นางสนมแพทย์อัจฉริยะ - บทที่ 855 ปีนี้ช่างครึกครื้น
นางสนมแพทย์อัจฉริยะ บทที่ 855 ปีนี้ช่างครึกครื้น
เฟิ่งชิงเฉินไม่รู้ว่าเสด็จอาเก้าเข้าใจหรือไม่ เพราะเสด็จอาเก้าคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นเวลาเนิ่นนาน แต่เขาก็จากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ ปล่อยให้เฟิ่งชิงเฉินครุ่นคิดเป็นเวลานาน แต่ก็คิดไม่ออกว่าความกมายของเสด็จอาเก้าคืออะไรกันแน่
ช่างเถอะ หากไม่เข้าใจก็ปล่อยมันไป คนธรรมดาส่วนใหญ่เดาไม่ออกหรอกว่าเสด็จอาเก้ากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ เฟิ่งชิงเฉินไม่ต้องการทำให้อารมณ์ดีของตนต้องมาเสียไป ดังนั้นจึงคิดว่าเขาเข้าใจก็แล้วกัน
การตกหลุมรักเป็นเรื่องง่ายต่การเข้ากันได้เป็นเรื่องยาก ไม่ว่าความสัมพันธ์จะลึกซึ้งเพียงใด หากไม่ทำความเข้าใจกันให้ดี ก็จะต้องพบกับข้อสะดุดบ้าง เฟิ่งชิงเฉินแสดงจุดยืนของตน เสด็จอาเก้าก็แสดงท่าทีของเขาอันไม่พอใจออกมาเช่นกัน หลังจากทั้งสองสงบอารมณ์แล้สกลับมาทำงานร่วมกันอีกครั้ง คาดว่าคงจะดำเนินต่อไปได้ไกลกว่าเดิม
แน่นอน เฟิ่งชิงเฉินจะไม่มีวันถอยในสิ่งที่ไม่ควรถอย ไม่ว่าเมื่อไร ที่ไหน นางเชื่อมั่นว่าสตรีต้องเป็นอิสระทางการเงิน มีเพียงการเงินคล่องตัวเท่านั้น จึงจะไม่ถดถอย จึงจะไม่ต้องคอยพึ่งพาแต่บุรุษตลอดเวลา ไม่ต้องมานั่งกังวลว่าจะถูกทอดทิ้ง ต่อให้เป็นเสด็จอาเก้าก็ไม่มีอำนาจในการข้องเกี่ยวเรื่องการเงินของนาง
เสด็จอาเก้าเข้าควบคุมกิจการของหวังจิ่นหลิง เฟิ่งชิงเฉินไม่มีอะไรต้องกังวล ซีหลิงเทียนอวี่ก็ฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บแล้วเช่นกัน แต่เขาอาจจะไม่สามารถจากไปก่อนปีใหม่นี้ได้
ซีหลิงเทียนอวี่มีความสุขมากเมื่อได้ยินสิ่งนี้ เขาบอกทันทีว่าจะใช้เวลาช่วงปีใหม่นี้กับเฟิ่งชิงเฉินในจวนเฟิ่ง และเขียนจดหมายทูลไปบอกต่อจักรพรรดิตงหลิงว่าเขาได้รับบาดเจ็บและต้องพักฟื้นในจวนเฟิ่ง เขาจะไม่ไปร่วมงานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่า
“เสด็จน้องที่รัก ข้าหวังว่าเจ้าจะชอบของขวัญชิ้นใหญ่ที่จักรพรรดิมอบให้เจ้า” ซีหลิงเทียนอวี่ประทับตราอย่างสง่างามและมอบให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาของ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาช่างดูใจดี แต่ผู้ใต้บัญชาผู้นั้นกลับรู้สึกหนาวจนเหงื่อออก
