นางสนมแพทย์อัจฉริยะ - บทที่ 886 สนม สตรีของจักรพรรดิวุ่นวายจริง
นางสนมแพทย์อัจฉริยะ บทที่ 886 สนม สตรีของจักรพรรดิวุ่นวายจริง
ทุกคนบนโลกล้วนชอบสตรีที่บริสุทธิ์อ่อนโยน แต่เสด็จอาเก้าชอบความเย็นชาโหดร้ายของเฟิ่งชิงเฉิน ความใจดีและความอ่อนแอล้วนมีความหมายเหมือนกันกับความเสแสร้ง
หากมีคนตบแก้มซ้ายเรา แล้วต้องยื่นแก้มขวาให้ตบอีกหรือ? เหตุใดเราถูกตบหน้าแล้วยังต้องหาเหตุผลให้อีกฝ่าย? ไร้สาระสิ้นดี เฟิ่งชิงเฉินของเขาร้ายกาจแล้วอย่างไรเล่า ถึงอย่างไรนางก็น่ารัก
เสด็จอาเก้าแสดงรอยยิ้มอันมีเสน่ห์ขึ้นโดยไม่รู้ตัว เขาก้มศีรษะลงแล้วถามว่า “เจ้าหวังว่านางรำหรือไม่?”
“แน่นอน ข้าหวังว่านางจะออกมาร่ายรำ องค์หญิงร่ายรำหากได้มีบุญเห็น คงจะดียิ่งนัก” เฟิ่งชิงเฉินเสียใจจริงๆ หากนางรู้ว่ามีฉากที่มีชีวิตชีวาเช่นนี้ นางคงขอให้เสด็จอาเก้าพาตนเข้าไปในพระราชวังด้วย
องค์หญิงผู้ดูสูงส่งก่อนหน้า กลับมาสวมชุดเต้นรำ ร่ายรำท่ามกลางฝูงชน ทำท่าทางยั่วยวน
“น่าเสียดายที่เหยาหวาไม่ได้รำ” เสด็จอาเก้าสะกิดแก้มของเฟิ่งชิงเฉิน ช่างนุ่มนวลและรู้สึกดี
“อ้าว เหยาหวาไม่ได้ร่ายรำหรือ นางไม่กลัวจักรพรรดิจะโกรธหรือ?” เฟิ่งชิงเฉินดูผิดหวัง หากนางร่ายรำจะวิเศษเพียงใด หากเหยาหวาเต้นรำในที่สาธารณะ ราชวงศ์ซีหลิงจะต้องละอายเพราะนางอย่างแน่นอน
“แน่นอนว่านางกลัว แต่นางกลัวจะถูกซีหลิงทอดทิ้งเสียมากกว่า อย่างไรก็ตาม นางคิดว่าตนฉลาด แต่ท้ายที่สุดแล้วนางไม่เพียงแต่ทำให้ตงหลิงไม่พอใจ แต่ยังทำให้ซีหลิงไม่พอใจนางด้วย” เสด็จอาเก้านึกถึงคำพูดของซีหลิงเหยาหวา ประกายแสงวาบขึ้นในดวงตาของเขาแล้วหัวเราะเยาะ
สตรีที่ฉลาดเกินไปมักจะถูกเข้าใจผิดด้วยความฉลาดของนางเอง
เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกตื่นเต้น นางลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว “บอกข้ามาเร็วว่าองค์หญิงเหยาหวาเอ่ยสิ่งใด”
