นายน้อยเจ้าสำราญ - ตอนที่ 1163 ชนะแล้ว
ตอนที่ 1163 ชนะแล้ว
อันวาหนึ่งในนายทหารชั้นผู้น้อยของแคว้นซ่างหลัวที่ประจำการอยู่ ณ หุบเขาลั่วหลาง เขามีอายุเพียงแค่ 18 ปีเท่านั้น เขาถูกบรรจุเข้ามาในกองทัพเป็นปีแรก เขาเป็นคนหนุ่มที่เปี่ยมไปด้วยไฟอันร้อนแรง
กองทัพของแคว้นซ่างหลัวถูกทหารของแคว้นซูเฟิงโจมตีจนแตกพ่าย เขาเองก็หนีตายไปกับทหารที่รอดชีวิตเช่นกัน
ในระหว่างที่กำลังหนีอยู่นั่นเอง เขาก็ได้พบกับกองทัพต้าเซี่ยที่กำลังมุ่งหน้าไปหาความตาย เขามิเหมือนกับทหารชราเหล่านั้นที่เอาแต่เอ่ยวาจากระแทกกระทั้นส่อเสียด เขาจ้องมองทหารต้าเซี่ยด้วยสายตาเคารพนับถือ เยี่ยงไรเสียพวกเขาก็เป็นกองทัพที่จะเข้าไปปะทะกับศัตรู
พวกต้าเซี่ยเป็นเหมือนนายทหารสามหมื่นคนของซ่างหลัวเสียที่ไหน เพิ่งปะทะกับข้าศึกได้มินานก็แพ้พ่ายจนมิเหลือสภาพ แท้จริงแล้วพวกเขามิได้มีใจอยากรบเสียด้วยซ้ำ วัตถุประสงค์ที่มาเป็นทหารก็เพื่อให้ตนเองมีอาหารประทังชีวิตไปวัน ๆ ก็เท่านั้น !
พวกขี้ขลาด !
อันวาถือหอกยาวยืนอยู่บนที่ราบอาลันลา เขาหยุดฝีเท้าลง มิขอเดินร่วมขบวนไปกับทหารที่รอดชีวิตเหล่านั้นอีกต่อไป
โดร่าหัวหน้าทหารก็หยุดฝีเท้าลงเช่นกัน เขาทอดสายตามองชาวต้าเซี่ยที่วิ่งเร็วจนจากไปไกลแล้ว โดร่าตบบ่าของอันวาแล้วยิ้มเยาะ “เป็นอันใดไปเยี่ยงนั้นหรืออันวา เจ้าวิ่งมิทันพวกเขาใช่หรือไม่ ? ”
“ท่านโดร่า ข้ามิเข้าใจ ข้ามิเข้าใจว่าเหตุใดกองทัพ 30,000 นายของพวกเราถึงมิอาจรักษาหุบเขาลั่วหลางเอาไว้ได้ ? ”
โดร่าเลิกคิ้วขึ้น ยกยิ้มยิงฟัน “ก็เพราะ…สู้ไปก็ตายเสียเปล่า ๆ น่ะสิ ยอมมีชีวิตอย่างมิมีเกียรติยังจะดีเสียกว่า แคว้นซ่างหลัวของเรานั้นอ่อนแอและเปราะบาง ผู้ที่อ่อนแอย่อมถูกรังแกเป็นธรรมดา พวกเรามิมีทางรบชนะกองทัพของแคว้นซูเฟิงหรอก เยี่ยงไรเสียที่ราบอาลันล่าก็ต้องตกเป็นของแคว้นซูเฟิงอยู่ดีมิว่าจะช้าหรือเร็ว เมื่อเป็นเช่นนั้นจะสู้ให้ได้อันใดขึ้นมากัน ? ”
“ท่านคิดเยี่ยงนี้จริง ๆ หรือ ? หากเป็นเช่นนั้นจริง เหตุใดชาวต้าเซี่ยถึงมิหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย ? ” อันวาหันหลังไปมองอีกครา “แคว้นซ่างหลัวคือบ้านเกิดของพวกเรา แม้แต่ชาวซ่างหลัวเองก็มิต้องการ ทว่าพวกเขาเป็นชาวต้าเซี่ยกลับยอมสละชีพเพื่อมาตุภูมิของพวกเรา…พวกเราจะส่งพวกเขาไปตายทั้งอย่างนี้น่ะหรือ ? ”
“มิได้การ…ข้าต้องกลับไป ! ”
“เจ้าจะกลับไปทำอันใด ? ” โดร่าผงะ
