นายน้อยเจ้าสำราญ - ตอนที่ 144 เตาหลอมเหล็กทรงสูง
ตอนที่ 144 เตาหลอมเหล็กทรงสูง
สำหรับการฝึกอบรมพิเศษเพิ่งดำเนินขึ้น ฟู่เสี่ยวกวนมิได้ใส่ใจรายละเอียดมากนัก เขาให้ไป๋ยู่เหลียนจัดการก็เพียงพอ
ต่อจากนี้เขาวางแผนจัดทำโรงงานสบู่และโรงงานกระดาษ สิ่งเหล่านี้ง่ายกว่ามากนัก เขาใช้เวลาเพียง 1 ชั่วยามก็สามารถวาดโครงร่างออกมาสำเร็จ และวานให้ชุนซิ่วไปเรียกจางเช่อมาพบ
” สิ่งนี้ใช้สำหรับผลิตสบู่ วัตถุดิบและอุปกรณ์เรียบง่ายมาก เจ้าลองดู จากนั้นจงไปหาผู้ที่เชื่อถือได้มารับผิดชอบโรงงานทั้งสองนี้ ส่วนเรื่องวิธีการผลิตกระดาษนั้น ข้าเขียนไว้อย่างละเอียด วิธีของข้าแตกต่างจากเดิมมากนัก เจ้าจงไปจัดการหานายช่างชำนาญการ แล้วทำตามวิธีของข้า เจ้าลองนำไปอ่านดูจากนั้นไปคัดเลือกคน แล้วค่อยจัดซื้ออุปกรณ์ หลังจากทดลองทำแล้วก็นำมาให้ข้าดู”
จางเช่อรับมาอ่าน การผลิตสบู่นั้นแท้จริงแล้วใช้น้ำมันหมู เถ้าถ่านและน้ำมันหอม ……วัตถุดิบเหล่านี้หาได้ไม่ยากเพียงแต่ขั้นตอนการผลิตซับซ้อนหลายขั้นตอน คุณชายได้เขียนอย่างละเอียด หากทำตามทีละขั้นตอนคาดว่าน่าจะมิยากอย่างที่เห็น
จากนั้นเขาได้หยิบวิธีผลิตกระดาษขึ้นมาดู อืม วัตถุดิบที่คุณชายเลือกใช้ก็คือไม้ ไม้จะนำมาทำกระดาษได้อย่างไร ? เขาเคยเห็นแต่คนใช้กกทำเป็นกระดาษซึ่งมีต้นทุนสูงมาก คนธรรมดาทั่วไปคงมิอาจมีกำลังมากพอที่จะซื้อมาใช้ได้ แต่หากว่าใช้ไม้ก็สามารถหาวัตถุดิบได้อย่างง่ายดาย
ความคิดของคุณชายช่างหลักแหลมเสียจริง ก่อนหน้านี้ตนมิเคยเห็นคุณชายสนใจเรื่องเหล่านี้ เขาไปรู้จักวิธีเหล่านี้มาได้อย่างไรกัน ?
จางเช่อไม่เข้าใจเสียจริง หลังจากพิจารณาอยู่ชั่วครู่ จางเช่อก็ขอตัวออกไปจัดการกับสองเรื่องนี้
ฟู่เสี่ยวกวนเดินทางไปยังศูนย์วิจัยซีซาน
หลี่อี้อยู่ที่ห้องทดลองชั้นหนึ่งด้านนอกสุด ตอนที่เขาเลือกห้องทดลองก็ได้เลือกห้องนี้เป็นห้องแรก เนื่องจากหากเกิดเหตุการณ์ใดขึ้นมาระหว่างทำการทดลอง จะได้วิ่งออกไปได้เร็วที่สุด
ฟู่เสี่ยวกวนก็รู้สึกว่าความคิดนี้สมเหตุสมผล เพราะการทดลองสามารถเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้ตลอดเวลา
ฟู่เสี่ยวกวนเดินเข้าไปในห้องทดลองดินระเบิด ก็พบว่าหลี่อี้และอาจารย์อีกหลายท่านกำลังถกถึงปัญหาของสัดส่วนวัตถุดิบอยู่
เขาได้แต่ยืนฟังโดยมิได้ออกความคิดเห็นใด จากนั้นก็เดินออกมามุ่งหน้าตรงไปยังห้องทดลองอาวุธปืนที่อยู่ชั้นเดียวกัน
ฉินเฉิงเย่และนายช่างอีก 20 คนกำลังวิเคราะห์แผนโครงสร้างอาวุธที่ฟู่เสี่ยวกวนร่างขึ้น เขายืนฟังชั่วครู่ พบว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาวางแผนไว้มิผิดเพี้ยน จึงได้เดินทางออกจากศูนย์วิจัยซีซานกลับไปยังเรือนซีซาน
ห้องทดลองอาวุธปืนยังต้องการเครื่องมือและวัตถุดิบ บัดนี้พวกเขายังคงค้นคว้าเกี่ยวกับปืนคาบศิลาว่าเป็นเช่นใดอยู่
เขารู้สึกว่าตนมิมีสิ่งใดต้องทำแล้ว จึงได้นั่งสมาธิอยู่ที่ลานกว้าง เพื่อฝึกฝนคัมภีร์พระสูตรเก้าหยางต่อไป
ซูซิ่วหันมามองฟู่เสี่ยวกวน เข็มปักผ้าในมือกำลังขยับ นางอยากใช้เข็มนั้นแทงไปที่เขา แต่ก็ได้ยินเสียงหนึ่งเอ่ยห้ามขึ้นเสียก่อน “อย่าคิดกระทำทางลัดเชียว!”
