นายน้อยเจ้าสำราญ - ตอนที่ 1318 เตรียมพร้อมรับมือ
ตอนที่ 1318 เตรียมพร้อมรับมือ
ณ คฤหาสน์จิ้งหู
อู๋เทียนซื่อระเบิดอารมณ์เดือดดาลปานสายฟ้าแลบ แม้จะเป็นค่ำคืนที่หนาวเหน็บแต่ก็ทำให้หลิวจิ่นตื่นตกใจจนเหงื่อไหลท่วมร่าง
“ฝ่าบาท… ! ”
กงฮ้วนอวี่รอจนกระทั่งอู๋เทียนซื่อระบายอารมณ์ได้พอสมควรแล้วจึงโค้งคารวะ จากนั้นก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ฝ่าบาท กระหม่อมเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน ภูเขาทองคำเป็นของจักรพรรดิพระเจ้าหลวง คาดว่าพระองค์น่าจะนำติดพระวรกายไปด้วย มิเช่นนั้นผู้ใดจะกล้าขโมยภูเขาทองคำของฝ่าบาทกัน ? ”
อู๋เทียนซื่อใจเย็นลง “เสด็จพ่อ เสด็จพ่อล่องเรือสู่มหาสมุทรย่อมแย่งชิงทรัพย์สมบัติได้มากมายมิใช่หรือ ? เหตุใดเสด็จพ่อถึงมิเหลือภูเขาทองคำนี้ไว้ให้เจิ้นเล่า ? ”
“นี่…บางทีจักรพรรดิพระเจ้าหลวงอาจจะมีความจำเป็นที่ต้องใช้ภูเขาทองคำนั่นก็ได้พ่ะย่ะค่ะ”
“กำไรเก้าในสิบส่วนของกลุ่มบริษัทจินเฟิ่งต้าเซี่ยกรุ๊ปจำกัด (มหาชน) ล้วนแต่เป็นของเขา เขาต่างหากล่ะถึงจะเป็นเจ้าของผืนปฐพีนี้ตัวจริง เขาต่างหากล่ะถึงจะร่ำรวยที่สุด ! เขา เขา…เฮ้อ บัดนี้จะทำเยี่ยงไรดีเล่า ? ”
“ฝ่าบาท จักรพรรดิพระเจ้าหลวงเสด็จออกจากต้าเซี่ยใกล้จะสองปีเเล้ว กระหม่อมเห็นว่าการที่ให้กลุ่มบริษัทจินเฟิ่งต้าเซี่ยกรุ๊ปจำกัด (มหาชน) อยู่ในการบริหารของหลี่จินโต้วนั้นมิสมควรนัก หรือว่า…เมื่อฝ่าบาทเสด็จกลับฉางอัน ค่อยเรียกให้หลี่จินโต้วมาเข้าเฝ้าในพระราชวังดีหรือไม่ ตัวกระหม่อมพอจะทราบหลักการบริหารมาบ้าง ถ้าหากมอบหมายให้กระหม่อมดูเเลกลุ่มบริษัทจินเฟิ่งต้าเซี่ยกรุ๊ปจำกัด (มหาชน) ล่ะก็ กระหม่อมคงจะบริหารจัดการได้ดีพอ ๆ กับท่านหลี่เป็นแน่”
“และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ…เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ฝ่าบาทจะมิขาดแคลนเงินทองอีกต่อไป ! ”
สายตาของอู๋เทียนซื่อวาววับจับประกาย “นี่เป็นความคิดที่ดียิ่ง กลุ่มบริษัทจินเฟิ่งต้าเซี่ยกรุ๊ปจำกัด (มหาชน) นั้นก่อตั้งโดยเสด็จย่า โดยมีเสด็จแม่ของเจิ้นช่วยบริหารจัดการ ทุกวันนี้พวกท่านล้วนจากต้าเซี่ยไปหมดแล้ว จะว่าไปหลี่จินโต้วก็เป็นคนนอก...ไปเถิด กลับพระราชวังกัน กลับฉางอัน !” สายตาของกงฮ้วนอวี่ทอประกาย มุมปากของเขาเผยอขึ้น จากนั้นก็หันไปส่งสายตาให้แก่หลิวจิ่น
