นายน้อยเจ้าสำราญ - ตอนที่ 1123 ความตื่นตระหนกของแกรนด์ดยุกฟิลิป
ตอนที่ 1123 ความตื่นตระหนกของแกรนด์ดยุกฟิลิป
“ปังปังปัง…”
เสียงเคาะประตูดังระรัวขัดคำเอ่ยของแกรนด์ดยุกฟิลิปไป เขารู้สึกเดือดดาลขึ้นมาทันใด !
โบลล์… เจ้ามีตาแต่หามีแววไม่ !
ข้าคงต้องโยนเขาลงทะเลเพื่อเป็นอาหารให้ฉลามเสียแล้ว !
สงครามครานี้ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว หน่วยเรือรบพร้อมเรือที่ทรงพลัง 100 ลำของฝูหล่างจีรังแกเรือรบ 18 ลำของศัตรูจนสิ้น สงครามครานี้ได้เห็นผลลัพธ์แล้ว เจ้าสารเลวโบลล์รีบเร่งนำข่าวดีมารายงานตนเยี่ยงนั้นหรือ ?
น่าจะเป็นเยี่ยงนั้น ในสายตาของแกรนด์ดยุกฟิลิป ศึกครานี้มิมีอันใดให้น่าพูดถึง แต่นี่มิใช่เวลาที่จะมารายงานข่าวดี !
เขาตัดสินใจเมินเฉยโบลล์ เพราะยังรื่นรมย์ใจได้มิเต็มที่
ทว่าต่อจากนั้น เสียงเคาะประตูที่ร้อนรนก็ดังขึ้นมาอีกครา
แกรนด์ดยุกฟิลิปสั่นเทาไปทั้งร่าง เขาทำได้เพียงสวมชุดคลุมและเดินไปเปิดประตูด้วยอารามขุ่นเคือง
“ข้ารู้แล้วว่าชนะแล้ว ! ”
“เจ้าจะเร่งรีบหามารดาเจ้าหรือ ! ”
“เพี๊ยะ…” เสียงตบดังลั่นที่ข้างหู โบลล์ถูกแกรนด์ดยุกฟิลิปตบจนโซเซ
เขารีบโค้งคำนับ ในตอนที่กำลังจะเอ่ยรายงาน คาดมิถึงว่าแกรนด์ดยุกฟิลิปจะเอ่ยขึ้นมาอีกว่า “ไสหัวไป ! มีตาหามีแววไม่ สำรวจความเสียหาย จัดระเบียบและออกเดินทางไปข้างหน้าต่อ คุณงามความดีเล็กน้อยแค่นี้นับมิได้เลยด้วยซ้ำ สิ่งที่พวกเราต้องการคือดินแดนเทพทางตะวันออก”
“นั่นคือดินแดนทองคำ ที่เต็มไปด้วยสาวงาม ! ”
“หากสามารถครอบครองดินแดนเทพทางตะวันออกได้แล้ว ข้าจะขอให้จักรพรรดินีพระราชทานมาร์ควิสให้แก่เจ้าอย่างแน่นอน โบลล์…เจ้าคือคนสนิทที่ติดตามอยู่ข้างกายข้า เหตุใดถึงมิตริตรองสักหน่อยกัน ? ”
ความคิดอยากตายได้ผุดขึ้นมาในใจของโบลล์ ข้าเองก็อยากไปดินแดนเทพทางตะวันออกเช่นกัน ทว่าก็เห็นกันอยู่ว่าจะล่มจมทั้งกองทัพแล้ว นี่ยังคิดจะไปดินแดนเทพทางตะวันออกอยู่อีกหรือ
จะมีชีวิตรอดกลับไปฝูหล่างจีได้หรือไม่ก็ยังมิรู้เลย เจ้ากำลังคิดอันใดอยู่กัน ?
