นายน้อยเจ้าสำราญ - ตอนที่ 613 กฎหมายยอดนิยม
ตอนที่ 613 กฎหมายยอดนิยม
“คำถามนี้เป็นคำถามที่ดีมากยิ่งนัก และข้าเชื่อว่าทุกท่านในที่นี่ก็อยากจะรู้เช่นกัน”
ฟู่เสี่ยวกวนหยุดชั่วครู่แล้วมองไปทางซือหม่าเช่อ แม่นางผู้นี้มิเลวเลย คงจะเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่
หลังจากได้ยินฟู่เสี่ยวกวนชื่นชมในคำถามของนาง หัวใจของซือหม่าเช่อก็เต้นถี่รัวขึ้นมา ใบหน้าของนางค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นแดงเรื่อและก้มศีรษะลงอย่างเขินอาย นางค่อย ๆ นั่งลง ฟู่เสี่ยวกวนยิ้มอย่างรู้ทันแล้วเอ่ยว่า “คุณหนูท่านนี้ถามได้ดียิ่ง สิ่งที่ข้าจะบอกทุกท่านก็คืออย่าดูถูกความรู้ของสตรี ข้าจะมิเอ่ยอ้อมค้อม การค้าขายทั้งหมดในตระกูลของข้า ข้าได้มอบหมายให้กับฮูหยินทั้งสามคนของข้าเป็นผู้ดูแล ข้าเพียงแค่ชี้นิ้วสั่งอย่างเดียวเท่านั้นมิเคยลงมือทำด้วยตนเองเลย”
พอได้ยินดังนั้น ฝูงชนต่างก็พากันส่งเสียงหัวเราะออกมา สำหรับพ่อค้ารายใหญ่ในเมืองจินหลิง พวกเขารู้ดีอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้พวกเขาโดนปลูกฝังมาว่า หลังจากสตรีแต่งเข้าจวนแล้ว จะต้องช่วยเหลือสามี สั่งสอนบุตรและดูแลผู้คนในตระกูล
แต่ฮูหยินทั้งสามของฟู่เสี่ยวกวนมิเป็นเช่นนั้น ถ้ามิถือว่ากำลังตั้งครรภ์อยู่ ก่อนหน้านั้นพวกนางมักจะปรากฏตัวอยู่ทั่วทุกที่และดูแลการค้าขนาดใหญ่เป็นประจำ
ฟู่เสี่ยวกวนอยู่ในตำแหน่งที่สูง เขามิสนใจข่าวลือใด ๆ ทำให้ผู้คนในเมืองหลวงแปลกใจมากยิ่งนัก
ผู้คนเริ่มคุ้นเคยกับมันอย่างช้า ๆ ทันใดนั้นพวกเขาก็พบว่าแท้จริงแล้วกิจการของตระกูลฟู่อยู่ภายใต้การดูแลของเหล่าฮูหยิน พวกสตรีในจวนขุนนางชั้นสูงด้านค้าขายพอได้ยินข่าวลือก็เริ่มกระตือรือร้นขึ้นมา พวกนางละทิ้งการเย็บปักถักร้อย จากนั้นก็หยิบสมุดบัญชีขึ้นมา หากผู้ใดคัดค้าน พวกนางจะนำเรื่องฮูหยินทั้งสามของฟู่เจวี๋ยเยมาเอ่ยถึง
นั่นคือวิธีการแก้ไขปัญหาของพวกนาง ฮูหยินของฟู่เจวี๋ยเยสามารถปรากฏตัวทั่วทุกที่ได้ แล้วเหตุใดพวกนางจึงจะทำบ้างมิได้ ?
