นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature ) - ตอนที่ 41 นักเลงบ้านพักคนชรา
ตอนที่ 41 – นักเลงบ้านพักคนชรา
นับถอยหลัง 48:00:00
ชิ่งเฉินกับเยี่ยหว่าน, หลินเสี่ยวเสี้ยวเดินท่องในเรือนจำหมายเลข 18 อันเงียบเชียบไร้ผู้คน
นี่ยังเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นรูปลักษณ์ในเรือนจำหลัง 3 ทุ่ม ว่างเปล่า สงบเงียบ
พัศดีจักรกล 4 ตัวยืนนิ่งบนลานส่วนรวมเงียบ ๆ ดวงตาจักรกลบนหน้าพวกมันก็ดับแสงแล้ว เหมือนกับว่าเข้าสู่โหมดพักผ่อน
ขณะนี้ชิ่งเฉินยืนยันได้แล้วว่าการคาดการณ์ของเขากับเหอเสี่ยวเสี่ยวไม่ได้ผิด เจี่ยนเซิงก็เพราะว่าปรากฏตัวขึ้นที่เมืองลั่วจึงได้ทะลุมิติมาถึงในเมืองหมายเลข 18
ทะลุมิติไปถึงที่ไหน ชีวิตหลังจากนั้นของนักท่องเวลาคนนี้ก็จะดำเนินต่อไปที่นั่น
เยี่ยหว่านกล่าวว่า “วันนั้นที่ผู้ทะลุมิติออกมา พวกเราไม่ได้จับคุณตั้งแต่ตอนแรก นี่ก็เป็นการป้องกันไม่ให้คนอื่นเชื่อมโยงความเกี่ยวข้อง ดังนั้นคุณไม่ต้องกังวลใจว่าตัวตนจะเปิดเผย เสี่ยวเสี้ยวป่าวประกาศไปว่าคุณหมายปอง ace-005 ที่เจ้านายเฝ้ารักษาอยู่ ดังนั้นถูกลงโทษเล็กน้อย”
“อืม พวกคุณใคร่ครวญได้ค่อนข้างรอบด้านเลย” ชิ่งเฉินเข้าใจแล้ว อันที่จริงตั้งแต่แรกเริ่มหลี่ซูถงก็เตรียมที่จะรับตนเองเข้าสู่องค์กร เพียงแต่จะสามารถทนผ่านไปได้หรือไม่ก็เป็นเรื่องของตนเองแล้ว
เวลานี้ เสียงแหบแห้งอ่อนแรงดังออกมาจากที่หนึ่งในเรือนจำว่า “หลี่ซูถง คุณปล่อยเจ้านายผม……”
ชิ่งเฉินอึ้งไป “พวกคุณจับเขาขังมาสี่วันแล้วเหรอ”
“อืม ไม่อย่างนั้นเขาจะออกมาก่อเรื่องกับเจ้านายอีก ถ้าไม่ใช่เห็นว่าภักดีน่าชื่นชม เจ้านายก็จัดการเขาไปตั้งแต่แรกแล้ว” หลินเสี่ยวเสี้ยวกล่าว “แต่คุณวางใจเถอะ ในสี่วันมีคนให้น้ำให้ข้าวเขาตลอด”
“ก่อนหน้านี้เขาทำอะไร พวกคุณตรวจสอบมาไหม” ชิ่งเฉินถาม
“ตรวจสอบแล้ว” หลินเสี่ยวเสี้ยวกล่าว “ก่อนหน้านี้เขาอยู่ชมรมเหอเหลียนเป็นนักเลงบ้านพักคนชรา”
ชิ่งเฉินอ้าปากเหวอ “นักเลง……บ้านพักคนชรา?”
