นางสนมแพทย์อัจฉริยะ - บทที่ 853 มิตรภาพคือมิตรภาพ การค้าคือการค้า
นางสนมแพทย์อัจฉริยะ บทที่ 853 มิตรภาพคือมิตรภาพ การค้าคือการค้า
ความตื่นเต้นของหยุนเซียวทำให้เฟิ่งชิงเฉินสงบลงมาก เห็นหยุนเซียวยอมถอยให้ทีละก้าว สีหน้าของเฟิ่งชิงเฉินไม่เปลี่ยนแปลง ขมวดคิ้ว ท่าทางของนางดูกังวล
“ชิงเฉิน? เจ้าไม่เป็นอะไร” เฟิ่งชิงเฉินเสียใจอยู่งั้นหรือ? หยุนเซียวรู้สึกหดหู่ใจ
เฟิ่งชิงเฉินดูจริงจัง ส่ายหัวและพูดว่า “หยุนเซียว ยาป้องกันการแท้งบุตรมีตลาดและผลกำไรมากขนาดนั้นจริงหรือ?”
เห็นหยุนเซียวพูดถึงยาป้องกันการแท้งบุตรดีเสียขนาดนั้น นางกังวลว่าอาจทำให้ผู้คนเข้าใจผิด
“แน่นอนว่าใช่” หยุนเซียวตอบออกมาทันใดโดยไม่คิด “ข้าก็คิดว่าเจ้ากังวลอะไร ที่แท้ก็กังวลเกี่ยวกับกำไร เจ้าวางใจ ข้ารับประกันว่าเจ้าจะไม่มีทางเสียเปรียบ ที่เสียเปรียบน่าจะเป็นตระกูลหยุนของข้า พวกข้าได้สองส่วน เจ้าได้แปดส่วน จากตัวอย่างของสนมเอกเซี่ยก่อนหน้านี้ ขอแค่ในครอบครัวมีหญิงตั้งครรภ์ และการตั้งครรภ์ไม่แข็งแรง เพื่อเด็กเหล่านั้น เหล่าผู้ร่ำรวยจะต้องซื้อมันอย่างแน่นอน”
เวลานี้หยุนเซียวถึงได้เข้าใจ เนื่องจากเฟิ่งชิงเฉินยังอายุน้อย ไม่เคยทำการค้ามาก่อนหน้านี้ ดังนั้นความวิตกกังวลจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้โดยธรรมชาติ
“ไม่ใช่ ข้าไม่ได้กังวลเกี่ยวกับจะขายได้หรือไม่ แต่ข้ากังวลเกี่ยวกับผลของยา ยาป้องกันการแท้งบุตรมีผลกับต่อการบำรุงและเสริมสร้างเด็กและผู้เป็นแม่เท่านั้น มันไม่ได้มีประโยชน์ลึกลับอย่างที่เจ้าพูด มันไม่ได้มีผลในการป้องกันไม่ให้แท้ง” แม้ว่ายาป้องกันการแท้งบุตรนั้นมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก ไม่ใช่ของราคาสูงในท้องตลาด ผลของมันนั้นคุ้มค่าเกินราคา แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่ายาป้องกันการแท้งบุตรจะป้องกันไม่ให้เกิดการแท้งได้โดยสมบูรณ์
เฟิ่งชิงเฉินกังวลเป็นอย่างมาก หากยาป้องกันการแท้งบุตรไม่ส่งผลตามที่ต้องการ ถึงเวลานั้นชื่อเสียงของตระกูลหยุนจะต้องเสื่อมเสีย ยาชนิดนี้สู้ยาอื่นไม่ได้ กินเข้าไปแล้วตายไม่เหมือนกับที่เอ่ยไว้ หากเป็นเช่นนั้นตระกูลหยุนจะไม่สามารถยืนหยัดในโลกทางการแพทย์ได้อีกต่อไป เฟิ่งชิงเฉินเองก็เช่นเดียวกัน
ในฐานะหมอคนหนึ่ง นางหวงแหนชื่อเสียงของตนเองมาก