หัวอกของสตรีเป็นเหมือนกับสายลมในฤดูใบไม้ผลิ เหตุการณ์เช่นนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วทุกสารทิศในตระกูลใหญ่โดยมิรู้สาเหตุ
ฟู่เสี่ยวกวนโบกมือให้อยู่ในความสงบ จากนั้นเสียงก็ค่อย ๆ เงียบลง “ข้าเคยอ่านตำราสอนสตรี เอาเป็นว่านั่นคือความคิดที่ล้าหลังยิ่ง วิธีเช่นนั้นมิทันสมัยต่อการก้าวไปข้างหน้า ดังนั้นข้าจึงมิเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่ฮูหยินทั้งหลายของข้าต้องการจะทำ มิสนด้วยว่าผู้คนจะมองพวกนางด้วยสายตาเยี่ยงไร ประวัติศาสตร์จะพิสูจน์ว่าสตรีนั้นแบกฟ้าได้ดั่งเช่นบุรุษ”
ฝูงชนตกอยู่ในความโกลาหลขึ้นมาอีกคราหลังจากได้ฟังคำเอ่ยของฟู่เสี่ยวกวน มันมิง่ายเลยที่จะทำลายความคิดเก่า ๆ ที่สืบทอดกันมานานหลายพันปี ดังนั้นฟู่เสี่ยวกวนถึงยังมิวางแผนที่จะอธิบายเรื่องนี้
เขายกมือห้ามอีกครา และเอ่ยตรง ๆ ว่า “นี่คือการเอ่ยนอกเรื่อง ตอนนี้พวกเรามาเอ่ยถึงวิธีการออกหุ้นกันก่อนดีกว่า”
เมื่อเข้าสู่หัวข้อบรรยาย ผู้คนก็เงียบลงทันที และมีสตรีหลายคนมองไปที่ฟู่เสี่ยวกวนด้วยความรู้สึกซาบซึ้งมากยิ่งนัก ซือหม่าเช่อก็เช่นกัน
โดยทั่วไปแล้วสตรีที่นั่งอยู่ ณ ที่นี้ มีจิตใจเป็นอิสระ แต่ความเป็นจริงแล้วพวกนางรู้ดีว่าหลังจากแต่งงานออกเรือนไปแล้ว อาจจะมิมีโอกาสได้เปิดเผยเหมือนดั่งที่กำลังทำอยู่ในตอนนี้
ถ้าตระกูลของสามีเป็นตระกูลที่มีหน้ามีตา มันเป็นไปมิได้เลยที่จะปล่อยให้สตรีลุกขึ้นมาดูแลทุกอย่างในจวน
“ก่อนที่จะเอ่ยถึงวิธีการออกหุ้นสู่ทั่วสารทิศนั้น ข้าขอเตือนทุกท่านในที่นี่ก่อนว่า กรมการค้าได้ใช้กฎหมายหลายฉบับซึ่งเป็นบรรทัดฐานสำหรับการดำเนินงานของสำนักงานในภายภาคหน้า ในฐานะพ่อค้า พวกท่านจะต้องผ่านเกณฑ์กฎหมายเหล่านี้ หากมีผู้ใดมิเข้าใจ กรมการค้าได้จัดตั้งสำนักงานการค้าที่เค่อโจว และเจ้าหน้าที่ของสำนักงานจะมีหน้าที่อธิบายให้ทุกท่านเข้าใจ”
“เหตุใดข้าจึงต้องเสนอกฎหมายเหล่านี้อย่างรอบคอบ เพราะข้ากังวลว่าพวกท่านจะมิได้อ่านอย่างละเอียดและมิเข้าใจอย่างถ่องแท้ เมื่อมีข้อพิพาททางการค้าเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่จะตัดสินคดีตามกฎหมายเหล่านี้ หากผลการตัดสินออกมาว่าผิดจริง มีแนวโน้มว่าพวกท่านจะต้องเกิดการสูญเสียคราใหญ่ นอกจากนี้หากท่านละเมิดกฎ ทางสำนักงานมีสิทธิ์ที่จะกำหนดบทลงโทษ เมื่อนั้นท่านจะโดนลงโทษโดยการยึดทรัพย์สิน พอถึงเวลานั้นอย่าร้องไห้ก็แล้วกัน ! ”
