นายน้อยเจ้าสำราญ - ตอนที่ 1383 บางตัวเลือกนั้นไร้ซึ่งถูกผิด
ตอนที่ 1383 บางตัวเลือกนั้นไร้ซึ่งถูกผิด
ณ เมืองอิงเทียน
สวนจัวเจิ้ง
เม็ดฝนละเอียดโปรยปราย
ฟู่เสี่ยวกวนนั่งอยู่บนหอเจี้ยนซานภายในสวนพลางทอดสายตามองทะเลสาบฮ้วนซีที่มีหมอกฝนปกคลุมไปทั่วบริเวณ ผ่านไปชั่วครู่ถึงได้ดึงสายตากลับมา
เขากวาดสายตามองเหล่าภรรยาและลูก ๆ สีหน้าของพวกนางมีความหวาดกลัวอยู่เล็กน้อย ส่วนอู๋หลิงเอ๋อร์มีสีหน้ารู้สึกผิดเสียเต็มประดา
บรรยากาศดูอึมครึมช่างเข้ากับวันที่เมฆหมอกมืดครึ้มเช่นนี้เสียจริง
ฟู่เสี่ยวกวนฉีกยิ้มร่าพลางเอ่ยว่า “มิพบกันตั้งสี่ปี พวกเจ้าคิดถึงข้าบ้างหรือไม่ ? ”
ต่งชูหลานเงยหน้าขึ้นพร้อมกับถลึงตาใส่เขา “ตกลงกันเสียดิบดีว่าเจ้าจะเดินทางไปฝูหล่างจีเป็นที่สุดท้าย ตกลงกันเสียดิบดีว่าเมื่อเรื่องนี้จบสิ้นลงแล้ว เจ้าจะปักหลักอยู่ที่อิงเทียน… บัดนี้อิงเทียนก่อสร้างเป็นรูปเป็นร่างแล้ว บริเวณรอบนอกที่วางแผนจะบุกเบิกที่นา บัดนี้ก็บุกเบิกเสร็จเรียบร้อยแล้ว เจ้าบอกว่าเจ้าต้องการเป็นเศรษฐีที่ดิน บัดนี้มีทั้งเมืองมีทั้งที่ดิน ทั้งหมดนี้ยังมิใช่สิ่งที่เจ้าปรารถนาอีกหรือ ? ”
ในขณะที่ฟู่เสี่ยวกวนกำลังจะอ้าปากเอ่ยอยู่นั้น ต่งชูหลานก็พรั่งพรูคำเอ่ยของนางออกมาอีกครา “เจ้ารู้หรือไม่ว่าสี่ปีมานี้… ไม่สิ สิบกว่าปีมานี้ เจ้าอยู่ข้างกายพวกเราทั้งหมดกี่วัน ? ”
“หากนำมารวมกันเกรงว่ามิถึงครึ่งปีเลยด้วยซ้ำ ! ”
“แต่เรื่องนี้ข้าและพี่น้องทั้งหลายก็พอจะเข้าใจได้ เพราะเจ้าสถาปนาต้าเซี่ยขึ้นมา และพวกเราก็หวังว่าต้าเซี่ยจะดียิ่งขึ้นภายใต้การปกครองของเจ้า อย่างน้อย ๆ จะได้เหลือชื่อเสียงดี ๆ เอาไว้ในบันทึกประวัติศาสตร์”
“บัดนี้เป็นยุคสมัยอันรุ่งโรจน์ของต้าเซี่ย ส่วนเจ้าได้สลัดภาระอันหนักอึ้งบนบ่าทิ้งไปแล้ว เจ้าทำให้ราษฎรชาวต้าเซี่ยมามากพอแล้ว ทว่าพวกเราเล่า ? ”
“ซูซูรอเจ้า รอจนนางบรรลุเป็นปรมาจารย์ไปแล้ว ! ”
“นางปรารถนาที่จะมีลูกกับเจ้าอีกสองคน ทว่าตั้งแต่ที่เจ้าแต่งงานกับนาง เจ้าไปนอนร่วมหอกับนางสักกี่วันกันเชียว ? ”
“ซือหม่าเช่อ ที่ตามเจ้ามาตั้งแต่ว่อเฟิงเต้า ตอนนั้นนางเพิ่งจะมีอายุได้สิบห้าสิบหกปีเท่านั้น ช่วงเวลาที่งดงามที่สุดของนางได้ผ่านเลยไปทั้งอย่างนั้น”
