นายน้อยเจ้าสำราญ - ตอนที่ 792 สงครามเซียวเหอหยวน ( 1 )
ตอนที่ 792 สงครามเซียวเหอหยวน ( 1 )
รัชสมัยเซวียนลี่ปีที่สิบเอ็ด วันที่ยี่สิบสาม เดือนสาม ยามเช้าตรู่
เป็นวันที่สามของการเผชิญหน้าระหว่างกองทัพทั้งสองฟากฝั่งแม่น้ำเซียว
ฟู่เสี่ยวกวนและเป่ยหวังฉวนมาสมทบกับทหารดาบเทวะกองทัพที่สองเมื่อวานนี้
ฟู่เสี่ยวกวนและหนิงซือเหยียนหวนคืนตัวตนที่แท้จริงของตนเองแล้ว จากนั้นฟู่เสี่ยวกวนก็ได้เรียกเฉินป๋อผู้บัญชาการทหารดาบเทวะกองทัพที่หนึ่ง ผู้บังคับการกองพลน้อยทั้งหกของกองทัพที่หนึ่ง เผิงเฉิงอู่แม่ทัพใหญ่แห่งกองทัพชายแดนเหนือ ไป๋ยู่เหลียนผู้บัญชาการทหารดาบเทวะกองทัพที่สอง และผู้บัญชาการทั้งหกกองพล เข้าร่วมประชุมก่อนสงครามครานี้จะเกิดขึ้นอย่างแท้จริง
นี่คือการพบกันคราแรกระหว่างทหารดาบเทวะกองทัพที่หนึ่งและทหารดาบเทวะกองทัพที่สอง พวกเขาเป็นชาวหยูและชาวอู๋ ทว่าบัดนี้เป็นของฟู่เสี่ยวกวนเพียงผู้เดียว !
“สงครามถือเป็นเรื่องเร่งด่วน ข้าจะมิเอ่ยอันใดให้มากความ ในเมื่อท่าป๋าหยูตั้งใจถ่วงเวลา อีกประเดี๋ยวเขาจะมิสามารถถ่วงเวลาได้อีก”
ฟู่เสี่ยวกวนลุกขึ้นยืน ใบหน้าเคร่งขรึม “ทุกกองทัพรับคำสั่ง ! ”
ทันใดนั้นเองทุกคนที่เข้าร่วมประชุมก็ได้รีบลุกขึ้นยืน แม้แต่เผิงเฉิงอู่ก็มิมีข้อยกเว้น
“คำสั่ง ทหารดาบเทวะกองพลที่หนึ่งและสองของกองทัพที่สอง จงเคลื่อนทัพทันทีให้มุ่งหน้าไปยังฮวงถิง ! ”
“คำสั่ง ทหารดาบเทวะกองพลที่สามและสี่ของกองทัพที่สอง ให้เดินทางล่วงหน้าไปยังเมืองกูหยุนเพื่อสกัดกั้นกองทัพดาบสวรรค์ที่จะกลับมาช่วยเหลือ จงจำเอาไว้ว่ากองพลที่สามและสี่จะต้องยึดกองทัพดาบสวรรค์ให้ได้ภายในเวลา 2 วัน จากนั้นให้ถอยทัพไปยังฮวงถิง”
“คำสั่ง ทหารกองทัพชายแดนเหนือบุกเข้าไปที่เมืองชางยิงด้วยความเร็วเต็มอัตรา จากนั้นให้ยึดครองเมืองชางยิงเพื่อสกัดมิให้ท่าป๋าหยูกลับไปฮวงถิงได้… จะสูญเสียเมืองชางยิงมิได้เป็นอันขาด ดังนั้นต้องทำลายกองทัพของท่าป๋าหยูที่เมืองชางยิง ! ”
ฟู่เสี่ยวกวนเหลือบมองไปโดยรอบแล้วเอ่ยถามว่า “ทุกท่านมีคำถามหรือไม่ ? หากมีก็จงเอ่ยมาเถิด”
เฉินป๋อยกมือขึ้น “แล้วทหารดาบเทวะกองทัพที่หนึ่งให้ทำสิ่งใดเยี่ยงนั้นหรือขอรับ ? ”
ฟู่เสี่ยวกวนหัวเราะร่า “ท่าป๋าหยูย่อมจะโจมตีพวกเราอย่างน้อยหนึ่งครา แน่นอนว่ากองทัพที่หนึ่งต้องเผชิญหน้ากับศัตรูโดยตรง”
เฉินป๋อรู้สึกมีความสุขมากยิ่งนัก จากนั้นจึงพยักหน้าราวกับว่าดีอกดีใจเสียเต็มประดา
