นางสนมแพทย์อัจฉริยะ - บทที่ 856 ตระกูลหยุนล้มลง จักรพรรดิอิ่มหนำ
นางสนมแพทย์อัจฉริยะ บทที่ 856 ตระกูลหยุนล้มลง จักรพรรดิอิ่มหนำ
สำหรับซูเหวินชิงซึ่งเป็นผู้ร่ำรวยที่สุดในตงหลิง ช่วงวันหยุดนี้เขาจึงยุ่งมาก ไม่เพียงแต่จะต้องคิดยอดบัญชีในช่วงปลายปีเท่านั้น แต่เขายังต้องจัดการสิ่งต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานในปีหน้า
แม้จะได้รับการสนับสนุนจากเสด็จอาเก้า แต่ซูเหวินชิงยังคงต้องจัดการกับขุนนางคนอื่น ๆ มิฉะนั้นพวกเขาอาจทำเป็นเกรงใจต่อหน้า ทว่าลับหลังอาจแทงจนตายได้
นอกจากนี้ แม้ว่าเสด็จอาเก้าจะมีสถานะสูงส่ง แต่เขาก็ยังต้องเอาชนะใจขุนนางทั้งหลาย ไม่เช่นนั้นเหล่าขุนนางจะอยู่ข้างเขาทำไม หากไม่มีผลประโยชน์พวกเขาจะเสี่ยงชีวิตเพื่อเขาได้อย่างไร เขาควรจัดการอย่างสมเหตุสมผลเพื่ออนาคต
ซูเหวินชิงสละเวลาจากตารางงานอันแสนยุ่งของเขาเพื่อมายังจวนเฟิ่ง แต่ไม่ได้มาเพราะการมอบของขวัญปีใหม่อย่างแน่นอน เฟิ่งชิงเฉินคิดว่าเรื่องการร่วมมือกับร้านยาตระกูลหยุนนั้น นางรายงานต่อเสด็จอาเก้าก็เพียงพอแล้ว คาดไม่ถึงว่าเสด็จอาเก้าไม่ได้อธิบายเรื่องนี้ต่อซูเหวินชิง
ทันทีที่เฟิ่งชิงเฉินก้าวเท้าซ้ายไปที่ธรณีประตู ซูเหวินชิงมองเห็นนางแล้วรีบชิงกระโดดขึ้นจากเก้าอี้พร้อมกับชี้ไปที่เฟิ่งชิงเฉิน ดุว่า “เฟิ่งชิงเฉิน! เจ้าใจร้ายเหลือเกิน โชคดีเพียงไรแล้วที่ข้ายังถือว่าเจ้าเป็นสหาย!”
“ข้าใจร้ายตรงไหนกัน?” เฟิ่งชิงเฉินผงะ หลังจากตรวจสอบรายการของขวัญในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา นางรู้สึกวิงเวียนศีรษะ จึงทำให้เกือบจะล้มไปข้างหน้า โชคดีที่ทงจือตอบสนองได้อย่างรวดเร็วแล้วเข้าไปพยุงเฟิ่งชิงเฉินไว้ทัน
“ใจร้ายตรงไหนงั้นหรือ?” ซูเหวินชิงยิ้มเยาะ เขาเอามือกอดอกแล้วมองไปทางเฟิ่งชิงเฉินที่งุนงง รอจนกระทั่งเฟิ่งชิงเฉินเดินมาตรงหน้าเขา จึงได้กล่าวว่า “เจ้าจะใจดีได้อย่างไร มีการค้าที่ทำกำไรได้ แต่กลับไม่ได้คิดถึงข้า หากไม่ใช่เพราะข่าวลือมากมายแพร่หลาย ข้าคงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจ้าร่วมมือกับตระกูลหยุน เฟิ่งชิงเฉินเจ้าทำได้อย่างไร เจ้าได้ใหม่ลืมเก่างั้นหรือ? สิ่งที่ตระกูลหยุนให้เจ้าได้ ข้าซูเหวินชิงไม่สามารถให้เจ้าได้หรือ? ทำไมเล่า เจ้ากลัวข้าโกงเจ้าหรือ! ข้าแย่เช่นนั้นเชียวหรือ?”