“เจ้าเคยร่วมห้องกับนางสักกี่ครากัน ? ”
“พวกข้ามิได้เรียกร้องให้เจ้ามาร่วมห้องในทุก ๆ วัน พวกข้าทราบดีว่าเจ้าเหนื่อย แต่เจ้าเคยให้สัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าเมื่อต้าเซี่ยเดินอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้อง เจ้าจะกลับมาอยู่เคียงข้างพวกข้า อยู่เคียงข้างลูก ๆ เป็นพ่อและสามีที่ดี ! ”
“การที่พวกเราติดตามเจ้ามา แน่นอนว่าเป็นเพราะเจ้ามีความสามารถ มิใช่เพราะตำแหน่งใหญ่โตของเจ้า ! ”
“สิ่งที่พวกเราคาดหวัง แท้จริงแล้วพวกเราอยากให้เจ้ากลับมาเป็นนายน้อยเศรษฐีที่ดินเหมือนตอนที่อยู่หลินเจียง”
“เจ้าเป็นกระดูกสันหลังของพวกเรา เจ้าเป็นเสาหลักของครอบครัวเรา ! เพราะเจ้า พวกเราถึงสมัครสมานร่วมใจอยู่ด้วยกัน แต่เจ้ากลับต้องการไปทำเรื่องเสี่ยงอันตรายนั่น…”
ต่งชูหลานแจกแจงความผิดของเขา นางมองไปที่อู๋หลิงเอ๋อร์ด้วยสีหน้ารู้สึกผิด “กว่าจะมีอู๋เทียนซื่อได้ มันมิง่ายอย่างแท้จริง แต่ในเมื่อบัดนี้เขาเดินทางเข้าไปในดินแดนลึกลับแห่งนั้น สถานที่แห่งนั้นเต็มไปด้วยภยันอันตรายที่พวกเรามิอาจล่วงรู้ได้…”
“พวกเราหวังว่าอู๋เทียนซื่อจะกลับออกมาอย่างปลอดภัย แต่ท่านแม่บอกว่า…สถานที่แห่งนั้นเมื่อเข้าไปแล้วจะมิอาจกลับออกมาได้อีก ! ”
“พวกเราได้สูญเสียอู๋เทียนซื่อไปแล้ว”
ต่งชูหลานจ้องมองฟู่เสียวกวน พร้อมกับถอนหายใจยาวออกมา “เจ้าลองคิดดูให้ดี ถ้าหากว่าพวกเราสูญเสียเจ้าไป… ชีวิตที่เหลือต่อไปนี้ของพวกเราจะเป็นเยี่ยงไรกัน ! ”
คำเอ่ยเหล่านี้ ต่างก็เอ่ยออกมาจากใจจริง
ฟู่เสี่ยวกวนทราบดีว่าเขาแทบจะมิได้อยู่เคียงข้างภรรยาและลูก ๆ เลย เขาเองก็รู้สึกผิดในใจมิน้อย
สตรีทุกนางที่นั่งอยู่ที่นี่ล้วนแต่มีอดีตที่สลักไว้บนกระดูก จารึกไว้ในหัวใจกับเขาทั้งสิ้น ล้วนแต่เป็นรักแท้ที่เขามิอาจสลัดออกไปได้ และเป็นเพราะพวกนาง เขาถึงได้วางแผนชีวิตอีกครึ่งชีวิตที่เหลือตั้งแต่เนิ่น ๆ
เขาหวังว่าอีกครึ่งชีวิตที่เหลือจะมีเหล่าภรรยาคอยอยู่เคียงข้าง คอยเดินอยู่ข้างกายเวลาที่ตนเดินเล่นอยู่ในทุ่งนา มีลูก ๆ อยู่รายล้อมและมีเสียงหัวเราะสนุกสนานดังเคล้าคลอ