“เออ คุณไม่รู้เรื่องนี้” หลินเสี่ยวเสี้ยวพยักหน้า “สลัมโลกภายในปกติแล้วไม่มีธรรมเนียมดูแลคนชรา ล้วนเป็นพอเลยหกสิบปีก็ส่งไปบ้านพักคนชรา ลูก ๆ หยิบเงินบำนาญของพ่อแม่ไปใช้อย่างสุรุ่ยสุร่าย”
“งั้นทำไมยังจะเลี้ยงนักเลงอีก ตีคนชราเหรอ” ชิ่งเฉินตกตะลึง
“ไม่ใช่ ๆ” หลินเสี่ยวเสี้ยวอธิบายอย่างหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ “พวกเขาเก็บค่าคุ้มครองของคนชรา คนชราจ่ายเงินพวกเขาสั่งออเดอร์ จากนั้นพวกเขาส่งคนหนุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดอวัยวะจักรกลเยอะที่สุดไปแกล้งเป็นหลานคนชรา ใช้ข่มขวัญคนชราคนอื่น คนชราพวกนี้อยู่ในบ้านพักคนชราก็จะไม่ถูกคนชราคนอื่นรังแก”
เยี่ยหว่านเอ่ยเสริมว่า “พวกเขานักเลงบ้านพักคนชรายังมีสโลแกนโฆษณาที่โด่งดังอยู่อันหนึ่ง : ชมรมเหอเหลียงบริการดูแลผู้ชรา การันตีว่าไปเร็วกว่าลูกคุณ บริการดี ถึงยังไงพวกเราห่วงว่าคุณตายแล้วพวกเราจะไม่ได้เงิน แต่ลูกคุณไม่ได้ห่วง เพราะว่าคุณตายแล้วเงินล้วนเป็นของเขา”
ชิ่งเฉินลังเลสักครู่ “ธุรกิจนี้เติบโตดีเหรอ”
“ยังไม่เลว” หลินเสี่ยวเสี้ยวพยักหน้ากล่าว “อย่างน้อยเลี้ยงดูกลุ่มแก๊งหนึ่งได้ไม่มีปัญหา แต่ชมรมเหิงของพวกเราไม่เห็นธุรกิจนี้ในสายตา”
เวลานี้ชิ่งเฉินรู้สึกประหลาดอยู่บ้าง เพราะอะไรตนเองเข้าร่วมเรื่องที่สำคัญอย่างสังเวียนแห่งเงา ตระกูลชิ่งถึงส่งนักเลงบ้านพักคนชราคนหนึ่งมาช่วยเหลือตนเอง
ชิ่งเฉินคิด “ผมสามารถไปดูเขาได้ไหม”
“ย่อมได้” หลินเสี่ยวเสี้ยวพาชิ่งเฉินมาถึงหน้าประตูลู่ก่วงอี้ เขาร้องทักทายกล้องวงจรปิดหน้าประตู ประตูเลื่อนโลหะจึงเปิดออก
แต่หลินเสี่ยวเสี้ยวกับเยี่ยหว่านไม่ได้เข้าไป ทว่าให้พื้นที่ชิ่งเฉินพูดกับลู่ก่วงอี้เดี่ยว ๆ
ลู่ก่วงอี้นอนเหม่ออยู่บนพื้นหนาวเหน็บ อาหารในถาดอาหารด้านข้างขยับนิดหน่อย แต่ไม่ได้กินสักเท่าไหร่
อีกฝ่ายได้ยินเสียงประตูเลื่อนโลหะก็คลานขึ้นมาทันที พริบตาที่เขาหันศีรษะกลับไปเห็นชิ่งเฉินก็ร้องไห้ทันควัน “เจ้านาย คุณไม่เป็นไรนะ?”
“ผมไม่เป็นไร” ชิ่งเฉินกล่าวเสียงเบา ๆ ตอนนี้เขาอ่อนแอนิดหน่อย จึงเพียงแค่นั่งลงบนเตียงของลู่ก่วงอี้
ลู่ก่วงอี้นั่งยอง ๆ ข้างเขาเอ่ยอย่างห่วงใยว่า “แต่เจ้านาย คุณทำไมน้ำหนักลงมากขนาดนี้ล่ะ พวกเขาทรมานคุณใช่รึเปล่า รอผ่านไปหลายวันตอนที่ชิ่งเอี๋ยนมาเยี่ยม ผมจะบอกเรื่องนี้กับเขา!”
