นางสนมแพทย์อัจฉริยะ - บทที่ 857 จรรยาบรรณแพทย์ นับวันยิ่งห่าง
นางสนมแพทย์อัจฉริยะ บทที่ 857 จรรยาบรรณแพทย์ นับวันยิ่งห่าง
เฟิ่งชิงเฉินพูดถึงเรื่องนี้ออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ซูเหวินชิงกำมือแน่นขึ้น ใบหน้าของเขาจริงจังขึ้นมาทันที
“ สิ่งที่เจ้ากล่าวก็ใช่จะมิสมเหตุสมผล ข้าหาเงินได้มากมายในทุกๆ ปี ก่อนหน้านี้จักรพรรดิอาจไม่ได้อิจฉา แต่หลังจากเหตุการณ์พายุหิมะ ข้าไม่กล้ารับประกันได้ว่าตระกูลซูจะสงบดั่งเคย” ยิ่งเสด็จอาเก้ามีเงินมากเท่าไหร่ หากพบกับปัญหาและมีโอหาส องค์จักรพรรดิคงจะฆ่าเขาแน่นอน
“ดีที่เจ้าเข้าใจ ตอนนี้จักรพรรดิขาดแคลนเงิน หากองค์จักรพรรดิหาเหตุผลที่สมเหตุสมผลได้ หากเสด็จอาเก้าสามารถปกป้องเจ้าได้ แต่สำหรับทรัพย์สินของตระกูลซูอาจจะไม่ อย่างไรก็ตามคนที่นั่งในตำแหน่งสูงสุดนั้นคือจักรพรรดิ ตราบเท่าที่ชื่อของเขายังอยู่ที่นั่น ขุนนางทั่วไปก็ยังยืนเคียงข้างเขา” ตำแหน่งนั้นเป็นตัวกำหนดอำนาจ และไม่ว่าเสด็จอาเก้าจะทรงพลังเพียงใด ก็ยังมีสถานที่ที่เขาไม่สามารถดูแลได้ทั่วถึง
สิ่งที่เฟิ่งชิงเฉินพูดทำให้ซูเหวินชิงไม่มีความสุขเท่าไรนัก เขาและเสด็จอาเก้าเคยคิดเกี่ยวกับความเป็นไปได้นี้มาก่อน พวกเขาคิดว่าจะไม่มีปัญหาในระยะเวลาอันสั้นนี้
นอกจากนั้น การค้าที่ทำกำไรได้มากที่สุดของพวกเขาล้วนเป็นการลักลอบนำเข้าอย่างลับ ๆ พวกเขาไม่ได้ให้ความสนใจกับการค้าที่เปิดเผยเท่าไรนัก เพราะไม่ว่าพวกเขาจะทำกำไรได้แค่ไหนก็ตาม กำไรนั้นก็ไม่ได้เป็นของพวกเขาทั้งหมด แต่หากไม่มีการค้าทีเปิดเผยได้มาเป็นเกราะกำบัง พวกการค้าเถื่อนก็ทำไม่ได้เช่นกัน
ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้กังวลเกี่ยวกับความโหดเหี้ยมของจักรพรรดินัก หากไม่มีตัวอย่างนี้ เขาคิดว่าจักรพรรดิจะไม่ใจแคบเกินไปที่จะแข่งขันกับประชาชนเพื่อผลกำไร แต่ตอนนี้ทุกสิ่งแตกต่างออกไป จากข่าวของเสด็จอาเก้าที่รู้มา จักรพรรดิมีความคิดที่จะทำสงคราม แต่ท้องพระคลังก็ว่างเปล่า ไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนจักรพรรดิให้ทำสงครามได้เลย
เมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับตระกูลหยุนก่อนหน้านี้ ซูเหวินชิงเข้าใจว่าเมื่อถึงเวลา จักรพรรดิจะกำหนดเป้าหมายมาที่เขา ขาของยุงถึงอย่างไรก็มีเนื้อ ไม่ว่าซูเหวินชิงจะยากจนเพียงใด เขาก็มั่งคั่งกว่าพ่อค้าคนอื่น
เรื่องนี้มันช่าง…… ปวดหัวจริงๆ แต่สิ่งเหล่านี้ยังไม่รีบเท่าไร แม้ว่าซูเหวินชิงจะกังวลใจและต้องการหาทางออกเพื่อรักษาทรัพย์สินของตระกูลซูโดยเร็วที่สุด เรื่องเหล่านี้ไม่อาจลุล่วงได้เพียงวันสองวัน เขาจัดการเรื่องตรงหน้านี้ก่อนดีกว่า
ซูเหวินชิงตื่นจากอาการตกใจอย่างรวดเร็ว สายตามองไปที่เฟิ่งชิงเฉินด้วยรอยยิ้มจางๆ เขาวกกลับมาที่หัวข้อเดิมว่า “เอาละ เห็นแก่ที่เจ้าเตือนข้า ข้าจะไม่ถือสาเจ้าเกี่ยวกับยาป้องกันการแท้งบุตร การที่ตระกูลหยุนฟื้นตัวขึ้นก็เป็นสิ่งที่ดีสำหรับข้าเช่นกัน” มีคนแบ่งปันความเสี่ยงให้เขาจะไม่ดีได้อย่างไร