ทว่าบัดนี้…
ฟู่เสี่ยวกวนทอดสายตามองภูเขาซึ่งตั้งอยู่ไกลออกไปท่ามกลางสายฝน ภายในใจของเขารู้สึกสั่นไหวขึ้นมา
เขาทราบถึงความอันตรายของฐานนิวเคลียร์แห่งนั้นเป็นอย่างดี
หลังจากที่ได้อ่านหนังสือศิลปะการทำนายอีกครึ่งเล่ม เดิมทีเขาก็ทราบดีอยู่แล้วว่าขั้วโลกเหนือเป็นดินแดนต้องห้าม เขาหวังให้เรื่องนี้หายไปในแม่น้ำสายประวัติศาสตร์ เขาหวังว่าความอันตรายของสถานที่แห่งนั้นจะมลายหายไปตามกาลเวลา
สำหรับหอเทียนจีชั้นที่ 18 อาจเป็นเพราะเขาอายุมากขึ้น จึงทำให้เขาค่อย ๆ สูญเสียความสงสัยที่มีต่อสถานที่แห่งนั้น ทั้งยังมิอยากเข้าไปค้นหาความจริงเลยสักนิด
แต่บัดนี้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมากับอู๋เทียนซื่อ
หรือว่านี่จะเป็นลิขิตแห่งสวรรค์ ?
ชายอ้วนพาพวกซูเจวี๋ยออกเดินทางได้สามวันแล้ว และมิทราบว่าเส้นทางสู่ขั้วโลกเหนือจะยาวไกลเพียงใด ท่านแม่เอ่ยว่าพวกเขาเตรียมตัวกันพร้อมแล้ว อีกทั้งยังให้ทหารท้องถิ่นกว่าหนึ่งพันนายขนเสบียงติดตามพวกเขาไป
ทว่าพวกเขามิได้นำชุดป้องกันติดไปด้วย !
สารกัมมันตรังสีมิใช่สิ่งที่ปรมาจารย์จะสามารถต้านทานได้
ต่อให้พวกเขาสังหารความฝันที่สองได้ พวกเขาทุกคนจะต้องตายเพราะได้รับสารกัมมันตรังสีมากเกินไป หรือต่อให้มีผู้รอดชีวิต อนาคตของพวกเขาจะเป็นดั่งพระคาร์ดินัล ที่มีชีวิตอยู่มิสู้ตายไปเสีย
ด้วยเหตุนี้ตนจึงจำต้องเดินทางไปด้วยตนเอง
เพื่ออู๋เทียนซื่อ และเพื่อชายอ้วน !
ฟู่เสี่ยวกวนพยักหน้า “ชูหลานเอ่ยได้ถูกต้อง”
“ข้ารู้สึกโชคดีที่ได้อยู่เคียงข้างพวกเจ้าและข้าก็รู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก ข้าขอรับปากพวกเจ้าว่า…ข้าจะมิไปยังสถานที่แห่งนั้น ช่วงชีวิตที่เหลือข้าจะอยู่เคียงข้างพวกเจ้า ข้าจะอยู่ชมแสงแรกของวันและแสงอาทิตย์อัสดงไปพร้อมกันกับพวกเจ้า ! ”
“จริงหรือ ? ”
หยูเวิ่นหวินรู้สึกตื่นเต้นจนต้องลุกพรวดขึ้นมา ส่วนสตรีคนอื่น ๆ ที่เหลือต่างก็ตั้งหน้าตั้งตารอคอยอย่างยิ่ง แม้แต่อู๋หลิงเอ๋อร์ก็เช่นกัน
อู๋เทียนซื่อเป็นบุตรชายของนาง แต่ฟู่เสี่ยวกวนก็เป็นสามีของนางเช่นกัน !
