นางสนมแพทย์อัจฉริยะ - บทที่ 927
นางสนมแพทย์อัจฉริยะ บทที่ 927
……
เมื่อได้ลิ้มรสชาติระหว่างชายหญิงเขาก็เข้าใจถึงความสุขอันแท้จริง แต่ก็ทนมาได้เป็นครึ่งเดือน เสด็จอาเก้ารู้สึกนับถือในตัวเอง
จับมือทั้งสองข้างของเฟิ่งชิงเฉินไว้ เสด็จอาเก้าไม่อนุญาตให้เฟิ่งชิงเฉินถอยกลับไป ระหว่างที่เขาจูบเฟิ่งชิงเฉินอย่างเร่าร้อน มือของเขาก็นำทางมือของเฟิ่งชิงเฉินไปบนร่างกายของเขา
การทำเรื่องแบบนี้แน่นอนว่าทำด้วยกันมันมีรสชาติมากกว่า และเขาก็คิดถึงช่วงเวลาที่เขาเคยใช้ร่วมกับเฟิ่งชิงเฉินในบ่อน้ำพุร้อนตลอดเวลาที่ผ่านมา
“อ่า……” เฟิ่งชิงเฉินยกร่างของเธอขึ้นเล็กน้อยโดยไม่ตั้งใจ ตอบรับการกระทำของเสด็จอาเก้า เสด็จอาเก้ายิ้มอย่างชั่วร้าย คิ้วอันงดงามของเขามีร่องรอยของความชั่วร้ายและความเย่อหยิ่ง ซึ่งต่างไปจากท่าทางที่ดูสงบในยามปกติของเขา
เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกเบื่อหน่ายและไม่ต้องการคำแนะนำของเสด็จอาเก้า มือทั้งสองข้างของนางเคลื่อนไหวบนร่างกายของเสด็จอาเก้าโดยอิสระไปจนถึงจุดที่ตั้งตระหง่านอยู่บนร่างกาย จากนั้นเฟิ่งชิงเฉินก็ค่อย ๆ เริ่มกำมันจนแน่น
กำแน่นและความอบอุ่นทำให้เสด็จอาเก้าส่งเสียงออกมา มันยังไม่ทันเริ่มต้นขึ้นเลยด้วยซ้ำ เฟิ่งชิงเฉินแค่ใช้มือทั้งสองข้างจับมันไว้เท่านั้นแต่เขากลับมีความรู้สึกที่สุดยอดจนไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ ประคองร่างของตนไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง จากนั้นเสด็จอาเก้าก็ถอดเสื้อผ้าชุดสุดท้ายบนร่างกายของเฟิ่งชิงเฉินออก
“ชิงเฉิน ข้ารอไม่ไหวแล้ว” เสด็จอาเก้าส่งเสียงฮึมออกมา นิ้วของเขาลูบตรงจุดส่วนตัวของเฟิ่งชิงเฉินจากนั้นก็แย่มันเข้าไปเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น เขาไม่สนใจว่ามันจะชื้นพอหรือไม่ เขาใส่มันเข้าไปโดยตรง
“เจ็บ……เบาลงหน่อย” ร่างกายที่แห้งผากถูกสิ่งแปลกปลอมรุกรานอย่างกะทันหันทำให้เฟิ่งชิงเฉินเผชิญหน้ากับความเจ็บปวด มือทั้งสองข้างกำผ้าห่มที่อยู่ด้านข้างไว้แน่นโดยไม่รู้ตัว นิ้วเท้าสีขาวบีบแน่นเล็กน้อย ใบหน้าแสดงความเจ็บปวด และความเพลิดเพลินไปกับมันไปพร้อมกัน
