นางสนมแพทย์อัจฉริยะ - บทที่ 817 ความรัก ต้องอดทนให้มากพอ
นางสนมแพทย์อัจฉริยะ บทที่ 817 ความรัก ต้องอดทนให้มากพอ
การมีพลังและอำนาจช่างเป็นอะไรที่วิเศษเสียจริง เฟิ่งชิงเฉินแสดงออกว่ารู้สึกอิจฉาตนเอง อย่ามองว่าในเวลาปกติเสด็จอาเก้าจะไม่โอ้อวดหรือแสดงตน การเปิดเผยอย่างไม่เป็นทางการเช่นนี้ทำให้ผู้คนเข้าใจความแตกต่างระหว่างขุนนางกับประชาชน
เมื่อเทียบกับเสด็จอาเก้าแล้ว นางเป็นผู้อ่อนแอไปทันที บ่อหยกเช่นนี้ ต่อให้นางมีเงินก็ไม่มีอำนาจมากพอที่จะสร้างมันขึ้นมา นางอยากรู้เหลือเกินว่าเสด็จอาเก้าไปนำหยกมากมายขนาดนี้มาจากไหน
ดูดน้ำพุธรรมชาติมาจากนอกเมือง ฝั่งท่อไว้ใต้ดิน นี่ไม่ใช่โครงสร้างธรรมดาทั่วไป แต่มันเป็นโครงสร้างที่ซับซ้อนเป็นอย่างมาก นางคิดว่าเสด็จอาเก้าคงจะสนุกไปกับมัน แต่ก็ไม่เคยคิดว่าเขาจะฟุ่มเฟือยขนาดนี้ ใช้เงินและกำลังคนนับไม่ถ้วนเพียงเพื่อสร้างน้ำพุร้อน
“คุณหนู” สาวใช้เห็นเฟิ่งชิงเฉินในสภาพมึนงง ไม่ได้หัวเราะหรือเย้ยหยันนาง เพราะในความจริงทุกคนที่เข้ามาในบ่อหยกแห่งนี้ต่างนับถือความใจกล้าของเสด็จอาเก้า ตัวอย่างเช่นก่อนหน้านี้นางได้รับหน้าที่มาทำความสะอาดบ่อหยก ทันทีที่เห็น นางตกใจจนเกือบล้มลงกับพื้น
เห็นพื้นที่เต็มไปด้วยหยก นางสองคนไม่กล้าแม้แต่จะก้าวเดินออกไป พวกนางกลับไปอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าสะอาด จากนั้นถึงกล้ากลับเข้าไปอีกครั้ง
พื้นหยกที่เหมือนกับดินแดนสวรรค์เช่นนี้ มีเพียงกี่คนที่มีโอกาสได้เห็นมัน บ่อหยกแห่งนี้ นอกจากเสด็จอาเก้าก็มีเพียงแค่ผู้ทำความสะอาดเท่านั้นที่เคยเข้ามา ต่อให้เป็นจักรพรรดิก็ไม่เคยเข้ามาที่นี่อย่างแน่นอน
“แค๊ก แค๊ก” เฟิ่งชิงเฉินโบกมืออย่างไม่สบอารมณ์ “พวกเจ้าออกไปเถิด ที่นี่พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องมารับใช้ข้า”
ความน่ากลัวของการไม่รู้เป็นอะไรซึ่งแย่มาก เฟิ่งชิงเฉินเทิดทูนเสด็จอาเก้าไว้เหนือหัว หากไม่ใช่เพราะเสด็จอาเก้า นางคงไม่หลอกตัวเองมาถึงทุกวันนี้
สาวใช้ทั้งสองไม่กล้าอยู่ทำลายบรรยากาศของเสด็จอาเก้าอีกต่อไป เฟิ่งชิงเฉินไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก สาวใช้ทั้งสองถอยออกไป หายไปในพริบตา
