นายน้อยเจ้าสำราญ - ตอนที่ 727 ข่าวดีมิขาดสาย ( จบ )
ตอนที่ 727 ข่าวดีมิขาดสาย ( จบ )
รายงานทั้งสองฉบับนี้ถูกส่งมาจากอำเภอผิงหลิงและอำเภอชวูอี้… ทั้งสองแห่งเป็นเขตทดลองเศรษฐกิจใหม่สองอำเภอแรกของราชวงศ์หยู
เป็นไปได้หรือไม่ว่าทั้งสองเขตทดลองนี้ จะมีพ่อค้ารายใหญ่เข้ามาลงทุนแล้ว ?
ฮ่องเต้ทรงมีพระดำรัสในพระทัยแล้วจึงกางรายงานออกอ่าน หลังจากนั้น…
ดวงเนตรของพระองค์ก็เบิกกว้างขึ้นมาทันพลัน พร้อมด้วยสีพระพักตร์ที่แสนจะเหลือเชื่อ
‘กระหม่อมจางเหวินฮั่น นายอำเภอผิงหลิงทูลรายงานต่อฝ่าบาท
เมื่อเดือนสี่ของปีนี้ หวางเฉียงผู้เป็นชาวไร่จากซีซานแห่งหลินเจียงได้รับมอบหมายจากติ้งอันป๋อให้นำมันเทศจากซีซานมา 40,000 ชั่งโดยประมาณ ที่อำเภอผิงหลิงได้รับมันเทศเป็นจำนวนครึ่งหนึ่ง จากนั้นได้นำไปปลูกยังพื้นที่แห้งแล้งทุรกันดารรวมทั้งสิ้น 4,000 หมู่
ภายใต้การดูแลของหวางเฉียง ทำให้ชาวไร่ในอำเภอผิงหลิงได้ปลูกมันเทศจนสุกงอมเต็มที่ในปลายเดือนเก้า และวันนี้การเก็บเกี่ยวก็สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
กระหม่อมรู้สึกปลื้มปีติเป็นอย่างมาก เพราะติ้งอันป๋อนั้นเป็นดั่งองค์เทพเจ้า !
ไร่มันเทศทั้งสี่พันหมู่สามารถเก็บเกี่ยวมันเทศได้มากถึง 5,600 ชั่งต่อที่ดิน 1 หมู่ รวมผลผลิตมันเทศทั้งสิ้น 22,400,000 ชั่ง !
กระหม่อมกลัวว่าจะเกิดความผิดพลาดขึ้นมา จึงชั่งน้ำหนักมันเทศทั้งสิ้น 5 คราด้วยกัน และผลก็ออกมาแม่นยำ !
กระหม่อมหวั่นเกรงว่านี่คงเป็นเพียงแค่ความฝัน จึงเดินทางไปพบปะกับเยี่ยนหลินชิวนายอำเภอชวูอี้ด้วยตนเอง จากนั้นก็ได้ทราบข่าวว่าปริมาณผลผลิตของมันเทศนั้นมิได้แตกต่างกับของผิงหลิงและในราตรีนั้นเอง กระหม่อมและหลินชิวก็ได้ร่วมดื่มฉลองจนเมามายด้วยกัน !
นี่คือความโชคดีของราษฎรแห่งราชวงศ์หยู คือความโชคดีของผืนปฐพี ส่วนคุณงามความดีของติ้งอันป๋อนั้น…มากเกินกว่าที่กระหม่อมจะสามารถเอื้อนเอ่ยออกมาได้
มันเทศมีรสชาติยอดเยี่ยมยิ่ง และกระหม่อมได้ส่งมันเทศมาพร้อมกับรายงานฉบับนี้ทั้งสิ้น 300 ชั่ง ขอฝ่าบาททรงลิ้มรสชาติอันยอดเยี่ยมนี้ด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ ! ’
สองพระหัตถ์สั้นสะท้านจนมิอาจต้านทานได้ 5,600 ชั่งต่อพื้นที่ 1 หมู่ อีกทั้งยังเป็นพื้นที่แห้งแล้งทุรกันดาร… ของสิ่งนี้ช่างยอดเยี่ยมยิ่ง !
ย่อมหมายความว่าเมื่อมันเทศนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งผืนปฐพี ราชวงศ์หยูก็จะมิประสบปัญหาขาดแคลนเสบียงอีกต่อไป !
ราษฎรก็จะสามารถสืบพันธุ์ได้ตามสมัครใจ ทุกคนจะมีเสื้อผ้าที่อบอุ่นใส่และสามารถทานได้อย่างอิ่มท้อง!