ช่างเป็นวายร้ายตัวน้อยจริง ๆ นางกลัวว่าโลกจะไม่วุ่นวายหรือ เมื่อเห็นดวงตาที่สดใสของเฟิ่งชิงเฉินเสด็จอาเก้า เล่าอย่างตรงไปตรงมาว่า “เหยาหวาไม่ได้ปฏิเสธ นางแค่เอ่ยเชิญองค์หญิงอันผิงให้ออกมาร่ายรำด้วย เพื่อมิตรภาพทั้งสองแคว้น”
“หา องค์หญิงเหยาฮวาช่างโง่เขลายิ่งนัก นางใช้องค์หญิงอันผิงเป็นเกราะกำบัง” เฟิ่งชิงเฉินกล่าวด้วยความประหลาดใจ
เก้าฮ่องเต้ตบในหน้าของนางเบาๆ “หุบปากของเจ้าให้ดี อ้าปากใหญ่ขนาดนี้ไม่เหนื่อยหรือ องค์หญิงเหยาหวาไม่โง่ นางฉลาดมาก นางรู้ว่าจักรพรรดิจะไม่ให้อันผิงออกมาเต้นรำอย่างแน่นอน จึงกล่าวเช่นนั้น”
“แต่สิ่งนี้ทำให้จักรพรรดิและฮองเฮาไม่พอพระทัย หากพี่ชายนางอยู่ด้วยยังไม่เท่าไร แต่นี่เขาไม่ได้อยูด้วย ช่างน่าอายเหลือเกินที่จะกล่าวเช่นนี้” เฟิ่งชิงเฉินส่ายหัว
เหยาหวาฉลาดมากและต้องการทำให้ทั้งสองฝ่ายพอใจ แต่นางหารู้ไม่ว่าหากนางต้องการทำเช่นนั้น ผลลัพธ์ที่ได้คือทั้งสองฝ่ายจะเกลียดนาง
“เจ้าพูดถูก นางไม่ควรมีความมั่นใจที่จะพูดแบบนั้นจริงๆ ฮองเฮากล่าวว่าองค์หญิงอันผิงเป็นผู้ที่รอแต่งงาน ไม่เหมาะที่จะแสดงเต้นรำในที่สาธารณะ นี่เป็นข้อแก้ตัวที่สุภาพ แต่เหยาหวาคิดว่าเป็นความคิดที่ดี นางเองก็กล่าวว่านางรอแต่งงานเช่นกัน ดังนั้นไม่สะดวกออกมาร่ายรำ” เสด็จอาเก้ากล่าวถึงตรงนี้ก็หัวเราะขึ้น
เห็นได้ชัดว่าคำพูดของเหยาหวาทำให้เขาขบขัน
“ฮ่าๆ องค์หญิงเหยาหวานี่ช่าง…… นางได้เผยโฉมหน้าออกมาแล้ว เหตุใดนางจึงยังทำตัวเหมือนสตรีที่กำลังจะแต่งงาน องค์หญิงอันผิงเป็นสตรีที่รอแต่งงานจริง นางประพฤติตัวอย่างดี อยู่แต่ในห้องไม่ออกไปไหน ส่วนนางกลับไปเข้าร่วมงานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่ายังกล้าบอกออกมาไม่ละอายใจ” เฟิ่งชิงเฉินหัวเราะ
องค์หญิงเหยาหวามั่นใจในตัวเองมากเกินไป นางคิดเสมอว่าสิ่งที่นางทำนั้นถูกต้อง นางเคยเข้าไปพัวพันกับตงหลิงจื่อลั่ว ถูกเล่าขานกันไป นางจึงคิดว่านางเพียงกำลังตามหารักแท้ ไม่ได้ทำอะไรผิด
การแต่งงานกับตงหลิงจื่อฉุนในตอนนี้เป็นเพียงการเสียสละเพื่อประเทศและความชอบธรรม นางไม่รู้ว่าสิ่งที่เรียกว่าคำชมเหล่านั้นล้วนเป็นเพราะสถานะของนางในฐานะองค์หญิง ถ้านางไม่มีสถานะนี้ นางคงจมอยู่ในเล้าหมูถูกถ่วงน้ำนานแล้ว