หลิวจิ่นรีบรุดเข้าไปช่วยประคองอู๋เทียนซื่อขึ้นราชรถมังกร
……
……
ณ สำนักงานใหญ่กลุ่มบริษัทจินเฟิ่งต้าเซี่ยกรุ๊ปจำกัด (มหาชน) บนถนนจูเชว่ เมืองฉางอัน
เฉินชิงอียืนอยู่เบื้องหน้าหลี่จินโต้วอาจารย์ที่เขาเคารพรักด้วยท่าทีสงบเรียบร้อย ทั้งยังสาธยายการจัดการทุกอย่างบนแผ่นดินใหญ่ลีอาห์
“ท่านอาจารย์ พระราชประสงค์ของจักรพรรดิพระเจ้าหลวงคือให้นำเงินบางส่วนที่อยู่ในธนาคารซื่อทงสาขาแผ่นดินใหญ่ลีอาห์ออกมาลงทุน…พระองค์ทรงตรัสว่าสามารถนำไปลงทุนกับผู้ประกอบการที่ยังขาดเงินทุนเป็นส่วนใหญ่ ยกตัวอย่างเช่นการเดินเรือทางไกล หรือธรุกิจที่มีแนวโน้มว่าจะเจริญรุ่งเรืองในอนาคต”
“เมื่อคราที่จักรพรรดิพระเจ้าหลวงเสด็จเยือนแผ่นดินใหญ่ลีอาห์ พระองค์ได้ปลุกกระแสการก่อสร้างขึ้นมาขนานใหญ่ กลุ่มนักธุรกิจต้าเซี่ยกรูเข้ามาราวกับฝูงแมลงภายในระยะเวลาเพียงแค่สองเดือน เป็นเหตุให้เมืองอาเรียนั้นมีผู้คนแน่นขนัด ส่งผลให้ราคาของบ้านเรือนเพิ่มขึ้นถึงสามเท่า ! ”
“เมื่อคราที่ศิษย์และคนอื่น ๆ ได้เข้าเฝ้าจักรพรรดิพระเจ้าหลวง พระองค์ยังตรัสอีกว่าต้าเซี่ยเป็นดั่งฐานราก และบัดนี้แผ่นดินใหญ่ลีอาห์ก็เปรียบเสมือนหนวดของต้าเซี่ยซึ่งสามารถยืดออกไปได้ไกลที่สุด”
“อีกสองสามปีให้หลังจากนี้ ยุทธศาสตร์ที่ตั้งของต้าเซี่ยนั้นจะยิ่งทวีความสำคัญขึ้นเรื่อย ๆ มันเป็นแดนกันชนของต้าเซี่ย และมันจะเป็นสถานที่สำคัญในการถ่ายโอนสินค้า ! ”
“เช่นนั้นศิษย์จึงเห็นว่า…พวกเราควรจะย้ายศูนย์กลางการบริหารกลุ่มบริษัทจินเฟิ่งต้าเซี่ยกรุ๊ปจำกัด (มหาชน) ไปที่นู้นด้วยดีหรือไม่ ? โดยทำการเปิดสาขากลุ่มบริษัทจินเฟิ่งต้าเซี่ยกรุ๊ปจำกัด (มหาชน) ขึ้นที่เมืองอาเรีย จากนั้นก็ใช้เงินทุนจำนวนมหาศาลที่พวกเรามีลงทุนกับการขนส่งทางเรือ โรงงาน การค้า รวมถึงสิ่งก่อสร้างเพื่อสาธารณะเป็นต้น”
หลี่จินโต้วหยิบบ้องยาสูบออกมา เฉินชิงอีรีบหยิบตะบันไฟขึ้นมาแล้วจุดให้เขา อยู่ ๆ ก็เหมือนจะฉุกคิดอันใดขึ้นมาได้ เขาเลยเอ่ยออกมาว่า
“จริงสิ ตอนที่จักรพรรดิพระเจ้าหลวงเสด็จไปพิชิตแผ่นดินใหญ่ลีอาห์ พระองค์ทรงให้แคว้นซ่างหลัวปลูกยาสูบขึ้นมาจำนวนมากที่มณฑลจินเย่ ครั้งล่าสุดที่พระองค์เสด็จมาเยือนแผ่นดินใหญ่ลีอาห์ พระองค์ทรงตรัสถึงเรื่องนี้เป็นการเฉพาะ ดูเหมือนว่าพระองค์จะให้ความสำคัญกับมันเป็นอย่างยิ่ง”
“เพียงเเต่ว่าพระราชดำรัสของพระองค์ทำให้ศิษย์รู้สึกสับสน”
“พระองค์ทรงมีพระราชดำรัสว่าเยี่ยงไร ? ”
