเวลานั้นเจ้าจะต้องชดใช้”
…
คนเหล่านี้ไม่รู้ว่าความตายกำลังจะมาถึง พวกเขายังคงตะโกนด่าทอ บอกให้ลู่เส้าหลินนั้นอยู่ให้เป็น ต้อนรับพวกเขาให้ดี ให้พวกเขาอยู่คุกที่สบายกว่านี้ เพราะพวกเขาเป็นคนในตระกูลของฮองเฮา เป็นคนของลั่วอ๋อง หากว่าทำพวกเขาโกรธเคือง ก็จะมีจุดจบไม่ดีอย่างแน่นอน
ในตอนแรกลู่เส้าหลินเห็นแก่จักรพรรดินีและลั่วอ๋องจึงอดทนอย่างมาก แต่เมื่อข่าวฮองเฮาป่วยหนัก และกลับไปรักษาตัวเผยแพร่ออกมา ลู่เส้าหลินก็ไม่อดทนอีกต่อไป หากว่าไม่จัดการ พวกเขาคงคิดว่าองครักษ์เสื้อโลหิตเป็นเพียงแค่ชื่อ
ลู่เส้าหลินเอาพวกคนที่ด่าทอและเย่อหยิ่งที่สุดออกมา จากนั้นก็ใช้โทษหนักต่างๆ ขององครักษ์เสื้อโลหิตลงโทษ แล้วเอาคนที่ถูกลงโทษที่เปื้อนเลือดไปทั่วร่างกายและเกือบจะหมดลมหายใจกลับเข้าไปที่ห้องขัง คนที่อยู่ในห้องขังเงียบลงในทันที จากนั้นก็มีเสียงโวยวายดังขึ้นมาอีกครั้ง
“ไอ้คนนามสกุลลู่ เจ้าเป็นแค่สุนัขเลี้ยง เจ้ากล้าทุบตีท่านอาของราชินีหรือ เจ้าอยากตายหรืออย่างไร ข้าจะทูลเหนียงเหนียง ให้ลงโทษเจ้าในโทษฐานดูหมิ่นท่าน”
“ลู่เส้าหลิน เจ้าช่างกล้าดีเหลือเกิน เจ้ากล้าลงมือกับลูกพี่ลูกน้องของลั่วอ๋องหรือ เจ้าอยากตายใช่หรือไม่? อย่าให้ข้าได้ออกไป หากข้าออกไปแล้ว เจ้าจะโดนเป็นคนแรก จะเอาหญิงสามของตระกูลลู่ทุกคนไปเป็นโสเภณีทหาร”
…
เดิมลู่เส้าหลินแค่ต้องการสั่งสอน แต่คนพวกนี้ด่าทอแรงขึ้นกว่าเดิม ลู่เส้าหลินเองก็เริ่มทนไม่ไหวแล้ว ” หึ บอกว่าข้าเป็นสุนัขที่เลี้ยงไว้ แล้วถ้าข้าเป็นสุนัขมันทำไมหรือ? ถึงเป็นสุนัขข้าก็เป็นสุขนักของจักรพรรดิ
พวกเจ้าเป็นตัวกระไร? อ้างถึงฮองเฮาหรือ? แม้แต่ฮองเฮาเองก็เอาตัวไม่รอดแล้ว จะมีเวลามาสนใจพวกเจ้าหรือ หาว่าข้าเป็นสุนัขงั้นหรือ? เอาสิ วันนี้ข้าจะให้คนในตระกูลของฮองเฮาได้รู้สึกถึงความเก่งกาจของสุนัขตัวนี้แล้วกัน คิดจะเอาหญิงสาวในตระกูลข้าไปเป็นโสเภณีทหารงั้นหรือ? ข้าจะเอาเจ้าไปให้สุขนักกินเสียก่อน”
ในฐานะผู้บัญชาองครักษ์เสื้อโลหิต ไม่ว่าใครจะเกลียดเขาเช่นไร แต่เมื่อเจอหน้าเขา ทุกคนต้องเรียกเขาว่าใต้เท้าลู่อย่างเคารพ มีแต่คนของตระกูลฮองเฮานี่แหละ นี่ไม่ให้เกียรติเขาเพราะเย่อหยิ่งจากอำนาจของฮองเฮาและลั่วอ๋อง เช่นนั้นก็อย่าหาว่าเขาใจร้ายแล้วกัน
“ลู่เส้าหลิน เจ้าจะทำกระไร? อย่าคิดทำกระไรบ้าๆ หากว่าเราออกไปได้แล้ว เจ้าไม่รอดแน่”
ญาติก็จริง แต่หากไม่มีอำนาจทางทหารอยู่ในมือ พวกเขาเป็นเพียงคนนอกที่แข็งแกร่ง เพียงแค่ฝ่าบาทออกพระราชโองการ พวกเขาก็จะไร้ค่าทันที
