นายน้อยเจ้าสำราญ - ตอนที่ 1301 คำทำนาย
ตอนที่ 1301 คำทำนาย
กองทัพอากาศได้แบ่งเป็นกองพลน้อยลอยไปยังทิศทางของศาลาว่าการภายใต้การบังคับบัญชาของหยูติ้งชาน
เสียงระเบิดบนกำแพงเมืองยังคงกระหึ่มดังต่อเนื่องเป็นเวลาหนึ่งก้านธูป เพื่อถ่วงเวลาให้กองพลที่สามของลู่หลินเฟิงขึ้นไปบนแนวกำแพงอย่างปลอดภัย
ในขณะเดียวกัน กองพลที่สี่ของเฉินปิ่งไท่ก็เคลื่อนทัพตามลู่หลินเฟิงไปติด ๆ
ส่วนกองพลที่เหลือเตรียมความพร้อมรอคำสั่ง รอให้กองพลที่สามและสี่ยึดกำแพงมาได้สำเร็จ
ภายใต้กำแพงเมืองในขณะนั้นเอง
มาร์ควิสเวลลีสหยุดม้าด้วยความรู้สึกอกสั่นขวัญแขวน เขาตกตะลึงมากยิ่งนัก เมื่อทราบว่ากำแพงที่แข็งแกร่งและยากที่จะแตกหักได้ พังทลายลงมาขนานใหญ่!
หลังจากนั้นก็เห็นทหารที่รอดชีวิตจากการโจมตีวิ่งหนีลงมาจากกำแพงอย่างมิคิดชีวิต พวกเขาถึงกับยอมกระโดดลงมาจากกำแพงเมือง
นี่มันเกิดอันใดขึ้นกันแน่ ?
“ท่านมาร์ควิส….”
องค์รักษ์ที่อยู่ด้านหลังของเขาตกตะลึงจนตัวแข็งทื่อ เขากลืนน้ำลายอึกใหญ่แล้วจ้องมองท้องนภาด้วยความหวาดกลัว
“ท่านมาร์ควิส บนท้องนภา บนท้องนภานั่น… เหมือนว่าอสุรกายเหล่านั้นกำลังมุ่งหน้าไปยังศาลาว่าการ ! ”
มาร์ควิสเวลลีสจ้องมองด้วยความเดือดดาลและขลาดกลัวในเวลาเดียวกัน เขาร้องคำรามด้วยความโมโห “ทหารทุกนายจงสกัดขวางรอยแตกนั่นเอาไว้ ปืนใหญ่ ปืนใหญ่… เจ้าแม่ทัพอามีลอยู่ที่ใดกัน ? ”
“ทหาร ทหาร ให้ทหารทุกคนขึ้นไปบนกำแพง หากผู้ใดคิดจะถอยแม้แต่ก้าวเดียว ข้าจะตัด… ! ”
“ตู้ม… ! ”
ระเบิดหนึ่งลูกตกลงมาห่างจากเขาราว 3 จั้ง เสียงระเบิดดังสนั่นกลบเสียงของเขาจนมิด ม้าศึกใต้ร่างของเขาตื่นกลัวจนต้องยกขาหน้าสองข้างขึ้นมาจนร่างของเขาหล่นกองไปบนพื้น จากนั้นก็วิ่งหนีเตลิดออกไป
ทหารบนแนวกำแพงเมืองต่างวิ่งหนีกันจ้าละหวั่น พวกมันปล่อยระเบิดลงมาอย่างต่อเนื่อง กำแพงที่คราหนึ่งเคยสูงตระหง่านได้เกิดรูและแตกหักขึ้นมา ทำให้มาร์ควิสเวลลีสรู้สึกสิ้นหวังเสียเต็มประดา
“ท่านมาร์ควิสรีบหนีเร็วเข้า ! ”
ในตอนนั้นแม่ทัพอามีลได้วิ่งลงมาจากกำแพงเมือง เขาพุ่งเข้าไปหามาร์ควิสเวลลีสที่กำลังสติหลุด ใบหน้าที่ดูน่าเกรงขามกลับสูญสิ้นชีวิตชีวา
“ท่านมาร์ควิส คำทำนาย…คำทำนายนั่นเป็นจริงขอรับ ! ”
“จะมีอสุรกายมาจากบูรพาทิศ พวกมันเหาะเหินเดินอากาศได้ พวกมันมีกองกำลังที่แข็งแกร่งรบมิมีวันพ่าย สถานที่ที่พวกมันเดินผ่านจะต้องยอมสวามิภักดิ์กับมัน มิเช่นนั้นคงมิสามารถรอดชีวิตไปได้ ! ”
“ท่านมาร์ควิส คำทำนายของราชินีมารีอาที่สองแห่งฝูหล่างจีเป็นจริงขอรับ ! ”
“ประจวบเหมาะกับอสุรกายพวกนี้ก็มาจากทิศบูรพาพอดี พวกมัน…พวกมันเหาะเหินเดินอากาศได้ พวกเรามิอาจต้านทานฝีมือของพวกมันได้ คงต้องขอให้ท่านมาร์ควิส…ประกาศยอมแพ้ขอรับ ! ”
มาร์ควิสเวลลีสตกตะลึงเสียจนนิ่งค้าง
แน่นอนว่าเขารู้เรื่องคำทำนายนี้ดี
คำทำนายนี้โด่งดังเมื่อปีที่ผ่านมา เป็นที่เลื่องลือกันว่าฝูหล่างจีซึ่งเป็นประเทศที่เจริญรุ่งเรืองที่สุด มีราชินีพระนางหนึ่งสามารถทำนายอนาคตได้ พระนางเป็นสตรีที่รวยเสน่ห์ ตั้งแต่ที่พระนางขึ้นครองบัลลังก์มา พระนางทรงนำความก้าวหน้าทุกแขนงมาสู่ฝูหล่างจี โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการทหาร
ว่ากันว่าที่นั่นมีกองทัพเรือที่แข็งแกร่งที่สุด !