ยังจำได้ดีว่าฟู่เสี่ยวกวนเคยกล่าวถึงมันเทศในราชสำนักมาก่อน เขาเอ่ยไว้อย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะว่ามันเทศสามารถให้ผลผลิตได้มากกว่าสี่ถึงห้าพันชั่งต่อที่ดินหนึ่งหมู่ แต่ทว่าตอนนั้นกลับไร้ผู้ใดเชื่อถือ
แม้แต่ข้าเองก็มิเชื่อ !
แต่บัดนี้ความจริงได้ประจักษ์ต่อหน้าของข้าแล้ว…ข้ารู้สึกละอายแก่ใจเสียเหลือเกิน !
ในที่สุดพระองค์ก็ได้เงยพระพักตร์ขึ้นมาแล้วพยายามแสดงท่าทางให้ปกติที่สุด พระองค์ทรงสูดลมหายใจเข้าลึกหนึ่งคราแล้วตรัสออกมาว่า “วันนี้มีข่าวดีเข้ามามิขาดสาย ! ”
เมื่อพระองค์ตรัสออกมาเช่นนั้นก็ทำให้เหล่าเสนาบดีค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจที่อัดอั้นอย่างโล่งอก… เมื่อครู่สีพระพักตร์ช่างยากต่อการคาดเดา ยากที่จะรู้ว่านั่นคือความปลื้มปีติหรือความวิตกกังวลกันแน่
ถึงขั้นทำให้เยี่ยนซือเต้ากังวลว่าชาวฮวงได้บุกเข้ามาโจมตีอีกครา
ว่าแต่นั่นจะเป็นข่าวดีได้เยี่ยงไรกัน ?
ทุกคนจับจ้องไปทางฮ่องเต้ด้วยสายตาเดียวกัน เพราะสำหรับพวกเขาแล้วนั้น ถ้าข่าวเรื่องอำเภอซิ่วสุ่ยสามารถเกี่ยวข้าวได้ 770 ชั่งนั้นเป็นเรื่องจริงก็คงมิมีข่าวใดที่ดีไปกว่านี้อีกแล้ว
ยังมีเรื่องใดที่ทำให้ฝ่าบาทแสดงความโสมนัสมากกว่าเรื่องปริมาณข้าวจำนวนมหาศาลนั้นอยู่อีกหรือ ?
จากนั้นพระองค์ก็โบกรายงานในพระหัตถ์นั้นไปมา “ตัวของติ้งอันป๋ออยู่ไกลถึงว่อเฟิงเต้า แต่ทว่าเขาได้ทำคุณงามความดีให้แก่อำเภอผิงหลิงและอำเภอชวูอี้ไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว ! ”
ติ้งอันป๋ออีกแล้วหรือ ? !
เขา… เขาทำคุณงามความดีอันใดไว้ที่อำเภอผิงหลิงและอำเภอชวูอี้กัน ?
หรือจะเป็นมันเทศ ?
มีคนนึกถึงมันเทศขึ้นมาในทันใด
ในการประชุมราชสำนักที่ฝ่าบาททรงแต่งตั้งฟู่เสี่ยวกวนให้เป็นติ้งอันป๋อเมื่อหลายเดือนก่อนหน้านี้ ฝ่าบาททรงตรัสถึงมันเทศและพระองค์ตรัสว่ามันเทศนี้สามารถออกผลผลิตได้มากถึง 5,000 ชั่งต่อหมู่ เหล่าเสนาบดีชั้นผู้ใหญ่ล้วนมิมีผู้ใดเชื่อแม้แต่คนเดียว
และในวันนี้ก็ตรงกับเดือนสิบซึ่งเป็นฤดูกาลเก็บเกี่ยวของมันเทศพอดี หรือว่ามันเทศจะสามารถออกผลผลิตได้ 5,000 ชั่งต่อที่ดิน 1 หมู่อย่างแท้จริงกัน ?
เมื่อฝ่าบาททรงตรัส เรื่องก็เป็นไปตามคาด “อำเภอชวูอี้และผิงหลิงได้ส่งรายงานด่วนเข้ามาและนี่คือรายงานด่วนที่ข้าปรารถนา ! ”
พระสุรเสียงได้แผดขยายใหญ่ขึ้น พระหัตถ์ทั้งสองข้างไพล่ไว้บนพระขนอง จากนั้นก็พระราชดำเนินด้วยท่าทีดุดัน “ข้าจะบอกให้พวกเจ้าฟังเป็นบุญหูว่าช่วงเก็บเกี่ยวมันเทศได้มาถึงแล้ว!ผลผลิตต่อที่ดิน 1 หมู่คือ 5,600 ชั่ง ! ”
“ไอหยา…” ขุนนางนับร้อยที่อยู่เบื้องล่างมิมีผู้ใดมิตกตะลึงงัน แม้แต่เยี่ยนเป่ยซีและต่งคังผิงที่รู้คร่าว ๆ แล้วก็ยังมิวายตกตะลึงด้วยเช่นกัน !
