นายน้อยเจ้าสำราญ - ตอนที่ 1334 ขนาบประสานทั้งในและนอก
ตอนที่ 1334 ขนาบประสานทั้งในและนอก
ณ ค่ายทหารกองทัพต้าเซี่ยที่หนึ่งบนเทือกเขาพีเรนีส
เผิงยวี๋เยี่ยนหันไปมองกวนเสี่ยวซี “กองทัพอากาศมิมีกระสุนมากนัก เจ้าทำเช่นนี้หากเจอกำแพงที่แข็งแกร่ง เจ้าจะทำเยี่ยงไร ? ”
“ข้าเคยถามเวลลีสมาก่อน เพียงแค่โจมตีเมืองที่อยู่เบื้องหน้าพวกเราไปได้ ที่เหลือต่อจากนี้คงมิมีเมืองที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญเช่นนี้อีกแล้ว”
“ดังนั้นข้าจึงมองว่าควรจัดการเมืองนี้ให้ได้เสียก่อน ถึงจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของพวกเรา จะว่าไปแล้วระเบิดของกองทัพอากาศในทุกวันนี้ก็มิได้นำภัยคุกคามมาสู่ศัตรูมากนัก ข้ายังคงทำตามความเห็นของท่าน ให้กองทัพอากาศทะยานขึ้นสู้ท้องนภา แต่จะมิทำการโจมตีเป็นอันขาด ภารกิจหลักคือป้องกันมิให้ข้าศึกออกมาจากเมือง”
“ท่านแม่ทัพ รักษาเนื้อรักษาตัวด้วย ข้าและทหารในกองทัพบกที่หนึ่งจะรอคอยการกลับมาของท่าน ! ”
“ท่านแม่ ลูกจะส่งท่านเข้าเมืองเอง ! ”
“อืม…ไปกันเถิด ! ”
เผิงยวี๋เยี่ยนนำหน่วยจู่โจม 1,000 นายขึ้นเรือเหาะไป ซึ่งมีหยูติ้งชานเป็นบังคับขับเรือเหาะลำนี้ด้วยตนเอง และมีกวนเสี่ยวซีคอยเฝ้าดูอยู่ห่าง ๆ จากนั้น…มันก็ล่องลอยเข้าสู่เมืองปาแลร์โมที่มืดสนิท
กวนเสี่ยวซีกำหมัดแน่นด้วยความตื่นเต้น กองทัพอากาศจะทุ่มระเบิดในเมืองปาแลร์โมหนึ่งครา เพียงแค่คราเดียวเท่านั้น
โดยจะใช้ระเบิดครานี้ดึงดูดความสนใจของข้าศึก เรือเหาะ 2 ลำที่บรรทุกหน่วยจู่โจมหนึ่งพันนายจะต้องหาจุดที่ดีที่สุดเพื่อลงจอดในระยะเวลาอันสั้น และทหารทั้งหนึ่งพันนายนั้นจะต้องลงมาจากเรือเหาะแล้วเข้าไปยังเมืองปาแลร์โมภายในระยะเวลาเพียงมิกี่อึดใจ
หลังจากนั้น…หลังจากนั้นก็คงจะต้องพึ่งการบัญชาจากสวรรค์เพียงอย่างเดียวแล้ว
……
……
จอมทัพมิชาลเดินขึ้นไปบนกำแพงเมือง แม่ทัพทั้งสี่ต่างก็ขึ้นไปประจำการอยู่บนกำเเพงเมืองเช่นเดียวกัน
พวกเขาได้เห็นเรือเหาะแน่นขนัดเต็มท้องนภาประจักษ์แก่สายตาเป็นคราแรกผ่านกล้องส่องทางไกล พวกเขาตกตะลึงมากยิ่งนักเมื่อเรือเหาะเหล่านั้นบินสูงขึ้นเรื่อย ๆ และเข้าใกล้เมืองปาแลร์โมมากขึ้นเรื่อย ๆ !