ฟู่เสี่ยวกวนกล่าวอย่างรอบคอบ พอผู้คนที่อยู่ด้านล่างได้ฟัง ก็ทำให้กระปรี้กระเปร่าขึ้นมา โดยคิดว่าหลังจากเลิกเรียน ต้องไปหาซื้อหนังสือกฎหมายเหล่านี้มาอ่านเสียหน่อยแล้ว
รู้สึกว่าพอมีสำนักงานเกิดขึ้น ความมิเป็นระเบียบของสมัยก่อนก็ค่อย ๆ เข้าสู่แนวทางที่ถูกต้องในการทำธุรกิจที่ว่าด้วยกฎหมาย
“ตามบทบัญญัติของกฎหมายสำนักงาน… กฎหมายสำนักงานจะปรากฏในมิช้านี้ การประชุมเชิงปฏิบัติการทั้งหมดที่กำลังจะปรากฏในตลาด จะทำตามความต้องการของสำนักงาน พวกท่านต้องไปที่สำนักงานการค้าในพื้นที่เพื่อจดทะเบียน ผู้ที่สนใจสมัครสามารถยื่นใบสมัครเป็นลายลักษณ์อักษรที่ธนาคารซื่อทงได้ ตัวอย่างนั้นธนาคารซื่อทงมีให้ พอทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ธนาคารซื่อทงจะส่งคนมาตรวจสอบ สิ่งนี้ต้องอาศัยความร่วมมืออย่างมิมีเงื่อนไข ซึ่งเกี่ยวข้องกับ…”
“หลังจากผ่านการตรวจสอบของธนาคารซื่อทงแล้ว ถึงจะสามารถเข้าจดทะเบียนในธนาคารซื่อทงได้ นี่คือหลักการทำงานของการซื้อขายหุ้น”
ฟู่เสี่ยวกวนได้บรรยายถึงขั้นตอนต่าง ๆ อย่างละเอียด ผู้คนมากมายได้จดบันทึกเอาไว้ จากนั้นจึงพบว่าขั้นตอนการปฏิบัติเหล่านี้เข้มงวดมากยิ่งนักและเป็นขั้นตอนที่สำคัญ มิมีช่องโหว่ที่จะใช้ประโยชน์ได้เลย
คนผู้นี้… เขาเกิดความคิดเหล่านี้ขึ้นมาได้เยี่ยงไรกันนะ ?
มิว่าจะเป็นซือหม่าเช่อหรือคนอื่น ๆ ก็กำลังคิดถึงคำถามดังกล่าวอยู่
เป็นเวลากว่าพันปี เหตุใดถึงมิมีผู้ใดสามารถคิดได้อย่างยอดเยี่ยมเยี่ยงนี้เลยสักคน ?
ซับซ้อนเกินไปหรือไม่ ?
หลังจากฟังการบรรยายของฟู่เสี่ยวกวนเสร็จแล้ว พวกเขาก็รู้สึกว่าสิ่งนี้มิได้ซับซ้อนเลย
นี่เป็นความคิดที่ดี มันสามารถช่วยให้พ่อค้าที่มีความสามารถได้รับเงินกองทุนมากมายเพื่อขยายอุตสาหกรรมของตน ที่สำนักงานของตน ใช่ ! เวลานี้เรียกว่าสำนักงาน ช่างเป็นชื่อที่ทรงพลังมากยิ่งนัก เพื่อให้สำนักงานมีขนาดใหญ่และแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น จะต้องมีการแข่งขันกันทางการตลาด เพื่อปรับปรุงและควบคุมตลาดต่อไป
ด้วยวิธีนี้จะสามารถประหยัดเวลาในการหาเงินทุน และจะสามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด
เขาคือเทพเนรมิต !
ดังนั้นคนผู้นี้ย่อมเป็นบุลคลที่ยอดเยี่ยมยิ่ง !
ดวงตาของเฮ้อซานเตาเป็นประกายขึ้นมา แน่นอนว่าเขามิเข้าใจ เป็นเพราะว่าเขามิเข้าใจเลยแม้แต่น้อยจึงคิดว่าเป็นสิ่งที่หายาก ฟู่เสี่ยวกวนผู้นี้ยอดเยี่ยมมากยิ่งนัก !