เฟิ่งชิงเฉินได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าแห่งความตื่นเต้นของเขาก็คลายตัวลง จากนั้นอธิบายให้เฟิ่งชิงเฉินฟังอย่างจริงจัง “ชิงเฉิน เรื่องนี้เจ้าวางใจได้ พวกเราไม่ขายยาปลอม ไม่ขายยาอันตราย แค่พวกเรารับปากว่ายามีผลตามที่พูด สามารถป้องกันการแท้งบุตรได้ ไม่ได้กล่าวเกินจริง เหล่าคนไข้เหล่านั้นก็จะเข้าใจพวกเราด้วยตัวเอง
ก็เหมือนกับยาบำรุงที่ตระกูลหยุนขาย ยาบำรุงของตระกูลหยุนไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ไม่ว่าวัตถุดิบในการทำยาหรือผลของยาต่างอยู่ในสภาพดี แต่ตระกูลหยุนก็ไม่กล้ารับประกันว่าทุกคนที่ทานยาบำรุงของเขาเข้าไปสามารถปราศจากโรคภัยและรักษารูปลักษณ์อันงดงามของพวกเขาไว้ได้
อย่างที่เจ้าบอก ยาที่พวกเราขายคือยาป้องกันการแท้งบุตร มีไว้เพื่อบำรุงแม่และเด็กในท้อง ผลของยาช่วยให้แม่และเด็กมีสุขภาพดีขึ้น แต่มันไม่ได้หมายความว่าทานเข้าไปแล้วไม่มีวันแท้ง มันไม่ใช่ยาช่วยชีวิต ต่อให้มียาที่มีผลเช่นนั้นจริง ก็ไม่มีหมอคนไหนกล้ารับปากว่ายาของเขาสามารถทำให้เด็กในท้องไม่มีวันแท้งอย่างแน่นอน ดังนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องกังวล ขอแค่เจ้าทำให้ยาของเจ้ามีคุณภาพและส่งต่อเด็กในครรภ์จริง เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว”
การผลิตยาต้องมีมโนธรรม ยาของตระกูลหยุนนั้นแพงกว่ายาของตระกูลอื่น แต่การค้าของพวกเขาก็ยังคงดีกว่าตระกูลอื่นอยู่อย่างนั้น เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าไม่มีเหตุผล ยาตระกูลหยุนของพวกเขามีผลลัพธ์และคุณภาพคงเดิมตลอดมา
ท่าทางอันตื่นตระหนกของเฟิ่งชิงเฉินผ่อนคลายลงมาก ยิ้มและกล่าวว่า “ที่เจ้าพูดก็มีเหตุผล ข้าคิดมากเกินไป ข้าแค่ทำให้ยาของข้าทุกขวดมีคุณภาพดังเดิม แม้ว่าอาจจะเกิดปัญหาขึ้นมาบ้าง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องไปกลัว”
คนอื่นพูดเกินจริง มันก็เป็นเรื่องของคนเหล่านั้น ขอแค่พวกเขาขายยาโดยไม่กล่าวถึงสรรพคุณเกินจริงเช่นนี้ต่อไปก็เพียงพอ เมื่อเข้าใจถึงเรื่องนี้ เฟิ่งชิงเฉินไม่ลังเลอีกต่อไป นางหันมาคุยเกี่ยวกับเรื่องเงื่อนไขการทำสัญญา และการแบ่งผลประโยชน์ ตระกูลหยุนให้ผลประโยชน์กับนางเป็นอย่างมาก แต่ผลประโยชน์ที่นางต้องการมันไม่ใช่การจัดสรรเช่นนี้