มิชาลยกกล้องส่องทางไกลขึ้นมาส่องลาดเลากองทัพของศัตรูที่ยืนอยู่บนที่ราบสีทอง นอกจากเสียงกลองศึกที่ดังฮึกเหิมแล้ว พวกเขาก็มิได้โจมตีเมืองปาแลร์โม
“แม่ทัพทั้งสี่จงฟังคำสั่งของข้า ! ”
แม่ทัพทั้งสี่ยืนตัวตรงมิไหวติง
“ข้าขอออกคำสั่งให้หลบระเบิดของข้าศึกให้ดี ให้ทหารทุกนายเข้าไปหลบในที่กำบัง…ข้าศึกจะต้องวางระเบิดเมืองปาแลร์โมเป็นแน่ จงตีระฆังแจ้งเตือนชาวเมืองทุกคนให้ย้ายไปยังสถานที่หลบภัย ! ”
“ทหารบนหอสังเกตการณ์จะต้องจับตามองทิศทางการเคลื่อนไหวของกองทัพข้าศึกอย่างใกล้ชิด ถ้าหากข้าศึกโจมตีทางภาคพื้น พวกเจ้าจงระดมยิงพวกมันให้หนักหน่วง ! ”
“รับทราบขอรับ ! ”
สถานการณ์บนกำแพงเมืองวุ่นวายขึ้นมาทันใด หลังจากที่จอมทัพมิชาลออกคำสั่ง เหล่าทหารต่างก็วิ่งไปหาที่กำบัง ทันใดนั้นระฆังของเมืองปาแลร์โมก็ดังก้องขึ้นมา เพียงมิกี่อึดใจเมืองปาแลร์โมก็ตกอยู่ในความโกลาหล
ราษฎรนับล้านพากันกรูออกมาจากบ้านเรือน พวกเขาเงยหน้ามองดวงไฟที่ส่องแสงระยับราวกับดวงดารา จึงได้รู้ว่านั่นอาจจะเป็นเรือเหาะของพวกอสุรกายที่ท่านจอมทัพเคยเอ่ยถึง
พวกเขาพากันวิ่งไปยังสถานที่หลบภัยซึ่งอยู่ใกล้มากที่สุด
เมืองปาแลร์โมมีเสียงดังอึกทึกกึกก้องของความโกลาหลวุ่นวาย
พวกหลี่ฉางซู่หลบอยู่ในมุมอับ มือของเขาถือกล้องส่องทางไกล ส่องคลังสรรพาวุธอย่างมิไหวติง
ครู่หนึ่งหลังจากนั้น บริเวณคลังสรรพาวุธก็เกิดการเคลื่อนไหว ด้านในมีเสียงเรียกฉุกเฉินดังขึ้นมา สิ่งที่ปรากฏอยู่ในสายตาของหลี่ฉางซู่ก็คือทหารที่ประจำการอยู่บนหอคอยเริ่มทยอยลงมา แล้วเข้าไปในคลังสรรพาวุธ
“รออีกสักประเดี๋ยวเถิด ! ”
หลี่ฉางซู่วางกล้องส่องทางไกลลงเเล้วหันมาเอ่ยกับซุนเอ้อร์หูกับเผิงเฉิง “รอให้กองทัพบกต้าเซี่ยของพวกเราเริ่มทุ่มระเบิดลงมาเสียก่อน ถึงตอนนั้นจะต้องเกิดความโกลาหลอย่างแน่นอน พวกเราจะอาศัยช่วงจังหวะชุลมุนนี้ลอบเข้าไปในกำแพงนั่น”
“เมื่อเข้าไปในกำแพงได้แล้วจงแบ่งกันปฏิบัติภารกิจ ภารกิจของข้าก็คือล่อศัตรู ส่วนเอ้อร์หูและเผิงเฉิงพวกเจ้าทั้งสองจะต้องหาโอกาสเข้าไปในกรมสรรพาวุธให้ได้ จากนั้นก็ระเบิดทิ้งเสียแล้วพวกเราค่อยกลับมารวมพลกันที่นี่ ! ”
“จงจำเอาไว้ว่า…ตั้งแต่เข้าไปจนกระทั่งออกมา ข้าให้เวลาเพียงแค่หนึ่งก้านธูปเท่านั้น มิว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลวก็ต้องมารวมพลกันที่นี่ ! ”
“รับทราบ ! ”
ซุนเอ้อร์หูและเผิงเฉิงตอบรับ จากนั้นหลี่ฉางซู่ก็ยกกล้องส่องทางไกลขึ้นมาดูดวงดาราบนท้องนภาอีกที
หลี่ฉางซู่ยิ้มร่าออกมาเพราะเรือเหาะเริ่มใหญ่ขึ้นในม่านสายตาของเขา มันเริ่มเข้าใกล้เมืองขึ้นมาทุกที
สองปีที่ผ่านมานี้ ในที่สุดกองทัพบกต้าเซี่ยก็เดินทางมาถึงทวีปยุโรปเสียที
เมื่อตีเมืองปาแลร์โมจนแตกแล้ว ทวีปยุโรปที่อยู่เบื้องหน้ากองทัพบกก็จะมิมีสิ่งใดกีดขวางอีก
ศึกครานี้ยังมิจบลง เพราะต้องตีเมืองบาห์เรนเมืองหลวงของฝูหล่างจีมาให้ได้
ถ้าหากสามารถคว้าเมืองปาแลร์โมมาได้ ก็ถือว่าได้ถอนตะปูดอกที่ยึดเส้นทางไปยังเมืองบาห์เรนได้สำเร็จแล้ว
มิทราบว่าบัดนี้กองทัพเรือของจักรพรรดิพระเจ้าหลวงอยู่ที่ใดแล้วกัน ถ้าหากว่าจักรพรรดิพระเจ้าหลวงสามารถโจมตีฝูหล่างจีทางทะเลได้อีกหนึ่งทาง…กองทัพเรือแห่งต้าเซี่ยจะต้องคว้าชัยมาได้อย่างแน่แท้ เมื่อกองทัพเรือขึ้นบกและโจมตีพร้อมกันทั้งสองทาง เช่นนั้นเมืองบาห์เรนก็มิใช่เรื่องหนักหนาอีกต่อไป
ถึงตอนนั้น ศึกครานี้ที่มิเคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์คราใดก็คงจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์
เมื่อสงครามจบลง จะได้กลับไปยังต้าเซี่ยสักที
อยู่ที่ต้าเซี่ยสบายใจที่สุดแล้ว อากาศทุกอณูที่นั่นทำให้ผู้คนรู้สึกหลงใหล และผืนปฐพีทุกหย่อมหญ้า ยิ่งทำให้คนรู้สึกเริงร่า
เรือเหาะลอยเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ
หลี่ฉางซู่รีบเรียกสติกลับมา จากนั้นก็ตกตะลึงขึ้นมาทันใดเมื่อเห็นเรือเหาะสองลำผละตัวออกจากกองทัพที่เหลือ พวกมันกำลังมุ่งหน้าเข้ามาในเมืองปาแลร์โม…
นี่หมายความว่าเยี่ยงไรกัน ?
