นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature ) - ตอนที่ 68
ตอนที่ 68 – ร้อง 666 ก็พอ
“他の「裏世界」の人と同じように、粗野で野蛮なのではないでしょうか。”
“ไม่รู้ว่าเขาจะเป็นอย่างคนของโลกภายในคนอื่นรึเปล่า หยาบคายป่าเถื่อนขนาดนั้น”
นี่คนคำพูดที่จินได โซราเนะใช้ภาษาญี่ปุ่นพูดเบา ๆ เป็นครั้งที่สอง
ชิ่งเฉินกลับถึงโลกภายนอกปุ๊บก็แปลออกมาเลย
พูดตามจริง เขาไม่เข้าใจนิดหน่อยว่าเด็กสาวคนนี้สรุปแล้วมีเจตนาอะไร
“จำเป็นต้องเรียนภาษาญี่ปุ่นให้ดี ๆ หน่อยแล้ว” ชิ่งเฉินถอนหายใจ
อีกฝ่ายเล่นเกมเล็ก ๆ ประเภทนี้ใต้เปลือกตาของตัวเอง ผลคือตนเองกลับยังต้องกลับถึงโลกภายนอกจึงสามารถฟังความหมายของอีกฝ่ายเข้าใจ นี่ทำให้ชิ่งเฉินรู้สึกเป็นฝ่ายตั้งรับอยู่บ้าง
ดูจากข่าวในปัจจุบันนี้ เหมือนว่ามีแค่คนของประเทศเกาะและเกาหลีที่ทะลุมิติไปถึงสหพันธรัฐที่เขาอยู่
ส่วนชาวต่างชาติคนอื่น ๆ ทะลุมิติไปถึงอีกฟากมหาสมุทรของโลกภายในตรง ๆ
ระหว่างทุกคนมีทะเลต้องห้ามตัดขาด ก็เลยไม่มีความเป็นไปได้ที่จะเดินทางด้วยเรือ
ขณะนี้ยังไม่ปรากฎเหตุการณ์ชาวต่างชาติทะลุมิติในเขตแดนประเทศจีน มีสำนักข่าวอิสระพูดว่าชาวต่างชาติไม่น้อยวางแผนจะกลับประเทศเพราะเหตุนี้ ไม่แน่ว่ายังสามารถไล่ทัน ‘โอเพ่นเบต้า’
ชิ่งเฉินเสิร์จข่าวเกี่ยวกับจินได โซราเนะ โลกภายนอกยังไม่มีคนค้นพบว่าเธอเป็นนักท่องเวลาเป็นการชั่วคราว
จุดนี้ไม่มีเหตุผลอยู่บ้าง เด็กสาวถึงอย่างไรก็นับว่าเป็นดาราที่ประเทศเกาะ ดาราเล็ก ๆ ก็เป็นดารานะ
ทำไมไม่มีคนค้นพบเลยล่ะ
หรือจะบอกว่าอีกฝ่ายที่โลกภายในเก็บเนื้อเก็บตัวมาโดยตลอด คนทั่วไปไม่มีโอกาสจะติดต่อเธอเลย
ขนาดของห้องนอนในขณะนี้ใหญ่พอ ๆ กับห้องเยี่ยม
เขารู้สึกตลอดว่าอีกฝ่ายอยู่ที่โลกภายในคล้ายจะไม่มีความสุขเลย ดังนั้นจึงเลือกมาเยี่ยมตนเอง แต่สาเหตุพื้นฐานที่อีกฝ่ายมาเยี่ยมไม่ใช่เพื่อตนเอง คงอยากจะหนีจากโลกที่อยู่ข้างนอก
ส่วนชิ่งเฉินจู่ ๆ รู้สึกว่าเวลาที่เด็กสาวคนนั้นนั่งตรงข้ามที่ห้องเยี่ยมก็เป็นเวลาผ่อนคลายอันหาได้ยากของตนเอง
ทุกคนไม่จำเป็นต้องพูดอะไร แล้วก็ไม่จำเป็นต้องมีมิตรภาพและการประลองปัญญาอะไรกัน
ไม่ต้องครุ่นคิดว่าจะรอดชีวิตโลกภายในอันแสนอันตรายได้อย่างไร เวลาครึ่งชั่วโมงที่เผชิญหน้าในห้องเยี่ยมไม่เกี่ยวข้องกับโลกข้างนอก
ก็เหมือนว่าในที่สุดก็ได้รับโอกาสหายใจ
บางทีอีกฝ่ายอาจจะคิดอย่างนี้จริง ๆ
ชิ่งเฉินมองท้องแขน นับถอยหลัง 47:55:01
เป็น 2 วันอีกแล้ว เวลานับถอยหลังทะลุมิติกระโดดไปมาอย่างซับซ้อน ไม่มีกฎเกณฑ์ให้ตามสักนิด
บนพื้นยังมีมีดทำครัวหัก ๆ วางอยู่ นั่นเป็นชิ้นส่วนมีดที่เหลืออยู่ซึ่งเขาเพียงเอาด้ามมีดไปตอนทะลุมิติไปโลกภายในครั้งที่แล้ว
ชิ่งเฉินนึกได้ว่าภารกิจฝึกซ้อมของวันนี้ยังไม่เสร็จ เขาเสิร์จหาคลิปสอนภาษาญี่ปุ่นบนอินเตอร์เน็ต ฟังพลางฝึกซ้อมพลาง
ตอนตีสามกว่า ๆ เขาเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จเดินออกจากห้องน้ำ พอเปิดโทรศัพท์มือถือก็รู้สึกว่าโลกเหมือนจะระเบิด
เว็บไซด์ต่าง ๆ นานาฟีดข่าวไม่หยุด
“หลิวเต๋อจู้กลับโลกภายนอกกลางดึก แต่ส่งเสียงร้องโหยหวนอยู่ในบ้าน!”