“ดังนั้น ทันทีที่เหยาหวากล่าวเช่นนี้ ทุกคนก็หัวเราะทันที แต่ก็สามารถหลีกเลี่ยงความอับอายในการแสดงระบำไปได้ ส่วนเกิดอะไรขึ้นในภายหลัง ข้าไม่รู้ เพราะข้าออกจากงานก่อนกำหนด” หากไม่ใช่เพราะรอเรื่องเหยาหวาจบลง เขาคงจากไปนานแล้ว
หนานหลิงจิ่นสิงพยายามอย่างหนักเพื่อวางแผนนี้ ท้ายที่สุดก็ไม่ได้อะไรเลย
“มันอาจไม่ใช่เรื่องดีนัก การกระทำของเหยาหวา ไม่ได้ปกป้องชื่อเสียงของซีหลิง และไม่ได้ประจบตงหลิง” เฟิ่งชิงเฉินส่ายหัวถอนหายใจ นางรู้สึกว่าเหยาหวาไม่เข้าใจสถานการณ์เอาเสีนเลย แม้แต่นางที่ไม่รู้เรื่องในราชวังยังเข้าใจได้
ในฐานะองค์หญิงแห่งซีหลิง แม้ว่านางจะแต่งงานกับราชวงศ์ตงหลิง ไม่ว่านางจะยกยอปอปั้นราชวงศ์ตงหลิงมากเพียงใด นางก็จะไม่ได้รับความรักอย่างแท้จริงของจักรพรรดิแน่ ความชื่นชอบของจักรพรรดิที่มีต่อนาง เพราะชัยชนะที่แข็งแกร่งของซีหลิงต่างหาก
ตราบใดที่ซีหลิงได้รับชัยชนะ จักรพรรดิแห่งซีหลิงจะให้ความสำคัญกับนางในฐานะบุตรสาว แม้นางจะซุกซนและเอาแต่ใจเพียงใด จักรพรรดิแห่งตงหลิงก็จะตามใจนางอย่างแน่นอน
อำนาจกำหนดสถานะของตน พฤติกรรมตีสองหน้าของเหยาหวาเช่นนั้นไม่ฉลาดเอาเสียเลย แม้ว่านางต้องการความช่วยเหลือจากตงหลิง แต่นางก็ไม่ควรทำให้ซีหลิงขายหน้า สำหรับสำหรับสตรีเราแล้ว ยิ่งตระกูลฝั่งตนแข็งแกร่งเพียงใด ตระกูลสามีจึงจะเกรงใจเรามากเท่านั้น
เมื่อเห็นเฟิ่งชิงเฉินส่ายหัว เสด็จอาเก้าก็รู้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่และเปิดเผยความคิดของนางออกมาว่า “ราชวงศ์ซีหลิงไม่มีเวลามาสนใจนาง ฉากที่เจ้าอยากเห็นจึงไม่เกิดขึ้น”
แม้ว่าเขาจะส่งคนไปรายงานเรื่องของเหยาหวาต่อซีหลิงแล้ว แต่ซีหลิงกำลังยุ่งวุ่นวาย แม้ว่าพวกเขาจะรู้เรื่องนี้ พวกเขาก็จะไม่สนใจอย่างแน่นอน
เฟิ่งชิงเฉินจ้องมองเสด็จอาเก้าอย่างออดอ้อน “ข้าไม่ได้แย่เช่นนั้น อ้อจริงสิ เจ้าบอกว่าซูโหรวร่ายรำต่อหน้าฝ่าบาท หมายความว่าฝ่าบาทจะทรงรับนางเข้าวังหลังหรือ?”