“ข้าจะไปดู ถ้าหาก…ถ้าหากแคว้นซูเฟิงถอนทัพไปเมื่อใด ข้าจะเข้าไปเก็บศพชาวต้าเซี่ย”
โดร่านิ่งเงียบอยู่เนิ่นนาน “ได้สิ ! ข้าจะไปเป็นเพื่อนเจ้าเอง”
“ท่านจะไปทำอันใดกัน ? ”
“ข้าทำศึกสงครามมาทั้งชีวิต ข้าจำได้ว่าข้ามิเคยชนะศึกเลยสักครา ข้ารู้สึกเศร้าใจมากยิ่งนัก ไปดูกันเถิด พวกเราขึ้นไปบนหุบเขาลั่วหลางแล้วคอยมองที่ราบอาลันล่าจากบนนั้นกันเถิด เพราะต่อไปนี้…คงจะมิมีโอกาสได้เห็นมันอีกแล้ว”
“…ได้สิ ! ”
พวกเขาทั้งสองคนหันหลังกลับไปที่หุบเขาลั่วหลาง
ในตอนนั้น ศึกที่หุบเขาลั่วหลางใกล้ถึงจุดอวสานเต็มที
ถนนที่แคบเป็นอุปสรรคในการหลบหนี กองทัพซูเฟิง 50,000 นายหลบหนีออกมาได้เพียงแค่ 5,000 นายเท่านั้น ส่วนอีก 45,000 นายที่เหลือ ถูกกองทัพของหวงจินเย่สังหารจนสิ้นแล้ว
“แบ่งทหารประจำการอยู่ที่นี่ 300 นาย นำศพพวกนี้ไปเผาบนที่ราบอาลันล่า คนนำทาง ได้โปรดนำทาง ! ส่วนทหารที่เหลือให้ออกเดินทางตามข้ามา ! ”
“ท่านแม่ทัพแย่งชิงภูเขาทองคำสามลูกกลับมาจากแคว้นเทียนเย่าได้สำเร็จ พวกเราไปรบกับแคว้นซูเฟิงครานี้ก็จะมิกลับมามือเปล่าเช่นกัน”
คนนำทางผู้นี้เป็นสายสืบมากประสบการณ์จากแคว้นซ่างหลัว เขายังคงตื่นตกใจจนตัวแข็งทื่อกับเหตุการณ์เมื่อครู่
เขามิเคยคิดฝันมาก่อนว่าจะมีกองทัพที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้อยู่จริง ๆ !
แรกเริ่มเขาคิดว่า หากเขานำนายทหารทั้งสามพันนายนี้เข้าสู่หุบเขาลั่วหลาง ก็อาจจะมิได้กลับออกมาอีก เขามิคิดมิฝันว่าเรื่องราวจะกลายเป็นเช่นนี้
เมื่อทหารซูเฟิงจอมยโสโอหังมาอยู่เบื้องหน้าทหารต้าเซี่ย พวกเขามิต่างอันใดกับแกะที่กำลังรอความตายอยู่หรอก
พวกเขามิมีกำลังมากพอที่จะโต้ตอบเสียด้วยซ้ำ ทหารต้าเซี่ยเป็นดั่งยมทูตที่คอยกระชากวิญญาณของพวกเขาอย่างโหดเหี้ยม
บัดนี้เขารู้สึกดีใจมากยิ่งนัก ดีใจที่ฝ่าบาทยอมสยบแทบเท้าของจักรพรรดิต้าเซี่ย ดีใจที่ซ่างหลัวกลายมาเป็นประเทศอาณานิคมของต้าเซี่ย ! ดีใจที่มีกองทัพที่แข็งแกร่งของต้าเซี่ยคอยหนุนหลัง จากนี้ต่อไปจะมิมีแคว้นใดกล้ามาข่มเหงราวีแคว้นซ่างหลัวที่อ่อนแออีก !
นี่ถือเป็นโชคดีของแคว้นซ่างหลัว !
และเป็นโชคดีของราษฎรซ่างหลัวด้วยเช่นกัน !
เขานำกองทัพวิ่งข้ามที่ราบอาลันล่า ที่ราบกว้างใหญ่แห่งนี้กลับมาอยู่ในมือของแคว้นซ่างหลัวอีกครา ต่อจากนี้ไป เขาจะนำทหารต้าเซี่ยข้ามเทือกเขาพีเรีย จากนั้นก็ตรงไปยังเมืองหลวงของแคว้นซูเฟิง !
