นายน้อยเจ้าสำราญ - ตอนที่ 1221 บังเอิญพบเจอ
ตอนที่ 1221 บังเอิญพบเจอ
มหาวิทยาลัยฉางอันตั้งอยู่บนถนนเสวียฝู
เมื่อปีใหม่มาเยือน มหาวิทยาลัยย่อมหยุดยาวเป็นธรรมดา
ชิวชิงหยุนองค์ชายสี่แห่งแคว้นบรูไนอาศัยอยู่ในคฤหาสน์สุดหรูที่เขาซื้อมาด้วยเงินของตนเอง คฤหาสน์สุดหรูนี้ตั้งอยู่บนถนนเสวียฝูเช่นกัน โดยมีระยะห่างจากมหาวิทยาลัยฉางอันเพียงแค่สิบกว่าจ้างเท่านั้น
หลายวันมานี้คุณชายชิวรู้สึกมิค่อยเบิกบานใจเท่าใดนัก เพราะเขามิได้พบถานหงเย่ยามที่ไปเยือนกั๋วเซ่อเทียนเซียงเมื่อคราก่อน หลังจากนั้นอีกสองคราก็มิเจอแม่นางเช่นกัน
ท้ายที่สุดแล้วเมื่อเอ่ยถามแม่เล้าเซี่ยเขาถึงได้รู้ว่าถานหงเย่ถูกไถ่ตัวออกจากกั๋วเซ่อเทียนเซียงแล้ว แต่ก็มิรู้เช่นกันว่านางไปอยู่แห่งหนใด
เรื่องนี้ทำให้คุณชายชิวเศร้าระทมอยู่นาน เพราะถานหงเย่เป็นสตรีที่สวยเกินบรรยาย นางมิได้มีดีแค่หน้าตา ทว่านางยังชำนาญในศาสตร์ศิลป์ที่ปัญญาชนจำเป็นต้องเรียนรู้อีกด้วย
นี่ยังเล็กน้อยเท่านั้น เพราะที่สำคัญคือนางรู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา !
นางมิเหมือนนางคณิกาคนอื่น ๆ ที่ชอบโอ้อวด ชอบเกาะแกะ และชอบคะยั้นคะยอให้แขกดื่มสุรา
ทุกคราที่พบนาง นางมักจะนั่งอยู่เงียบ ๆ และเผยเพียงรอยยิ้มตรงมุมปากออกมาให้เห็นเท่านั้น
แม้ร่างของนางจะอยู่ในหอนางโลม ทว่าจิตใจของนางกลับบริสุทธิ์ดุจนางฟ้านางสวรรค์
สายตาของนางมิได้มืดหม่นคลุมเครือดั่งนางคณิกาคนอื่น ๆ สายตาของนางเป็นประกายสุกใสดั่งจันทรา
บางคราการตกหลุมรักใครสักคนมันก็เรียบง่ายเช่นนี้แหละ
คุณชายชิวรินสุราให้ตนเอง สองขาของเขาพาดวางไว้บนเก้าอี้ เขาย้อนรำลึกถึงคราแรกที่ได้พบกับถานหงเย่ ใบหน้าของชายหนุ่มพลันผุดรอยยิ้มออกมา
สถานที่ที่ทั้งคู่พบเจอกันคราแรกนั้น มิใช่ที่กั๋วเซ่อเทียนเซียงทว่าเป็นตรอกปู๋เย้
บนตรอกที่มีผู้คนเดินขวักไขว่กันอย่างคับคั่ง ทว่าถึงจะเป็นเช่นนั้นเขาก็ยังเห็นนางเด่นสง่าออกมาจากฝูงชนที่เดินสัญจรไปมา และนางก็หันมาสบตากับเขาพอดี
และเป็นเพราะการสบตาครานั้นนั่นเอง ที่ทำให้เขาหลงใหลในใบหน้าอ่อนหวานของนางเข้าอย่างจัง
หลังจากนั้นเขาก็ได้ไปเยือนยังกั๋วเซ่อเทียนเซียง เขาถึงได้รู้ว่านางเป็นนางคณิกา เป็นหัวแรงใหญ่และเป็นดาวเด่นของที่นั่น
ทว่าถึงจะเป็นเช่นนั้นเขาก็มิได้รังเกียจในสถานภาพของนาง เขาคิดเพียงว่าจะไถ่ตัวนางออกมาได้เยี่ยงไร
แน่นอนว่าคุณชายชิวยอมทุ่นเงินให้มิอั้น ทว่าแม่เล้าเซี่ยกลับมิยอมให้ไถ่ตัวนางออกมา แม้จะเสนอราคาสูงกว่าสิบเท่า นางก็มิยอม !