“ไม่เป็นไร อีกเดี๋ยวก็ไม่เจ็บแล้ว ทนหน่อยนะ” เสด็จอาเก้ารู้ว่าเขาใจร้อน ดังนั้นเขาจึงได้แต่ระงับความปรารถนาในใจ ไม่กล้าขยับ โน้มตัวไปจูบริมฝีปากของเฟิ่งชิงเฉินและปลอบโยนโดยไม่ส่งเสียง
ฮู้ว……ฮุ้ว
ภายใต้การปลอบประโลมอย่างอดทนของเสด็จอาเก้า เฟิ่งชิงเฉินค่อย ๆ ปรับตัวเข้ากลัวสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย ร่างกายของนางผ่อนคลายโดยไม่ได้ตั้งใจ ทันทีที่เสด็จอาเก้าสัมผัสถึงมันได้เขาก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างช้า ๆ
เขารอต่อไปไม่ไหวแล้ว หากให้เขารอต่อไปเช่นนี้เขาจะต้องระเบิดออกมาเป็นแน่
“อ่า……”
เมื่อความเปียกชื้นเพียงพอ เฟิ่งชิงเฉินก็คุ้นเคยกับการมีอยู่ของเสด็จอาเก้า เฟิ่งชิงเฉินเพิ่งจะร้องออกมาก็ถูกรักษาด้วยยาซึ่งดีที่สุดจากเสด็จอาเก้าอย่างไม่ต้องสงสัย เสด็จอาเก้าโอบกอดเฟิ่งชิงเฉินไว้และโจมตีนางอย่างต่อเนื่อง……
การกระทบที่รุนแรงครั้งแล้วครั้งเล่าดูเหมือนจะทะลุทะลวงเฟิ่งชิงเฉิน เฟิ่งชิงเฉินทนไม่ไหว จึงร้องของเสด็จอาเก้าอย่างมีชั้นเชิง “เจ้าช้าลงหน่อย เบาลงด้วย……”
แต่ดวงตาที่มีเสน่ห์และท่าทางที่อ้อนวอนของนางนั้นมีแค่ทำให้อีกฝ่ายครอบงำมากขึ้น การเคลื่อนไหวของเฟิ่งชิงเฉินมีแต่ทำให้เสด็จอาเก้าบ้าคลั่งมากกว่าเดิม
ผมยาวเปียกโชกพันอยู่รอบร่างกายของนางราวกับเป็นพันธนาการ ทำให้ปากของนางแห้ง ประกอบกับการกระแทกอันรุนแรง ทำให้การปะทันกันระหว่างทั้งสองเกิดเสียงดังขึ้น เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกว่าเอวของนางกำลังจะขาด จึงอดไม่ได้ที่จะร้องอ้อนวอนออกมาอีกครั้ง “เจ้าเบาลงหน่อย มันลึกเกินไป”
“เจ้ามิชอบงั้นหรือ?” เสด็จอาเก้าขมวดคิ้วและมองมาที่เฟิ่งชิงเฉินพร้อมกับลดความเร็วลงเล็กน้อย
เขายังไม่ลืมว่าวันมะรืนเฟิ่งชิงเฉินต้องยืนผ้าตัดกว่าสิบชั่วโมง หากทำให้เฟิ่งชิงเฉินบาดเจ็บเช่นนั้นคนที่โชคร้ายอาจต้องเป็นเขา
“ชอบ แต่มันลึกเกินไป ข้าปวดเอว” เฟิ่งชิงเฉินร้องเสียงงอแง เมื่อถูกกระตุ้นนางก็อดไม่ได้ที่จะครางออกมา ทำให้คนที่ได้ยินยิ่งยากได้ยินเสียงของนางเข้าไปอีก……