เพราะนี่คือปริมาณผลผลิตของจริงที่มิใช่เพียงแค่จำนวนคาดการณ์
อีกทั้งยังสูงกว่าปริมาณผลผลิตที่ปลูกในซีซานอีกต่างหาก !
สภาพพื้นดินของอำเภอผิงหลิงและอำเภอชวูอี้เป็นเยี่ยงไรนั้นทุกคนต่างก็เข้าใจกันดี ที่นั่นเป็นพื้นที่แห้งแล้งทุรกันดาร เหตุใดถึงสามารถปลูกมันเทศได้ผลผลิตจำนวนมหาศาลถึงเพียงนี้กัน แสดงให้เห็นแล้วว่ามันเทศเป็นพืชที่มิเลือกดินและสามารถเติบโตบนสภาพดินแบบใดก็ได้ อีกทั้งยังให้ผลผลิตสูงอีกด้วย !
เสนาบดีทั้งหลายได้หันมามองหน้ากันด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความตกตะลึงงัน
ติ้งอันป๋อ…เขามิใช่มนุษย์แล้ว !
แม้เจ้าตัวจะไปทำภารกิจอยู่ที่ว่อเฟิงเต้า แต่ทว่าชื่อเสียงกลับดังสนั่นที่อำเภอผิงหลิงและอำเภอชวูอี้…
อยู่ ๆ เหล่าเสนาบดีก็ฉุกคิดสิ่งหนึ่งขึ้นมาได้ ทุกสิ่งที่นายน้อยเศรษฐีที่ดินแห่งหลินเจียงได้ลงมือทำล้วนแต่เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ใจทั้งสิ้น !
หากลองใช้นิ้วนับดู ในด้านวรรณกรรมก็ได้รับการขนานนามว่าเป็นสุดยอดกวีไร้ผู้ใดเทียบเคียง
ในด้านการทหาร กองทัพทหารดาบเทวะของเขาก็ถูกฝ่าบาทแต่งตั้งให้เป็นกองทัพคุ้มกันแคว้นและได้สำแดงแสนยานุภาพอันไร้เทียมทานออกมา มิว่าจะเป็นศึกที่ภูเขาผิงหลิง ศึกที่ชายแดนตะวันตกเฉียงใต้ หรือศึกที่ภูเขาหมิน อีกทั้งยังมีศึกโจมตีฮุ่ยชินอ๋องที่หลิงหนาน
ยิ่งไปกว่านั้นคือกองกำลังดาบเทวะได้รุกล้ำเข้าไปยังฮั่นถิงซึ่งเป็นถิ่นของชาวฮวง และได้ระเบิดกรมสรรพาวุธจนแหลกลาญ
กองทัพที่มีแสนยานุภาพสูงเช่นนี้ ยังมีกองทัพใดบนผืนปฐพีที่สามารถทัดเทียมได้อีกเล่า ?
จวบจนบัดนี้ เขาก็ได้แก้ไขปัญหาที่ยากที่สุดสำหรับทุกรัชสมัยซึ่งก็คือปัญหาขาดแคลนเสบียงอาหารได้แล้ว จำนวนข้าวที่สามารถเก็บเกี่ยวได้สูงสุดในประวัติศาสตร์ อีกทั้งยังมีมันเทศอันใดนี่อีกที่ให้ผลผลิตมากมายมหาศาลอย่างไม่น่าเชื่อถือ…
5,600 ชั่งต่อที่ดิน 1 หมู่ ด้วยจำนวนมหาศาลนี้สามารถเป็นเสบียงให้หนึ่งครอบครัวกินอิ่มได้ 1 ปี
ส่วนผลผลิตที่เหลือก็สามารถนำไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินตำลึงได้
ทันใดนั้นเองเหล่าเสนาบดีก็ได้ตระหนักว่าในช่วงระยะเวลาเพียงแค่ 2 ปีที่ผ่านมานี้ ฟู่เสี่ยวกวนได้ทำสิ่งที่เป็นคุณประโยชน์ไว้มากมายเสียเหลือเกิน !
เชี่ยวชาญทั้งวรรณกรรมและการศึก ทั้งยังช่ำชองในการบริหารบ้านเมือง…เขานี่สิถึงจะเป็นผู้ที่เปี่ยมไปด้วยความสามารถอย่างแท้จริง !
ตำแหน่งติ้งอันป๋อที่ถูกแต่งตั้งดูเหมือนจะมิสมเกียรติเอาเสียเลย
ในขณะที่ฮ่องเต้ทรงทอดพระเนตรเหล่าขุนนางที่กระซิบกระซาบกันอยู่นั้น พระองค์ก็ได้ตระหนักถึงบางสิ่งขึ้นมา
ราชบุตรเขยของข้า…มิว่าเยี่ยงไรเขาก็เป็นองค์ชายแห่งราชวงศ์อู๋อยู่ดี !