การจำหน่ายยาป้องกันการแท้งบุตรเป็นการค้าที่ทำกำไรได้อย่างรวดเร็ว และในขณะเดียวกันก็สามารถเพิ่มชื่อเสียงได้ ไม่ว่าใครก็ตามที่มีส่วนร่วมในการค้านี้ รับรองได้ว่าจะได้รับทั้งชื่อเสียงและเงินทอง
สำหรับชื่อเสียงและเงินทอง ชื่อเสียงคือสิ่งที่ซูเหวินชิงชื่นชอบมากที่สุด มียาป้องกันการแท้งบุตรซึ่งขายดีเช่นนี้สามารถทำให้ร้านขายยาที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักเป็นที่นิยมได้อย่างแน่นอน และในขณะเดียวกันก็ผลักดันยอดขายยาสำเร็จรูปในร้านขายยาได้ด้วย
เขาทำการค้ายา แม้ว่าจะมีกำไรแต่ก็ยังห่างไกลจากร้านขายยาขนาดใหญ่เช่นร้านขายยาตระกูลหยุนซึ่งเป็นที่รู้จักในจิ่วโจวไปทั่วนี้ และเป็นเพราะสิ่งนี้เองที่ทำให้ซูเหวินชิงโกรธ หากเขาได้ขายมัน เขามั่นใจที่จะยึดตลาดของร้านขายยาตระกูลหยุนได้ และทำให้ร้านขายยาภายใต้ชื่อของเขามีชื่อเสียงเทียบเท่ากับร้านขายยาตระกูลหยุนได้ แต่สุดท้าย……
ไม่เป็นไรหากเฟิ่งชิงเฉินไม่ช่วยเขา แต่นางกลับไปช่วยหยุนเซียว ฮือๆ…… ในฐานะน้องใหม่ในอุตสาหกรรมยา เขาต้องการความช่วยเหลือนี้มาก
ซูเหวินชิงมองไปที่เฟิ่งชิงเฉินด้วยความไม่พอใจ เฟิ่งชิงเฉินเลือกที่จะไม่ช่วยเขา แต่ช่วยคู่ต่อสู้ของเขา
เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกผิดเล็กน้อย นางรีบเปลี่ยนเรื่องสนทนา “ข้าทำไปเพื่ออะไรเล่า ทำไมเจ้าถึงโกรธเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ เอาละๆ อย่าโกรธเลย นั่งลงเถอะ ข้าจะจับชีพจรให้เจ้า ร่างกายเจ้าฟื้นฟูเป็นอย่างไรบ้าง?”
ไม่บอกก็ไม่เป็นไร ซูเหวินชิงกัดฟันกล่าวว่า “ข้าหายแล้ว ข้าหายดีแล้ว ไม่ต้องกังวล ข้าสัญญาว่าข้าจะรักษาสุขภาพของตนเองให้ดี”
กล่าวจบซูเหวินชิงก็ยังคงยื่นมือออกมาอย่างเชื่อฟัง ให้เฟิ่งชิงเฉินจับชีพจร
ชายนั้นหากเกิดการบาดเจ็บที่ไตคงแย่ แม้ว่าตอนนี้เขาจะดีขึ้นมากแล้ว แต่หากมีโรคยังคงซ่อนอยู่ก็ลำบาก จึงเป็นการดีหากเฟิ่งชิงเฉินจะตรวจอาการให้อีกครั้ง
“สภาพชีพจรคงที่และแข็งแรงดี ไม่เป็นไรจริงๆ อยู่ในอาการที่ปลอดภัย กินยาอีกตัวหนึ่งเพื่อเสริมกำลังจะดีกว่าเดิม” เฟิ่งชิงเฉินเห็นความเหนื่อยล้าบนใบหน้าและดวงตาของซูเหวินชิง นางรู้ว่าเขาไม่ได้อยู่เฉยในช่วงปีใหม่นี้ จึงได้เอ่ยปลอบเขา
ซูเหวินชิงไม่มีความคิดเห็นใด ๆ แน่นอนว่าเขาต้องฟังคำแนะนำของแพทย์ในเรื่องสุขภาพของเขา แต่จะให้ซูเหวินชิงเพิกเฉยต่อประเด็นสิทธิในการขายยาป้องกันแท้งบุตรคงเป็นไปไม่ได้
“เรื่องอาการเจ็บป่วยจบลงแล้ว มาคุยเรื่องการค้ากันดีกว่า” ในฐานะนักการค้า เขาจะไม่ปล่อยโอกาสไปอย่างแน่นอน การรักษาสุขภาพร่างกายก็อีกเรื่องหนึ่ง การค้าก็คือการค้า ซูเหวินชิงมองไปที่เฟิ่งชิงเฉินด้วยรอยยิ้มที่ไม่เหมือนรอยยิ้มจากใจ “เรามาคุยเรื่องยาป้องกันการแท้งบุตรต่อ จงบอกข้าว่าทำไมเจ้าถึงเลือกตระกูลหยุน ข้ายอมรับว่าช่องทางการขายของตระกูลหยุนดีที่สุด แต่เจ้าควรเข้าใจว่าสำหรับยาในมือของเจ้าอันนี้ ข้าไม่รังเกียจที่จะสร้างช่องทางการขายขึ้นมาใหม่”
อย่างน้อยเฟิ่งชิงเฉินก็ควรเดินทางไปหาอีกสักสองสามตระกูลเพื่อสนทนาเรื่องนี้ นางมอบมันให้ตระกูลหยุนโดยตรงได้อย่างไร เขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะแข่งขันด้วยสักน้อย
ปัญหานี้เฟิ่งชิงเฉินอธิบายอย่างจริงใจออกมาว่า “ตอนนั้นข้าคิดจะมาหาเจ้า แต่ข้าคิดว่าตระกูลหยุนเหมาะสมกว่า พวกเขามีช่องทางและการติดต่อสำเร็จรูป ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะทำสิ่งอื่น ๆ ตอนนี้ตระกูลหยุนต้องการการฟื้นฟู โอกาสที่ข้าจะได้ร่วมมือกับเขานี้เท่ากับความช่วยเหลือที่มีต่อเขา แต่เจ้าแตกต่าง เจ้าเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในตงหลิง ความร่วมมือของข้ากับเจ้าเป็นเพียงในนาม ส่วนแบ่งกำไรของ 1:9 เจ้ายอมรับมันโดยไม่คิดได้หรือไม่? ส่วนแบ่งกำไร 1:9 เจ้าจะได้กำไรจากมันไหม?”
