นายน้อยเจ้าสำราญ - ตอนที่ 1130 ข้าต้องการสถานที่แห่งนี้
ตอนที่ 1130 ข้าต้องการสถานที่แห่งนี้
เสียงลมทะเลดังแว่วเข้ามาในหู
ฟู่เสี่ยวกวนสลบไปถึงสองวันเต็ม ในที่สุดก็ตื่นขึ้นมาอีกครา เขาลุกขึ้นนั่งแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างเห็นเป็นทิวทัศน์ทะเลกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา
เขายกมือขึ้นกุมหลังศีรษะแล้วฉีกยิ้มออกมาอย่างขมขื่น
นี่ย่อมเป็นผลงานของสวี่หยุนชิง เขาเป็นบุตรชายของนาง เขายังจะว่าอันใดได้อีกเล่า ?
แน่นอนว่าเขาเข้าใจความหมายของสวี่หยุนชิงดี ในเมื่อนางตัดสินใจทำเช่นนี้ ตนก็คงมิอาจกลับไปได้ในเร็ววันนี้เป็นแน่
เมื่อหลิวจิ่นที่นั่งอยู่ข้าง ๆ พบว่าฟู่เสี่ยวกวนรู้สึกตัวแล้ว จึงรีบเข้าไปถวายการรับใช้ทันที ในที่สุดใบหน้าของเขาก็เผยรอยยิ้มออกมาพลางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอันเบาว่า “ฝ่าบาททรงหิวหรือไม่ ? กระหม่อมจะไปจัดเตรียมอาหารมาถวายพ่ะย่ะค่ะ”
“ไปเถิด…”
หลิวจิ่นหันหลังกลับ ทว่ายังมิทันจะได้ก้าวขาออกจากประตู ฟู่เสี่ยวกวนก็ได้เรียกเขาเอาไว้อีกครา “ช้าก่อน ! เจ้าจงไปเรียกไป๋ยู่เหลียนและเฮ้อซานเตามาพบข้า”
“พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท ! ”
ฟู่เสี่ยวกวนลุกขึ้นมาแล้วเดินไปยังหน้าต่าง สายตาของเขามองออกไปที่นอกหน้าต่าง ท้องนภาสีครามมีนกนางนวลบินอยู่เหนือน่านน้ำ ลมทะเลช่างเย็นสบายเสียจริง มันช่วยทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นมามิน้อย
ในเมื่อมิอาจกลับไปได้ในเร็ววัน ก็จำต้องพิจารณาเรื่องที่ต้องทำต่อไปให้ละเอียดเสียแล้ว
หากมองในมุมส่วนตัว การเดินทางครานี้เขาต้องการไปหาสถานที่ที่สวยงาม เหมาะที่จะเป็นรากฐานของครอบครัวของเขาในอนาคต ในมุมส่วนรวมถือเป็นโอกาสอันดีในการสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศ เพื่อให้ต้าเซี่ยพัฒนาได้เร็วขึ้น
ทหารเรือของต้าเซี่ยกำลังถูกทดสอบ จากระดับของเทคโนโลยีในยุคสมัยนี้ คาดว่าในอนาคตทหารเรือต้าเซี่ยจะมีความสามารถชนิดไร้เทียมทาน
การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของสำนักวิทยาศาสตร์แห่งชาติและสำนักวิทยาศาสตร์ซีซานยังมิหยุดนิ่ง ขั้นตอนต่อไปคือการรอ หมายถึงรอปฏิวัติอุตสาหกรรมคราที่สอง
ส่วนเรื่องหอเทียนจี… เอาเถิด บัดนี้คงกลับไปตรวจสอบมิได้แล้ว
หลังกลับจากการสำรวจครานี้ สำนักงานส่วนกลางของต้าเซี่ยคงต้องเริ่มปรับตัวอย่างจริงจัง เยี่ยนซีเหวิน หนิงหยู่ชุนและหยุนซีเหยียนจะต้องให้ความสำคัญมาก ๆ เช่นนั้นให้เยี่ยนซีเหวินดูแลส่วนของสำนักเสมียนกลาง หนิงหยู่ชุนดูแลในส่วนของสำนักตรวจสอบพระราชโองการ และหยุนซีเหยียนดูแลในส่วนของสำนักเสนาบดี
กรมการค้าทั้งเหนือและใต้ควรจะรวมกันเป็นหนึ่ง มอบหมายให้หลี่ฉายเป็นผู้ดูแลกรมการค้า