มิตรภาพคือมิตรภาพ การค้าคือการค้า หากมีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรแน่ชัด เฟิ่งชิงเฉินจะไม่ลังเล เฟิ่งชิงเฉินนำสัญญาขึ้นมาเขียนเงื่อนไขว่าจะไม่กล่าวถึงสรรพคุณเกินจริง หากมีการกล่าวเกินจริง ตระกูลหยุนจะเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว
สำหรับเงื่อนไขการแบ่งผลกำไร เฟิ่งชิงเฉินอธิบายให้หยุนเซียวฟังอย่างชัดเจน นางเป็นคนจัดเตรียมยา รับผิดชอบเกี่ยวกับวัตถุดิบและต้นทุนการผลิตทั้งหมด ตระกูลหยุนมีหน้าที่แค่นำยาออกไปขายเท่านั้น และผลกำไรที่ตระกูลหยุนได้ก็มีเพียงหนึ่งส่วน
ที่เฟิ่งชิงเฉินทำเช่นนี้ก็เพื่อการปกปิดที่มาของยาป้องกันการแท้งบุตรเท่านั้น แต่ในสายตาของหยุนเซียว เฟิ่งชิงเฉินทำเพื่อปกปิดความลับทางการแพทย์ ในฐานะของตระกูลหยุนที่อยู่ในเส้นทางของการค้าขายยานั้น เขาสามารถเข้าใจวิธีการของเฟิ่งชิงเฉินได้ หากความลับทางการแพทย์ถูกเผยแพร่ออกมา เฟิ่งชิงเฉินก็ไร้ซึ่งอำนาจในการต่อรอง
แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่หนึ่งส่วน แต่มันก็ดีกว่าอัตราสองต่อแปดที่หยุนเซียวกล่าวออกมาตอนแรกเป็นอย่างมาก แม้จะหักจากกำไรทั้งหมด แต่กำไรที่เขาได้ในตอนแรกยังไม่ถึงครึ่งของตอนนี้เลยด้วยซ้ำ หยุนเซียวไม่ใช่คนโง่ เขารีบตอบตกลงในทันที ขอแค่เฟิ่งชิงเฉินยอมตกลงว่าในสามปีข้างหน้า ยาป้องกันการแท้งบุตรจะถูกจำหน่ายโดยตระกูลเพียงผู้เดียวก็เพียงพอ
เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้มีความคิดที่จะทำด้วยตัวเอง และไม่มีความคิดที่จะไปร่วมมือกับคนอื่น หากตระกูลหยุนเล่นตุกติกกับนาง นางก็แค่เลิกขายมันก็พอ อย่างไรสิ่งของเฉกเช่นเงินทอง หาได้แค่ไหนก็แค่นั้น หาไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
ทั้งสองคนอ่านเงื่อนไขของสัญญาอย่างระมัดระวังที หลังจากแน่ใจแล้วว่าสัญญาไม่มีปัญหา เฟิ่งชิงเฉินรีบลงลายนิ้วมือ หยุนเซียวเองก็นำตราประทับของตระกูลหยุนออกมาประทับลงบนแผ่นสัญญา
ภายนอกอาจจะเห็นว่าหยุนเซียวเป็นเพียงทายาทของตระกูลหยุน แต่ในความเป็นจริงเวลานี้เขาได้กลายเป็นผู้นำของตระกูลหยุนไปแล้ว
หลังจากทำสัญญาเรียบร้อย หยุนเซียวก็ไม่เกรงใจ ให้เฟิ่งชิงเฉินจัดเตรียมยาที่ต้องใช้ในเวลาสามเดือนให้กับเขา เขาต้องการนำมันกลับไปให้แม่ เฟิ่งชิงเฉินยิ้มรับปาก ในตอนที่หยุนเซียวบอกว่าจะจ่ายเงิน เฟิ่งชิงเฉินและหยุนเซียวถึงพบว่า สัญญาของพวกเขาเสร็จสิ้นแล้ว แต่กลับลืมตั้งราคาของตัวยาไปเสียสนิท