ในสายตาของจักรพรรดิ ทั้งตระกูลซูและตระกูลหยุนล้วนเป็นแกะที่เขาเลี้ยงไว้ ต่างกันเพียงผู้สนับสนุนตระกูลซูคือเสด็จอาเก้า เมื่อแกะเช่นเขาตัวอ้วนพี และยามที่องค์จักรพรรดิประสงค์จะกิน ก็คงไม่เกรงใจแน่
ส่วนตระกูลหยุนมีหยุนเฉิงเป็นผู้สนับสนุน รากฐานของตระกูลหยุนไม่ได้อยู่ที่ตงหลิงเท่านั้น มือของจักรพรรดิไม่ได้ยื่นยาวออกไปขนาดนั้น ไม่มีทางที่จะจัดการอย่างหมดจดได้ แต่ถึงอย่างนั้นจักรพรรดิก็ยังจัดการโกนขนแกะเช่นตระกูลหยุนจนสะอาดเกลี้ยง จากนั้นเขาก็โยนมันออกไปโดยไม่เสียดาย หากว่ายังไม่ตาย ก็รอให้มันงอกขนออกมาใหม่แล้วค่อยตัดใหม่……
เมื่อเผชิญกับอำนาจของจักรพรรดิ ไม่ว่าพ่อค้าคนไหนจะร่ำรวยเพียงใด พวกเขาก็เป็นเพียงแค่ก้อนเมฆที่ล่องลอยไป
เฟิ่งชิงเฉินรู้ว่าซูเหวินชิงเข้าใจ ดังนั้นนางจึงยิ้มอย่างมีเลศนัย หากพูดถึงความใกล้ชิดสนิทสนม แน่นอนว่าซูเหวินชิงสนิทกับนางมากกว่า แต่นางเต็มใจที่จะร่วมมือกับตระกูลหยุนในเรื่องยาป้องกันแท้งบุตรมากกว่า
“หากเจ้าไม่โกรธก็ดีแล้ว เงินสามารถหาได้อย่างไม่มีสิ้นสุด การค้าที่ทำกำไรในได้ไม่ได้มีเพียงยา ในเรื่องการค้าเจ้าแตกต่างจากตระกูลหยุน การค้าของเจ้าซับซ้อนมากมายเกินไป แม้ว่าเจ้าจะให้ค่ากับการค้าร้านขายยามากแค่ไหน เจ้าก็ไม่เหมือนตระกูลหยุนที่มุ่งความสนใจไปที่การค้ายาเท่านั้น ดังนั้นข้าจึงไม่วางใจหากข้าจะมอบยาป้องกันการแท้งให้กับ เจ้าไปจัดการ”
นี่คือความจริง ตระกูลหยุนจะใช้ความสามารถทั้งหมดเพื่อทำการค้านี้ เพราะมันเกี่ยวข้องกับการอยู่รอดของครอบครัวพวกเขา แต่ซูเหวินชิงจะไม่ทำเช่นนั้น สำหรับซูเหวินชิงนี่เป็นเพียงหนึ่งในการค้าของเขา แม้การค้านี้ขาดทุนก็ไม่เป็นไร เขายังมีอย่างอื่นอีกมากมาย
คราวนี้ซูเหวินชิงพูดไม่ออก เฟิ่งชิงเฉินพูดถูก เขาจะมัวคิดถึงแต่ตัวเองไม่ได้ ซูเหวินชิงลูบจมูกของตนและแสร้งลืมจุดประสงค์ทีเดินทางมาในวันนี้ไป
“ข้าไม่ยุ่งเกี่ยวกับการค้ายาป้องกันแท้งบุตรแล้ว ตกลงหรือไม่……ว่าแต่เจ้าช่วยขายยาป้องกันแท้งบุตรให้ข้าสักร้อยกล่องได้หรือไม่? ช่วงนี้มีคนถามเรื่องนี้มากมาย ในฐานะพ่อค้า การที่ข้าจะมอบของขวัญให้ใคร ก็ต้องให้ในสิ่งที่เขาต้องการ”
“ของขวัญ? เจ้าต้องการให้ของขวัญเป็นยาป้องกันการแท้งบุตรงั้นหรือ?” แต่หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว เฟิ่งชิงเฉินก็เข้าใจว่าการให้ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพในช่วงเทศกาลดูเป็นที่นิยมอย่างมาก
“นี่ไม่ใช่ยาหรอกนะ เป็นสิ่งที่หายากสำหรับทุกคนต่างหาก เจ้าไม่รู้หรอกว่าตอนนี้มีคนสามถึงยาป้องกันแท้งบุตรมากมายเท่าไรแล้ว หากไม่ใช่เพราะพวกคนเหล่านั้นเชื่อมั่นตระกูลหยุน อีกทั้งตระกูลหยุนบอกว่าเจ้ากำลังเตรียมจำหน่ายแล้ว คนพวกนั้นคงรีบมาที่บ้านเจ้าอย่างแน่นอน หากเจ้ามีละก็ให้ขายก่อนปีใหม่สักหน่อย ไม่ต้องเยอะมาก สักพันกล่องก็ได้ รับรองไม่เพียงแต่จะได้กำไรเท่านั้น แต่ยังได้รับชื่อเสียงอีกด้วย” นี่เรียกว่าการสร้างบรรยากาศให้อุปทานสินค้าตึงตัวอยู่เสมอ กระตุ้นให้ผู้บริโภครู้สึกว่าหากตอนนี้ไม่รีบซื้อ คงจะซื้อไม่ทันแล้ว