ลู่เส้าหลินยิ้มอย่างขุ่นเคือง ” ทำกระไร? พวกท่านบอกว่าข้าเป็นสุนัขมิใช่หรือ? จะจับเอาหญิงสาวตระกูลลู่ไปเป็นโสเภณีทหารมิใช่หรือ วันนี้ข้าจะให้พวกเขาเห็นถึงความเก่งกาจขององครักษ์เสื้อโลหิต”
“ทหาร” ลู่เส้าหลินปรบมือ ก็มีทหารองครักษ์เสื้อโลหิตสองคนเข้ามา แววตาของพวกเขาโหดเหี้ยม หน้าดูไร้ความเป็นสีเลือด สามารถดูออกได้เลยว่าพวกเขาไม่ได้เจอแดดมาเป็นเวลานาน
“ใต้เท้า” ในองครักษ์เสื้อโลหิตนั้น ลู่เส้าหลินมีอำนาจอย่างมาก ฝ่าบาทมอบอำนาจทั้งหมดขององครักษ์เสื้อโลหิตให้กับเขา เช่นนั้นเมื่อเข้ามาอยู่ในกององครักษ์เสื้อโลหิตแล้ว จักรพรรดิจะไม่สนว่าพวกเขาจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร ถึงแม้ตายไป จักรพรรดิก็ไม่สนว่าจะตายอย่างไร
“ไปนำหมาป่าเหล่านั้นที่อยู่ค่ายฝึกมา ให้เหล่าผู้ใหญ่ได้เห็นว่าสุนัขขององครักษ์เสื้อโลหิตนั้นเก่งกาจมาแค่ไหน” คนของตระกูลฮองเฮาทำให้ลู่เส้าหลินโกรธเคืองอย่างมาก มิเช่นนั้นเขาก็ไม่ใช้วิธีที่เลวร้ายเช่นนี้
“ขอรับ” เมื่อองครักษ์ทั้งสองได้ยินเช่นนี้ แววตาของพวกเขาเป็นประกาย ตั้งตารออย่างคาดหวัง
หัวหน้าเรือนจำเกินครึ่งมักชอบทรมานและฆ่าคน พวกเขาชอบฟังเสียงกรีดร้องของนักโทษ มิฉะนั้น พวกเขาจะไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้
“ลู่เส้าหลิน เจ้ากล้า เจ้ากล้าหรือ…
“ลู่เส้าหลิน หากเจ้ากล้าปล่อยหมาป่าเข้ามา ข้าจะฆ่าเจ้า”
โอ้โอ้…
ตอนแรกคนในเรือนจำยังคงขู่เข็ญ แต่เมื่อเห็นว่าองครักษ์เสื้อโลหิตนำหมาป่ามาจริงๆ พวกเขาก็เริ่มร้อนรนแล้ว เมื่อตอนหมาป่าที่หิวโหยเหล่านั้นพุ่งเข้ามา พวกเขาจึงรู้ว่า ลู่เส้าหลินมิได้พูดเป็นเช่น พวกญาติฮองเฮาที่เย่อหยิ่งอย่างมากจากก็กลัวมาตอนนี้
“ใต้เท้าลู่ ใต้เท้าลู่ ไว้ชีวิตข้าเถอะ เราผิดไปแล้ว เราผิดไปแล้ว”
“ใต้เท้าลู่ ท่โปรดให้อภัยพวกข้า หากเราได้ออกจากตรงนี้ไป เราจะเชยชมใต้เท้าลู่ต่อหน้าลั่วอ๋องอย่างแน่นอน”
“อใต้เท้าลู่…”
ลู่เส้าหลินไม่หวั่นไหว เขาเอามือไขว้หลัง และเอ่ยคำสั่ง “เปิดประตูและปล่อยสุนัขเข้าไป”
โบร๋ว….บรู๋ว…
หมาป่ารีบบุกเข้าไปในคุก กัดพวกเขาอย่างบ้าคลั่ง เหล่าคุณลุงในคุกที่เคยถูกประจบประแจงตลอดเวลา พวกเขาไม่เคยเห็นภาพเช่นนี้ แต่ละคนพยายามหนีเอาตัวรอดและกรีดร้องเสียงดัง อีกอย่างก็คือพวกเขาผลักคนอื่นๆ ออกไปรับหน้าเพื่อปกป้องตน โดยไม่สนว่าคนรอบกายนั้นเป็นคนในครอบครัวหรือไม่ เอาแต่คิดเอาตัวรอดเอง…