“พระองค์ทรงตรัสว่าห้ามส่งยาสูบเหล่านี้ไปที่ต้าเซี่ยเป็นเด็ดขาด พระองค์ทรงตรัสว่าจะให้จัดการกับยาสูบเยี่ยงไรนั้นให้รอพระองค์เสด็จกลับมาจากทวีปยุโรปก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที”
หลี่จินโต้วขมวดคิ้วแน่นเป็นปม ยาสูบเดิมทีก็เป็นของส่งออกของต้าเซี่ยเช่นกัน เพียงแต่ว่ากำลังการผลิตของมันมิมากเท่าใดนัก อีกทั้งยังมิได้เงินอุดหนุนข้าว ถึงทำให้เกษตรกรที่ปลูกพืชประเภทนี้มีมิมากนัก
ทว่าฟู่เสี่ยวกวนกลับให้แคว้นซ่างหลัวปลูกพืชชนิดนี้ขึ้นมา แน่นอนว่าเขามิได้เอ่ยลอย ๆ แต่เกรงว่ามันจะแฝงไปด้วยโอกาสทางการค้าคราใหญ่
“เช่นนั้นก็รอให้เขากลับมาก่อนเถิด แล้วค่อยดูว่าเขาจะจัดการเยี่ยงไร”
“เมื่อครู่ที่เจ้าบอกว่าให้เปิดสาขาของกลุ่มบริษัทจินเฟิ่งต้าเซี่ยกรุ๊ปจำกัด (มหาชน) ขึ้นที่แผ่นดินใหญ่ลีอาห์… เรื่องนี้ให้ปฏิบัติได้ เช่นนั้นให้เจ้าเป็นคนจัดการก็แล้วกัน ! ”
“รับทราบขอรับ ! ”
“ชิงอีเอ๋ย” หลี่จินโต้วพ่นควันยาสูบออกมา เขายังคงขมวดคิ้วดังเดิม พลางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เอ่ยออกมาว่า “นั่งลงสิ ต้มชาสักกา ข้ามีบางอย่างอยากจะเอ่ยกับเจ้า”
เฉินชิงอีนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับหลี่จินโต้วพลางจัดแจงต้มชา
“เรื่องเป็นเช่นนี้ เจ้าเองก็ทราบดีว่ากลุ่มบริษัทจินเฟิ่งต้าเซี่ยกรุ๊ปจำกัด (มหาชน) นั้นก่อตั้งโดยไทเฮา จากนั้นก็ให้บรรดาพระสนมเป็นผู้บริหารจัดการ”
“จะว่าไปเเล้ว หากมองดูภาพรวมของต้าเซี่ย จะเห็นว่ากลุ่มบริษัทจินเฟิ่งต้าเซี่ยกรุ๊ปจำกัด (มหาชน) เป็นอาณาจักรการค้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ก่อนที่จักรพรรดิพระเจ้าหลวงจะเสด็จออกไปจากต้าเซี่ยนั้น ข้าและพระองค์ได้มีการสนทนากันอย่างลับ ๆ หนึ่งครา”
“พระองค์ทรงตรัสว่าเมื่อพระองค์ได้จากต้าเซี่ยไปเเล้ว ให้นำกำไรหนึ่งในสิบส่วนฝากเข้าไปในคลังส่วนพระองค์ ให้ฝ่าบาทได้ใช้ชีวิตอย่างเกษมสำราญ…นี่เป็นพระประสงค์ของพระองค์ ทว่าบัดนี้มันกลับกลายเป็นปัญหาเสียแล้วสิ”
เฉินชิงอีผงะ กลุ่มบริษัทจินเฟิ่งต้าเซี่ยกรุ๊ปจำกัด (มหาชน) เป็นธุรกิจของราชวงศ์ การที่จักรพรรดิพระเจ้าหลวงจะแสดงความรักต่อฝ่าบาทโดยการมอบกำไรหนึ่งในสิบให้นั้นมิใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด !
กำไรนี้มีจำนวนมหาศาล คาดว่าน่าจะมากถึงร้อยล้านเสียด้วยซ้ำ !
แล้วมันจะกลายเป็นปัญหาได้เยี่ยงไรกัน ?