“ไม่ต้องบอกชิ่งเอี๋ยน” ชิ่งเฉินส่ายหน้า “ได้ยินว่าคุณไปหาเรื่องหลี่ซูถงเหรอ”
“อืม” ลู่ก่วงอี้พยักหน้า “ไม่ใช่หมายปอง ace-005 ของเขาเหรอ ต้องถึงกับเอาคนไปทรมานจนเป็นสภาพนี้เลย? ก่อนหน้านี้กัวหู่ฉานก็ไม่ใช่หมายปองเหรอ ก็ไม่เห็นเป็นไรไหม หรือเห็นว่าเจ้านายคุณเป็นแค่ผู้ท้าชิงเงา ดังนั้นรู้สึกว่าตระกูลชิ่งจะไม่ทำให้เป็นเรื่องใหญ่!”
“เรื่องราวนี้ไม่ต้องเอ่ยถึงอีกแล้ว คนอยู่ใต้ชายคาไม่อาจไม่ก้มหัว” ชิ่งเฉินกล่าว
“นั่นไม่ได้นะ พรุ่งนี้ผมจะไปสู้กับหลี่ซูถง!” ลู่ก่วงอี้กล่าวอย่างเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
“พอแล้ว ไม่ต้องแสดงแล้ว” ชิ่งเฉินหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้
“แสดง…… ผมไม่ได้แสดงนะ” ลู่ก่วงอี้ลังเล
สายตาใสกระจ่างของชิ่งเฉินจ้องตรงไปที่เขา จนกระทั่งลู่ก่วงอี้ยิ่งมายิ่งขาดความมั่นใจ ท้ายที่สุดก้มหน้าก้มตานั่งลงบนพื้นอย่างห่อเหี่ยว
ถึงบนร่างอีกฝ่ายจะเปลี่ยนเป็นอวัยวะจักรกลมาตรฐานของกองทัพตระกูลชิ่ง ก็ต้านทานกลิ่นอายหม่นหมองของคนตัวเล็ก ๆ บนตัวอีกฝ่ายไม่อยู่
ชิ่งเฉินเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกอยู่บ้าง เขากับลู่ก่วงอี้รู้จักกันแค่ไม่กี่วัน ถึงเขาจะเป็นเฉาเชา, หลิวเป้ย* กลับชาติมาเกิด ก็ไม่มีพลังอำนาจอันร้ายกาจขนาดนี้ถึงสามารถทำให้ผู้คนก้มหัวยอมสยบ
ประสบการณ์ชีวิตที่เคยผ่านมามอบความเจ็บปวดให้เขา แล้วก็มอบความสามารถสังเกตและความสามารถครุ่นคิดอย่างละเอียดอ่อนลึกซึ้ง
ดังนั้นอันที่จริงเขาทราบชัดมากว่าลู่ก่วงอี้รู้ว่าตนเองจะไม่มีเรื่องอะไรจริง ๆ ดังนั้นทำท่าทางแสดงเป็นภักดี
ถ้าช่วงเวลาที่ตนเองถูกขังเดี่ยวนี้ อีกฝ่ายอะไรก็ไม่ทำ งั้นหลังจากตนเองออกมาอีกฝ่ายก็จะถูกเบียดไปด้านข้างไม่ช้าก็เร็ว
โลกนี้ไหนเลยจะมีความรักและภักดีที่ไร้เหตุไร้ผลอะไรด้วย
ชิ่งเฉินคุ้นเคยกับนิสัยมนุษย์เป็นพิเศษ
กลับได้ยินเสียงของลู่ก่วงอี้พึมพำต่ำ ๆ ว่า “ล้วนถูกเจ้านายคุณมองทะลุแล้ว อันที่จริงนี่เป็นแค่เส้นทางชีวิตของพวกเขาที่เป็นคนตัวเล็ก ๆ เท่านั้น”