เผิงเฉิงอู่ขมวดคิ้วมุ่น จากนั้นจึงยกมือขึ้นมาบ้าง
“การป้องกันที่ฮวงถิง…ควรเข้มงวด เพราะการทำลายฮวงถิงมิใช่เรื่องง่าย กองทัพดาบสวรรค์มีจำนวน 200,000 นาย แต่กองพลที่สี่มีจำนวน 40,000 นาย หากฮวงถิงมิถูกทำลายก็จะถูกโจมตีจากด้านในและด้านนอก จะมิเป็นการเสี่ยงไปหน่อยหรือ ? ”
ฟู่เสี่ยวกวนพยักหน้า “พวกท่านมิรู้หรอกว่าบัดนี้กองพลอิสระดาบเทวะกำลังโจมตีฮวงถิง บัดนี้ยังมิมีรายงานกลับมา ข้าคาดว่าการโจมตีของซูม่ออาจจะมิราบรื่นนัก”
เขาหยุดชั่วครู่ จากนั้นก็เอ่ยต่อว่า “บัดนี้กองทัพหลักของฮวงถิงถูกย้ายมาที่นี่แล้ว หากกองพลที่หนึ่งและสองของกองทัพที่สองเข้าร่วมรบกับกองพลอิสระ ก็คงมิใช่เรื่องยากมากนักที่จะยึดครองฮวงถิง”
“เมื่อฮวงถิงถูกโจมตี ท่าป๋าเฟิงย่อมแจ้งมายังท่าป๋าหยูอย่างแน่นอน จากนั้นท่าป๋าหยูย่อมกลับไปช่วยเหลือ พวกมันย่อมกลัวว่าพวกเราจะกัดมิยอมปล่อย ดังนั้นมันจะต้องเปิดการโจมตีกองทัพของพวกเราก่อนกลับอย่างแน่นอน ส่วนกองทัพชายแดนเหนือจะต้องยึดเมืองชางยิงโดยเร็วที่สุดเพื่อปิดกั้นทางหวนกลับของพวกมัน”
“หลังจากกองพลที่หนึ่งและสองของกองทัพที่สองเข้ายึดฮวงถิงแล้ว ย่อมมีความเป็นไปได้อยู่สองทาง หนึ่งคือตัวท่าป๋าเฟิงถูกจับและสองคือท่าป๋าเฟิงหลบหนีไปได้ หากท่าป๋าเฟิงถูกจับ แน่นอนว่ากองทัพดาบสวรรค์จะยอมจำนน หรือไม่ก็…สิ้นท่า ดังนั้น กองพลที่หนึ่ง สอง สามและสี่ควรจะเตรียมพร้อมรับการโจมตีที่รุนแรงจากกองทัพดาบสวรรค์”
“และกองทัพชายแดนเหนือที่เหลือทั้งหมดจะต้องกำจัดทหารของท่าป๋าหยูที่เมืองชางยิงโดยเร็วที่สุด จากนั้นก็ปิดกั้นกองทัพดาบสวรรค์มิให้ออกจากฮวงถิงได้ เมื่อกองทัพดาบสวรรค์ถูกกำจัดจนสิ้นแล้ว สงครามครานี้ก็จะสิ้นสุดลง ส่วนแคว้นฮวงนั้น…จะสิ้นนามตลอดไป ! ”
ฟู่เสี่ยวกวนได้อธิบายเชิงกลยุทธ์อย่างละเอียด และเผิงเฉิงอู่ก็รู้ว่าฟู่เสี่ยวกวนตั้งใจทำลายแคว้นฮวงให้สิ้นซากอย่างแท้จริง
ทหารดาบเทวะกองทัพที่สองจำนวน 100,000 นายได้เคลื่อนพลเป็นระยะทางหลายพันลี้ ส่วนดาบเทวะกองทัพที่หนึ่งได้บุกเข้ามาในดินแดนของชาวฮวงทุกหนทุกแห่งเพื่อสร้างสถานการณ์สงครามให้ดำเนินการมาจนถึงปัจจุบันนี้