หลี่ฉางซู่หลงคิดว่ากลยุทธ์ที่ทหารต้าเซี่ยจะใช้นั้น ยังคงเป็นการกำจัดทหารที่ประจำการอยู่บนกำแพง เพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้ทหารบกได้บุกเข้ามาประชิดกำแพงเมือง ทว่าเหตุใดพวกเขาถึงบังคับเรือเหาะเข้ามาในเมืองเล่า หรือว่าพวกเขาคิดจะระเบิดเมืองนี้ขึ้นมาจริง ๆ ?
ทว่าตนยังมิได้ส่งรายงานออกไปเลยนี่ แม่ทัพกวนมิรู้ด้วยซ้ำว่าจุดยุทธศาสตร์ของเมืองนี้อยู่ตรงที่ใด มันมิมีประโยชน์ใดที่จะวางระเบิดใส่ราษฎร แม่ทัพกวนเจตนาจะทำอันใดกันแน่ ?
เรือเหาะสองลำนี้ลอยอยู่เหนือท้องนภาของเมืองปาแลร์โม ซึ่งลอยอยู่นอกรัศมีของกระสุนปืน ทว่ามิมีการทุ่มระเบิดลงมาแต่อย่างใด
เหมือนว่าพวกเขากำลังรออันใดบางอย่าง !
บนเรือเหาะหนึ่งในสองลำนั้น เผิงยวี๋เยี่ยนเอามือค้ำบริเวณราวของเรือเหาะ มองแสงไฟสว่างจากบ้านเรือนของชาวเมือง “ถ้าหากสักวันหนึ่ง พวกเราได้นั่งเรือเหาะชมเมืองฉางอัน คาดว่าเมืองฉางอันคงจะสวยงามมากกว่านี้สักหน่อย” นางเอ่ยกับหยูติ้งชาน
“ลูกเอ๋ย อีกประเดี๋ยวเมื่อลงจอด เจ้าจะต้องเหินกลับขึ้นไปด้วยความเร็วสูงสุด พวกเรามิรู้ว่าจะอยู่ในเมืองได้นานเพียงใด เช่นนั้นเจ้าจะต้องกลับให้เร็วที่สุด เพื่อประหยัดเชื้อเพลิง และเพื่อป้องกันศึกที่จะลำบากขึ้นไปอีกในภายภาคหน้า ! ”
“…ท่านเเม่” ใบหน้าของหยูติ้งชานจริงจังขึ้นมา “ลูกจะไปเป็นเพื่อนท่านเอง ! ”
“ไร้สาระ ! ” เผิงยวี๋เยี่ยนกล่าวตำหนิบุตรชาย “เจ้าเป็นถึงหัวหน้ากองพลที่หนึ่ง เจ้ายังต้องออกคำสั่งที่สำคัญอีกมากมาย ! ถ้าหากว่าศัตรูเคลื่อนทัพออกจากเมือง เจ้ายังมีภารกิจวางระเบิดศัตรูรออยู่ ! ”
“แม่เป็นถึงปรมาจารย์ ฝีมือยิงปืนก็พอใช้ได้ เจ้ามิต้องกังวลไปหรอก เพียงแค่จำเอาไว้ว่าจงยึดส่วนรวมเป็นหลัก ! ”
“เมื่อแม่และเหล่าทหารเสร็จภารกิจแล้วจะหาหนทางหนีออกไปเอง เมื่อถึงตอนนั้นพวกเราจะไปรวมตัวกับพวกเจ้า”
หยูติ้งชานนิ่งเงียบไปชั่วครู่ จากนั้นก็หยักหน้ารับ
ทันใดนั้นเอง เสียงระเบิดก็ดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง
เขาหันขวับกลับไปมอง แล้วออกคำสั่งด้วยความลำบากใจ “เตรียมลดระดับลงเหลือความสูงที่ 10 จั้ง ! ”