เมื่อสาวใช้จากไป เฟิ่งชิงเฉินแทบรอไม่ไหวที่จะถอดเสื้อผ้าเพื่อลงไปแช่ตัวในบ่อน้ำพุร้อน น้ำอุ่นไหลกระทบกับร่างกายของนาง ทำให้เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก
น้ำไม่ได้ลึกมาก ระดับความสูงอยู่ประมาณหัวไหล่ของเฟิ่งชิงเฉิน แต่ดูแล้วน่าจะเกิดจากการคำนวณเป็นอย่างดีของสาวใช้ มิเช่นนั้นระดับน้ำคงสูงมากกว่านี้
นี่เป็นอีกครั้งที่ทำให้หัวใจของเฟิ่งชิงเฉินถูกครอบครองโดยเสด็จอาเก้า การกระทำเล็กน้อยของเฟิ่งชิงเฉินมักจะทำให้หัวใจของผู้คนหวั่นไหว
บ่อน้ำใหญ่มาก มันไม่ได้เล็กไปกว่าสระว่ายน้ำในร่มที่นางเคยใช้ชีวิตมาก่อนเลย เฟิ่งชิงเฉินเพลิดเพลินไปกับมัน ไว้น้ำวนไปวนมาอยู่สองสามรอบ
น้ำอุ่นไม่สามารถแช่นานเกินไปได้ มิเช่นนั้นอาจทำให้ขาดออกซิเจน เฟิ่งชิงเฉินพิงอยู่บ่อน้ำเพื่อผ่อนคลายอยู่ครู่หนึ่ง นางเหยียดเท้าไปมา ใต้เท้าของนางเป็นพื้นหยกซึ่งถูกเกาะสลักไว้อย่างประณีต เมื่อเท้าสัมผัสลงไป มันช่วยมิให้ลื่น ทำให้ผู้คนรู้สึกผ่อนคลายเหมือนกับการนวดใต้ฝ่าเท้า
ด้วยอารมณ์ผ่อนคลาย เฟิ่งชิงเฉินเดินขึ้นมาจากบันไดหยก เนื่องจากในบ่อหยกแห่งนี้มีนางอยู่เพียงคนเดียว ดังนั้นนางจึงไม่รังเกียจที่จะเปิดเผยร่างกายอันเปลือยเปล่า เพราะอย่างไรก็ไม่มีใครเห็น
หยิบผ้าขนหนูผืนใหญ่ที่แขวนอยู่ด้านข้างขึ้นมาเช็ดผม เฟิ่งชิงเฉินพันผ้าขนหนูผืนใหญ่ไว้รอบตัวอย่างสบายใจ จากนั้นเดินไปยังที่นั่งหยกที่มีผลไม้และเหล้าซึ่งทำจากผลไม้วางไว้
เฟิ่งชิงเฉินเอนกายลงบนที่นั่งหยก ปล่อยแผ่นหลังสัมผัสกับแผ่นหยกผ่านอากาศ เพลิดเพลินกับผลไม้ด้วยส้อมสีเงินเพื่อชดเชยน้ำในร่างกาย
อุณหภูมิในบ่อหยกเป็นที่น่าพึงพอใจอย่างมาก เฟิ่งชิงเฉินไม่รู้สึกถึงความหนาวเย็นเลยแม้แต่น้อย จากการว่ายน้ำเมื่อสักครู่ ตอนนี้เฟิ่งชิงเฉินไม่อยากเคลื่อนไหว ยกแก้วเหล้าผลไม้สีแดงขึ้นมา พึมพำกับตัวเอง หากตอนนี้มีคนมานวดหลังให้คนจะดีไม่น้อย
“นวดหลัง?” ทันทีที่เสด็จอาเก้าเข้ามา เขาก็ได้ยินเสียงพึมพำของเฟิ่งชิงเฉิน อย่าโทษเฟิ่งชิงเฉินที่ขาดความระมัดระวัง แต่ต้องโทษเสด็จอาเก้าที่เข้ามาโดยไม่ส่งเสียง
เสด็จอาเก้าปล่อยผมปล่อยอันยาวยาวสลวยของเขา ถอดเสื้อคลุมและรองเท้า ตอนนี้เขากำลังเดินเท้าเปล่า ร่างกายของเขามีเสื้อคลุมสำหรับอาบน้ำอยู่หนึ่งตัว
ด้วยผมอันยาวสลวย ประกอบกับเสื้อคลุมซึ่งพลิ้วไหวไปตามสายลม ท่าทางของเขาดูผ่อนคลาย แตกต่างจากความเคร่งขรึมในทุกวัน เสด็จอาเก้าในตอนนี้ดูอ่อนโยนและเรียบง่าย