ทว่าครานี้ถานหงเย่ไถ่ตนเองออกไป เหตุใดแม่เล้าเซี่ยถึงได้ตอบรับอย่างหน้าตาเฉยเล่า ?
ว่าแต่ถานหงเย่ของข้า บัดนี้นางอยู่ที่ใดกันนะ ?
มิได้การล่ะ ! เยี่ยงไรข้าก็ต้องไปตามนางกลับมา เจ้าคือชายาของข้า ต่อให้ต้องข้ามฟ้าข้ามทะเลเยี่ยงไร ข้าก็จะนำตัวเจ้ากลับมาให้จงได้ !
คุณชายผู้ลุ่มหลงในความรักดื่มสุราในจอกจนหมดเกลี้ยง จากนั้นก็พาบ่าวรับใช้ของตนเดินทางออกจากคฤหาสน์
เขามิได้นั่งรถม้า เขาเลือกที่จะเดินหาหญิงสาวในดวงใจท่ามกลางฝูงชนพลุกพล่านในเมืองฉางอันแทน
เขาเชื่อว่าการที่ทั้งสองได้สบตากันในตอนแรกนั้นเป็นพรหมลิขิต เช่นนั้นพรหมลิขิตนี้จะดำเนินต่อไปในท้ายที่สุด
เขาเดินไปยังสะพานชีเต้า เมื่อเดินไปถึงหน้าหอซื่อฟาง ทันใดนั้นสายตาของเขาก็พลันเปล่งประกายขึ้นมาทันใด ท่ามกลางถนนที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คน เขากลับมองเห็นแผ่นหลังของหญิงสาวที่คุ้นเคยเป็นอย่างดี
ผมยาวปลิวไสวกับชุดกระโปรงยาวที่ดูสะอาดตา ทั้งยังมีปิ่นระย้าปักอยู่บนศีรษะ…ต้องเป็นถานหงเย่แน่ ๆ !
เขารีบเบียดเข้าไป กว่าจะฝ่าฝูงชนเข้าไปหานางได้ ช่างยากเย็นยิ่งนัก เขาอยากหยอกเย้าให้นางตกใจ จึงเลือกที่จะย่องเข้าไปปิดตานางเอาไว้
ชิวชิงหยุนมิได้สังเกตว่านางมีบุรุษร่างกำยำคอยเดินขนาบสองข้าง
หญิงสาวร้องตกอกตกใจ นางจึงแผดเสียงร้องแหลมดัง “ว๊าย…”
บุรุษสองคนนั้นหันขวับไปมองทันใด ให้ตายเถิด ผู้ใดกันที่กล้าล่วงละเมิดภรรยาของเสนาบดีหยุนบนที่สาธารณะเยี่ยงนี้ !