ว่ากันว่าเทคโนโลยีด้านอาวุธปืนของประเทศซิลูซิด เป็นเทคโนโลยีที่ฝูหล่างจีปลดปล่อยออกไป
ข่าวลือเหล่านี้มิใช่ว่าไร้มูลเหตุ เพราะก่อนที่พระเจ้าเซคิวลัสที่หนึ่งจะสถาปนาประเทศซิลูซิดขึ้นมาพระองค์ได้เสด็จเดินทางไกลไปยังฝูหล่างจีมาแล้วหนึ่งครา
ในตอนที่พระเจ้าเซคิวลัสเสด็จไปยังฝูหล่างจีนั่น ตรงกับช่วงที่กษัตริย์อเล็กซานเดอร์ยกทัพไปพิชิตแดนตะวันออกพอดี เมื่อพระเจ้าเซคิวลัสเสด็จกลับมา พระองค์ก็ได้ลงมือยึดครองอาณาเขตของกษัตริย์อเล็กซานเดอร์อย่างมิลังเล
มีข่าวลือแพร่สะพัดว่าราชินีพระองค์นั้นได้ตรัสแก่พระเจ้าเซคิวลัสว่ากษัตริย์อเล็กซานเดอร์จะสิ้นพระชนม์ที่แดนบูรพาแห่งนั้น
ผลปรากฏว่า…ปรากฏว่ามันกลายเป็นจริง
กษัตริย์อเล็กซานเดอร์ได้สิ้นพระชนม์ในจักรวรรดิโมริยะจริง ๆ และพระเจ้าเซคิวลัสก็ได้คว้าดินแดนส่วนใหญ่เอาไว้ในครอบครอง
ในตอนที่เพิ่งก่อตั้งประเทศได้มินาน ก็มีรายงานจากฝูหล่างจีเข้ามายังประเทศซิลูซิด ซึ่งในนั้นมีคำทำนายของราชินีมารีอาที่สองดั่งที่แม่ทัพอามีลได้เอ่ยไปข้างต้น
แต่ก่อนมาร์ควิสเวลลีสมิเคยเก็บคำทำนายนี้มาใส่ใจ เพราะเขามิเคยคาดคิดมาก่อนว่าประเทศที่แข็งแกร่งจากแดนบูรพาจะยกทัพมาถึงที่นี่
บัดนี้เขารู้สึกสับสนงุนงงมากยิ่งนัก
บัดนี้ดูเหมือนว่าคำทำนายของราชินีมารีอาที่สองกลายเป็นจริงแล้วสินะ !
แล้วต่อไปนี้จะทำเยี่ยงไรดี ?
ฝ่าบาทผู้ยิ่งใหญ่จะยอมสยบให้แก่ความสามารถในการสู้รบของอสุรกายเหล่านี้หรือไม่ ?
“ท่านมาร์ควิส ท่านอย่าได้ลังเลอีกต่อไป ! ดูเหมือนว่าพวกมัน… พวกมันจะเหาะไปที่ศาลาว่าการแล้วนะขอรับ ! ” อามีลเอ่ยเร่งรัด ร่างของเขาสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ดวงตาทั้งสองข้างถลึงโต
“ท่านมาร์ควิส…รีบตัดสินใจเร็วเข้าเถิด พวกมันเหาะเหินเดินอากาศได้จริง ๆ ท่านดูนั่นเถิด… ! ”
มาร์ควิสเวลลีสเงยหน้าขึ้นมองกำแพง
กองทัพที่สามของลู่หลินเฟิงล้วนใช้วิชาตัวเบา พวกเขาใช้วิชาตัวเบาทะยานขึ้นมาบนกำแพงเมือง
มาร์ควิสเวลลีสถึงกับอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง นี่เป็นคราแรกที่เขาได้เห็นคนบินได้ !