ซูซิ่วเบ้ปากแล้วนึกในใจว่า เจ้านี่มีเรื่องราวต่าง ๆ ต้องทำมากมาย มิมีเวลาพอที่จะฝึกฝน การที่เขาจะฝึกกำลังภายในได้ต้องรออีกสักกี่ปีกัน? หากนางใช้เข็มทิ่มแทงเขาสักหน่อย อาจทำให้เขาเกิดพลังขึ้นมาได้บ้าง นี่เป็นการกระทำทางลัดอย่างไร?
ส่วนเขาจะมีใจศรัทธาที่มั่นคงหรือไม่……เจ้านี่จะเอาใจศรัทธามาจากที่ใด!
หากศิษย์พี่รองอยู่ที่นี่ด้วยคงดี เขาจักต้องสนับสนุนข้าให้ทิ่มสักสามสี่ครั้งแน่นอน
ฟู่เสี่ยวกวนมิได้รับรู้ว่า หากซูเจวี๋ยไม่เข้าไปขัดขวางเสียก่อน ในขณะนี้จิตวิญญาณของเขาอาจเดินทางไปตามเส้นทางลมปราณที่อธิบายไว้ในพระสูตรเก้าหยาง เพื่อมองหาพลังภายใน
ในตอนบ่าย ฟู่เสี่ยวกวนเขียนจดหมายให้ต่งชูหลานฉบับหนึ่ง จากนั้นก็ฝึกรำดาบต่อไป จางเช่อนำทางเฝิงซื่อมายังด้านใน เขารู้สึกได้ว่าฟู่เสี่ยวกวนช่างน่าชื่นชมนัก
“มาเถิด มาๆๆๆ เชิญนั่งก่อน” ฟู่เสี่ยวกวนนำดาบของซูม่อวางลงข้าง ๆ โต๊ะ จากนั้นสั่งให้ชุนซิ่วรินน้ำชามาสามถ้วย
“คุณชาย!” เฝิงซื่อคารวะฟู่เสี่ยวกวน เขาหัวเราะหึ ๆ แล้วกล่าวว่า “อย่าได้ทำตัวเหินห่างเช่นนี้เลย เชิญนั่งเร็ว”
“นี่มัน……” เฝิงซื่อครุ่นคิดชั่วครู่แล้วนั่งลงไป ในขณะที่จางเช่อกำลังจะเดินออกไป ฟู่เสี่ยวกวนก็ได้ให้เขาอยู่ด้วยกันเสียก่อน
“สถานการณ์ที่ภูเขาเฟิ่งหลินเป็นเยี่ยงไรบ้าง?” ฟู่เสี่ยวกวนเอ่ยถาม
“คาดว่าในเดือนหน้าจะสามารถใช้งานถนนได้ขอรับ ข้าได้ให้คนกลุ่มหนึ่งเดินทางไปขุดแร่ ณ ภูเขาต้วนหุนซานแล้ว……” เฝิงซื่อโน้มตัวเข้ามากล่าวด้วยท่าทีระมัดระวังว่า “คุณชายขอรับ ข้าจักบอกแก่ท่านว่าเหมืองนั้นช่างใหญ่โตพอควร! นายช่างเซี่ยกล่าวว่าเพียงแค่เหมืองนี้เหมืองเดียว ก็สามารถขุดได้เป็นร้อยปี!”
ในใจฟู่เสี่ยวกวนรู้สึกยินดียิ่ง หลิวจือโจวได้มอบของขวัญชิ้นใหญ่แก่เขาแล้ว
“นายช่างเซี่ยคือใคร?”
“เป็นช่างตีเหล็กที่ข้าน้อยได้ตัวมาจากสำนักหล่อของอำเภอเหยา เขามีสายตาที่แหลมคมยิ่ง และด้วยเหตุนี้พวกเราจึงสามารถค้นหาเหมืองได้อย่างแม่นยำ”
“เรื่องนี้เจ้าจัดการได้ดีนัก ปลายปีข้าจะให้รางวัลเพิ่ม! จางเช่อ จงบันทึกเอาไว้ให้ข้าด้วย ข้าเกรงว่าตนเองจะลืมไปเสีย อ้อ การที่ข้าเรียกเจ้ากลับมาในครั้งนี้เนื่องจากมีเรื่องอื่นจะเจรจากับเจ้า ข้าได้ยินว่าเจ้าเริ่มสร้างเตาหลอมเหล็กแล้วงั้นหรือ?”