ในช่วงเวลาแห่งความเป็นและความตายนี้ โบลล์มิได้คำนึงถึงความน่าเกรงขามของแกรนด์ดยุกฟิลิปผู้ยิ่งใหญ่ เขาลูบแก้มข้างที่ถูกตบ แล้วทันใดนั้นก็ตวาดเสียงดังว่า “หน่วยเรือรบสำรวจของเราใกล้จะจมดิ่งลงสู่ท้องทะเลจนหมดแล้ว ! ”
เมื่อแกรนด์ดยุกฟิลิปได้ยินดังนั้น ดวงตาก็พลันเบิกโพลงขึ้นมาทันใด เขาสงสัยว่าหูของตนเองจะมีปัญหา จึงเอ่ยถามอย่างยากที่จะเชื่อว่า “เจ้าเอ่ยว่าเยี่ยงไรนะ เจ้าบ้าไปแล้วใช่หรือไม่ ? ! ”
ในตอนนั้นเอง กองทัพเรือที่หนึ่งของต้าเซี่ยก็ได้ทำการหมุนเรือเสร็จสิ้น
เสียงปืนใหญ่ที่ดังสนั่นลั่นฟ้าดังขึ้นมาอีกครา คาดมิถึงว่าลูกกระสุนลูกหนึ่งจะตกใส่เรือธงของหน่วยเรือรบสำรวจที่อยู่ห่างออกไป 150 จั้ง
“ตู้ม… ! ”
ต่อจากเสียงระเบิดที่ดังขึ้น เรือรบหนี่หวางห้าวลำนี้ก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง แกรนด์ดยุกฟิลิปยังมิทันได้ตอบโต้อันใด ก็ถูกโยนออกมาจากห้องโดยสารทันที เขาล้มลงไปกับพื้นจนรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ หลังจากที่เขาลุกขึ้นยืนได้ ใบหน้าก็พลันซีดเผือด
“เจ้ามัวยืนหามารดาเจ้าหรือ ? ไปสิ รีบไปดูเร็วเข้า ! ”
หนี่หวางห้าวมิได้จมลง ทว่าดาดฟ้าเรือกำลังถูกกองไฟแผดเผา
“ดับไฟ… ทุกคนจงรีบมาดับไฟ ! ”
แกรนด์ดยุกฟิลิปวิ่งขึ้นไปยังสะพานด้านหน้าของดาดฟ้าเรือโดยยังสวมชุดนอนที่มิสามารถกำบังเรือนร่างได้ทั้งหมด สองเท้าของเขาเปลือยเปล่า แต่หาได้สนใจความหนาวเหน็บของฤดูใบไม้ผลิไม่
เขาวิ่งขึ้นไปยังหอสังเกตการณ์บนชั้นสอง ยกกล้องส่องทางไกลขึ้นมามองไปทั่วสารทิศ
ศัตรูมี 16 ลำ ถูกจมลงไป 2 ลำ ทว่าเรือรบของตนนั้น…
เขาสูดหายใจเข้าลึก นั่นเรือรบ 100 ลำเชียวนะ !
บัดนี้เหลืออยู่เท่าใดกัน ?
เขานับเลขในใจเงียบ ๆ เหลืออยู่เพียง 32 ลำเท่านั้น !
ในจำนวน 32 ลำนี้ มี 8 ลำที่กำลังมีควันพวยพุ่ง และมิทราบเช่นกันว่ายังมีกำลังรบอยู่หรือไม่
“โบลล์ ศึกครานี้ เจ้าจะจัดการเยี่ยงไร ! ”
ไฟในดวงตาของแกรนด์ดยุกฟิลิปลุกโชนเสียยิ่งกว่าไฟบนดาดฟ้าเรือ โบลล์รู้สึกหดหู่ใจมากยิ่งนัก นี่จะโทษข้าเยี่ยงนั้นหรือ ?