หากตอนนั้นเผิงเฉิงอู่มิเชื่อฟังฮ่องเต้จนตามืดบอด แล้วปักหลักป้องกันด่านภูเขาเยี่ยนเพื่อควบคุมกองทัพดาบสวรรค์เอาไว้ในด่าน กลยุทธ์นี้จะสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น…กองทัพดาบสวรรค์จะมิสามารถถอยกลับมาช่วยเหลือฮวงถิงได้อีก ส่วนทหารดาบเทวะจะมิกังวลต่อการถูกคุกคามจากกองทัพดาบสวรรค์ พวกเขาจะสามารถเข้าโจมตีฮวงถิงได้อย่างเต็มกำลัง
จากนั้นก็ร่วมมือกับกองทัพชายแดนเหนือบุกโจมตีทั้งหน้าและหลังกองทัพดาบสวรรค์ให้พินาศย่อยยับ
อ่า…
เผิงเฉิงอู่ถอนหายใจยาว การรบครานี้เกินกว่าที่คาดหมายเอาไว้ ลำพังตนเองมิกลัวตายหรอก แต่ทว่ามันเสียแผนที่ฟู่เสี่ยวกวนวางเอาไว้เสียดิบดี
ทุกชีวิตจึงออกจากกระโจมบัญชาการ และมีคำสั่งให้กองทัพทั้งหมดเริ่มปฏิบัติการทันที
ฟู่เสี่ยวกวนขมวดคิ้วแน่นเพราะยังมิได้รับรายงานว่าท่าป๋าเฟิงถูกจับแล้ว จึงกังวลเรื่องความปลอดภัยของทหารทุกนาย
เดิมทีทหารดาบเทวะกองทัพที่สองจะเข้าไปรบที่ฮวงถิง ทว่ามิมีทางเลือกจึงต้องเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์มาเป็นเยี่ยงนี้
ตอนนี้เขามิได้คาดหวังว่าซูม่อจะสามารถยึดฮวงถิงได้ เพราะตราบใดที่ซู่ม่อมอบความกดดันต่อฮวงถิงมากพอ ท่าป๋าเฟิงย่อมเรียกทหาร 500,000 นายที่แม่น้ำเซียวกลับไปอย่างแน่นอนและนี่จึงถือว่าเป็นโอกาส
นี่เป็นโอกาสในการทำลายกองทัพ 500,000 นายให้สิ้นซาก !
……
……
ณ ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำเซียว ท่าป๋าหยูได้รับรายงานจากท่าป๋าเฟิงว่าให้กลับไปยังฮวงถิงโดยด่วน
ท่าป๋าหยูขมวดคิ้วมุ่นขึ้นมาทันใดเมื่ออ่านรายงานฉบับนั้นจนจบ ศัตรูส่งกองทัพเข้าโจมตีฮวงถิง !
มิมีทหารรักษาการณ์อยู่ในฮวงถิงเลยสักคน หากศัตรูเข้ายึดได้… ท่าป๋าหยูสูดลมหายใจเข้าลึกพลางหลับตาลงช้า ๆ “สวรรค์ต้องการทำลายแคว้นฮวงของข้า ! ”
“เสด็จปู่ เกิดอันใดขึ้นเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
“ฟู่เสี่ยวกวนเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก”
ก่อนที่จะเอ่ยจบ หน่วยสอดแนมก็ได้วิ่งเข้ามา “มีรายงาน ทหารดาบเทวะกองทัพที่สองมีการเคลื่อนไหวแล้ว พวกมัน พวกมันหายไปแล้วขอรับ”
ท่าป๋าหยูชะงักงัน พลันบังเกิดความรู้สึกเครียดขึ้นมา “หายไปที่ใด ? ”
“กองพลที่หนึ่งและสองเคลื่อนทัพไปยังฮวงถิง ส่วนกองพลที่สามและสี่เคลื่อนทัพไปยังเมืองกูหยุน นอกจากนี้ทหารราชวงศ์หยูอีก 200,000 นายก็ได้เคลื่อนทัพย้ายไปอยู่ด้านหลังของกองทัพเราขอรับ”
ท่าป๋าหยูลุกขึ้นยืนในทันใด ฝ่าบาทตรัสว่ากองทัพชายแดนเหนือเคลื่อนพลมารบกับฟู่เสี่ยวกวนมิใช่หรือ ?