ทุกครั้งที่ซีหลิงเทียนอวี่แสดงรอยยิ้มที่สง่างามและเป็นมิตรออกมา นั่นหมายความว่าใครบางคนกำลังจะโชคร้ายเข้าให้แล้ว คราวนี้เขารู้ว่าเป็นองค์หญิงเหยาหวาแน่ๆ
สตรีคนหนึ่งที่ถูกราชวงศ์ตงหลิ่งรังเกียจ ไม่มีพี่ชายคอยสนับสนุน ไม่ว่าใครก็เดาออกว่าองค์หญิงเหยาหวาจะน่าสังเวชเพียงใดในงานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่าของตงหลิง
เสด็จอาเก้าคงไม่ลดตัวลงไปทำให้เหยาหวาต้องอับอายต่อหน้าในพระราชวัง หนานหลิงจิ่นสิ่งก็ไม่สนใจเรื่องนี้ หากไม่ใช่เพราะความแตกต่างระหว่างชายหญิง ทั้งองค์หญิงเหยาหวาเอาแต่ซ่อนตัวอยู่ในเรือน เขาคงจะมาแก้แค้นให้เฟิ่งชิงเฉิน นานแล้ว
ในฐานะองค์ชายแห่งหนานหลิง เขาไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องภายในของตงหลิงได้ เขาไม่สามารถปกป้องซุนซือสิงได้ แต่เขาคงสามารถจัดการกับองค์หญิงแห่งซีหลิงได้แน่
แน่นอนว่าการโกหกองค์หญิงเหยาหวาไม่ใช่สิ่งที่แย่ที่สุด เพราะที่แย่ที่สุดคือหลังวันปีใหม่เหยาหาวจะได้รับข่าวว่าเสด็จแม่ของนางประสบอุบัติเหตุในอีกไม่กี่วันจากนั้น หากซีหลิงเทียนอวี่เดาไม่ผิดละก็ ตำแหน่งสนมนั้นก็ยังมิอาจมั่นคงได้ สำหรับเหยาหวาแล้วเป็นเรื่องร้ายแรงมาก
บุตรมั่งคั่งได้เพราะมารดา ภูมิหลังของหยูกุ้ยเฟยนั้นยากจน หากสถานะของนางจะลดลงหลังจากเหตุการณ์นี้ ในเวลานั้น ตงหลิงและซีหลิงคงไม่สนใจเหยาหวาเท่าไรนัก
เป็นความจริงที่เสด็จอาเก้าจะไม่ทำให้เหยาหวาอับอายต่อหน้าทุกคน แต่สิ่งที่เขาทำอาจทำให้เหยาฮัวอยู่ในสถานการณ์อันน่าอับอายซึ่งต้องถูกรังแกไปตลอดชีวิต
เฟิ่งชิงเฉินไม่รู้อะไรมากนักเกี่ยวกับเรื่องในซีหลิง แม้ว่านางรู้ นางก็คงไม่ไปยุ่งกับมันในเวลาแบบนี้แน่ เนื่องจากปีใหม่กำลังใกล้เข้ามา นางแค่อยากจะก้าวข้ามปีอย่างปลอดภัย นางไม่สนใจเรื่องไร้สาระเหล่านั้น รอหลังผ่านปีใหม่ไปแล้วค่อยว่ากัน
แม้ว่าปีนี้จะอยู่คนเดียวเช่นเมื่อก่อน แต่ก็มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเฟิ่งชิงเฉิน นี่เป็นปีแรกของนางในตงหลิง และเป็นครั้งแรกที่จวนเฟิ่งเปิดประตูต้อนรับแขก หลังจากแม่ทัพเฟิ่งและเฟิ่งฮูหยินถึงแก่กรรมไป
สิ่งที่เรียกว่าการเปิดประตูเพื่อเฉลิมฉลองปีใหม่นี้ หมายความว่าจวนเฟิ่งจะไปมอบของขวัญปีใหม่ให้กับครอบครัวอื่น ๆ และครอบครัวอื่น ๆ ก็จะมอบของขวัญปีใหม่ให้กับจวนเฟิ่งด้วย
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา วันส่งท้ายปีเก่าเป็นช่วงเวลาที่ยากเย็นที่สุดสำหรับเฟิ่งชิงเฉิน ทุกคนมีความสุขที่จะจัดงานปีใหม่และเตรียมอาหารเย็นในวันปีใหม่กัน แต่เฟิ่งชิงเฉินและบ่าวรับใช้ตัวน้อยของนางทำได้เพียงซ่อนตัวอยู่ในจวนเฟิ่ง ไม่กล้าที่จะออกไปไหน ไม่กล้าเจอหน้าผู้คน