“ซูโหรวคิดเช่นนั้น จักรพรรดิก็คิดเช่นนั้น คาดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นในไม่ช้า” คำพูดของเสด็จอาเก้านับว่าเป็นการยอมรับ แม้ว่าจะไม่ได้รับสั่งออกไปทันที แต่ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็เข้าใจ
“แล้วการแข่งขันระหว่างข้ากับตระกูลซูเล่า? เรายังต้องแข่งขันอีกสนาม” การแข่งขันนี้ดำเนินไปเป็นเวลานานผิดปกติ เมื่อนึกถึงเงินพนันจำนวนมาก หัวใจของเฟิ่งชิงเฉินก็ปวดร้าว
เงินก้อนโตขนาดนี้ ถ้าคิดดอกเบี้ยจะได้มากมายเพียงไรกัน
“แข่งสิ แน่นอนว่าต้องมีการแข่งขันต่อ การปะทะกันในหนานหลิงทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ จักรพรรดิไม่จำเป็นต้องกีดกันองค์ชายจากหนานหลิง การแข่งขันควรจะจบลงแล้วในไม่ช้า”
การแข่งขันระหว่างเฟิ่งชิงเฉินและตระกูลซู เป็นการทดสอบชื่อเสียงของตระกูลซู แต่สำหรับจักรพรรดิและหนานหลิงจิ่นฝาน เป็นเพียงการอำนวยความสะดวกให้หนานหลิงจิ่นฝานอยู่ในตงหลิงอย่างเปิดเผยเท่านั้น
จักรพรรดิต้องการให้หนานหลิงจิ่นฝานอยู่ในตงหลิง ดังนั้นการแข่งขันจึงต้องเลื่อนออกไป หากจักรพรรดิไม่ต้องการให้หนานหลิงจิ่นฝานอยู่ในเมืองหลวง การแข่งขันก็ควรจบลง ทุกอย่างควบคุมโดยจักรพรรดิ
“ยังเป็นข้าแข่งกับกับซูโหรวหรือ?” เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกปวดหัวเมื่อนึกถึงงู
ซูโหรวนั้นเก่งกว่าหว่านมาก นางบรรลุความปรารถนาของนางได้ในช่วงเวลาอันสั้น กลายเป็นสนมของจักรพรรดิตามหวัง แต่ไม่รู้ว่าหากไม่มีตระกูลซูแล้ว ซูโหรวจะยังรังควานนางอีกหรือไม่
แต่ต่อให้ซูโหรวไม่ได้กำหนดเป้าหมายมาที่นาง นางก็ไม่อาจมีวันลืมได้ว่าซูโหรวใช้ทักษะนั้นกับนาง และในที่สุดก็มีโอกาสสะสางบัญชีสักที
“อืม นางจะเข้าไปในพระราชวังหลังจากการแข่งขันสิ้นสุดลง” ซูโหรวต้องการการแข่งขันเพื่อเพิ่มเงินของนาง อยู่ในตงหลิง ตระกูลซูไม่ได้ให้ความช่วยเหลือใด ๆ ซูโหรวจึงทำได้เพียงพึ่งพาตัวเองเท่านั้น
“เช่นนั้นข้าควรชนะหรือแพ้เล่า? หากข้าแพ้ จักรพรรดิจะเสียหน้าหรือไม่?” ซูโหรวเป็นเพียงบุตรสาวในตระกูลซู การจะได้ครองตำแหน่งเป็นพระสนมของจักรพรรดิเป็นเรื่องยาก
“ชนะสิ เจ้าต้องชนะ หากเจ้าพ่ายแพ้ หนานหลิงจิ่นฝานคงหัวเราะเราะ เขาเดิมพันด้วยเงินจำนวนมาก พนันว่าตระกูลซูจะชนะเจ้าหนึ่งรอบ” หนานหลิงจิ่นฝานคิดว่าเขาควบคุมการแข่งขันได้ แต่เขาไม่เคยรู้ว่าอำนาจนั้นไม่เคยเป็นของเขา
ไม่เพียงแต่จักรพรรดิ แม้แต่เขาก็ไม่อนุญาตให้หนานหลิงจิ่นฝานทำเช่นนั้น ครั้งนี้เขาต้องการให้หนานหลิงจิ่นฝานกระอักเลือดและสูญเสียมากจนเขาไม่มีโอกาสลุกขึ้นยืนได้อีก……
ปล.
ฉิน ชิงเฉินชนะ
หมากรุก ยังไม่ทราบ
คัดลายมือ ชิงเฉินชนะ
ภาพวาด ชิงเฉินชนะ
มารยาท ชิงเฉินแพ้
การรักษา ชิงเฉินแพ้
ศิลปะการต่อสู้ ชิงเฉินแพ้