นางมิใช่ถานหงเย่ นางคือโหยวซีเฟิ่ง ภรรยาของหยุนซีเหยียน
สองหมัดพุ่งเข้าใส่ใบหน้าของชิวชิงหยุนเต็ม ๆ เขาโดนตีจนเลือดไหลอาบเป็นทาง เมื่อบ่าวรับใช้เห็นเขาในสภาพสะบักสะบอมทั้งสองฝั่งจึงรุมต่อยกันทันใด
แม้คนของชิวชิงหยุนจะมีมากกว่า ทว่าผู้คุ้มกันทั้งสองของหยุนซีเหยีนเป็นถึงผู้มีฝีมือระดับสูง การปะทะจึงจบลงอย่างรวดเร็ว คนของชิวชิงหยุนถูกต่อยจนตาช้ำแก้มเขียว พวกเขาต่างก็ล้มลงไปกองอยู่บนพื้น
เมื่อเรื่องนี้ไปถึงจางเมิ้งเจ๋อผู้ว่าราชการประจำเมืองฉางอัน จางเมิ้งเจ๋อจึงพาผู้ช่วยรุดมายังที่เกิดเหตุ เมื่อมาถึงพบว่า…เเต่ละฝ่ายล้วนเป็นคนกันเองทั้งนั้น
ฝั่งหนึ่งเป็นภรรยาของเสนาบดีหยุน ส่วนอีกฝั่งเป็นองค์ชายสี่แห่งแคว้นบรูไน เรื่องนี้จึงจัดการยากจำต้องสืบสวนแต่ละฝ่ายให้ชัดเจนเสียก่อน
หลังจากที่สืบสวนเสร็จแล้วถึงได้รู้ว่านี่เป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิด ชิวชิงหยุนองค์ชายจากบรูไนผู้นี้เข้าใจว่าโหยวซีเฟิ่งเป็นถานหงเย่
เมื่อโหยวซีเฟิ่งได้ยินเรื่องราวทั้งหมด นางก็รู้สึกประหลาดใจมากยิ่งนัก องค์ชายสี่ผู้นี้ทุ่มเทให้กับความรักเป็นอย่างยิ่ง เขามิใช่พวกที่ชอบแทะโลมแต่อย่างใด นางจึงมิติดใจเอาความ
ซึ่งนี่ย่อมเป็นเรื่องดี จางเมิ้งเจ๋อจึงหันไปสนทนากับทั้งสองฝั่ง ส่วนชิวชิงหยุนก็รู้ดีว่ามิควรไปมีเรื่องกับเสนาบดี เพราะเยี่ยงไรก็มิมีทางสู้เขาได้ การปะทะกันครานี้ฝ่ายตนเสียเปรียบเต็ม ๆ
เขาจึงเดินหมดอาลัยตายอยากพาบ่าวรับใช้ของตนกลับไปที่ร้านเครื่องหยกของตระกูลชิว
บัดนี้ถานหงเย่ก็อยู่ที่หยูฝูจี้พอดี
มีลูกค้าเดินอยู่ในร้านหยูฝูจี้บ้างประปราย ตอนนี้นางกำลังช่วยคุณหนูท่านหนึ่งเลือกเครื่องประดับที่ทำจากหยก
คุณหนูผู้นี้ร่ำรวยและตาถึง นางใช้เวลาเพียง 1 ก้านธูปเลือกสร้อยคอหยกซึ่งเป็นสร้อยสำหรับบุรุษ คาดว่านางน่าจะเลือกไปเป็นของขวัญให้กับคนรัก
สร้อยคอเส้นนี้ราคา 1,000 ตำลึง นางจ่ายเงินแล้วรับสร้อยคอไป จากนั้นถานหงเย่จึงเดินไปส่งนางที่หน้าประตูร้าน
เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ชิวชิงหยุนเดินเข้ามาพอดี เขาเงยหน้าขึ้นมองถานหงเย่ หญิงสาวผู้งดงามอ่อนหวานซึ่งกำลังยืนอยู่หน้าประตู
เขารู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก จึงรีบเดินเข้าไปหานางด้วยดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น
“หงเย่…”
ถานหงเย่เงยหน้าขึ้นมองชิวชิงหยุน ใบหน้าของนางแดงเรื่อด้วยความเขินอายจนต้องก้มหน้าหนี