……
……
บัดนี้อันวาและโดร่าได้เดินทางมาถึงหุบเขาลั่วหลางแล้ว
โดร่าทหารแก่ผู้มากประสบการณ์ได้เงี่ยหูฟังอยู่ครู่หนึ่ง ใบหน้าที่ผ่านความลำบากมาอย่างโชกโชนเผยความฉงนออกมา “เหตุใดถึงเงียบเพียงนี้เล่า ? ”
“หรือว่าทหารต้าเซี่ยจะถูกทหารซูเฟิงสังหารจนหมดแล้ว ? ”
“คาดว่าจะเป็นเช่นนั้น อันวา…พวกเราไปกันเถิด กองทัพต้าเซี่ยคงพ่ายแพ้ยับเยินแล้ว”
อันว่าอ้าปากค้าง เขาคิดว่าเพียงแค่ 3,000 นายคงมิคณนามือข้าศึกที่มีมากถึง 50,000 นายหรอก กองทัพต้าเซี่ยย่อมถูกโจมตีจนแตกพ่ายอย่างแน่นอน
“เฮ้อ…” เขาถอนหายยาวพลางเงยหน้าขึ้นเพื่อหาเถาวัลย์โรยตัวลงไปจากหน้าผา “ท่านโดร่า ท่านหาที่หลบภัยเถิด อย่าให้ชาวซูเฟิงมันเห็นเข้าล่ะ ประเดี๋ยวข้าจะปีนขึ้นไปดูลาดเลาสักหน่อย”
“ยังมีอันใดให้ดูอีกกัน ? ”
“เยี่ยงไรเสีย พวกเขาก็ได้เสียสละชีวิตของตนเองเพื่อปกป้องแคว้นซ่างหลัวของเรา ต่อให้มิได้ฝังศพพวกเขาให้เป็นเรื่องเป็นราว ทว่าหากได้ไปดูสักหน่อยก็คงรู้สึกสบายใจมากขึ้น”
โดร่ามิได้เอ่ยห้ามอีก เพียงเอ่ยเตือนว่า “ระวังหน่อยก็แล้วกัน อย่าให้พวกซูเฟิงมันเห็นเข้าล่ะ ! ”
“อืม…”
อันวาแบกหอกยาวขึ้นบนบ่า สองมือของเขาจับเถาวัลย์ไว้แน่น จากนั้นก็ปีนขึ้นไปอย่างคล่องแคล่วราวกับลิง
หลังจากนั้นเพียงชั่วครู่ เขาก็ปีนขึ้นไปถึงยอดเขา เมื่อวิ่งไปดูริมหน้าผาเขาก็ต้องตื่นตกใจจนตาแทบถลนออกจากเบ้าหุบเขาลั่วหลางนั้นว่างเปล่า มิมีผู้ใดอยู่แม้แต่คนเดียว !
มิมีคนที่รอดชีวิตหลงเหลืออยู่เลย แม้แต่ศพของผู้วายชนม์สักคนก็ยังมิมี !
อันวายืนนิ่งอึ้งกับสิ่งที่เกิดขึ้น ตกลงมันเกิดอันใดขึ้นกันแน่ ?
มิว่าจะเป็นทหารต้าเซี่ยกำจัดทหารซูเฟิงหรือทหารซูเฟิงกำจัดทหารต้าเซี่ยจนย่อยยับ หรือต่อให้พังพินาศกันทั้งคู่ เยี่ยงไรก็ต้องมีซากศพทิ้งไว้ให้เห็นต่างหน้าบ้าง !
หรือว่าข้าอยู่ไกลเกินกว่าที่จะมองเห็นกันนะ ?
เขาเดินลงไปตามแนวเทือกเขา เดินเข้าไปใกล้หุบเขาลั่วหลางมากขึ้นและมากขึ้นเรื่อย ๆ อยู่ ๆ ความประหม่าก็ได้ก่อตัวขึ้นมาทันพลัน มิใช่เพราะอันใดหรอก เป็นเพราะมันเงียบจนผิดวิสัยต่างหาก
เขายังมองมิเห็นผู้ใดแม้แต่คนเดียว
เขาเดินลงไปเรื่อย ๆ สุดท้ายก็ปีนเถาวัลย์ลงมายืนอยู่ด้านล่างหุบเขา
ที่นี่เคยเป็นฐานที่มั่นของทหารซ่างหลัวมาก่อน
ฐานที่มั่นยังอยู่ที่เดิม
รอยโลหิตที่เจิ่งนองบนพื้นยังมิทันแห้ง
อาวุธนานาชนิดตกอยู่เต็มพื้น
ทว่ากลับไร้วี่แววของผู้คนดังเดิม !