“เช่นนั้นเปลี่ยนท่า ข้ามั่นใจว่าเจ้าจะมิปวดเอว” ลากผ้านวมมาข้าง ๆ เขาแล้ววางไว้ใต้เอวของเฟิ่งชิงเฉินลง ปล่อยให้ด้านบนของนางยกสูงขึ้น เช่นนั้นทั้งสองคนจะได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น และยิ่งทำให้เสด็จอาเก้าเข้าไปในร่างกายของเฟิ่งชิงเฉินได้ลึกขึ้น
“นี่เจ้าจะทำอะไร” เฟิ่งชิงเฉินเหนื่อยจนไม่ไหวแล้ว ทำได้เพียงปล่อยไปตามความต้องการของเสด็จอาเก้า ในความเป็นจริง เฟิ่งชิงเฉินไร้อำนาจบนเตียงอย่างสิ้นเชิง นางไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเสด็จอาเก้าตั้งแต่แรกแล้ว
“ข้าได้ยินมาว่าท่านี้มันทำให้ตั้งครรภ์ได้ง่าย” เสด็จอาเก้าอธิบายออกไปอย่างเรียบง่าย ขณะเดียวกันก็ยกขาทั้งสองข้างของเฟิ่งชิงเฉินขึ้นมาพาดบนคอของเขา
ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีช่องว่างระหว่างพวกเขาทั้งสอง เสด็จอาเก้าแค่ขยับเพียงเล็กน้อยก็สามารถเข้าไปยังส่วนลึกของเฟิ่งชิงเฉินได้
“แฮ่ม แฮ่ม……เจ้าไปฟังใครมา” เฟิ่งชิงเฉินเกือบจะสำลักน้ำลายของตนเอง แต่ก็ต้องบอกเลยว่าท่านี้นางไม่รู้สึกปวดเอว เฟิ่งชิงเฉินไม่มีเหตุผลให้ต้องปฏิเสธ สนุกกับมันอย่างสงบ แต่……
ไม่รู้ว่าการกระทำนี้ไปกระตุ้นอะไรเสด็จอาเก้าหรือเสด็จอาเก้าไม่ได้ทำมันมานานเกินไป เสด็จอาเก้าจึงโจมตีเข้ามาอย่างรวดเร็วและเร่าร้อน……
อ่า ทั้งสองกำลังต่อสู้กันอย่างยิ่งใหญ่ แต่อาวุธกลับระเบิดออกมาแล้ว และเฟิ่งชิงเฉินก็พอใจกับมันอย่างมาก ของเหลวอุ่นเอ่อล้นไปด้านในร่างกายของเฟิ่งชิงเฉิน ประกอบกับร่างกายส่วนร่างที่ถูกยกขึ้นสูงของเฟิ่งชิงเฉิน ไม่มีของเหลวไหลหรือหลุดรอดออกมาแม้แต่น้อย
เป็นอย่างที่คิด ท่านี้ง่ายต่อการตั้งครรภ์!
ในที่สุดเฟิ่งชิงเฉินก็สัมผัสได้ว่าสิ่งที่อยู่ในร่างกายของนางกำลังเล็กลง จากนั้นมันก็ค่อย ๆ ถูกดึงออกมาจากร่างกายของเฟิ่งชิงเฉิน ทำให้นางรู้สึกผ่อนคลายลง
โชคดีที่ร่างกายนี้ยังอ่อนเยาว์ ดังนั้นจึงมีความอ่อนตัวและโยนไปตามความต้องการของเสด็จอาเก้าได้
หลังจากผ่านประสบการณ์รักอันเร่าร้อน ทั้งสองหายใจหอบเล็กน้อย แต่ดูจากท่าทางของเสด็จอาเก้าแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่พอใจ
ใช่ มันยังไปไม่ถึงจุดที่เขาคิดไว้แต่ทุกอย่างก็จบลงก่อน เช่นนั้นจะให้เขาพอใจได้อย่างไร
แน่นอน ระหว่างอายุสิบเจ็บกับสิบแปดย่อมมีความแตกต่างออกมาให้เห็นอยู่เสมอ
เสด็จอาเก้ามองน้องชายที่อ่อนแรงลงของตนเอง เขาหันไปกอดเฟิ่งชิงเฉินเงียบ ๆ หวังจะพักผ่อนและกลับมาสู้ศึกอีกครั้ง
“ยังปวดเอวอยู่หรือไม่?” เสด็จอาเก้านึกถึงเรื่องที่เฟิ่งชิงเฉินบอกว่าตนเองปวดเอวเมื่อครู่ จึงใช้โอกาสนี้ในการนวดให้กับเฟิ่งชิงเฉิน
“อ่า สบายมาก” แม้เสด็จอาเก้าไม่ได้เล่าเรียนมันมาเฉพาะทาง แต่สำหรับเลือดลมและจุดบนร่างกายเขาสามารถควบคุมมันได้เป็นอย่างดี เฟิ่งชิงเฉินถูกเสด็จอาเก้านวดไปเช่นนั้น นางรู้สึกสบายจนอธิบายออกมาไม่ได้
“ช่างสบายเหลือเกิน ออกแรงอีกหน่อย……เบาหน่อย ซ้ายหน่อย……” เฟิ่งชิงเฉินหลับตาลงด้วยใบหน้าผ่อนคลาย ออกคำสั่งเป็นครั้งคราว ช่วงแรกเสด็จอาเก้าก็ไม่ได้คิดอะไร แต่หลังจากนั้นเสด็จอาเก้ารู้สึกหดหู่ใจและหยุดมือของเขาอย่างกะทันหัน
“เหตุใดถึงได้หยุด?” เฟิ่งชิงเฉินลืมตาขึ้นและมองไปที่เสด็จอาเก้าด้วยใบหน้าสงสัย
“สบายมากงั้นหรือ?” เสด็จอาเก้าไม่ได้ตอบคำถามของเฟิ่งชิงเฉิน แต่เขาพลิกตัวและขึ้นมาขี่บนร่างของเฟิ่งชิงเฉิน
อันตราย!
เฟิ่งชิงเฉินกลืนน้ำลายและคิดจะซ่อนตัว แต่เวลานั้นนางก็พบว่านางไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ทำได้เพียงหดคอและพยักหน้า “อืม”
“ยังต้องการมันอีกหรือไม่?” เปลือกตาสั่นไหว ด้วยอารมณ์ที่มึนเมา เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นเหมือนเทวดาที่ถูกเนรเทศลงมาจากสวรรค์ แต่กลับมีท่าทางงดงามสุดจะพรรณนา ซึ่งทำให้เฟิ่งชิงเฉินเสียสติไปชั่วขณะ ลืมตาขึ้นและพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
เสด็จอาเก้าเห็นเช่นนั้นก็ทำตัวเหมือนสุนัขจิ้งจอกผู้มีชัย “ข้ารู้อยู่แล้วว่าชิงเฉินเจ้ายังต้องการมันอยู่ วางใจ ข้าจะทำให้เจ้าพอใจอย่างแน่นอน แต่……ข้ารู้สึกมิพอใจเป็นอย่างมาก ข้าปรนนิบัติให้เจ้าถึงเพียงนี้ แต่กลับได้ยินเพียงแค่คำว่าสบาย มิได้ยินเสียงครางของเจ้าสักครั้ง”
“อ่า……” เฟิ่งชิงเฉินถึงกับทำอะไรไม่ถูก
“ชิงเฉิน ข้าชอบฟังเสียงครางของเจ้า ครั้งนี้ข้าจะต้องทำให้เจ้าร้องออกมาให้ได้” เสด็จอาเก้าพูดอย่างชั่วร้าย
“ข้า……” เฟิ่งชิงเฉินกำลังจะอ้าปากแต่ก็ถูกเสด็จอาเก้าจูบจนพูดออกมาไม่ได้ คำพูดหลังจากนั้นถูกเสด็จอาเก้ากลืนลงคอไปหมดแล้ว
“ข้าผู้นี้มิยอมรับคำปฏิเสธ!”