นางสนมแพทย์อัจฉริยะ - บทที่ 558 ปลายมีด เฟิ่งชิงเฉินอํามหิตกับตัวเองเหลือเกิน
นางสนมแพทย์อัจฉริยะ บทที่ 558 ปลายมีด เฟิ่งชิงเฉินอํามหิตกับตัวเองเหลือเกิน
เหมือนทั้งสองจะนัดกันมาก่อน จังหวะที่เฟิ่งชิงเฉินหันกลับไป เสด็จอาเก้าก็เงยหน้ามาพอดี ดวงตาสองคู่ประสานกัน มีคำพูดมากมายที่สื่อสารผ่านดวงตา ทั้งสองจ้องตากันและกัน ในสายตามีเพียงภาพของอีกฝ่าย……
ฉากที่กำลังเกิดขึ้นนี้ หากบอกว่าสองคนนี้ไม่ได้เป็นอะไรกันคงไม่มีใครเชื่อ เมื่อนึกถึงข่าวซุบซิบที่แพร่หลายก่อนหน้านี้ ทั้งหยุนเซียวและชุยห้าวถิงต่างมองหน้ากันและอมยิ้ม ทั้งคู่เหมือนจะรู้คำตอบแล้ว
ไม่มีลมก็ไม่มีคลื่น ข่าวลือพวกนั้นเห็นทีคงจะเป็นเรื่องจริง ความสัมพันธ์ระหว่างเสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินไม่ใช่ธรรมดา
ซูหว่านก้มหน้านิ่ง เพื่อเก็บซ่อนแววตาที่ขุ่นเคือง
เฟิ่งชิงเฉิน ทุกอย่างที่เจ้ากำลังครอบครองอยู่ในตอนนี้ มันควรจะเป็นของข้า สักวันหนึ่งข้าจะต้องทวงคืนมาให้ได้
นางกำหมัดซ่อนอยู่ใต้แขนเสื้อ เล็บของนางจิกเข้าไปตรงฝ่ามือ แต่นั่นไม่ได้ทำให้นางเจ็บปวด เพราะหัวใจของนางเจ็บปวดกว่าหลายเท่า
หญิงกำพร้าอย่างเช่นเฟิ่งชิงเฉินกลับได้รับความรักจากเสด็จอาเก้า นางเป็นถึงบุตรสาวของฮูหยินเอกตระกูลซู แต่กลับถูกครอบครัวเมินเฉย มองนางเหมือนของซื้อของขาย นางยอมไม่ได้!
เสียงกระแอมดังขึ้น……
ตี๋ตงหมิงกระแอมขึ้น 1 ครั้ง ขัดจังหวะ “การมองตาหวานซึ้ง” ของเสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉิน
มันจะมากเกินไปแล้ว มีคนตั้งมากมายอยู่ตรงนี้ แต่เสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินกลับทำเหมือนพวกเขาเป็นอากาศธาตุ
ตี๋ตงหมิงมองเสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินอย่างถ้วนถี่ มองครั้งแล้วครั้งเล่า เผื่อคนทั้งสองจะรู้สึกขวยเขิน แต่ทว่า……
ตี๋ตงหมิงกลับต้องผิดหวัง เมื่อเสด็จอาเก้าและเฟิ่งชิงเฉินไม่รู้สึกอะไรเลย ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เฟิ่งชิงเฉินหันมายิ้มให้ตี๋ตงหมิง แล้วหยิบมีดผ่าตัดขนาดใหญ่ออกมาจากน่อง ก่อนจะหันไปพูดกับเจ้าเมืองเย่เฉิง “เจ้าเมืองเย่เฉิง อาวุธเหล่านั้นมีความสำคัญกับข้ามาก ข้าขออนุญาตเก็บมันกลับมาได้หรือไม่”
พูดจบก็ไม่สนว่าเจ้าเมืองเย่เฉิงจะยินยอมหรือไม่ เฟิ่งชิงเฉินเดินไปหาศพแล้วนั่งยองๆที่ข้างศพ
“เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าจะทำอะไรน่ะ? นั่นเป็นการไม่ให้เกียรติคนตายนะ” เจ้าเมืองเย่เฉิงลุกขึ้นยืนแล้วทักท้วงการกระทำของเฟิ่งชิงเฉิน
อานุภาพของอาวุธเหล่านั้น เจ้าเมืองเย่เฉิงประจักษ์มาแล้ว เขาเองก็อยากนำอาวุธเหล่านั้นกลับไปศึกษา ดูว่าจะสามารถผลิตตามได้หรือไม่ มีหรือจะยอมให้เฟิ่งชิงเฉินนำกลับไป แต่ทันทีที่เขาลุกขึ้นยืนก็มีมีดด้ามใหญ่มาขวางหน้าเขาไว้