แบ่งกันคนละครึ่ง ข้ามีสิทธิ์ได้เขามาครองเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น หากได้ครอบครองเขาทั้งหมด ราชวงศ์หยูก็คงผงาดสู่ความยิ่งใหญ่ในเร็ววัน !
ในขณะที่ฝ่าบาททรงมีพระดำริเช่นนั้น ก็ได้มีขันทีชั้นผู้น้อยวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อนอีกหนึ่งคน จากนั้นก็ได้กระซิบที่ข้างหูของขันทีเหนียน ขันทีเหนียนเดินเข้าไปหาฮ่องเต้ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
“ฝ่าบาท ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ…”
“มีอันใด ? ”
“ทูลฝ่าบาท วันนี้ฮูหยินทั้งสองของติ้งอันป๋อได้ให้กำเนิดบุตรพร้อมกัน ต่งชูหลานให้กำเนิดธิดา ส่วนเยี่ยนเสี่ยวโหลวได้ให้กำเนิดบุตรชายพ่ะย่ะค่ะ”
ฝ่าบาททรงตกพระทัยยิ่ง เดิมทีวันนี้เป็นกำหนดคลอดของต่งชูหลานเพียงคนเดียว เหตุใดเยี่ยนเสียวโหลวถึงได้ตามมาร่วมขบวนด้วยได้เล่า ?
“มารดาและบุตรเป็นเยี่ยงไรบ้าง ? ”
“ทูลฝ่าบาท ทั้งมารดาและบุตรปลอดภัยดีพ่ะย่ะค่ะ”
ฝ่าบาทถึงได้รู้สึกวางพระทัย จากนั้นสีพระพักตร์ก็ได้เผยรอยแย้มพระโอษฐ์ให้เห็น
“วันนี้มีข่าวดีมิขาดสาย… ทุกท่าน ฮูหยินทั้งสองของติ้งอันป๋อได้ให้กำเนิดบุตรหญิงและบุตรชายแก่จวนฟู่เพื่อคลายเหงาแล้ว ช่างน่ายินดีมากยิ่งนัก ! ”
เรื่องนี้เป็นเรื่องดีอย่างแท้จริง !
เมื่อเหล่าเสนาบดีได้ยินข่าวนี้ก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาทันที บุรุษผู้โด่งดังเยี่ยงติ้งอันป๋อตกเป็นเป้าของบุคคลน่าคบหาสำหรับเหล่าเสนาบดีไปแล้ว วันนี้เป็นวันให้กำเนิดของบุตรหญิงและชายของติ้งอันป๋อ ดังนั้นการรับขวัญต้องจัดอย่างยิ่งใหญ่ถึงจะสมเกียรติ
บัดนี้ฝ่าบาททรงรู้สึกลำบากพระทัยมากยิ่งนัก เพราะฟู่เสี่ยวกวนถือเป็นผู้ที่ทำคุณประโยชน์มากมายให้แก่บ้านเมือง ประจวบเหมาะกับการกำเนิดบุตรทั้งสองคนของเขาพอดี จึงสมควรมอบของกำนัลให้แก่เขาบ้าง !
ว่าแต่จะมอบสิ่งใดดี จึงจะเหมาะสม ?
เขาได้บรรดาศักดิ์ขั้นที่สามและขุนนางระดับสามแล้ว หากเลื่อนตำแหน่งให้อีกก็เท่ากับว่าได้บรรดาศักดิ์ขั้นที่สอง แต่ทว่าก่อนหน้านี้ก็ได้ตกลงกันแล้วว่ารอให้ว่อเฟิงเต้ามีผลงานเป็นรูปเป็นร่างเสียก่อนจึงจะเลื่อนบรรดาศักดิ์ให้ จะทำเยี่ยงไรดี ?
เจ้าหมอนี่ก็เปี่ยมไปด้วยความสามารถจนถึงขั้นนำความลำบากใจมาให้ข้า !
ฝ่าบาทมีเรื่องให้ปวดเศียรเวียนเกล้าอีกแล้ว ส่วนที่จวนติ้งอันป๋อก็คึกคักตั้งแต่เช้าตรู่
เจี่ยหนานซิงจ้องมองด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม จากนั้นก็ปล่อยนกพิราบสื่อสารให้เหินขึ้นสู่ท้องนภา
องค์ชาย…หนทางช่างแสนยาวไกล แน่นอนว่าหนทางแห่งการสืบทอดรัชทายาทนั้น พระองค์ต้องทำการบ้านให้หนักขึ้นอีกพ่ะย่ะค่ะ !