ซูเหวินชิงสมแล้วที่เป็นผู้เก็งกำไร ทักษะการขายของเขายอดเยี่ยม เขามองเห็นสิ่งเหล่านี้และคิดได้แม่นยำ เขาเห็นคนที่ด้านนอกประตูมามอบของขวัญปีใหม่ให้กับจวนเฟิ่ง เขาจึงแนะนำเฟิ่งชิงเฉินว่า “หากเจ้าต้องการให้ของขวัญคนอื่นคืน ข้าขอแนะนำให้เจ้ามอบยาป้องกันแท้งบุตร คนพวกนั้นคงจะดีใจมาก”
ตรุษจีนปีนี้คาดว่ายาป้องกันการแท้งบุตรคงจะเป็นสิ่งที่ทุกคนอยากได้
ทันใดนั้น เฟิ่งชิงเฉินก็จำโฆษณาหนึ่งขึ้นมาได้ จากนั้นจึงพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “ข้าเข้าใจแล้ว ว่าแต่ทุกครอบครัวมีสตรีมีครรภ์มากมายขนาดนั้นเลยหรือ?”
แม้ว่าจะไม่มีการวางแผนครอบครัวที่ย่ำแย่ แต่อัตราการตั้งครรภ์ในยุคนี้ก็ไม่สูงนัก
“ไม่ช้าก็เร็วคงมี เตรียมไว้ก่อนก็ไม่ผิด อีกอย่างข้าไม่ได้บอกว่าทุกคนจะเอาไว้ใช้เอง ถึงไม่ได้ใช้ก็เอาไว้แจกคนได้ ไม่ต้องห่วง ข้ารู้ล่วงหน้าได้ว่าในอนาคตยาป้องกันแท้งบุตรของเจ้าจะมีความต้องการจำนวนมาก ดังนั้นเจ้าต้องเตรียมของให้เพียงพอ จากนั้นเจ้านอนนับเงินที่บ้านได้เลย” ไม่สำคัญว่าจะตั้งครรภ์หรือไม่ แม้ว่าจะไม่ใช่เพราะคุณสมบัติของยา แต่ขวดแก้วใสเพียงอย่างเดียวก็คุ้มค่าที่จะได้มาแล้ว
“เป็นที่นิยมมากเช่นนั้นจริงหรือ?” เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกหนักใจเล็กน้อย ในขณะเดียวกันก็แอบชื่นชมในใจว่าความสามารถในการประชาสัมพันธ์ของตระกูลหยุนนั้นแข็งแกร่งจริง ๆ แม้ปราศจากการประชาสัมพันธ์ทางอินเทอร์เน็ต ทีวี หนังสือพิมพ์และสื่อต่างๆ แต่ยังสามารถได้รับความนิยมเช่นนี้ได้ ไม่ง่ายทีเดียว
แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่นางต้องการ นางแค่ต้องการทำเงินเล็กๆ น้อยๆ ……
ซูเหวินชิงรัยประกันซ้ำแล้วซ้ำว่า “แน่นอน ข้ารับรองได้ว่าหากเจ้าได้กำไร 90% เจ้าจะมีรายได้มากกว่าข้าแน่นอนภายในสามปี เอาล่ะ เจ้าอย่ามัวทำให้ข้าอิจฉาอยู่อย่างนี้เลย ไปเอายาป้องกันแท้งบุตรมาให้ข้าสักหน่อยเถอะ ข้าจะนำไปเป็นของขวัญ”
“อ้อ รอสักครู่ ข้าจะไปเอายามาให้” เฟิ่งชิงเฉินพูดแล้วเดินออกไปนอกประตู นางหยิกตัวเองอย่างแรงและแอบเตือนตัวเองว่าในอนาคตนางจะต้องไม่ใช้ของจากกระเป๋าอพทย์อัจฉริยะในการหาเงินเด็ดขาด ต่อให้นางขาดแคลนเงินก็ไม่ได้
เฟิ่งชิงเฉินเดินออกไปด้วยอาการเซ ซูเหวินชิงคิดว่าเฟิ่งชิงเฉินมีความสุขจนทำตัวไม่ถูก ครั้งแรกที่เขาได้เงินจากการค้าครั้งใหญ่ก็เป็นเช่นเดียวกับเฟิ่งชิงเฉิน ไม่ใช่ว่าต้องการหาให้ได้มากกว่าเดิม แต่ความรู้สึกนั้นทำให้คนหลงไหล
หากเฟิ่งชิงเฉินรู้ว่าซูเหวินชิงกำลังคิดอะไรอยู่ นางคงจะบีบคอเขาจนตายแน่……