เขาเคยข่มขู่เฟิ่งชิงเฉินอย่างไร เสด็จอาเก้าก็ใช้วิธีเดียวกัน
มีทหารอยู่ในมือแล้ว ก็ถือว่าเป็นผู้มีอำนาจเด็ดขาด
“เสด็จอาเก้า นี่มันอะไรกัน?” เจ้าเมืองเย่เฉิงโกรธจัด แต่เขาก็ไม่อาจขัดขืน จึงทำได้แค่ค่อยๆนั่งลง
“เจ้าเมืองเย่เฉิงอย่าวู่วามสิ คนตายมาตายที่ตงหลิง คนตงหลิงอย่างข้าต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว ต่อให้ตายเป็นสิบ เป็นร้อย หรือว่าเป็นพันคนก็รับผิดชอบได้ทั้งนั้น ข้าไม่รังเกียจหรอกนะหากจะต้องฆ่าคนเพิ่มอีกคน” เสด็จอาเก้าข่มขู่เจ้าเมืองเย่เฉิง หากเขาบุ่มบ่าม เสด็จอาเก้าก็จะสั่งเก็บทหารทั้งหมดที่เขาพามาที่นี่
เฟิ่งชิงเฉินที่กำลังจะควานหาลูกกระสุน เมื่อได้ยินเสด็จอาเก้าพูดเช่นนั้นแล้วก็หัวเราะเบาๆ
ทำชั่วได้ชั่ว ใครกล้ามารังแกนาง คนๆนั้นคงไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้วกระมัง
“จึก……” มีดผ่าตัดปักลงที่รอยแผล เมื่อเฟิ่งชิงเฉินขยับมือ ลูกกระสุนก็กระเด็นออกมา แต่ปากแผลกลับไม่มีเลือดไหล ตัวใบมีดก็แทบมองไม่เห็น
ฝีมือไม่ธรรมดาเลย
ชุยห้าวถิงรู้สึกทึ่ง สายตาที่เขามองเฟิ่งชิงเฉินพลันมีความรู้สึกอื่นๆเพิ่มเข้ามา
ก่อนหน้านี้ เขาไม่ค่อยเชื่อมือเฟิ่งชิงเฉินเท่าใดนัก แต่ตอนนี้เขาเชื่อมั่นในฝีมือทางการแพทย์ของนางมากยิ่งขึ้น คนมีฝีมือเพียงลงมือทำให้เห็นผู้ชมก็มองออก ลักษณะท่าทางที่เฟิ่งชิงเฉินควานหาอาวุธเมื่อครู่นี้ช่างเชี่ยวชาญเหลือเกิน แม้ดูเผินๆเหมือนทำได้อย่างง่ายดาย แต่ชุยห้าวถิงเข้าใจดีว่าเฟิ่งชิงเฉินใช้วิธีเคลื่อนมีดอ้อมหลอดเลือด
ถึงแม้ว่านี่จะเป็นการไม่เคารพเจ้าของร่าง แต่มันคือความเคยชินของเฟิ่งชิงเฉิน เฟิ่งชิงเฉินคุ้นเคยกับร่างกายของมนุษย์เป็นอย่างดี เรื่องการลงมีด นางก็เคยทำมาเป็นร้อยเป็นพันรอบ เพียงแค่ปักมีด นางก็สามารถหาตำแหน่งที่นางต้องการได้อย่างแม่นยำ
หยุนเซียวก็รู้สึกทึ่งกับฝีมือเฟิ่งชิงเฉินเช่นกัน เขาตาเป็นประกาย ชุยห้าวถิงและหยุนเซียวยิ่งดูก็ยิ่งได้คำตอบว่าคนอย่างเฟิ่งชิงเฉินคู่ควรกับการลงทุนลงแรงของพวกเขาหรือไม่
เฟิ่งชิงเฉินมีฝีมือเหนือชั้น แถมยังทำงานอย่างว่องไว ตอนนี้ลูกกระสุนทั้งสิบนัดได้ถูกเก็บออกมาจนครบแล้ว เฟิ่งชิงเฉินใช้ผ้าขาวมาห่อลูกกระสุนเพื่อทำความสะอาด
คนอื่นๆก็ไม่มีใครเร่งนาง ต่างรอให้เฟิ่งชิงเฉินทำทุกอย่างให้แล้วเสร็จ พวกเขาอยากดูว่าเฟิ่งชิงเฉินจะมีเคล็ดวิชาพิเศษให้พวกเขาได้ชื่นชมอีกหรือไม่
แล้วนางก็ไม่ทำให้ผู้ชมผิดหวัง เมื่อเช็ดกระสุนนัดสุดท้ายเสร็จแล้ว เฟิ่งชิงเฉินก็หยิบมีดผ่าตัดขึ้นมาเล่น โดยจ่อปลายมีดไปที่กลางอกของตัวเอง
นี่เฟิ่งชิงเฉินคิดจะทำอะไรน่ะ?
