นางสนมแพทย์อัจฉริยะ - บทที่ 821 สมบัติในกำมือ
นางสนมแพทย์อัจฉริยะ บทที่ 821 สมบัติในกำมือ
จูบนี้จะดำเนินต่อไปนานเท่าใด เฟิ่งชิงเฉินเองก็ไม่รู้ นางรู้เพียงแค่หากปล่อยให้จูบนี้ดำเนินต่อไป นางจะไร้ซึ่งเรี่ยวแรงในการดำเนินการขั้นต่อไป
ในตอนที่ตนเองกำลังหมดลมหายใจ เฟิ่งชิงเฉินใช้แรงจูบของนางดูดปลายลิ้นของเสด็จอาเก้า กัดผลไม้ซึ่งไร้รสชาติในปากของเสด็จอาเก้าออกมาครึ่งหนึ่ง จากนั้นก็ถอยออกมา เอนกายลงบนร่างของเสด็จอาเก้า ถามออกมาพร้อมหายใจหอบเล็กน้อย “ที่รัก อร่อยไหม?”
คำว่าที่รักเป็นคำที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน แต่เมื่อมันออกมาจากปากของเฟิ่งชิงเฉิน เสด็จอาเก้ารู้สึกชื่นชอบมันเป็นอย่างมาก มันทำให้เขารู้สึกว่าเขาอยู่ในอุ้มมือของเฟิ่งชิงเฉิน
ทันทีที่เฟิ่งชิงเฉินถามออกมา เสด็จอาเก้าตอบกลับไปโดยไม่คิด “อร่อย” เขาเคี้ยวเพียงเล็กน้อย จากนั้นก็กลืนผลไม้ในปากเข้าไป พระเจ้ายังไม่รู้เลยว่าเข้ากินอะไรเข้าไป แต่ที่รู้ก็คือ สิ่งที่เสด็จอาเก้าบอกว่าอร่อยก็คือริมฝีปากของเฟิ่งชิงเฉิน
เห็นได้ชัด เฟิ่งชิงเฉินเองก็รู้เช่นกัน นางวาดวงกลมบนหน้าอกของเสด็จอาเก้าพร้อมกับถามออกมาว่า “หวานไหม?”
“หวาน” เสด็จอาเก้าสูดลมหายใจเข้า จากนั้นหายใจออก เขาคิดไม่ถึงว่าแท้จริงแล้วเฟิ่งชิงเฉินจะมีพรสวรรค์ถึงเพียงนี้ แค่จูบเพียงครั้งเดียวมันกลับทำให้เขาสูญเสียการควบคุมได้ถึงขนาดนี้
“รู้สึกผ่อนคลายไหม?” เฟิ่งชิงเฉินดึงเท้าทั้งสองข้างของนางกลับมา เลิกปรนนิบัติให้กับเสด็จอาเก้า
“ทำต่อไป” เสด็จอาเก้าไม่พอใจ กอดเฟิ่งชิงเฉินไว้แน่น กดทับหน้าท้องส่วนล่างของเฟิ่งชิงเฉิน ทำให้น้องชายของตนเองใกล้ชิดกับน้องสาวของเฟิ่งชิงเฉินมากยิ่งขึ้น มันแนบชิดกัน ทำให้อดคิดที่จะเสียบเข้าไปไม่ได้ ทำให้หัวใจของผู้คนสั่นไหวอย่างรุนแรง
ราวกับมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่างกาย เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกได้ว่าร่างกายของนางร้อนขึ้น ไม่ใช่เรื่องแปลก ตอนแกล้งคนอื่นก็อาจจะถูกคนอื่นแกล้งกลับ เฟิ่งชิงเฉินใช้ร่างของนางถูไปถูมาบนร่างของเสด็จอาเก้า ยิ้มพร้อมกับพูดออกมาอย่างเสน่หา “ยังอยากกินอีกไหม?”