เขาเดินสำรวจในหุบเขาที่โล่งเปล่าแห่งนี้ จากนั้นก็พบซากมือหนึ่งข้างบริเวณใกล้เคียง พบเท้าหนึ่งข้างจากอีกมุมหนึ่ง เขาเดินสำรวจจนทั่วหุบเขา สุดท้ายก็ค้นพบว่าสถานที่แห่งนี้มิมีผู้ใดหลงเหลืออยู่แม้แต่คนเดียว
แม้แต่ร่างไร้วิญญาณก็มิมีสักร่าง
เขาวิ่งไปตรงทางเข้าหุบเขาอีกด้านหนึ่ง จากนั้นก็ปีนกลับขึ้นไปบนหน้าผาอีกครา…
จากนั้นก็ต้องเบิกตาโตด้วยความตื่นตกใจอีกครา เพราะเขาเห็นศพที่กองพะเนินเป็นภูเขาซึ่งอยู่ห่างออกไปราว 1 ลี้
ศพเหล่านั้นกำลังจะถูกเผา
จากนั้นควันไฟก็พวยพุ่งขึ้นมา
หมู่นกแร้งบินว่อนอยู่บนท้องนภา บางตัวได้ลงมากัดกันซากศพประดุจกำลังดื่มด่ำกับอาหารอันโอชะ
หลังจากนั้น เขาก็เห็นทหารในชุดเกราะสีน้ำเงิน !
ทหารชุดเกราะสีเงินเหล่านั้นยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อไฟลุกโชนขึ้นมา เมื่อหมู่นกแร้งเหล่านั้นตกใจจนบินหนีเตลิดไปแล้ว ทหารในชุดเกราะเหล่านั้นถึงได้เดินจากไป
พวกเขามุ่งหน้าไปยังที่ราบอาลันล่าอย่างรีบร้อน
อันวาเงยหน้าขึ้นมองสิ่งที่ตั้งตระหง่านอยู่ไกล สิ่งนั้นก็คือเทือกเขาพีเรีย !
พวกเขาคือทหารต้าเซี่ย !
พวกเขาได้กำจัดทหาร 50,000 นายของแคว้นซูเฟิงจนตายเรียบ !
บัดนี้พวกเขากำลังเข้าไปโจมตีแคว้นซูเฟิงเยี่ยงนั้นหรือ ?
อันวารีบไต่ลงมาจากหน้าผา จากนั้นก็วิ่งอย่างสุดกำลังไปยังทางเข้าหุบเขาอีกด้าน เมื่อเขาวิ่งมาถึงทางเข้าหุบเขา พบว่าโดร่ากำลังรออยู่ที่นั่น
“เหตุใดเจ้าถึงวิ่งออกมาจากด้านในล่ะ ? ”
“ท่านโดร่า พวกเขาชนะแล้ว ทหารต้าเซี่ยชนะแล้ว ! ”
“ด้านในนั้นว่างเปล่า มิมีผู้ใดหลงเหลืออยู่แม้แต่คนเดียว ! พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปทางเทือกเขาพีเรีย คาดว่าจะเคลื่อนทัพไปโจมตีแคว้นซูเฟิง ! ”
“เมื่อท่านกลับไปแล้วก็จงบอกท่านพ่อกับท่านแม่ของข้าว่า…ข้าจะไปร่วมทัพกับทหารต้าเซี่ย พวกท่านโปรดวางใจ ! ”
เมื่อสิ้นเสียง อันวาก็วิ่งเข้าไปด้านในช่องแคบระหว่างหุบเขาอย่างสุดกำลัง มินานก็หายไปจากสายตาของโดร่าในที่สุด
“ชนะเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
“นี่…ชนะจริง ๆ หรือ ? ”
โดร่ารีบวิ่งเข้าไปในหุบเขาลั่วหลาง เขายืนอยู่บนหน้าผาแล้วทอดสายตามองไปยังที่ราบอาลันล่า เขาร้องไห้จนเสียงแหบแห้ง จากนั้นก็หัวเราะออกมาอย่างสุดเสียง
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ… ซ่างหลัว อ่า…ไม่สิ ต้าเซี่ยชนะแล้ว ! ”