วินาทีนี้ อย่าว่าแต่คนอื่นๆเลย แม้แต่เสด็จอาเก้าก็ยังไม่เข้าใจ แต่เขาเชื่อใจเฟิ่งชิงเฉิน นางไม่มีทางเอาความเป็นความตายของตัวเองมาเล่นไร้สาระแน่นอน
“เจ้าเมืองเย่เฉิง หากข้าปักมีดลงในอกของข้า ท่านคิดว่าต้องใช้เวลารักษากี่วันจึงจะหาย?” เฟิ่งชิงเฉินส่งยิ้มหวานละมุน แต่เจ้าเมืองเย่เฉิงและซูหว่านต่างมองว่านั่นเป็นรอยยิ้มที่สุดแสนจะโหดเหี้ยม
“เฟิ่งชิงเฉิน อย่าเล่นไปทั่วนะ” เจ้าเมืองเย่เฉิงใจหาย เขาดูจะเดือดเนื้อร้อนใจยิ่งกว่าเสด็จอาเก้าเสียอีก
หากเฟิ่งชิงเฉินบาดเจ็บ แล้วใครจะรักษาลูกชายของเขาล่ะ ก่อนหน้านี้ที่เขาสั่งให้คนมาจับตัวเฟิ่งชิงเฉิน ก็ให้จับเป็น ห้ามมิให้นางบาดเจ็บเด็ดขาด นางจะได้รักษาคนได้
“เจ้าเมืองเย่เฉิงวางใจเถอะ ชิงเฉินไม่เล่นไปทั่วหรอก ชิงเฉินเป็นหมอ เข้าใจร่างกายมนุษย์ดี การปักมีดครั้งนี้ ชิงเฉินรับประกันได้เลยว่าจะไม่ส่งผลร้ายต่อกระดูกและเส้นเอ็น ไม่มีอันตรายแสนสาหัส เพียงแต่ชิงเฉินจะต้องนอนติดเตียงสักครึ่งเดือนเท่านั้นเอง” ครึ่งเดือน เย่เย่คงตายไปเรียบร้อย
เจ้าเมืองเย่เฉิงอย่าหาว่าข้าใจร้ายนะ ต้องโทษที่ท่านชั่วร้ายมากต่างหาก อะไรๆก็จะโยนมาให้ข้ารับผิดชอบ ไม่คิดเลยหรือว่าท่านเป็นฝ่ายมาขอร้องให้ข้าช่วย
“เฟิ่งชิงเฉิน วางมีดลงเถอะนะ มีอะไรก็ค่อยๆพูดกันดีๆ” เจ้าเมืองเย่เฉิงอกสั่นขวัญแขวนจนต้องออกโรงเกลี้ยกล่อมเฟิ่งชิงเฉิน เขากลัวว่านางจะวู่วาม เฟิ่งชิงเฉินจะเป็นจะตายเขาไม่สนใจหรอก เขาห่วงแค่ว่าลูกชายของเขาจะรอดหรือไม่รอด
“เจ้าเมืองเย่เฉิง เราไม่มีอะไรต้องเจรจากันอีกแล้ว” หากไม่ติดว่าบรรยากาศพาไป เฟิ่งชิงเฉินก็อยากหัวเราะลั่น
ภาพเหตุการณ์ในตอนนี้ช่างเหมือนฉากที่ตำรวจมาเกลี้ยกล่อมคนที่จะฆ่าตัวตาย เพียงแต่นางไม่ใช่คนเสียสติที่คิดจะปลิดชีพของตัวเอง
เฟิ่งชิงเฉินยังคงจ่อมีดใส่ตัวเอง นางก้าวเดินอย่างช้าๆ ปลายมีดนั้นยังคงจ่ออยู่ที่กลางอกของนาง
สายตาของทุกคนต่างจับจ้องมาที่เฟิ่งชิงเฉิน ทุกคนลุ้นระทึก กลัวว่านางจะพลั้งมือไปทำร้ายตัวเอง
ผู้ชมทุกคนต่างเหงื่อท่วม แม้แต่เสด็จอาเก้าก็ยังตำหนินางอยู่ในใจ มีเขาอยู่ทั้งคน นางไม่จำเป็นต้องเสี่ยงตายถึงเพียงนี้
เฟิ่งชิงเฉินหน้านิ่ง ท่าทางไม่ใส่ใจ ทำราวกับว่ามีดเล่มนั้นไม่ได้จ่ออกของนางอยู่ นางเดินไปนั่งที่ของตัวเอง
เฟิ่งชิงเฉินอํามหิตเหลือเกิน นางอํามหิตกับตัวเอง เอามีดจ่อตัวเองอยู่แท้ๆแต่กลับไม่รู้ร้อนรู้หนาว ใบหน้าของนางยังเริงรื่น
ผู้หญิงเช่นนี้ จิตใจเด็ดเดี่ยวเสียจนน่าหวาดกลัว หากคิดจะเป็นศัตรูกับผู้หญิงเช่นนี้แล้วล่ะก็ ต้องเล่นงานนางให้ตายคามือ หากทำไม่ได้ ก็อย่าได้คิดไปมีเรื่องกับนาง เพราะการหาเรื่องนางนั้นก็เท่ากับว่าเป็นการแกว่งเท้าหาเสี้ยน