“ขอรับ ที่หุบเขาต้วนหุนซานนั้นใหญ่โตมาก ด้านตะวันตกของภูเขามีน้ำตกและทะเลสาบอยู่ นายช่างเซี่ยกล่าวว่าที่แห่งนี้เหมาะสมยิ่งในการสร้างเตาหลอมเหล็ก……คุณชายมีแผนการอย่างอื่นหรือไม่?”
เฝิงซื่อท่าทางกระวนกระวาย เนื่องจากเรื่องใหญ่โตเพียงนี้เขากลับทำโดยพลการ มิได้รายงานให้คุณชายรับรู้เสียก่อน
ฟู่เสี่ยวกวนส่ายหน้า “เดิมทีข้าก็คิดว่าจะสร้างเตาหลอมเหล็กที่นี่ หากแต่วิธีสร้างเตาหลอมเหล็กนั้นจะต้องทำการแก้ไข เจ้าจงดูสิ่งนี้”
เขานำโครงร่างที่วาดเสร็จแล้วยื่นให้เฝิงซื่อดู กล่าวว่า “เจ้าจงกลับไปปรึกษากับนายช่างเซี่ยและคนอื่น ๆ เรื่องการผลิตเตาหลอมเหล็กนี้ เตานี้เรียกว่าเตาหลอมเหล็กทรงสูง ต้องการใช้เครื่องเป่าขนาดมหึมาสำหรับการเผาไหม้ การที่บริเวณนั้นมีน้ำตกสูงเป็นการดียิ่ง เจ้าจงไปหาโจวเจิ้ง บอกให้เขาสร้างกังหันน้ำขนาดใหญ่อีกจำนวนหนึ่ง ใช้พลังของกังหันน้ำขับเคลื่อนเครื่องเป่า คล้ายกับการทำปูน เจ้าคงเข้าใจดี”
เฝิงซื่อเป็นช่างหิน สิ่งเหล่านี้เขาจะรู้จักได้อย่างไร คุณชายได้เขียนวิธีการต่าง ๆ ไว้บนกระดาษ แต่เขามิรู้หนังสือ! เมื่อลองคิดดูแล้ว นายช่างเซี่ยเป็นผู้มีความรู้คงจะเข้าใจได้
“เรียนคุณชายตามตรงว่าข้าหาได้เข้าใจสิ่งเหล่านี้ไม่ ข้าจะนำกลับไปให้นายช่างใหญ่ทั้งหลายดู แต่เรื่องกังหันน้ำนั้นข้าเข้าใจดี คุณชายมีเรื่องอื่นที่จะให้ข้าทำอีกหรือไม่?”
ฟู่เสี่ยวกวนครุ่นคิดอยู่สักพัก เขารู้สึกว่าจะต้องให้เฝิงซื่อไปกำชับกับนายช่างทั้งหลาย มิฉะนั้นพวกเขาอาจไม่ยอมรับสิ่งใหม่ ๆ เหล่านี้
“เจ้าจงไปบอกกับพวกนายช่างว่า เตาหลอมเหล็กทรงสูงนี้จะสามารถสร้างความร้อนได้สูงนัก สามารถทำให้เหล็กหลอมละลายได้ในเวลาอันสั้น อีกทั้งสามารถขจัดสิ่งแปลกปลอมได้ดีกว่า หากมิใช่ปัญหาอันมาจากฝีมือการก่อสร้าง จงอย่าได้ปรับปรุงให้มากนัก”
เฝิงซื่อจดจำคำพูดนี้ได้ขึ้นใจ จากนั้นก็ลุกขึ้นจากไป ฟู่เสี่ยวกวนหันไปกล่าวกับจางเช่อว่า “ถนนที่ภูเขาเฟิ่งหลินเรียบร้อยแล้วจงรายงานข้าด้วย ข้าจักเข้าไปดูด้วยตนเอง อ้อ ผู้คนที่เข้าไปทำถนนนั้นหลังจากเสร็จงานแล้วก็ให้พวกเขาพำนักที่นั่นไปก่อน หลังจากข้าเดินทางไปดูแล้วค่อยวางแผนว่าจะให้พวกเขาทำอย่างไรต่อ”
“ขอรับ!”
“ฤดูใบไม้ผลินในปีหน้า สำนักศึกษาซีซานจะเปิดแล้ว ผู้คนที่ภูเขาซีซานมีไม่น้อยที่เป็นผู้ร่ำเรียนตำรา จงไปจัดหาผู้อาวุโสที่สามารถสอนหนังสือได้มาเป็นอาจารย์ที่นี่เถิด”
“อีกทั้งที่ซีซานจำเป็นจักต้องสร้างโรงพยาบาล เนื่องจากพวกที่ฝึกพิเศษคงได้รับบาดเจ็บไม่มากก็น้อย ดังนั้นพวกเขาจะต้องได้รับการรักษาอย่างเร็วที่สุด”
“เรื่องโรงผลิตสบู่และกระดาษ จงไปคัดเลือกสตรีจากชาวบ้านในซีซาน เนื่องจากสิ่งนี้สิ้นเปลืองวัตถุดิบมาก เจ้าจงระมัดระวังอย่าได้เกิดข้อผิดพลาดเพราะวัตถุดิบอาจมิเพียงพอ”