“ข้ายังไม่อิ่ม” เสด็จอาเก้าอ้าปาก บ่งบอกว่าตนเองกำลังรอให้เฟิ่งชิงเฉินป้อนอาหาร ส่วนอะไรที่ยังไม่อิ่ม ทุกคนต่างรู้และเข้าใจกันดี
เฟิ่งชิงเฉินยิ้มอย่างอ่อนโยน เลียริมฝีปากของนางเบา ๆ “มันหวานจริง ๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเจ้าถึงยังอยากกินมันอยู่”
ด้วยนิ้วที่ขาวราวกับหยก นางหยิบผลไม้สองสามชิ้นจากจานผลไม้ นางไม่ได้คิดจะใส่มันเข้าไปในปาก แต่กลับนำมันมาวางไว้บนหัวนมทั้งสองของเสด็จอาเก้า
ดวงตาของเสด็จอาเก้าเบิกกว้าง เป็นอย่างที่คิด……วินาทีถัดมา เฟิ่งชิงเฉินก้มศีรษะของนางลง กวาดหน้าอกของเขาด้วยริมฝีปาก จากนั้นกัดจุดสีแดงเล็ก ๆ สองจุดพร้อมกับกินผลไม้เข้าไป
“อ่า……” เสด็จอาเก้ารู้สึกเจ็บแต่ก็รู้สึกสบายเป็นอย่างมาก อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงครางออกมา และทันทีที่เสด็จอาเก้าส่งเสียงออกมา เขาถึงตระหนักได้ว่าเขาก็เหมือนกับผู้หญิงคนหนึ่ง ทำไมถึงส่งเสียงร้องที่น่าอายเช่นนั้นออกมา เขารู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย แต่เนื่องจากเฟิ่งชิงเฉินต้องการแสดงเป็นหมาป่า เสด็จอาเก้าจึงให้ความร่วมมือ ซึ่งการแสดงของเสด็จอาเก้าในตอนนั้นถือว่าเล่นได้ดีมาก
“ที่รัก อย่ารีบร้อน ข้ามาแล้ว” เฟิ่งชิงเฉินยื่นมือออกไปลูบตามลำคอของเสด็จอาเก้า ร่างกายของนางขึ้นไปอยู่ด้านบน กัดไปที่ติ่งหูของเสด็จอาเก้า เรียนรู้จากเสด็จอาเก้า กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงขี้เล่น
“เสียงของที่รักช่างน่าฟังเหลือเกิน ข้าชอบมันเหลือเกิน อย่ากดดันตัวเอง ร้องออกมาตามสบาย ข้าชอบฟังเสียงของเจ้า มันทำให้ข้ารู้สึกตื่นเต้น”
เมื่อเสียงเงียบลง นางจูบไปยังใบหูของเสด็จอาเก้า จับคอพร้อมกับเลื่อนขึ้นเลื่อนลงบนร่างกายของเสด็จอาเก้า……
ภูเขาอันงดงามทั้งสองถูไปมาบนหน้าอกของเสด็จอาเก้า ส่วนร่างกายของนางก็เลื่อนขึ้นเลื่อนลงบนท้องส่วนล่างของเสด็จอาเก้า กระทบเข้ากับน้องชายของเสด็จอาเก้าเป็นครั้งคราว
การกระตุ้นเช่นนี้ทำให้ร่างกายของเสด็จอาเก้าตอบสนองอย่างรวดเร็ว เขาลืมเสียงร้องของตนเองไปนานแล้ว
เสด็จอาเก้ารู้สึกว่าเขากำลังจะสูญเสียสติทั้งหมดของเขาไป เมื่อขาของเฟิ่งชิงเฉินหนีบเขาอีกครั้ง เขาก็ไม่สามารถควบคุมได้ และทำได้เพียงกระตุกตามสัญชาตญาณ
ต้นขาของเฟิ่งชิงเฉินรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย เนื่องจากการเสียดสีอันร้อนแรงของเสด็จอาเก้า เฟิ่งชิงเฉินกางขาออกเล็กน้อย แต่กลับทำให้เสด็จอาเก้าไม่พอใจ เฟิ่งชิงเฉินทำได้เพียงพูดปลอบโยนออกไป “ไม่ต้องรีบร้อน อย่าทำเร็วเกินไป ไม่อย่างนั้นเจ้าอาจจะไม่ได้รับรางวัลในตอนท้ายสุด”
เฟิ่งชิงเฉินจูบเสด็จอาเก้าเพื่อปลอบโยน จูบริมฝีปากของเสด็จอาเก้าและนั่งลงบนร่างของเขาอีกครั้ง หันหลังให้กับเสด็จอาเก้า เมื่อเห็นเสด็จอาเก้าไม่พอใจ เฟิ่งชิงเฉินจึงนำมือทั้งสองข้างของนางกำน้องชายของเสด็จอาเก้าไว้แน่น
“อ่า……” เสด็จอาเก้าส่งเสียงครางออกมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้รู้สึกรำคาญ เขารู้สึกพอใจกับมันเป็นอย่างมาก
“เร็ว” เสด็จอาเก้าขยับขึ้นลง เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนไหวของเฟิ่งชิงเฉิน
“ได้เลย ที่รักของข้า” เฟิ่งชิงเฉินกล่าวอย่างขี้เล่น มือทั้งสองข้างของนางเลื่อนขึ้นเลื่อนลงบนน้องชายของเสด็จอาเก้า แตะข้างต้นขาของเสด็จอาเก้าเป็นครั้งคราว
“อ่า……อ่า……อ่า……”