“ท่านแกรนด์ดยุก ! ”
โบลล์เผชิญหน้ากับโทสะของแกรนด์ดยุกฟิลิป “เรือรบของศัตรูสามารถโจมตีเรือรบของพวกเราได้อย่างแม่นยำในระยะห่าง 90 จั้ง ระยะหวังผลที่ดีที่สุดของปืนใหญ่ของพวกเราอยู่ที่ 45 จั้ง และอานุภาพปืนใหญ่ของศัตรูก็แข็งแกร่งกว่าพวกเรามาก เทคโนโลยีของเรือศัตรูก็ได้มาตรฐานอย่างถึงที่สุด เหมือนกับทัพใหม่แห่งท้องทะเลตรงที่ใดกัน ? เห็นได้ชัดว่าพวกเขาคือทหารที่ผ่านศึกมาร้อยสนามแล้ว ! ”
เมื่อแกรนด์ดยุกฟิลิปได้ยินดังนั้น จึงสงบจิตสงบใจลงได้ เยี่ยงนี้ก็แสดงว่าเป็นความผิดพลาดของรายงาน ที่ทำให้จักรพรรดินีประเมินกำลังของทัพศัตรูต่ำไป
แล้วตอนนี้จะทำอย่างไรดี ?
เพิ่มจะโจมตีได้สองระลอกเท่านั้น ฝั่งตนกลับเสียหายมากถึงเจ็ดส่วน หน่วยเรือรบทั้งสองในตอนนี้อยู่ห่างกัน 60 จั้ง อัตราการโจมตีของเรือศัตรูก็ดูจะแม่นยำมากยิ่งขึ้น หากเป็นเยี่ยงนี้ต่อไปเรื่อย ๆ เกรงว่าอย่างมากที่สุดหากทำลายเรือรบของศัตรูอีกสัก 2 ลำ หน่วยเรือรบสำรวจของตนต้องถูกฝังอยู่ที่ก้นทะเลทางตะวันออกนี้เป็นแน่
ทว่าหากกลับไปทั้งอย่างนี้…
หน่วยเรือรบสำรวจกองนี้คือเรือรบทั้งหมดที่มีในฝูหล่างจี ถูกสร้างขึ้นมาด้วยเม็ดเงินจำนวนนับมิถ้วนของจักรพรรดินี ทว่ากลับมลายลงด้วยมือของตนเองแล้ว
หากกลับไปยังฝูหล่างจี สิ่งที่รอต้อนรับตนอยู่คงมีเพียงความเกรี้ยวกราดของจักรพรรดินี มิต้องเอ่ยถึงตำแหน่งแกรนด์ดยุกนี้เลย เกรงว่าตนคงจะถูกจักรพรรดินีบั่นศีรษะเป็นแน่
ทว่าบัดนี้ยังจะสามารถทำอันใดได้อีกกัน ?
ในยามที่แกรนด์ดยุกฟิลิปสับสนจนมิอาจตัดสินใจได้ เรือรบของเขาก็ถูกจมลงไปอีก 2 ลำ
“ท่านแกรนด์ดยุก รีบตัดสินใจเถิด บนเส้นทางที่พวกเราเดินทางมา มิใช่ว่าผ่านประเทศอื่น ๆ มามากมายเยี่ยงนั้นหรือ เห็นได้ชัดว่าพวกเราสู้ดินแดนเทพทางตะวันออกนี้มิไหว มิสู้…” โบลล์สูดหายใจเข้าลึก และเสนอแนวคิดให้กับแกรนด์ดยุกฟิลิป “มิสู้ให้พวกเรากลับไปทำลายประเทศเล็ก ๆ สักแห่งหนึ่ง แล้วลงหลักปักฐานที่นั่นเสียยังจะดีกว่า”
ดวงตาของแกรนด์ดยุกฟิลิปเป็นประกายขึ้นมาทันใด ราวกับเห็นหนทางรอดชีวิตแล้ว
“ดี ! ถ่ายทอดคำสั่งของข้าออกไป ทั้งหมดจงถอนทัพและรีบถอนตัวอย่างเต็มกำลัง ! ”
หน่วยเรือรบที่หนึ่งกำลังรบอย่างเมามัน ในตอนที่พวกเขากำลังจะหันลำเรือ พบว่าเรือของศัตรูกำลังหันหัวเรือ มิถูก ! พวกเขากำลังกลับลำ
คิดจะหนีเยี่ยงนั้นหรือ ?