อ่า……
“พวกเรามาลงสัญญาเสริมกัน” ในฐานะคนทำการค้า หยุนเซียวรู้สึกอับอายที่เกิดความผิดพลาดในสัญญาชั้นต่ำฉบับนี้
เฟิ่งชิงเฉินรีบหาเหตุผลให้ตนเอง นางไม่เคยทำการค้ามาก่อน ดังนั้นจึงไม่รู้เป็นธรรมชาติ
“ชิงเฉิน เจ้าคิดจะขายในราคาเท่าใด? และเรื่องยาของเจ้า เจ้าจะบรรจุมันลงในขวดแก้วเช่นนี้งั้นหรือ?” เมื่อนึกถึงตรงนี้ หยุนเซียวรู้สึกเจ็บปวด เมื่อถึงเวลาไม่แน่ว่าราคาของขวดแก้วอาจจะมากกว่าราคาของตัวยาด้วยซ้ำ
“ไม่ใช่ มีบรรจุภัณฑ์สองชนิด ชนิดแรกคือขวดแก้ว อีกชนิดหนึ่งคือใส่ไว้ในถุงพิเศษ แน่นอนว่าราคาของพวกมันต้องต่างกัน เจ้ารอขอสักครู่ ข้าจะไปนำมันออกมาให้เจ้าดู” ที่จริงมันก็เป็นเพียงแค่ถุงธรรมดา สรรพคุณของยานั้นเหมือนกัน และในโลกปัจจุบันของนางราคามันก็ใกล้เคียงกัน แต่เฟิ่งชิงเฉินตั้งใจว่าจะตั้งราคาสูงและราคาต่ำต่างกันออกไป
นางหวังว่าผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ในครอบครัวของคนธรรมดาก็สามารถซื่อมันมาทานได้ในเวลาที่จำเป็น
ครั้งนี้เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้ใช้ให้คนรับใช้ของนางไปหยิบ เนื่องจากมันต้องหยิบออกมาจากกระเป๋าเครื่องมือแพทย์อัจฉริยะ แม้หยุนเซียวจะเร่งรีบ แต่เขาก็รออยู่ที่เดิมแต่โดยดี หลังจากนั้นเขาก็หยุดคิดไม่ได้ว่า ยาป้องกันการแท้งบุตรนี้จะทำให้ตระกูลหยุนของเขาพัฒนาขึ้นไปถึงไหน
“เฟิ่งชิงเฉินคือดวงดาวนำโชคแห่งตระกูลหยุนอย่างแท้จริง ไม่ใช่ เฟิ่งชิงเฉินถือได้ว่าเป็นดวงดาวนำโชคของใครหลายคน” หยุนเซียวยิ้มกว้าง ปากของเขาหุบไม่ลง
เสด็จอาเก้าเดินเข้ามา เห็นใบหน้าแห่งรอยยิ้มอันแสนโง่เขลาของหยุนเซียว เขากระแอมด้วยความประหลาดใจ ทำให้หยุนเซียวตกใจจนรีบลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ “เสด็จอาเก้า”
เสด็จอาเก้าสุภาพมาก ไม่ได้หัวเราะเยาะเขาแต่อย่างใด แค่พยักหน้าเท่านั้น ตรงกันข้าม หยุนเซียวกลับรู้สึกเขินอาย หูของเขากลายเป็นสีแดง ไม่จำเป็นต้องให้เสด็จอาเก้าถามออกมา เขาอธิบายเหตุผลที่เขาเสียสติออกมาทันที
เรื่องเช่นนี้ไม่สามารถปกปิดได้ แม้จะปกปิดก็ไม่สามารถปกปิดคนอย่างเสด็จอาเก้าได้
“เฟิ่งชิงเฉินตกลงทำสัญญาขายยาป้องกันการแท้งบุตรกับตระกูลหยุน?” ในสายตาของคนภายนอก เสด็จอาเก้าจะดีใจหรือโกรธก็ไม่ต่างอะไรกัน นั่นคือไม่แสดงอารมณ์ออกมา ดังนั้น……