การเคลื่อนไหวของเฟิ่งชิงเฉินเร็วขึ้นอย่างต่อเนื่อง เสียงของเสด็จอาเก้าเองก็ดังขึ้นเช่นกัน ความคิดและการกระทำของเฟิ่งชิงเฉินทำให้เสด็จอาเก้าพอใจเป็นอย่างมาก ตอนนี้มันเกือบจะทำให้เขาไปถึงจุดสูงสุด
อย่าลืมว่าอาชีพของเฟิ่งชิงเฉินคืออะไร นางคือศัลยแพทย์ที่ถือมีด มือของนางแทบจะสมบูรณ์แบบ ความเร็วมือของนางนั้นเหนือกว่าคนทั่วไป ด้วยการเคลื่อนไหวที่มีความถี่สูงนี้ ทำให้เสด็จอาเก้ามีความปรารถนาเป็นอย่างมาก ปรารถนาที่จะเข้าไปในร่างของเฟิ่งชิงเฉิน
แน่นอน หากต้องการเข้าไปในร่างของเฟิ่งชิงเฉิน เสด็จอาเก้าจำเป็นต้องออกแรงสู้ แต่ตอนนี้เขาแค่นอนอยู่เฉย ๆ นอกจากส่งเสียงครางและเสียงแห่งความต้องการออกมา ที่เหลือก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเฟิ่งชิงเฉิน
เฟิ่งชิงเฉินเองก็ไม่ปล่อยให้เสด็จอาเก้าผิดหวัง แม้มือทั้งสองข้างจะรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย แต่นางก็ยังคงไม่ปล่อยมือ ชักขึ้นชักลงอยู่แบบนั้น หวังว่ามือทั้งสองข้างจะนำพาเสด็จอาเก้าไปสู่จุดสูงสุดอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็ทำให้เสด็จอาเก้าเสร็จภายใต้มือของนาง
แฮ่ม แฮ่ม นางจะรับความทุกข์ทรมานครั้งนี้ของเขาเอาไว้ด้วยตัวเอง
จินตนาการช่างงดงาม แต่ความเป็นจริงนั้นงดงามยิ่งกว่า เฟิ่งชิงเฉินพยายามต่อไปอย่างสุดความสามารถ ภายใต้ความร่วมมือของเสด็จอาเก้า ทุกอย่างเป็นไปตามความปรารถนาของเฟิ่งชิงเฉิน เสด็จอาเก้าปลดปล่อยออกมาภายใต้อุ้มมือของเฟิ่งชิงเฉิน
น้ำสีขาวข้นพุ่งออกมาจากเสาหยกในมือของเฟิ่งชิงเฉิน มันกระจายไปทั่วมือของนาง และบางส่วนก็กระจายไปอยู่บนร่างของเฟิ่งชิงเฉิน
เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้สนใจ จ้องมองของที่อยู่ในมือค่อย ๆ นิ่มและเล็กลง เฟิ่งชิงเฉินยิ้มอย่างพึงพอใจ ใช้มือข้างหนึ่งจับเสาหยกของเสด็จอาเก้าไว้ อีกข้างหนึ่งใช้น้ำสีขาวขุ่นทาไปทั่วเสาหยกของเสด็จอาเก้า
เจ้าตัวเล็กดูเหมือนจะเขินอาย ภายใต้การหยอกล้อของเฟิ่งชิงเฉิน มันหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง เฟิ่งชิงเฉินตื่นเต้นมากกับการเล่นของเล่นชิ้นนี้ แม้ว่านางจะรู้สึกเจ็บมือ แต่นางก็ไม่ยอมปล่อยและยืนหยัดต่อไป
เสด็จอาเก้าพอได้กินบ้างเล็กน้อย แม้จะไม่อิ่ม แต่มันก็เพียงพอในชั่วขณะ เห็นเฟิ่งชิงเฉินไม่กลัวตาย เข้ามาหยอกล้อเขาอีกครั้ง เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ เขารู้สึกพอใจกับรางวัลของเฟิ่งชิงเฉินเป็นอย่างมาก หากเฟิ่งชิงเฉินจะมอบรางวัลรอบสอง เขาไม่มีทางปฏิเสธอย่างแน่นอน เมื่อเทียบกันทางด้านร่างกายและความอดทน เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้ดีเท่าเขา
นอนอยู่บนบันไดหยก เสด็จอาเก้าไม่เคลื่อนไหวแต่อย่างใด ปล่อยให้เฟิ่งชิงเฉินกลั่นแกล้งเขาอยู่อย่างนั้น หลังจากดื่มชาไปครึ่งถ้วย เฟิ่งชิงเฉินรีบโยนแท่งหยกของเสด็จอาเก้าทิ้งในทันที พร้อมพูดออกมาด้วยความตกใจว่า “ไม่จริง ทำไมมันถึงได้แข็งอีกแล้ว”
ความเร็วนี้มันน่าเหลือเชื่อเกินไป เสด็จอาเก้าคิดจะไม่พักเลยหรืออย่างไร
“ที่รัก รางวัลของเจ้าคงไม่ได้มีเพียงเท่านี้หรอกใช่ไหม” เสด็จอาเก้าลุกขึ้นมานั่ง โอบกอดเฟิ่งชิงเฉินจากทางด้านหลัง เรียนรู้วิธีเรียกที่รักจากเฟิ่งชิงเฉิน
เฟิ่งชิงเฉินเป็นสมบัติในมือของเขาไม่ใช่หรือไง และสมบัติของเขา เมื่อสักครู่มันก็ตกไปอยู่ในมือของเฟิ่งชิงเฉินไม่ใช่หรือ
ที่รัก คำเรียกนี้ เขาชอบ……