นายน้อยเจ้าสำราญ - ตอนที่ 582 ดำกินดำ
ตอนที่ 582 ดำกินดำ
“เขา… เขากำลังพาทหารจำนวน 100,000 นาย ไปโกยเงินในจวนเฉิงโฉวอยู่ขอรับ ! ”
ให้ตายเถอะ !
เฟ่ยอันรู้สึกกังวลขึ้นมาทันใด !
ดวงตาของเขาเบิกกว้างแล้วเอ่ยออกมาว่า “เจ้าหมายความว่าไอ้เจ้าบ้าเฮ้อซานเตาเข้าไปปล้นเงินเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
เสี้ยวเว่ยผู้นั้นแลบลิ้นเลียริมฝีปากออกมา ดวงตาของเขาเป็นประกายแวววับ “ข้าน้อยคิดว่า…ซานเยจะได้ครองคลังทองของที่นี่ไปแล้วขอรับ ! ”
“ว่าเยี่ยงไรนะ ? ”
เฟ่ยอันรีบลุกขึ้นทันพลัน เสี้ยวเว่ยผู้นั้นรีบกล่าวต่อว่า “ท่านแม่ทัพใหญ่น่าจะยังมิทราบ ทรัพย์สมบัติเงินทองมากมายเต็มคลัง ซานเยยืนเฝ้าอยู่ที่หน้าประตู ทหารกองสองจำนวน 100,000 นายต่อแถวยาวเหยียดรอรับเงินรางวัล ซานเยกล่าวว่า…”
“เขาว่าเยี่ยงไร ? ไม่สิ ! เหตุใดเฮ้อซานเตาจึงกลายเป็นซานเยได้กัน ? ”
“เอ่อ…เขากล่าวว่า หากมีเงินก็นับเป็นเย และจากนี้เป็นต้นไป เขาก็คือซานเยผู้ลือนาม ! ”
ไอ้บ้าเอ้ย !
เฟ่ยอันกัดฟันแน่นแล้วเดินหน้ามาสองก้าว “เขากล่าวว่าเยี่ยงไรอีก ? ”
เสี้ยวเว่ยกลืนน้ำลายลงคอ “ซานเยกล่าวว่าให้ติดตามเขา แล้วเขายังสัญญาอีกว่าจะซื้อตัวหญิงสาวในหอนางโลมมาให้ทุกคน ! จึงทำให้ทหารอีก 3 กองอิจฉาตาร้อนเป็นอย่างมาก เกรงว่าบัดนี้…ทหารอีก 3 กองทัพคงได้พากันค้นหาคลังสมบัติไปทั่วเมืองเจี้ยนเหมินแล้วขอรับ”
“ข้าจะไปจัดการไอ้เจ้านี่ ! ”
เฟ่ยอันก้าวขาเดินออกไป ฟู่เสี่ยวกวนเห็นเช่นนั้นจึงยกยิ้มขึ้นมา ดูแล้วเจ้าเฮ้อซานเตานี่จะเป็นพ่อค้าที่ดินที่ไม่ธรรมดา ดังนั้น เขาจึงเดินตามเฟ่ยอันและคนอื่น ๆ ไปยังจวนเฉิงโฉว
……
……
ด้านในจวนเฉิงโฉว
พอเฮ้อซานเตาได้ฟังคำสั่งผ่านเสี้ยวเว่ยผู้นั้นแล้ว เขาก็ได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้วว่า “จ้าวลี่จู้ เจ้าไปพาพี่น้องทหารจำนวน 100 นายมาและให้เตรียมกระสอบมาด้วย โกยเงินทองในนี้ยิ่งมากยิ่งดี จากนั้นก็ให้เดินทางออกไป…”