ข้าจะต้องเขียนจดหมายถึงท่านอาวุโสเสียแล้ว ขอให้เขามาสร้างสำนักงาน ออกหุ้น และสร้างทรัพย์สินของตนให้แข็งแกร่งและใหญ่โต… นี่คือสิ่งที่ติ้งอันป๋อกล่าว
หลังจากที่ทุกคนเข้าใจขั้นตอนนี้แล้ว ฟู่เสี่ยวกวนก็ได้เอ่ยออกมาอีกครา
“พ่อค้า เป็นธรรมดาที่จะแสวงหาผลกำไรซึ่งเป็นเรื่องที่มิสามารถตำหนิได้ ดังนั้นเพื่อให้แน่ใจในรายได้ตามกฎหมายของพ่อค้าทุกท่าน กรมการค้าได้ร่างไว้ใน ‘กฎหมายคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา’เงินที่พวกท่านหามาได้จากอุตสาหกรรมที่ทำขึ้นมา สิ่งเหล่านี้จะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา กฎหมายนี้ย่อมศักดิ์สิทธิ์และมิสามารถละเมิดได้ ! ”
เรื่องที่ฟู่เสี่ยวกวนกล่าวออกมานั้นทำให้พ่อค้าหลายคนรู้สึกโล่งใจมากยิ่งขึ้น
พวกเขากลัวว่า หากพวกเขาทำให้ฝ่ายราชการขุ่นเคืองใจ พวกนั้นคงจะหาสาเหตุทำลายตระกูลตน มิมีแม้แต่โอกาสที่จะได้เรียกร้องความยุติธรรม
ติ้งอันป๋อได้คิดอย่างละเอียดถี่ถ้วน ด้วยกฎหมายนี้แม้จะมีการฟ้องร้อง เมื่อมีกฎหมายที่สามารถพึ่งพาได้ พวกเขาย่อมมิกลัวฝ่ายราชการจะคิดมิดีและเข้ามายุ่งวุ่นวายอีก
“กฎหมายเป็นวิธีการที่ทรงพลังในการรักษาเสถียรภาพทางสังคม สิ่งที่ข้าอยากจะเอ่ยกับทุกท่านก็คือ ในขณะที่พ่อค้ากำลังหาเงินก็ต้องสร้างความรู้สึกผิดชอบชั่วดีต่อสังคมด้วย”
“หมายความว่าเยี่ยงไรน่ะหรือ ? หมายความว่าพ่อค้าในฐานะเจ้าของทรัพยากรทางสังคมและเศรษฐกิจ ในจิตใต้สำนึกของพวกท่านควรต้องดูแลและตอบแทนสังคม อย่าเห็นแก่เงินจนตามืดบอด เพื่อภาพลักษณ์ของหน่วยงาน เพื่อให้สำนักงานก้าวหน้ามากกว่านี้ หวังว่าพวกท่านจะได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคมมากยิ่งขึ้น ห่วงใยและใส่ใจชาวบ้านที่ยากจนอยู่เสมอ และจะต้องก้าวทันกลยุทธ์ของแคว้นด้วยเช่นกัน”
“ในที่แห่งนี้ ข้าอยากจะแสดงความยกย่องตระกูลโจ่งและตระกูลหยูแห่งหลินจื๋อ เมื่อกบฏเซวี๋ยก่อกบฏ ทั้งสองตระกูลได้บริจาคทรัพย์สินจำนวนมหาศาลและได้ก่อตั้งกองทัพทหารขึ้นมา 300,000 นายภายใต้การนำทัพของท่านแม่ทัพเฟ่ย จากนั้นจึงได้บุกทำลายกองทัพของกบฏเซวี๋ยจนราบ ยุติสงครามที่ชายแดนตะวันตกเอาไว้ได้ นี่ถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมยิ่ง ! ”
“พ่อค้าเช่นนี้สมกับเป็นพ่อค้าที่ราชวงศ์หยูคาดหวังไว้อย่างแท้จริง ข้าภูมิใจในตัวพวกเขามากยิ่งนัก ! ”
ในชั่วพริบตา ทั่วทั้งห้องบรรยายก็ได้เกิดเสียงปรบมือดังสนั่น คุณชายรองโจ่งจี้ถังแห่งตระกูลโจ่งและคุณชายสามหยูซิ๋งเจี่ยนนั้น บัดนี้น้ำตาได้พรั่งพรูออกมา ความรู้สึกของพวกเขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ !