นางสนมแพทย์อัจฉริยะ - บทที่ 966 เป็นดังคาด คนเจ้าเล่ห์
นางสนมแพทย์อัจฉริยะ บทที่ 966 เป็นดังคาด คนเจ้าเล่ห์
“เด็กในครรภ์ขององค์หญิงใหญ่เป็นของผู้อาวุโสหยินหลี่” จั่วอั้นเข้ามาขวางทางเสด็จอาเก้าไว้ แล้วกระซิบด้วยเสียงที่ได้ยินเพียงสองคนเท่านั้น
เสด็จอาเก้าเป็นคนที่สนทนาได้อย่างไร้แรงกดดันเมื่อเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของอำนาจของจักรพรรดิ แต่เขาก็ต้องตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งนี้
“เจ้าแน่ใจหรือ?” เสด็จอาเก้ารู้ว่าจั่วอั้นจะไม่กล่าวเรื่องไร้สาระแน่นอน และเพราะเหตุนี้เขาจึงรู้สึกตกใจ
ผู้อาวุโสหยินหลี่ที่เขาเห็นนั้นเป็นตัวปลอม หรือเขาถูกผู้อาวุโสหยินหลี่หลอก?
“แน่ใจยิ่งนัก” ความสามารถในการรวบรวมข้อมูลของมือสังหารยอดเยี่ยมเสมอมา ส่วนจั่วอั้นมีสถานะมิธรรมดา เขาสามารถเข้าออกจวนองค์หญิงใหญ่ได้อย่างอิสระ สืบข้อมูลที่คนนอกไม่สามารถสืบได้
“แต่ผู้อาวุโสหยินหลี่และองค์หญิงใหญ่มิรู้ องค์หญิงใหญ่ลูกในท้องเป็นของแม่ทัพคนรักของนาง ส่วนผู้อาวุโสหยินหลี่ก็คิดว่าองค์หญิงใหญ่สวมเขาให้เขาอีกครั้ง”
หากเรื่องราวก่อนหน้าทำให้เขารู้สึกหวาดกลัว ข่าวนี้ก็น่ากลัวยิ่งกว่า โชคดีที่เสด็จอาเก้าสงบสงบใจลงได้ มองไปทางจั่วอั้น เสด็จอาเก้ากล่าวอย่างใจเย็นว่า ข้ารู้แล้ว”
จากนิสัยของผู้อาวุโสหยินหลี่ สามารถหลอกเขาได้มิยาก แต่การที่สามารถหลอกองค์ใหญ่สำเร็จ อีกฝ่ายนับว่ามีความสามารถยิ่ง เสด็จอาเก้าพยักหน้าแล้วถอยออกไปก้าวหนึ่ง เดินผ่านจั่วอั้นไป
จั่วอั้นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง คิดมิถึงว่าเสด็จอาเก้าจะมิได้หยุดถาม ดังนั้นเขาจึงเข้าไปขวางทางเสด็จอาเก้าอีกครั้ง ไม่อยากรู้หรือว่าผู้ใดเป็นคนบงการ?”
“ข้าไม่อยากรู้” เสด็จอาเก้าโบกมือให้จั่วอั้นหลีกทาง “ข้าจะมิเข้าแทรกแซงเรื่องของซีหลิง”
จั่วอั้นเห็นว่าเสด็จอาเก้ากำลังจะจากไป เขาจึงชักดาบออกมาตรงหน้ากล่าวว่า “เสด็จอาเก้า ฟังข้าก่อน”
ใบหน้าอันเย็นชาของเสด็จอาเก้าไม่ได้แสดงความรู้สึกใด เขากล่าวอย่างเฉยเมยว่า “เจ้าอยากจะกล่าวสิ่งใด?”
“ข้าอยากทำความร่วมมือกับเจ้า”
“ตงามร่วมมือ?”
“เจ้าช่วยข้าปกป้องเด็กในครรภ์ขององค์หญิงใหญ่ แล้วข้าจะบอกว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้” จั่วอั้นไม่รู้ว่าเสด็จอาเก้าจะเห็นด้วยหรือไม่ แต่เสด็จอาเก้าคือคนเดียวที่ช่วยเขาได้
องค์หญิงใหญ่มีเรื่องไม่ดีสารพัด แต่ลูกในท้องของนางไม่เกี่ยว และเป็นน้องชายของจั่วอั้น เขาเป็นคนเข้าข้างคนกันเองแต่ไหนแต่ไรมา เขาไม่ต้องการให้เด็กคนนั้นกลายเป็นตัวหมากของคนเหล่านี้ตั้งแต่ยังไม่ได้เกิดมา และไม่อยากให้เด็กคนนี้ตายตั้งแต่ยังไม่ได้เกิด
เสด็จอาเก้าเผยอริมฝีปากของเขา เยาะเย้ยว่า “เจ้าคิดว่าข้าสนใจหรือเรื่องผู้อยู่เบื้องหลัง? จั่วอั้น นั่นเป็นเรื่องของซีหลิง และข้าจะไม่เข้าไปยุ่งด้วย”
เสด็จอาเก้ากล่าวด้วยท่าทางหนักแน่น แต่แท้จริงแล้วหากเขาไม่เข้ามาแทรกแซงคงแปลก หลังจากรู้เกี่ยวกับแผนการของจักรพรรดิซีหลิงแล้วเขาก็ไม่ปล่อยให้เด็กในท้องขององค์หญิงใหญ่เกิดมา
สำหรับเด็กที่รู้ตั้งแต่แรกว่าเอาชีวิตไม่รอดแน่ ไม่สำคัญว่าใครเป็นพ่อของเด็ก และไม่สำคัญว่าใครเป็นคนวางแผนเรื่องนี้
“เสด็จอาเก้า อย่าได้โกหกหน้าตาย แม้ว่าข้าจะตรวจสอบสิ่งที่เจ้าทำในซีหลิงได้ไม่มากนัก แต่ข้ารู้ว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่เจ้าจะไม่แทรกแซงเรื่องราวในซีหลิง”
“ข้าไม่ต้องการอะไรมาก เพียงต้องการให้เจ้าช่วยชีวิตเด็กในครรภ์ขององค์หญิงใหญ่ แล้วมอบให้ข้า ข้ารับประกันได้ว่าเขาจะไม่เข้าร่วมในการต่อสู้เพื่ออำนาจของจักรวรรดิ” เด็กคนหนึ่งจะต่อสู้เพื่อชิงบัลลังก์ต้องใช้เวลาอย่างน้อยสิบปี เขาเชื่อว่าในสิบปีนี้ตนจะสามารถสอนเด็กคนนั้นได้ดี อย่างน้อยก็ไม่เหมือนเขา
“ความรักระหว่างพี่น้องงั้นหรือ? จั่วอั้น ข้าไม่คิดว่าเจ้าเองจะมีความคิดเช่นนี้” ในโลกของเสด็จอาเก้า ไม่เคยมีคำว่ารักสำหรับพี่น้อง เขารู้แค่ว่าพี่น้องฆ่ากันเพื่อผลประโยชน์ได้
รอยยิ้มขมขื่นฉายแววออกมาจากดวงตาจั่วอั้น “เกี่ยวกับความรักระหว่างพี่น้อง ข้าแค่หวังว่าจะมีญาติคนหนึ่งในโลกนี้ที่เชื่อมโยงกับสายเลือดของข้า เสด็จอาเก้า เจ้าไม่ใช่ข้า และเจ้าจะไม่มีวันเข้าใจชีวิตของข้า ข้าไม่ใช่เด็กกำพร้าแต่กลับดูยิ่งกว่าเด็กกำพร้า ข้าไม่มีญาติ เด็กคนนั้นคือน้องของข้าในสายเลือด เป็นญาติคนเดียวในโลกบนใบนี้ ญาติที่เชื่อมโยงทางสายเลือด”
“ไม่ว่าจะเป็นการปกป้องคนของตน หรือเพราะข้าต้องการหาใครสักคนมาอยู่เป็นเพื่อน ข้าหวังว่าเขาจะมีชีวิตอยู่รอด เพราะหากใครสักคนที่อยู่คนเดียวนานเกินไป เขาอาจไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ไปทำไม และคงเป็นบ้าได้ง่ายๆ” ฆาตกรไม่ได้เกิดมาพร้อมความโหดเหี้ยม จั่วอั้นก็ถูกความจริงบีบบังคับให้โหดเหี้ยมเช่นกัน
เมื่อรู้ว่าองค์หญิงใหญ่ตั้งครรภ์ เขาก็ดีใจมาก ในที่สุดเขาก็มีญาติสักคนในโลกนี้ ส่วนองค์หญิงใหญ่กับบิดาของเขานะหรือ?