ส่วนด้านในเสื้อคลุมนั้นได้สวมอะไรไว้หรือไม่ เรื่องนี้ไม่มีใครรู้ อีกอย่างเสด็จอาเก้ายังคงยืนอยู่ตรงนั้น นอกจากเท้าทั้งสองข้างที่ปรากฏออกมาให้เห็น ส่วนอื่นของร่างกายยังคงถูกปิดไว้อย่างมิดชิด
เมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว ร่างกายของเสด็จอาเก้าก็หายไปพร้อมกับหมอกควัน ปรากฏออกมาด้านหลังของเฟิ่งชิงเฉินโดยไม่ส่งเสียง เห็นเฟิ่งชิงเฉินนอนอยู่บนเตียงหยกด้วยใบหน้าพึงพอใจ ริมฝีปากของเสด็จอาเก้าก็กระตุกขึ้นเล็กน้อย
นั่งลงอย่างช้า ๆ คุกเข่าด้านหนึ่งลงด้านหลังของเฟิ่งชิงเฉิน สะบัดเสื้อผ้าของเขา เสด็จอาเก้าไม่ได้รู้สึกเขินอายแต่อย่างใด พับแขนเสื้อขึ้นอย่างใจเย็น ตั้งใจจะปรนนิบัติให้เฟิ่งชิงเฉินบ้าง แต่ใครจะไปรู้ว่าตอนนั้นเฟิ่งชิงเฉินกลับรู้สึกตัว
“ใคร?” เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้ตื่นตระหนกแต่อย่างใด นางถามออกมาอย่างเกียจคร้าน เห็นได้ชัดว่านางเชื่อใจคนซึ่งอยู่ด้านหลังของนางมาก
คิดไปคิดมาก็จริง นี่คือจวนอ๋องเก้า คนที่สามารถเข้ามาได้นอกจากเสด็จอาเก้าแล้วคงไม่มีใครอื่น และที่สำคัญ เสด็จอาเก้าไม่มีทางอนุญาตให้ใครเข้ามายังสถานที่แห่งนี้ ในเวลานี้เป็นอันขาด
ดังนั้นจึงถามออกไปทั้งที่รู้ เนื่องจากเฟิ่งชิงเฉินกำลังอารมณ์เสีย การที่เสด็จอาเก้ามาเห็นนางในสภาพแบบนี้ มันไม่เท่ากับว่าเป็นการยกตัวเองไปอยู่บนเตียงของเสด็จอาเก้าหรืออย่างไร
น่าขยะแขยง นางรู้อยู่แล้วว่านางไม่มีทางเอาเปรียบเสด็จอาเก้าได้ บ่อน้ำร้อนของเสด็จอาเก้า นางคงไม่ได้มาแช่โดยได้ผลประโยชน์อยู่ฝ่ายเดียว
“ในเมื่อรู้อยู่แล้ว เจ้าจะถามออกมาทำไม” เสด็จอาเก้าเหลือบมองไปที่แผลเป็นบนหลังของเฟิ่งชิงเฉิน แววตาของเขาฉายให้เห็นถึงความเจ็บปวด
“ตงหลิงจิ่ว ข้ารู้ว่าเป็นเจ้า” ร่างกายที่ผ่อนคลายกลับมาอยู่ในความตึงเครียดอีกครั้ง ระงับการกระตุ้นให้หันกลับไป แกร๊ก เฟิ่งชิงเฉินกัดส้อมสีเงินอย่างรุนแรง ราวกับว่าเห็นมันเป็นเสด็จอาเก้า ต้องการกัดมันให้ขาดเป็นสองท่อน
“นอกจากข้า ใครจะกล้าเข้ามาที่นี่ เจ้านอนอยู่อย่างนั้นต่อไป เจ้าไม่ได้อยากได้คนนวดหลังให้อย่างนั้นหรือ ที่นี่ไม่มีใคร ข้าจะเป็นคนปรนนิบัติให้เจ้าเอง” พูดจบก็ไม่สนใจว่าเฟิ่งชิงเฉินจะยินยอมหรือไม่ ยื่นมือออกไปพลิกร่างของอีกฝ่าย ให้เฟิ่งชิงเฉินนอนคว่ำลงบนเตียงหยก