จั่วมู่ยกกล้องส่องทางไกลขึ้นมามองพร้อมกับแสยะยิ้ม “ทหารทุกนายจงฟัง ทัพของศัตรูได้แตกพ่ายแล้ว ไล่ตามไป โจมตีพวกมันให้จม ! ”
…..
…..
สงครามครานี้ต่างก็เป็นวิถีการรบที่แม้แต่ฟู่เสี่ยวกวนก็คาดมิถึง
ในสายตาของฟู่เสี่ยวกวน การเผชิญหน้ากับเรือรบจำนวนร้อยกว่าลำของฝูหล่างจีนั้น หากจั่วมู่มิแกร่งจริง เกรงว่าสถานการณ์ในตอนท้ายนั้น ทั้งสองฝ่ายจะพ่ายแพ้และบาดเจ็บสาหัส
เขาหรือแม้แต่กรมกลาโหมต่างก็มิคิดว่ากองทัพเรือที่หนึ่งจะกวาดล้างเรือของข้าศึกได้อย่างง่ายดายถึงเพียงนี้ โดยแลกกับการจมลงเพียง 2 ลำเท่านั้น คาดมิถึงว่าจะกวาดล้างเรือรบทั้งเก้าสิบลำของหน่วยเรือรบสำรวจของฝูหล่างจีลงได้
แกรนด์ดยุกฟิลิปได้สละเรือลำอื่นเพื่อชะลอความเร็วของกองทัพเรือศัตรู สุดท้ายเรือธงหนี่หวางห้าวของเขาก็ได้รอดพ้นจากความตายได้ด้วยการป้องกันของเรือรบ 8 ลำ
สุดท้ายแล้วจั่วมู่ค่อนข้างเสียใจ
“ความเร็วเรือของพวกเราเร็วกว่าเรือของศัตรู เหตุใดถึงมิตามไปกัน ? ” ฟางจาวหยางเอ่ยถาม
“หากไล่ตามออกไปอาจจะยาวนานกว่าสิบวันหรือครึ่งเดือนเลยก็เป็นได้ พวกเราอย่าได้ขัดขวางการออกสำรวจของฝ่าบาทเลย ศัตรูได้พ่ายแพ้แล้ว พวกเราได้บรรลุผลเป้าหมายของศึกครานี้แล้ว”
จั่วมู่ยืนอยู่บริเวณหัวเรือ จ้องมองออกไปยังมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา “หน่วยเรือรบของพวกเราได้รับประสบการณ์แล้ว ปืนใหญ่ของเรือพวกเรานำหน้าไปไกลกว่าศัตรู สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเหล่าทหารของพวกเรา…การแสดงออกของพวกเขาช่างยอดเยี่ยมยิ่ง ! ”
“เหล่าฟาง การเดินทางสำรวจครานี้ เดิมทีข้าค่อนข้างกังวลใจ ทว่าจากที่เห็นในตอนนี้ดูเหมือนจะมิจำเป็นแล้ว”
“ไปเถิด…ทั้งหมดกลับท่าเรือ”
กองทัพเรือที่หนึ่งของประเทศต้าเซี่ยกวาดล้างเรือรบเก้าสิบกว่าลำของศัตรูด้วยเรือรบเพียง 18 ลำ ข่าวชัยชนะครานี้ยังมิได้ปล่อยออกไป
ยามที่กองทัพเรือที่หนึ่งกลับไปถึงท่าเรือเซียอี๋ ฟู่เสี่ยวกวนและกองทัพเรือที่สามก็ได้มาถึงพอดิบพอดี
บนท่าเรือเซียอี๋ ทันทีที่ฟู่เสี่ยวกวนเหยียบลงบนผืนปฐพี ก็ได้พบเห็นคนผู้หนึ่งยืนอยู่บนท่าเรือ
…สวี่หยุนชิง !