“ไอหยา ! จะใส่เงินไปทำไมมากมายเล่า เงินนี่จะมีค่าสักเท่าใดกันเชียว ! พวกเจ้าโง่หรือเยี่ยงไร ! เร่งมือเข้า ท่านแม่ทัพใหญ่จะต้องเดินทางมาที่นี่อย่างแน่นอน หากถูกจับตัวได้ก็จะมิเหลือแม้แต่ขนเส้นเดียว ! ”
“เร็ว ๆ ๆ… พอแล้ว รีบปิดกระสอบ ผู้ใดที่มิมีอันใดทำก็กลับไปรอข้าที่ค่าย แล้วนำของเหล่านี้ซุกซ่อนเอาไว้ให้ดี รอให้เรื่องราวสงบลงเสียก่อนแล้วค่อยนำออกมาแบ่งกัน จงจำเอาไว้ว่า พี่น้องที่ตายในสนามรบต้องได้รับสิบเท่าตัว ! เอ้า… ลากกลับไปที่ค่ายเสียก่อน… ไม่สิ ! ซ่อนไว้ในเมืองเจี้ยนเหมินนี่แหละ ! ”
หลังจากทหารกองสองจัดการเรื่องวุ่นวายเหล่านี้เสร็จเรียบร้อยแล้วก็พากันยิ้มหน้าระรื่นออกจากเมืองไป จ้าวลี่จู้พาทหาร 100 นายขนกระสอบใส่เงินทองเหล่านั้นหายไปท่ามกลางความมืดเช่นกัน
เมื่อเฟ่ยอันเดินทางมาถึงจวนเฉิงโฉว จึงพบว่าเฮ้อซานเตายืนถือดาบอยู่ที่หน้าประตูจวน ราวกับรูปปั้นเทพเจ้าเยี่ยงไรเยี่ยงนั้น
เขามองเฟ่ยอันที่เดินเข้ามาจากที่ไกล ๆ จึงลอบยิ้มอยู่ในใจ หึ ๆ ท่านแม่ทัพใหญ่ ท่านมาช้าไปก้าวหนึ่งเสียแล้ว
เฟ่ยอันเดินมาถึงปากทางเข้า ยังมิทันได้ทำอันใด เฮ้อซานเตาก็คุกเข่าลงทันใด “ข้าน้อยเฮ้อซานเตารายงานท่านแม่ทัพใหญ่ ! กองสองของข้าได้ค้นพบทรัพย์สมบัติเงินทองของศัตรูมากมาย ข้าน้อยจดจำสิ่งที่ท่านแม่ทัพสั่งสอนได้จนขึ้นใจ และเพื่อป้องกันมิให้ทหารเหล่านี้ซุกซ่อนเงินทองเอาไว้ ข้าจึงได้นำมากองรวมกันไว้ที่นี่ อยู่เฝ้าดูแลด้วยตนเอง จึงมิอาจละไปจากที่แห่งนี้ได้ ขอท่านแม่ทัพโปรดอภัยให้ข้าน้อยด้วยขอรับ ! ”
เฟ่ยอันตกตะลึงเสียจนชะงักค้าง ไอ้หมอนี่กล่าวออกมาอย่างสง่าผ่าเผย คิดว่าข้ามิรู้เยี่ยงนั้นหรือว่าเจ้ากำลังทำสิ่งใดอยู่ ?
เฟ่ยอันรู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก จากนั้นก็ได้เดินเข้าไปในจวนเฉิงโฉว เฮ้อซานเตารีบลุกขึ้นแล้ววิ่งตามเฟ่ยอันเข้าไปติด ๆ เขาเลิกคิ้วยกยิ้มขึ้นแล้วเอ่ยถามว่า “ท่านแม่ทัพใหญ่ขอรับ ที่นี่มีเงินทองอยู่มากมาย ขอกล่าวตามตรงว่าหากข้าน้อยมิได้เฝ้าอยู่ เกรงว่าทหารละโมบเหล่านั้นคงหอบกันไปจนหมดสิ้นแล้ว…”
เฟ่ยอันเดินเข้าไปด้านใน ก็ตกตะลึงขึ้นมาทันที…นี่ ….เจ้าค้นพบคลังสมบัติจริงเยี่ยงนั้นหรือ ?