“หงเย่… เจ้ามิรู้หรอกว่าข้าลำบากเพียงใดกว่าจะหาเจ้าเจอ ! ”
ถานหงเย่ยิ่งก้มหน้าลงต่ำกว่าเดิม พลางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาราวกับเสียงแมลงบิน “ท่าน…ท่านตามหาข้ามีอันใดเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
ชิวชิงหยุนผงะแล้วกลืนน้ำลายลงคอหนึ่งอึก “ข้ารู้สึกดีต่อเจ้า ไป…พวกเราไปโรงน้ำชาพลางนั่งสนทนาให้เป็นเรื่องเป็นราวเถิด”
ถานหงเย่หันกลับเข้าไปในร้านเห็นฉ้ายซีกำลังงีบหลับอยู่บนเก้าอี้
“ข้าจำต้องอยู่เฝ้าร้าน เอาเป็นว่า…ไว้วันหลังดีหรือไม่ ? ”
ชิวชิงหยุนรอไหวเสียที่ไหนกัน เขาก้าวเข้าไปด้านหน้าแล้วคว้ามือของถานหงเย่ขึ้นมา “เจ้าคงมิรู้ว่าตั้งแต่ที่เจ้าหายไปจากกั๋วเซ่อเทียนเซียง ดวงใจของข้าอ้างว้างเพียงใด หลายวันมานี้ข้ามัวแต่ตามหาเจ้าจนข้าวปลาแทบมิได้กิน เมื่อครู่ก็เพิ่งทักผิดคนจนมีเรื่องชกต่อยกับเขามา”
ถานหงเย่จึงเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่ม นางเห็นรอยเขียวคล้ำอยู่บนใบหน้าเขาจริง ๆ
“ปล่อยมือข้า…”
“กว่าจะหาเจ้าพบมิใช่เรื่องง่ายเลยรู้หรือไม่ ข้าจะมิมีทางปล่อยมือเจ้าไปอีก ! ”
ถานหงเย่ก้มหน้าหนีด้วยความเขินอายอีกครา “ปล่อยข้า… คนมากมายถึงเพียงนี้ หากผู้อื่นเห็นเข้าประเดี๋ยวจะดูมิดี”
“มีอันใดมิดีกัน ? ข้าชิวชิงหยุนชอบพอถานหงเย่ ทั้งยังโสดทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง นี่เป็นเรื่องบริสุทธิ์ปราศจากความผิด ยังต้องกลัวสิ่งใดอีกกัน ? ”
ถานหงเย่กัดริมฝีปากหน้าแดงเรื่อด้วยความเขินอาย
นางชื่นชอบชิวชิงหยุน และแน่นอนว่าเหตุผลที่นางชอบเขาเกินกว่าครึ่งเป็นเพราะสถานะที่สูงส่งของเขา เรื่องที่ว่าชายยาจกจะสมหวังกับดาวเด่นมีเพียงแค่ในละครเท่านั้นแหละ
วันนี้ทั้งสองได้บังเอิญพบกัน และเมื่อได้ยินชิวชิงหยุนเอ่ยก็ยิ่งทำให้นางรู้สึกชอบใจ
“ท่านปล่อยมือข้าก่อนเถิด ข้าจะกลับไปบอกท่านปู่สักหน่อย หากเขาเห็นด้วยข้าถึงจะออกไปกับท่านได้”
“ได้สิ ! เจ้ารีบไปเถิด”
ชิวชิงหยุนหลงรักถานหงเย่จนหัวปักหัวปำ เขามิคิดระคายใจเลยด้วยซ้ำว่าเหตุใดอยู่ ๆ ตาเฒ่าผู้นี้ถึงเป็นปู่ของถานหงเย่ไปได้
บัดนี้เขาคิดเพียงว่าจะทำเยี่ยงไรถึงจะได้อยู่ด้วยกันกับถานหงเย่ คิดเพียงว่าจะนำเอาเรื่องที่ตนหาตัวถานหงเย่พบไปบอกเล่าให้สหายฟังเยี่ยงไรดี
ถานหงเย่กลับเข้าไปในร้าน เธอเดินเข้าไปกระซิบข้างหูของฉ้ายซีสองสามคำ ช่ายซีลืมตาขึ้นมา ชายชราพยักหน้าเห็นด้วย
ถานหงเย่จึงเดินออกมาจากประตูแล้วจากหยูฝูจี้ไปพร้อมกับชิวชิงหยุน