เวลาผ่านไปชั่วครู่ ในขณะที่ฟู่เสี่ยวกวนกำลังวางแผนเกี่ยวกับเรื่องส่วนกลางในอนาคต ไป๋ยู่เหลียนและเฮ้อซานเตาก็ได้เดินเข้ามา
“นั่งก่อนสิ”
พวกเขาทั้งสองคนนั่งลง หลิวจิ่นสั่งให้นางในยกอาหารมาถวาย
“เสด็จแม่ข้าเอ่ยอันใดกับพวกเจ้า ? ” ฟู่เสี่ยวกวนหยิบตะเกียบขึ้นมาพลางจ้องไป๋ยู่เหลียนแล้วเอ่ยถาม
“ไทเฮาตรัสว่า…ต้าเซี่ยมิอาจขาดฝ่าบาทได้และไทเฮาก็มิอาจสูญเสียพระโอรสเยี่ยงฝ่าบาทไปได้ จักรพรรดินีและพระสนมของฝ่าบาทก็มิอาจขาดพระองค์ไปได้ ดังนั้น…กระหม่อมจึงเห็นว่าสิ่งที่ไทเฮาเอ่ยมานั้นถูกต้อง”
ฟู่เสี่ยวกวนเลิกคิ้วขึ้นทันใด “เอาเถิด… พวกเรามาเริ่มทำเรื่องสำคัญกัน”
ไป๋ยู่เหลียนผ่อนคลายลงมิน้อย ในเมื่อฟู่เสี่ยวกวนเอ่ยออกมาเช่นนี้ นั่นหมายความว่าเขายอมรับได้แล้ว มิเช่นนั้นเขาคงจะโวยวายให้หันหัวเรือกลับไปเป็นแน่ เนื่องจากคำเอ่ยของไทเฮาโดยปกติแล้วมิได้มีอำนาจเพียงพอที่จะบังคับฝ่าบาทได้
“ซานเตา กางแผนที่เดินเรือออกประเดี๋ยวนี้”
ฟู่เสี่ยวกวนบรรจงกินโจ๊กและเครื่องเคียงต่าง ๆ ก่อนจะให้หลิวจิ่นเก็บจานชามกลับไป เขาพิจารณาดูแผนที่แผ่นนี้อย่างละเอียด
“เชลยที่จั่วมู่จับได้ในครานี้ ได้ทำการยืนยันแล้วเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
“ฝ่าบาท พวกเขายืนยันแล้ว กองทัพของฝูหล่างจีได้เดินทางมาจากเส้นทางนี้” เฮ้อซานเตายื่นมือออกไปชี้บนแผนที่ แล้วเอ่ยอย่างตื่นเต้นว่า “ฝ่าบาท แม่ทัพไป๋ พวกท่านจงดู…”
“สถานที่แห่งนี้ อยู่ห่างจากหยวนตงเต้าราวพันกว่าลี้ ตรงนี้มีประเทศนามว่าซ่างหลัว จากที่ชาวฝูหล่างจีให้การมา ประเทศเล็ก ๆ นี้มีประชากรเพียงสิบล้านกว่าคนเท่านั้น ทว่ามีพื้นที่กว้างขวางมากยิ่งนัก ทั้งยังอยู่ในยุคของอาวุธเย็นอีกด้วย”
เฮ้อซานเตาใช้นิ้วชี้ลากไปตามแผนที่ จากนั้นก็เอ่ยขึ้นมาอีกว่า “สถานที่แห่งนี้คือหมู่เกาะ ที่เกาะนั้นมีประเทศหนึ่งนามว่าประเทศเซียถู ชาวฝูหล่างจีเอ่ยว่าสถานที่แห่งนี้ค่อนข้างจะอุดมสมบูรณ์ และยังอยู่ในยุคของอาวุธเย็นเช่นกัน”
“ทั้งสองสถานที่นี้ ในคราก่อนหลิวจิ่นยังมิได้ค้นพบ บัดนี้พวกเราได้ทำตามคำสั่งของฝ่าบาท ซึ่งกำลังเดินเรือไปยังซ่างหลัว เมื่อพวกเราเดินทางไปถึงประเทศเซียถู จากแผนที่เดินเรือเป็นไปตามที่หลิวจิ่นเคยบอกไว้ กองทัพเรือจะเดินทางไปถึงช่องแคบเบริง”
“จากแผนที่แผ่นนี้และเปรียบเทียบกับคำบอกเล่าของเชลย พบว่าหากกองทัพเรือข้ามผ่านช่องแคบเบริงไปยังมหาสมุทรอาร์กติก ก็จะพบกับประเทศที่ใหญ่มากยิ่งนัก มันมีนามว่าประเทศหลัวซา พวกเขาได้เข้าสู่อารยธรรมอาวุธปืน จากนั้นเมื่อเดินทางต่อไปในทิศตะวันตก ก็จะพบกับสถานที่ที่เรียกว่าทวีปยุโรป ซึ่งมันตั้งอยู่ตรงนี้”
มือของเฮ้อซานเตาชี้ไปยังแผนที่ “นี่คือฝูหล่างจี จากประเทศหลัวซาไปยังมีอีกหลายประเทศ อาทิเช่น จักรวรรดิเยอรมนี ฝรั่งเศสและหลูซีถ่า ประเทศเหล่านี้ล้วนเป็นประเทศที่แข็งแกร่ง พวกเขาได้เข้าสู่อารยธรรมอาวุธปืนแล้ว อีกทั้งยังมีความชำนาญในการทำสงครามทางทะเลอีกด้วย”