หลี่จินโต้วสูดหายใจเข้าลึกพลางพ่นควันยาสูบออกมา เขาเอ่ยเสียงเบา ท่ามกลางกลุ่มควันโขมง “ฝ่าบาทกับจักรพรรดิพระเจ้าหลวงมิเหมือนกัน ! ”
“เมื่อคราที่จักรพรรดิพระเจ้าหลวงยังครองบัลลังก์อยู่นั้น ความอู้ฟู่ของเงินในคลังส่วนพระองค์นั้นยากแท้หยั่งถึง แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น จักรพรรดิพระเจ้าหลวงก็แทบจะมิแตะต้องเงินในท้องคลังส่วนพระองค์เลย มากสุดก็พระราชทานอั่งเปาให้แก่พระสหายเมื่อถึงเทศกาลปีใหม่ก็เท่านั้น”
“ทว่าตั้งแต่ที่ฝ่าบาทรงขึ้นครองบัลลังก์มานั้น กลุ่มบริษัทจินเฟิ่งต้าเซี่ยกรุ๊ปจำกัด (มหาชน) ได้อัดฉีดเงินเข้าไปคลังส่วนพระองค์สองคราด้วยกัน ทั้งยังเป็นเงินที่มากถึง 240 ล้านตำลึงด้วยกัน ! เมื่อปีที่ผ่านมาฝ่าบาทมิได้พระราชทานอั่งเปาให้เหล่าเสนาบดี และปีนี้…แน่นอนว่าปีนี้ก็มิพระราชทานดังเดิม เพราะคลังส่วนพระองค์แทบจะมิมีเงินเหลืออยู่เลย ! ”
เฉินชิงอีตกตะลึงพรึงเพริด เขาโน้มตัวลงไปแล้วเอ่ยพร้อมบีบเค้นเสียงให้เบาลงไปอีก “ฝ่าบาททรงใช้เงินในคลังส่วนพระองค์หมดแล้วหรือ ? พระองค์ทรงนำไปใช้กับเรื่องใดกัน ? ”
หลี่จินโต้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ข้าได้ให้หลี่ฉายลองตรวจสอบดูแล้ว พบว่านอกจากเงินที่นำไปก่อสร้างพระตำหนักแล้วนั้น เงินที่เหลือถูกโอนไปยังเขตปกครองตนเองซีเซี่ย อย่าถามว่าพระองค์ทรงนำเงินไปใช้เพื่อการใด เพราะข้าก็มิทราบเช่นกัน ทว่าเรื่องที่เงินในคลังส่วนพระองค์เกลี้ยงเกลาจนมิเหลือแม้แต่อีแปะเดียวนั้นเป็นเรื่องจริง ! ”
หลี่จินโต้วสูดหายใจเข้าลึกพลางทอดสายตามองหิมะขาวโพลนที่ถูกลมเหนือพัดเข้ามา “อาจจะเกิดเรื่องขึ้นแล้วสิ ! ”
“แต่ขอให้มิเกิดเรื่องอันใดขึ้นก็แล้วกัน”
“มิว่าจะเกิดเรื่องขึ้นหรือไม่ก็ต้องเตรียมรับมือให้พร้อม…ข้าได้เรียกหลี่เจีย หลี่ว่านและหลี่ก้วนกลับมาแล้ว คาดว่าพรุ่งนี้คงจะมาถึง เมื่อพวกเขามาถึงแล้ว เจ้าจงออกไปจากเมืองฉางอันในทันที จำไว้ว่าต้องพาพวกเขาออกไปในทันที ! ให้พวกเขาเดินทางไปที่แผ่นดินใหญ่ลีอาห์ ! ”
“พวกเขาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรง ข้าได้สั่งให้คนในตระกูลหลี่กระจายตัวออกไปแล้ว ให้พวกเขาแยกกันไปแผ่นดินใหญ่ลีอาห์เป็นเที่ยว ๆ พวกเขาจะต้องก่อตั้งกลุ่มบริษัทจินเฟิ่งต้าเซี่ยกรุ๊ปจำกัด (มหาชน) ขึ้นมา ! ”
“ดังนั้นกลุ่มบริษัทจินเฟิ่งต้าเซี่ยกรุ๊ปจำกัด (มหาชน) ที่แผ่นดินใหญ่ลีอาห์จะมิใช่แค่สาขา ทว่ามันจะเป็นสำนักงานหลัก ! ”