เฟิ่งชิงเฉินบอกถึงเรื่องกำไร 1:9 นี่มันไม่ใช่การเก็งกำไร นางเพียงเพื่อบอกซูเหวินชิงว่าตระกูลหยุนร่วมมือกับนางครั้งนี้ พวกเขาจะไม่เอาเปรียบนางแน่
นางไม่รู้วิธีทำการค้า แต่นางรู้ว่าการเพิ่มผลประโยชน์ของตัวเองหมายความว่าอย่างไร ตระกูลหยุนมีร้านขายยาสำเร็จรูปและกำลังคน หากเปิดหน้าร้านใหม่ แม้ว่าจะเป็นส่วนแบ่งยอดขายก็ตาม ซูเหวินชิงคงไม่สามารถหาเงินได้ในวันแรก ๆ
“ร้อยละเก้าสิบ? เจ้าเสนอเงื่อนไขที่เกินจริงเช่นนั้นจริงหรือ?” ใบหน้าของซูเหวินชิงบิดเบี้ยว “ตระกูลหยุนเห็นด้วยหรือ? เจ้าแน่ใจหรือเจ้ากำลังช่วยพวกเขา ไม่ใช่การฉวยโอกาสสังหารตระกูลหยุน?”
เฟิ่งชิงเฉินถือว่าการค้าขายนี้เป็นการขายแบบฝากขาย ภายใต้สถานการณ์ทั่วไปพ่อค้าและผู้รับฝากจะแบ่งกำไรเป็น เฟิ่งชิงเฉินในสายตาของซูเหวินชิงตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับการใช้ประโยชน์จากพวกเขา
เฟิ่งชิงเฉินมองดูซูเหวินชิงด้วยดวงตาดูว่างเปล่า นางอธิบายด้วยความโกรธว่า “ตอนนี้เจ้าเข้าใจแล้วหรือไม่ว่าทำไมข้าถึงไม่ขอให้เจ้าร่วมมือด้วย และเจ้าจะไม่มีวันเห็นด้วยอย่างแน่นอน”
“นอกจากนี้ ผลกำไรในโลกนี้ไม่สามารถถูกผูกขาดโดยคน ๆ เดียวได้ เจ้าเป็นพ่อค้าที่ร่ำรวยที่สุดอันดับหนึ่งในตงหลิงแล้ว ดังนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องคิดมาก”
“องค์จักรพรรดิรู้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเจ้าคือเสด็จอาเก้า และเงินที่เจ้าได้รับก็เพื่ออำนวยความสะดวกต่อเสด็จอาเก้า หากเจ้าเพิ่มการค้าที่ทำกำไรได้นี้ ก็ยากที่จะรับประกันว่าจักรพรรดิจะไม่ระแวงเจ้า เมื่อถึงเวลานั้นอาจลงโทษเจ้าในโทษฐานอะไรสักอย่างเพื่อกำจัดเจ้าก็เป็นได้”
เฟิ่งชิงเฉินไม่ได้ขู่หรือพูดเกินจริงอย่างแน่นอน เมื่อนึกถึงชะตากรรมของพ่อค้าที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นเสิ่นว่านซานหรือหูเสวี่ยเหยียน ล้วนถูกจักรพรรดิสังหารเนื่องจากมั่งคั่งจนเกินไป
หากซูเหวินชิงยังคงพัฒนาเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ เมื่อจักรพรรดิต้องการส่งกองกำลังไปโจมตีประเทศอื่น ๆ เขาจะคิดถึงการโจมตีซูเหวินชิงอย่างแน่นอน เพราะเขาอาจมีเงินไม่พอ ตงหลิงที่คลังว่างเปล่าเช่นนี้ คิดว่าเขาจะไม่ลงมือจัดการกับพ่อค้าตัวอ้วนพีเช่นเจ้าหรือ?”
ท่ามกลางพายุหิมะ จักรพรรดิของทั้งสี่แคว้นถือโอกาสแบ่งปันทรัพย์สินตระกูลหยุน หากเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติอีกละก็ คลังอาจมีเงินไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉินไม่เพียงพอ เงินอาจถูกเอาไปก่อนสงครามเสียด้วยซ้ำ
ไม่ว่าสถานะของพ่อค้าจะสูงหรือต่ำ หากเขาเล่นกับทางการ ผลที่ตามมาคือตายเท่านั้น ตระกูลหยุนถือว่าเป็นตัวอย่างให้เห็น……