พวกเขาไม่สามารถเตรียมของขวัญสำหรับปีใหม่ให้ใครได้ และไม่มีใครให้ของขวัญปีใหม่แก่พวกเขา แม้ว่าพวกเขาจะเอาของกำนัลมาส่งมอบให้ที่ประตูบ้าน แต่ก็ไม่มีใครต้อนรับนางและอนุญาตให้นางเข้าไปในบ้าน
ว่ากันว่าคนที่มีความเหมือนกันจะมารวมอยู่ในกลุ่มเดียวกัน ในอดีตเฟิ่งชิงเฉินไม่สามารถรวมเข้ากับกลุ่มชนชั้นสูงได้เลย แม้ว่าตอนนี้เฟิ่งชิงเฉินจะไม่ได้รวมเข้ากับกลุ่มชนชั้นสูงอย่างสมบูรณ์ แต่พวกคนที่ต้องการใช้ประโยชน์จากตัวนางเช่น ชุยอ๋อง ตระกูลเซี่ย หนิงกั๋วกงและจวนโหวทั้งหลายเหล่านั้นก็จำเป็นต้องผูกสัมพันธ์กับนาง
เมื่อหยุนเซียวเปิดเผยเรื่องยาป้องกันการแท้งบุตรแก่สนมเอกเซี่ยโดยไม่ว่าตั้งใจหรือไม่ แต่ยาที่กินเข้าไปนั้นเป็นยาที่เฟิ่งชิงเฉินนำมาให้จริงๆ จึงมีผู้คนมากมายอยากมาทำความรู้จักกับเฟิ่งชิงเฉิน
ด้วเยหตุนี้เอง เฟิ่งชิงเฉินในปีนี้จึงแตกต่างกันมากกับปีก่อนๆ ในเวลานี้ ทุกครอบครัวในแต่ละที่อยู่อาศัยต่างรอคอยการมาของเฟิ่งชิงเฉินเพื่อมอบของขวัญปีใหม่และคำอวยพร ยิ่งไปกว่านั้นไม่ว่าจะสนิทสนมคุ้นเคยกับเฟิ่งชิงเฉินหรือไม่ พวกเขาก็มาและเตรียมของขวัญปีใหม่ชิ้นโตไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ พวกเขาหวังเพียงแค่ว่าให้เฟิ่งชิงเฉินมอบยานั้นแก่พวกเขาสักสองสามกล่องคืนมาเป็นของขวัญ
ใครบ้างที่ไม่ต้องการยาป้องกันแท้งค์บุตรนี้ แม้ว่าจะไม่มีหญิงตั้งครรภ์ตอนนี้ แต่หากมีในมือก็ดูมีหน้ามีตา ดังนั้นเฟิ่งชิงเฉินจึงไม่ได้ยุ่งแบบธรรมดา
ตั้งแต่ก่อนเริ่มปีใหม่ รถม้าที่จอกนอกประตูจวนเฟิ่งก็ไม่เคยโล่ง ของขวัญปีใหม่กล่องใหญ่ถูกย้ายเข้าไปที่จวนเฟิ่งอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ฉากอันมีชีวิตชีวานี้แสดงให้เห็นได้ว่าจวนเฟิ่งมีสถานะเช่นไรในใจของพวกเขา หาใช่จวนเฟิ่งในอดีตอีกต่อไป ที่ผู้คนพากันเพิกเฉยโดยสิ้นเชิงและไม่มีใครพูดกล่าวถึง
แน่นอนว่าแม้ว่าชนชั้นสูงเหล่านี้ต้องการรู้จักกับเฟิ่งชิงเฉิน แต่พวกเขาจะไม่ลดสถานะของพวกเขาเดินทางมาเพื่อมอบของขวัญด้วยตนเอง นอกจากนี้จวนเฟิ่งมีนายเป็นสตรี ผู้อาวุโสชายเหล่านั้นคงยากที่จะเดินทางมาเอง ยิ่งไม่สะดวกสำหรับสตรีที่จะออกไปข้างนอก ตระกูลเหล่านี้โดยมากจะส่งหมัวมัวผู้น่าเชื่อถือมามอบของขวัญให้ยังจวนเฟิ่ง ซึ่งอย่างน้อยก็ทำให้เฟิ่งชิงเฉินถอนหายใจด้วยความโล่งอกได้เพราะไม่ต้องยิ้มให้กับกลุ่มชนชั้นสูงเหล่านั้นทุกวันอย่างเหน็ดเหนื่อย