หลายวันมานี้นางได้ตกตะกอนความคิดจนเข้าใจอย่างแจ่มชัดแล้ว โดยเฉพาะหลังจากได้สนทนากับสวี่หยุนชิง ท้ายที่สุดแล้วคาดว่าบุตรของนางคงมิอาจรอดชีวิตกลับมาได้แล้ว ดังนั้นนางมิอาจสูญเสียสามีไปได้อีกคน
“ข้าจะโกหกเจ้าไปเพื่ออันใดกัน ? ”
ฟู่เสี่ยวกวนยกถ้วยชาบนโต๊ะขึ้นมาจิบ แล้วปิดบังความมิสบายใจของตนเอาไว้ “วันพรุ่งนี้พวกเราเดินทางไปยังเยือนเรือนซีซานกันเถิด ! ”
“ข้าจะขุดห้องเก็บสุราให้กว้างกว่าเดิม เพื่อที่จะหมักสุราซีซานให้มากสักหน่อย เพราะเมื่อพวกเยี่ยนซีเหวินปลดเกษียณแล้ว พวกเขาจะพาครอบครัวย้ายมาที่นี่ ! ”
“ไอหยา ยอดเยี่ยมไปเลย” หนานกงเพียวเสวี่ยยิ้มเบิกบาน จากนั้นก็เอ่ยต่อว่า “คาดว่าปีหน้าเส้นทางเดินเรือจากต้าเซี่ยไปถึงฝูหล่างจีก็คงจะสามารถใช้ได้แล้ว เมื่อถึงเวลานั้นค่อยรับท่านปู่มาอยู่ที่นี่ เช่นนั้นบรรยากาศของที่นี่ก็จะอบอุ่นยิ่งกว่าเมืองกวนหยุนหรือเมืองฉางอันเสียอีก ให้พวกเขาใช้ชีวิตบั้นปลายที่นี่น่าจะดีกว่า ! ”
ฟู่เสี่ยวกวนปรบมือ “ถูกต้อง เช่นนั้นก็สร้างเรือนหลังใหญ่ขึ้นมาข้าง ๆ เรือนซีซาน ข้าเองก็หวังจะรับขุนนางเก่าแก่ของต้าเซี่ยมาที่นี่ด้วยเช่นกัน”
บัดนี้ราวกับว่าฟู่เสี่ยวกวนได้หลงลืมเรื่องอู๋เทียนซื่อไปจนสิ้นแล้ว เพราะเขากำลังสนทนาเรื่องภายในอนาคตร่วมกับเหล่าภรรยาอย่างออกรส
อนาคตเช่นนั้นคงเป็นอนาคตที่สมบูรณ์แบบที่สุด
เช่นบ้านไม้หลังเล็กริมทะเล
เช่นเรือนน้ำพุร้อนตรงภูเขาหิมะ
หรือเช่นเปิดโรงงานกระจกขึ้นมา เพื่อที่จะสร้างกระจกบานใหญ่สำหรับชมดวงดารากลางป่าเขา
ไป๋ยู่เหลียนจดบันทึกทุกอย่างในใจ ทว่าสายตาที่เขาใช้จ้องมองฟู่เสี่ยวกวนเริ่มจริงจังขึ้นเรื่อย ๆ
ส่วนต่งชูหลาน แม้ว่านางจะมีสีหน้าเบิกบาน ทว่าหัวใจของนางกลับจมดิ่งสู่ก้นเหวลึก
นางทราบดีว่าตอนที่เขากำลังโกหก เขาจะตั้งใจยิ่งกว่าตอนเอ่ยความจริง