เขามิอาจดึงความแข็งแกร่งของกองทัพกลับมาได้ ทำได้เพียงก้มหน้าแล้วยอมจำนน “ยอมแพ้… ! ”
……
……
ฝั่งตะวันตกของประเทศซิลูซิดมีอาณาเขตกว้างขวาง มีการป้องกันที่เข้มงวด อีกทั้งยังมีมาร์ควิสประจำการอยู่หนึ่งคน ทว่ากลับพ่ายแพ้ย่อยยับเมื่อต้องเผชิญหน้ากับระเบิดสามระลอก
ในขณะที่กองทัพที่สามของลู่หลินเฟิงเหินขึ้นไปบนกำแพงเมือง เขามิเห็นการสกัดกั้นของศัตรู แต่กลับเห็นทหารฝั่งตรงข้ามวางอาวุธลงแล้วชูธงขาวในมือขึ้นมา !
เขาสั่งการให้ทหารทั้งหนึ่งหมื่นนายล้อมกำแพงเมืองเอาไว้ จากนั้นส่งคนไปรายงานให้กวนเสี่ยวซีทราบ
“ยอมแพ้แล้วหรือ ? ”
เมื่อกวนเสี่ยวซีทราบข่าว เขาตกตะลึงจนเอ่ยอันใดมิออก ทว่ามินานก็ส่งยิ้มยิงฟันออกมา เพราะนี่ก็ดูสมเหตุสมผลดี
ดินแดนที่แข็งแกร่งมากพอจะเผชิญหน้ากับต้าเซี่ย…มีน้อยยิ่งนักบนผืนปฐพีแห่งนี้
มิว่าจะเป็นด้านคุณสมบัติของทหารหรืออาวุธยุทโธปกรณ์ ในความคิดของกวนเสี่ยวซี ต่อให้เป็นคูฉานก็คงมิกล้าประกาศศึกกับต้าเซี่ย
เขานำกองพลที่เหลือเข้าไปในเมืองฝูสั่วอย่างเกรียงไกร โดยเดินผ่านประตูเมืองที่กว้างใหญ่
หยูติ้งชานที่เหาะเหินอยู่เหนืออากาศเห็นสถานการณ์ทั้งหมดผ่านกล้องส่องทางไกล กองทัพอากาศจึงมิได้ทิ้งระเบิดโจมตีศาลาว่าการ มิใช่เพราะเสียดายศาลาว่าการแต่อย่างใด ทว่าเป็นเพราะเขาต้องการประหยัดระเบิดมากกว่า
บอลลูนไฟหยุดนิ่งอยู่กลางอากาศครู่หนึ่ง จนกระทั่งเห็นกองทัพส่วนใหญ่ได้กรีธาทัพเข้ามาในเมือง หยูติ้งชานจึงสั่งการให้ร่อนลงจอดนอกเมือง
ณ ประตูเมือง
มาร์ควิสเวลลีสถวายความเคารพต่อกวนเสี่ยวซี หลังจากนั้น…
หลังจากนั้นแน่นอนว่าทั้งสองมิอาจสื่อสารกันได้ ทว่ากวนเสี่ยวซีได้เเสดงตัวว่าเขามาดี ด้วยสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม !
มาร์ควิสเวลลีสมิรู้ว่าแม่ทัพที่อยู่เบื้องหน้าตนกำลังเอ่ยอันใด ทว่าใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มของเขา ทำให้จิตใจที่พะว้าพะวงของตนสงบลงมากโข
ใบหน้าของชาวตะวันออกตามคำทำนายของราชินีมารีอาที่สองก็เป็นเช่นนี้ ผิวพรรณสีเหลือง ตาสีดำและมีผมสีดำ หมวกอัศวินรวมถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ก็เป็นเช่นนี้
และคำทำนายของราชินียังบอกอีกว่าประเทศทางตะวันออกอุดมสมบูรณ์ แต่ก็ลึกลับมากเช่นเดียว พวกเขามีกำลังพลที่แข็งแกร่งเกินกว่าจะจินตนาการได้ นี่ก็ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นความจริง ดังนั้นพวกเขาจะเป็นอสุรกายจริง ๆ หรือ ?
มาร์ควิสเวลลีสร้อนรุ่มกลุ้มใจขึ้นมาอีกครา นี่เป็นกองทัพที่เขามิอาจต้านทานได้เลย ความหวังเดียวของเขาคือหวังว่ากองทัพที่แข็งแกร่งตรงหน้านี้ จะมิลงมือสังหารชาวเมือง
เขาสั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัว จากนั้นก็ได้ยินแม่ทัพที่ยืนอยู่ด้านหน้าเอ่ยอันใดบางอย่าง พลันเห็นทหารฝ่ายตนที่ถูกจับตัวไปเป็นเชลยศึกได้รับการปล่อยตัวออกมา !
พวกเขายึดไปเพียงแค่อาวุธเท่านั้น !
พวกเขามิได้ลงมือสังหารผู้ใดเลยแม้แต่คนเดียว อีกทั้งยังแสดงท่าทีเป็นมิตรเสียด้วยซ้ำ !
…นี่คืออสุรกายที่ล่ำลือกันเยี่ยงนั้นหรือ ?