ฝ่าบาทติดกับดักจนได้ !
ท่ามิดีแล้ว !
“รีบรายงานไปยังนายทหารระดับผู้บัญชาการทั้งหมด… ! ”
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม กองทัพชาวฮวงก็ได้ปล่อยสัญญาณดังกังวานไปทั่ว
ฟู่เสี่ยวกวนยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม จากนั้นก็ยิ้มให้ไป๋ยู่เหลียนและเฉินป๋อ “ซูม่อทำให้ท่าป๋าเฟิงตื่นตระหนกเสียแล้ว ต่อไปเป็นหน้าที่ของพวกท่านแล้ว”
“นี่เป็นสงครามที่ยากลำบาก ทว่าตราบใดที่ยับยั้งการโจมตีคราแรกของท่าป๋าหยูได้ มันย่อมไร้กำลังไล่ตามหลังพวกเราได้อีก บุรุษผู้นี้มากพรสวรรค์แต่น่าเสียดายที่ถูกกดดันให้ย้อนกลับ มิเช่นนั้นทั้งสองฝ่ายจะมิยอมอ่อนข้อให้กันและกัน มิแน่ว่าอาจจะเป็นพวกเราเสียเองที่ทุกข์ใจ”
“ไปทำตามคำสั่งเถิด ส่วนข้าขอเวลาอยู่ที่นี่สักพัก”
วันที่ยี่สิบสาม เดือนสาม ยามอู่ สงครามเซียวเหอหยวนจึงเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
ท่าป๋าหยูพร้อมสำหรับการรบครานี้แล้ว เขาส่งทหารหลายหมื่นนายไปสร้างแพเพื่อข้ามแม่น้ำแห่งนี้ !
ด้านทหารดาบเทวะก็ได้เริ่มยิงปืนคาบศิลาออกไปแล้ว ทั้งสองกองทัพอยู่ห่างกันราว 30 จั้ง
เสียงปืน ‘ปัง ปัง ปัง ปัง…’ ดังสนั่นราวกับเสียงร้องคำรามของท้องนภา หทารชาวฮวงจำนวนนับมิถ้วนโดนยิงจนโลหิตไหลไปตามแม่น้ำเซียวอย่างรวดเร็ว
“พลธนู พลธนู ยิงพวกมันให้ตาย ! ”
“ทหาร รีบฆ่าพวกมันเพื่อปกป้องทหารที่กำลังสร้างแพ ! ”
“สังหารพวกมันเสียให้สิ้น… ! ”
บนสะพานหิน ได้ปรากฏทหารม้าชาวฮวงบุกโจมตีเข้ามา
ในที่สุดบนแม่น้ำเซียวก็สามารถสร้างแพลอยน้ำได้หลายสิบแพ
ทหารชาวฮวงจำนวนนับมิถ้วนวิ่งเข้ามาโดยมิกลัวตาย สิ่งที่ต้อนรับพวกมันเป็นอย่างแรกก็คือ เสียงสายฟ้าฟาด
เสียงระเบิดดังกัมปนาท ท่าป๋าหยูรู้สึกเป็นกังวลมากยิ่งนัก
“ฟู่เสี่ยวกวนสมควรตาย ! ”
“อย่าถอยแม้เพียงครึ่งก้าว หากต้องตายก็จงตายอยู่ที่นี่ ! ”