“เจ้าจะปรนนิบัติข้า?” เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้ปฏิเสธ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด แต่ก่อนที่มันจะเกิด ขอให้มันเป็นเรื่องที่ดีและขอสนุกไปกับมัน
“ทำไม ไม่เชื่ออย่างนั้นหรือ?” เสด็จอาเก้าใช้การกระทำให้การพิสูจน์คำพูดของตนเอง
กดมือทั้งสองข้างลงไปบนหลังของเฟิ่งชิงเฉินอย่างนุ่มนวล บาดแผลด้านหลังของเฟิ่งชิงเฉิน หลังจากผ่านไปช่วงเวลาหนึ่ง ตอนนี้มันแทบไม่เหลือร่องรอย แต่จากร่องรอยดังกล่าว ทุกครั้งที่เสด็จอาเก้าได้เห็นมัน แววตาของเขาก็ยังคงเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
แม้จะบอกว่านี่เป็นครั้งแรกในการปรนนิบัติคนอื่นสำหรับเขา แต่การเคลื่อนไหวและจุดสัมผัสของเสด็จอาเก้านั้น เขาทำได้ดีมาก ร่างกายที่ตึงเครียดของเฟิ่งชิงเฉินเริ่มผ่อนคลายลง หลับตาลง น้อมรับการปรนนิบัติจากเสด็จอาเก้า
“แรงกำลังดี เจ้าเคยเรียนมาก่อนอย่างนั้นหรือ” เฟิ่งชิงเฉินรู้ว่านี่เป็นแผนการของเสด็จอาเก้า ไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่มีทางหนีรอด
สิ่งที่ไม่ว่ายังไงก็ต้องเกิดขึ้น จะขัดขืนอย่างไรก็ไร้ประโยชน์ ให้ความร่วมมือแต่โดยดีจะดีกว่า นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่นางมีเพศสัมพันธ์ จะให้มาเขินอายทุกครั้ง แบบนั้นมันไม่ใช่นิสัยของนาง
“เจ้าคิดว่า มีใครจะโชคดีถึงเพียงนี้?” เสด็จอาเก้าเห็นเฟิ่งชิงเฉินซึ่งกำลังผ่อนคลาย บริเวณที่เขานวดก็กว้างขึ้นเรื่อย ๆ ตอนแรกก็นวดอยู่ตรงเอว แต่ตอนนี้มันลงไปต่ำมากกว่านั้น
“ฮ่าฮ่า ถือว่าเป็นโชคดีของข้า” ยังสัมผัสไม่ถึงส่วนซึ่งไวต่อความรู้สึก เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร เพลิดเพลินและผ่อนคลายกับฝ่ามือของเสด็จอาเก้าที่กำลังนวดไปทั่วแผ่นหลังของนาง
เสด็จอาเก้านวดให้นางแบบนี้ เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกว่าความเหนื่อยล้าทั้งหมดหายไปอย่างไร้ร่องรอย ตอนนี้ต่อให้มีเสืออยู่ด้านหน้า นางก็สามารถสังหารมันได้
เฟิ่งชิงเฉินสบายจนแทบจะหลับ แต่ในความเป็นจริงนางอยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น นางรู้สึกโล่งใจมากที่ได้มอบตัวให้กับเสด็จอาเก้า……