ชิ่งเฉินถอนหายใจ “คุณไม่ต้องเยินยอผม สิ่งที่คุณทำหลายวันมานี้ผมก็พอใจมาก วางใจเถอะ ขอเพียงคุณไม่ทำเรื่องหักหลัง ผมก็จะไม่ทอดทิ้งคุณ”
ลู่ก่วงอี้เงยหน้าขึ้นกะทันหัน “จริงเหรอ เจ้านาย”
“จริง” ชิ่งเฉินพยักหน้า
ชิ่งเฉินคิดแล้วกล่าวกับลู่ก่วงอี้ว่า “แต่มีเรื่องหนึ่งที่ผมจำเป็นต้องพูดให้ชัดเจน ติดตามผมไปกระทำการต้องทำเก็บงำตัวเองหน่อย ไม่สามารถโอ้อวดอย่างก่อนหน้านี้อีก”
“ก่อนหน้านี้ก็ได้ยินชิ่งเอี๋ยนพูดว่าเจ้านายคุณเก็บงำตัวเองมาก ที่แท้เป็นอย่างนี้!” ลู่ก่วงอี้ได้ยินคำพูดนี้แล้วเชื่อฟังขึ้นมาทันที “เจ้านาย คุณดูว่าผมต้องเปลี่ยนตรงไหน คุณพูด ผมเปลี่ยนแน่”
ชิ่งเฉินเงียบไปชั่วขณะ “ก่อนอื่นคุณเอาแท่งทองบนแขนจักรกลนี่ออกมา เรียบง่ายหน่อย”
“ครับ!” ลู่ก่วงอี้ไม่พูดสักคำก็กระชากแท่งทองลงมา
แท่งทองแบนและบาง พูดว่าแท่งทอง อันที่จริงใช้คำว่าเส้นทองมาบรรยายจะแม่นยำกว่า
หนาประมาณ 1 มิลลิเมตร กว้าง 2 มิลลิเมตร ยาวสิบเซนติเมตร
เพียงแต่ว่าในพริบตานั้น สองแขนจักรกลที่เดิมทีดูคุณภาพยอดเยี่ยมเป็นพิเศษนั้นก็ตกวูบไปหนึ่งเกรดทันที
ชิ่งเฉินพยักหน้ากล่าวว่า “แท่งทองผมจะเก็บรักษาให้คุณก่อน จำไว้ อย่าโอ้อวด”
ลู่ก่วงอี้ก็ไม่ได้คิดมาก ในความคิดของชาวบ้านร้านตลาดของโลกภายใน ทายาทสายตรงของห้ากลุ่มการเงินใหญ่จะขาดเงินเหรอ เงินมันเป็นสิ่งที่คนเขาพิมพ์ขึ้นมานะ
“พักผ่อนดี ๆ นะ” ชิ่งเฉินหยิบเส้นทองจากในมือลู่ก่วงอี้ไม่โดยไม่ส่งเสียง ม้วนเป็นก้อนแล้วใส่ลงในกระเป๋ากางเกง จากนั้นออกจากประตู
จนกระทั่งประตูเลื่อนโลหะข้างหลังเขาปิดตัวลงอีกครั้ง เด็กหนุ่มจึงได้ผ่อนลมหายใจช้า ๆ
สมองของชิ่งเฉินหมุนวนเร็วจี๋ นี่เป็นทองประมาณ 2 ลูกบาศก์เซนติเมตร เอาความหนาแน่นในอุณหภูมิห้องของทอง 1923 มาคำนวณ นั่นก็คือสามสิบกว่ากรัม……
ตอนนี้ราคาทองของโลกภายนอกมันเท่าไหร่นะ
หลินเสี่ยวเสี้ยวถามว่า “ยังมีเรื่องอะไรอยากจัดการไหม”
ชิ่งเฉินคิด “มี ผมมีแผนการอย่างหนึ่ง ต้องยืนยันเรื่องเรื่องหนึ่ง”
………………………
*โจโฉ เล่าปี่
โดนฉกทองไปดื้อ ๆ ยังไม่รู้เรื่องเลยจ้า
ตอนที่ 42 – นักฆ่า