เงินทองมากมายก่ายกอง มองคร่าว ๆ คาดว่าจำนวนนับแสนตำลึงได้ !
“สารภาพมาเสีย เจ้าเอาไปซ่อนไว้เท่าใด ? ”
เฮ้อซานเตาชะงักไปชั่วครู่ “มิได้ขอรับ ข้ามิได้ซ่อนไว้แม้แต่ตำลึงเดียว ท่านแม่ทัพใหญ่เคยสั่งสอนเอาไว้ ต่อให้ข้ามีความกล้ามากกว่านี้อีกสักร้อยเท่าก็มิอาจแตะต้องเงินเหล่านี้หรอกขอรับ ! ”
เฟ่ยอันหันหน้ามาหัวเราะเหอะ ๆ “ซานเย เฮ้อซานเย นิสัยของเจ้านั้นคิดว่าข้ามิรู้เยี่ยงนั้นหรือ ? เจ้ารู้หรือไม่ว่าเงินเหล่านี้คือเงินอันใด ? ”
เฮ้อซานเตาใจหายวูบ บ้าเอ๊ย ! ชื่อซานเยได้ยินไปถึงหูของท่านแม่ทัพใหญ่ได้เยี่ยงไร ?
เขาขมวดคิ้วมุ่น ยิ้มและยกมือขึ้นลูบศีรษะ “น่าจะเป็นเงินที่เจ้ากบฏเซวี๋ยแย่งชิงมา ท่านมีสายตาอันแหลมคม ข้าจะกล้าปิดบังท่านแม่ทัพได้เยี่ยงไรขอรับ”
“นี่คือคลังของเมืองเจี้ยนเหมิน ! เจ้ามิยอมรับใช่หรือไม่ เอาล่ะ… รอให้ข้าหาที่ซุกซ่อนเงินของเจ้าพบ แล้วข้าจะมาถลกหนังเจ้าอีกที ! ”
เฮ้อซานเตาตื่นตกใจเสียจนสะดุ้งโหยง เอ่อ…หากท่านแม่ทัพใหญ่โมโหขึ้นมาจริง ๆ แล้วจะทำเยี่ยงไรดี ?
หรือจะแบ่งสมบัติให้เสร็จสิ้นไปเลยดี ข้ามิเป็นเชียนฟูจ่างแล้ว ดีหรือไม่ ?
ฟู่เสี่ยวกวนเดินเข้ามาทันใด เขาหรี่ตาลงพลางยิ้มออกมาแล้วตบบ่าของเฮ้อซานเตา “ซานเย…”
เฮ้อซานเตาหันหลังไปมอง ไอหยา… ฟู่เจวี๋ยเย !
เขาคุกเข่าลงทันใด “ฟู่เจวี๋ยเย ท่านอย่าทำให้ข้าอายุสั้นลงเลยขอรับ อยู่ต่อหน้าฟู่เจวี๋ยเย ข้าน้อยจะกล้าเรียกตนเองว่าซานเยได้เยี่ยงไร เป็นทหารเหล่านั้นที่ตั้งชื่อขึ้นกันเองเท่านั้น…เจวี๋ยเย ท่านจึงจะเป็นเยที่แท้จริง ข้าเป็นได้เพียงแค่หลานท่านเท่านั้น ! ”
ฟู่เสี่ยวกวนเบิกตากว้างมองเขา เจ้าหมอนี่ช่างหน้าด้านเสียจริง !