เขาไม่เคยยอมรับว่าคนที่ให้กำเนิดเขาแล้วทอดทิ้งไป ส่วนอีกคนไม่กล้ายอมรับเขา ราวกับว่าเขาไม่มีตัวตน คนเช่นนี้จะคู่ควรกับการเป็นบิดามารดาของเขาได้อย่างไร
“จั่วอั้นเจ้าเป็นคนแปลกนัก” การที่คนอื่นเรียกเขาว่าจั่วอั้นว่าฆาตกรบ้าคลั่งนั้นไม่ผิดเพี้ยน คนธรรมดาไม่สามารถเข้าใจความคิดของเขาได้
แม้เขาจะเป็นมือสังหาร แต่ไม่มีร่องรอยความดุดันอยู่ในร่างกายเขาเลย เขาหมกมุ่นอยู่กับการค้นคว้าบางอย่างแปลกๆ ทำให้ตัวเองดูเหมือนผีไม่มีผิด
อย่างไรก็ตาม เสด็จอาเก้าคิดว่าตอนนี้เขาคงเข้าใจจั่วอั้นแล้ว จั่วอั้นไม่ได้ชอบทำเรื่องค้นคว้าคิดค้นเหล่านั้น แต่เพราะเขาเหงาเกินไป จึงจำเป็นต้องหาเป้าหมายเพื่อดำเนินชีวิตต่อไป
ก่อนหน้านี้คือการค้นคว้าแปลกๆ แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปเป็นเด็กคนนี้
คนประเภทนี้จะว่าควบคุมง่ายก็ง่าย ว่าควบคุมยากก็ยาก จั่วอั้นมีบางอย่างที่ต้องการ แต่สิ่งที่เขาต้องการนั้นแปลกกว่าคนทั่วไป ไม่ใช่เพื่อพลังหรืออำนาจ ไม่เหมือนชื่อเสียงของมือสังหาร
จั่วอั้นที่เป็นแบบนี้ทำให้เกลียดไม่ลงจริงๆ เสด็จอาเก้าตัดสินใจเสี่ยงอีกครั้ง “ข้าเห็นด้วยกับเงื่อนไขของเจ้า ข้าจะช่วยองค์หญิงใหญ่ให้กำเนิดเด็กคนนั้น แต่เจ้าต้องรับประกันว่าเด็กคนนั้นจะไม่ปรากฏตัวในซีหลิง จะไม่ให้เขาถูกใช้ประโยชน์ พึงเข้าใจไว้ว่าข้ามีวิธีมากมายที่จะทำให้เด็กคนนั้นเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ตลอดเวลา”
เพียงแต่โอรสขององค์หญิง หากจักรพรรดิแห่งซีหลิงไม่ยืนกรานสนับสนุน เขาก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะขึ้นเป็นจักรพรรดิได้ การนำเด็กคนนี้ส่งไปยังจั่วอั้น ตราบใดที่เด็กคนนี้ไม่ได้อยู่ในซีหลิง จักรพรรดิแห่งซีหลิงและองค์หญิงใหญ่คงคิดว่าเขาตายไปแล้ว
“อย่ากังวลใจไป หลังจากน้องชายของข้าเกิดมา ให้เจ้าส่งเขาไปที่จวนเฟิ่ง ข้าคิดว่าเจ้าคงจะรู้สึกสบายใจกว่าหากมีเฟิ่งชิงเฉิงคอยดูแลเขา” จั่วอั้นต้องการเลี้ยงน้องชายคนนี้ แต่เขาไม่เคยคิดว่าจะเลี้ยงดูเจ้าตัวน้อยนี้ด้วยตัวเอง
เขาไม่รู้จักวิธีเลี้ยงลูก โยนไปให้เฟิ่งชิงเฉิงที่จวนเฟิ่งจะดีกว่า มีคนรับใช้พร้อม เขาแค่คอยเฝ้าดูเด็กคนนั้นเติบโต
คนๆ นี้ชอบพึ่งพาเฟิ่งชิงเฉิงเสียจริง แต่ก็ดีเหมือนกันที่มีจั่วอั้นอยู่ใกล้ๆ เฟิ่งชิงเฉิงจะปลอดภัยแน่นอน หลังจากชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสียแล้ว เสด็จอาเก้าก็พยักหน้าเห็นด้วย “อืม ย่อมได้ เจ้าสามารถบอกข้าได้หรือยังว่าใครกันต้องการให้ลูกของผู้อาวุโสหยินหลี่ขึ้นครองบัลลังก์”
ในความเป็นจริง แม้ว่าจั่วอั้นจะไม่ได้กล่าวอะไร เขาก็สามารถเดาได้ เมื่อจั่วอั้นกล่าวออกมา เขาจะได้รู้ว่าการคาดเดาของเขาผิดไปหรือไม่
จั่วอั้นรู้ว่าเสด็จอาเก้าพูดคำไหนคำนั้น เขาจึงกล่าวโดยไม่ลังเลว่า “จักรพรรดินีแห่งซีหลิง”
“เป็นนางจริงๆ เช่นนั้นทุกอย่างจึงเป็นไปดังคาด” เสด็จอาเก้าไม่แปลกใจเลย ท้ายที่สุดความสงสัยของซีหลิงเทียนอวี่ก็ไม่ได้ไร้เหตุผล
ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่แน่ใจว่าจักรพรรดินีเป็นผู้ขัดขวางซีหลิงเทียนอวี่ เพราะพวกเขาไม่พบแรงจูงใจของจักรพรรดินีที่จะทำร้ายบุตรชายของตน แต่ตอนนี้ดูเหมือนจักรพรรดินีจะมีแรงจูงใจบางอย่าง
จิตใจสตรีมีพิษยิ่งกว่างู ประโยคนี้มิผิดเพี้ยน
“เจ้าไม่แปลกใจหรือ?” ตอนที่เขารู้ข่าวนี้ ถึงกับอ้ำอึ้งไปเนิ่นนาน
เขาไม่เคยคิดว่าสตรีคนหนึ่ง สามารถฆ่าลูกชายของนางและบังคับลูกชายของนางได้เพื่อผลประโยชน์ของชายคนเดียว……