“ดังนั้นแม่ทัพใหญ่ไป๋และพวกเราจึงได้วิเคราะห์ว่า หากการเดินทางในครานี้เกิดสงครามขึ้น คาดว่าจะเริ่มจากประเทศหลัวซา มิแน่ว่าพวกเราอาจจะต้องรบไปจนถึงฝูหล่างจี”
ฟู่เสี่ยวกวนมองดูแผนที่นี้แล้วยกยิ้มขึ้น การพัฒนาของโลกใบนี้แตกต่างจากโลกใบเดิมอยู่บ้าง
จากทวีปเอเชียไปยังทวีปยุโรป แท้ที่จริงเส้นทางแรกควรเข้าสู่มหาสมุทรอินเดียผ่านช่องแคบมะละกา จากนั้นก็มุ่งไปยังทะเลเมดิเตอร์เรเนียนผ่านช่องแคบมานเดและคลองสุเอซ
ดังนั้นควรจะมีเส้นทางเดินเรืออีกเส้นทางหนึ่ง เรื่องนี้ในอนาคตเขาค่อยไปสำรวจดู
“อืม บัดนี้ใช้เส้นทางเดินเรือนี้ไปก่อน ทุกประเทศที่เคลื่อนผ่านพวกเราต้องหยุดลง แม่ทัพไป๋…”
ฟู่เสี่ยวกวนจ้องมองไปยังไป๋ยู่เหลียน “เพื่อความปลอดภัย มิว่าพวกเราจะหยุดลงยังประเทศใดก็ตาม จงให้กองนาวิกโยธินขึ้นบกไปก่อน ส่วนขุนนางของกรมการค้าและกรมพิธีการ จะต้องได้รับการคุ้มกันจากกองนาวิกโยธิน”
“เป้าหมายของพวกเรายังคงเหมือนเดิม หากประเทศเหล่านี้ยินยอมลงนามข้อตกลงทางการค้ากับเราโดยสุจริตและอนุญาตให้เราตั้งกองกำลังในพื้นที่พวกเขาได้ พวกเราก็มิจำเป็นต้องใช้กำลัง ทว่าถ้าประเทศเหล่านี้มิซื่อสัตย์…ก็ให้เหล่าทหารทำการต่อสู้เสีย”
“พ่ะย่ะค่ะ ! ”
ฟู่เสี่ยวกวนมองไปบนแผนที่นั้นอีกครา เขามองไปยังช่องแคบเบริง สถานที่แห่งนี้ศิษย์พี่ใหญ่ซูเจวี๋ยตั้งชื่อมันว่าอะแลสกา นั่นหมายความว่าเป็นส่วนของอเมริกาเหนือ สถานที่แห่งนี้เขาจะต้องเดินทางไปดูให้ได้ มีความเป็นไปได้สูงเลยทีเดียวว่าสถานที่แห่งนี้จะยังคงมีชนพื้นเมืองอาศัยอยู่
มิรู้ว่าชาวอเมริกันเข้ายึดครองพื้นที่อุดมสมบูรณ์นี้แล้วหรือยัง หากว่ายัง… ฮึ ๆ นี่เป็นโอกาสดีเลยทีเดียวที่เขาจะทำการอพยพประชากร
“เมื่อไปถึงช่องแคบเบริง ข้าจะพาเรือรบ 2 ลำและทหารจำนวน 10,000 นายไปที่นี่…”
มิมีเส้นทางจากช่องแคบเบริงไปยังอเมริกาใต้ในแผนที่การเดินเรือ ฟู่เสี่ยวกวนจึงหยิบแท่งถ่านขึ้นมา “ที่นี่คาดว่าจะเป็นดินแดนขนาดใหญ่ที่ยังคงมีชนเผ่าพื้นเมืองอาศัยอยู่ มันง่ายต่อการเข้ายึดครองข้าอยากไปดูสักหน่อย”
ไป๋ยู่เหลียนตกตะลึงขึ้นมาทันใด “มิได้พ่ะย่ะค่ะ ! หากจะไปก็ต้องไปด้วยกัน ไทเฮาทรงรับสั่งกับกระหม่อมไว้ว่าให้ดูแลความปลอดภัยของฝ่าบาทให้ดี ! ”
“ทว่าหากไปด้วยกันก็จะเสียเวลาไปมากโข ! ”
“มิเป็นไรพ่ะย่ะค่ะ เดิมทีการเดินทางครานี้ก็เป็นเพียงการออกสำรวจมิใช่หรือ มิได้มีเวลาที่คาดการณ์เอาไว้อย่างแน่ชัดสักหน่อย”
ไป๋ยู่เหลียนและเฮ้อซานเตาปฏิเสธความคิดนี้ของฟู่เสี่ยวกวนทันที ฟู่เสี่ยวกวนยังจะเอ่ยอันใดได้อีกกัน ?
“เอาล่ะ ข้าจะบอกกับพวกเจ้าก็ได้ สถานที่แห่งนี้เรียกว่าอเมริกาเหนือ” เขาใช้แท่งถ่านวงไปบนแผนที่ที่ว่างเปล่า “ข้าต้องการยึดครองสถานที่แห่งนี้ ! ”