หน้าด้านกว่าข้าเสียอีก มิธรรมดา ข้าชื่นชอบเขามากยิ่งนัก
“เจ้าหลานน้อย ลุกขึ้นสิ ! ”
เฮ้อซานเตาลุกขึ้น “เจวี๋ยเยขอรับ ท่านเหนื่อยหรือไม่ หลานนวดไหล่ให้ดีหรือไม่ขอรับ ? ”
“ไปไกล ๆ ข้าเลยเชียว ข้าเจวี๋ยเยจะบอกเจ้าว่า เจ้าจะได้กลายเป็นสมาชิกของกองกำลังดาบเทวะ นับแต่นี้ไป เจ้าถือเป็นคนของข้า”
เฮ้อซานเตาดีใจมากยิ่งนัก เนื่องจากรู้ดีว่าตนคงไม่อาจอยู่เป็นลูกน้องของเฟ่ยอันได้อีกต่อไป หากหลบมาอยู่ใต้ปีกของฟู่เจวี๋ยเย ต่อให้แม่ทัพเฟ่ยอันอยากคิดบัญชีกับเขามากเพียงใดก็คงทำอันใดมิได้หรอก หึ ๆ ๆ
ในขณะที่เขากำลังฝันหวาน ฟู่เสี่ยวกวนก็วางมือลงบนบ่าอีกครา ทั้งสองเดินโอบบ่ากันออกไปด้านนอกจวน
“ซานเตา…”
เฮ้อซานเตารู้สึกว่ามือที่บ่านี้ช่างอบอุ่นกว่ามือของสตรีเสียอีก นี่คือมือของฟู่เจวี๋ยเย ! เพียงข้าได้เศษเสี้ยวบารมีจากฟู่เจวี๋ยเย ก็สามารถลอยขึ้นสู่ท้องนภาได้แล้ว !
“ขอรับ”
“กองกำลังดาบเทวะขาดแคลนเงิน”
“หา ? เอ่อ… ข้าน้อยพอจะมีทรัพย์สินติดตัวอยู่บ้าง ข้าน้อยขอมอบให้กับกองกำลังดาบเทวะทั้งสิ้นขอรับ ! ”
ฟู่เสี่ยวกวนส่ายหน้า “ข้ามีความคิดดี ๆ เจ้าลองฟังนะ หากเจ้าทำได้ล่ะก็ ข้าจะให้รางวัลเจ้าอย่างงาม”
เฮ้อซานเตาทำหน้าตาตื่นเต้นขึ้นมาทันใด เขานำมือตบหน้าอกแล้วกล่าวว่า “ขอให้ฟู่เจวี๋ยเยกำชับมาเถิดขอรับ ต่อให้ต้องบุกน้ำลุยไฟ ข้าก็จะทำให้สำเร็จ ! ”
“ดี ! ” ฟู่เสี่ยวกวนยืนอยู่ตรงข้ามเฮ้อซานเตา แล้วทุบลงตรงหน้าอกของเฮ้อซานเตาอยู่สามที ก่อนจะกล่าวอย่างลับ ๆ ล่อ ๆ ว่า “สงครามครานี้ช่างวุ่นวายมากยิ่งนัก คลังของเมืองเจี้ยนเหมินนี้…หากกล่าวว่าทหารของเซวี๋ยติ้งชานเป็นคนเอาไป ก็คงมิมีผู้ใดตามสืบได้ เจ้าเข้าใจความหมายของข้าหรือไม่ ? ”
“เอ่อ…” เฮ้อซานเตาอ้าปากค้าง ฟู่เจวี๋ยเยต้องการให้ข้าไปปล้นคลังเยี่ยงนั้นหรือ ?
แต่คลังถูกข้าปล้นไปหมดแล้วนี่ !
“จงจำไว้ เรื่องนี้สำคัญยิ่ง หลังจากนี้อีก 1 ชั่วยาม ข้าต้องการเห็นเงินในคลังทั้งหมด ! เจ้าจงรีบไปทำเสีย หลังจากนั้นก็นำไปไว้ในจวนเฉิงโฉว ข้าจะไปหาสมุดบัญชีสักหน่อย อีก 1 ชั่วยามพวกเราค่อยมาช่วยกันนับเงิน ! ”
“……”
เฮ้อซานเตารู้สับสนไปหมด นี่คือดำกินดำชัด ๆ เลยนี่ !