แต่ถึงกระนั้น เฟิ่งชิงเฉินก็ยุ่งจนขแทบไม่ได้แตะพื้น นางต้องตรวจสอบรายการของขวัญ เตรียมของขวัญส่งคืน ใครให้ของขวัญอะไรมาบ้าง นางต้องจดรายการของขวัญไว้เพื่อใช้อ้างอิงในปีหน้า เมื่อเผชิญกับเรื่องเหล่านี้เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกปวดหัว จวนเฟิ่งไม่มีสิ่งของใดมาใช้อ้างอิง นางต้องพึ่งพาตัวเองทั้งหมด แม้ว่าพ่อบ้านจะมีความเชี่ยวชาญในเรื่องเหล่านี้ แต่บางเรื่องก็ต้องถามนาง
เช่น อวี่เหวินหยวนฮั่วซึ่งอยู่ห่างไกลในชายแดนได้ส่งของขวัญปีใหม่ที่ไม่ได้แพงมากนักแต่ใช้งานได้จริงมาให้ เฟิ่งชิงเฉินเลือกคืนของขวัญที่แตกต่างกันให้ นางเลือกในสิ่งที่เขาสามารถนำไปใช้ได้จริง ซึ่งของเหล่านี้พ่อบ้านสามารถเสนอแนะได้ ท้ายที่สุดผู้ที่ตัดสินใจก็คือนางอยู่ดี
ความสัมพันธ์ทั้งหลาย โดยมากล้วนดูที่การมอบของขวัญ ผู้ที่อายุน้อยกว่าควรแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ผู้อาวุโส ผู้มีมีตำแหน่งหน้าที่น้อยกว่าควรให้ของขวัญแก่ผู้มีตำแหน่งสูงกว่าก่อน และประการสุดท้ายคือมิตรภาพระหว่างผู้ร่วมงาน
แม้ของเหล่านี้จะส่งกันไปส่งกันมา แต่ต้องระวังว่าจะนำของจากตระกูลหลี่ไปมอบคืนแก่ญาติของเขา หากรู้เข้าละก็ คงไม่พอใจต่อการคืนของขวัญนี้แน่
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา นางขอคำแนะนำจากพ่อบ้านจวนเฟิ่ง ซึ่งเขาได้บอกกับเฟิ่งชิงเฉินทราบถึงข้อควรระวังในการให้และคืนของขวัญ แม้ว่าเฟิ่งชิงเฉินจะใจร้อน แต่นางก็รู้ว่านี่เป็นสิ่งที่นางต้องเรียนรู้และนางต้องดูแลจวนเฟิ่ง นางต้องเรียนรู้ที่จะสื่อสารกับผู้อื่น นางไม่สามารถอยู่ในโลกของนางคนเดียวและตัดขาดการติดต่อกับบุคคลภายนอกได้
การติดต่อกับเหล่าฮูหยินเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ควรที่จะผูกสัมพันธ์เข้าไว้ แม้นางอาจไม่มีโอกาสช่วยเสด็จอาเก้าในการติดต่อเหล่าฮูหยิน แต่นางควรต้องเรียนรู้ไว้ให้ดี ดังนั้นแม้ว่านางจะไม่ชอบแต่นางต้องอดทนฟัง หาของขวัญตอบแทนอย่างเหมาะสม
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เฟิ่งชิงเฉินอยู่ในโกดังทั้งวัน นางตรวจสอบรายการของขวัญเท่านั้น เนื่องจากเฟิ่งชิงเฉินยังไม่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับการคืนของขวัญ ขณะที่เฟิ่งชิงเฉินกำลังปวดหัว ซูเหวินชิงก็ได้เข้ามาช่วยนาง……