“เสียงร้องโหยหวนยาว 3 ชั่วโมง เด็กหนุ่มที่ถูกคนมากมายเห็นว่าเป็นตัวเอกโลกภายใน สรุปแล้วประสบกับอะไร!?”
ถึงตอนเช้าตรู่ ประตูบ้านหลิวเต๋อจู้เต็มไปด้วยปาปารัสซี่แล้ว
หลิวเต๋อจู้รู้สึกว่าตนเองไปโรงเรียนเหมือนเดินพรมแดง รอบด้านล้วนเป็นกล้อง
ในอดีตพวกปาปารัสซี่ยังยับยั้งตัวเองบ้าง วันนี้ พวกปาปารัสซี่อดทนรอที่จะเอาเลนส์กล้องมาถ่ายหน้าเขาไม่ได้แล้ว
แต่เขาไม่ได้สวมสูทหล่อ ๆ ทั้งตัว กลับเข็นจักรยานเก่า ๆ หนึ่งคัน
ล้อหลังของจักรยานเบี้ยวนิดหน่อย เป็นสิ่งที่เกิดจากการถูกลอบโจมตีใต้สะพานลอยเมื่อคืนวันนั้น ความน่าเกรงขามสักนิดก็ไม่มี
นักข่าวหนึ่งคนขวางทางไปของหลิวเต๋อจู้ “สวัสดีครับ ผมซินซ่างหลงแห่งเมืองลั่วเดลี่ ขอถามว่าเมื่อคืนคุณประสบกับอะไรครับ หรือว่าได้รับบาดเจ็บที่โลกภายใน”
“เปล่า” หลิวเต๋อจู้ผลักจักรยานเดินไปด้วยสีหน้ารีบร้อน
“ในเมื่อไม่ได้รับบาดเจ็บ งั้นเหตุใดส่งเสียงร้องโหยหวนล่ะครับ” นักข่าวซินซ่างหลงไล่ถาม
หลิวเต๋อจู้หุบปากไม่พูดไม่จา ออกแรงเบียดออกไปข้างนอกฝูงชน
คนที่มุงดูยิ่งมายิ่งมาก ไม่ใช่แค่นักข่าวกับปาปารัสซี่ รวมทั้งเพื่อนบ้านในเขตที่พักเดียวกันล้วนมามุงแล้ว
ทุกคนดูความครึกครื้นพลางกล่าวพลางว่า “คุณดูสิ เด็กนั่นไงที่ร้องเสียงดังถึงตีห้า ได้ยินว่าที่โลกภายในร้ายกาจเลยล่ะ”
ใบหน้าหลิวเต๋อจู้ร้อนฉ่า จนกระทั่งผลักสุดแรงตอนที่ทนไม่ได้ในที่สุด แต่กลับเห็นว่านักข่าวกับปาปารัสซี่ที่ขวางทางพวกนั้นถึงกับถูกเขาผลักล้มไปหลายคนดื้อ ๆ มีคนที่ถึงขนาดกล้องพัง
กลุ่มคนมุงรอบ ๆ ตะลึงงัน แม้แต่หลิวเต๋อจู้เองก็ตะลึงงัน
ข้างหน้าเขาอย่างน้อยก็มีคนยืนอยู่เจ็ดแปดคน ถึงแม้ว่าทุกคนไม่ได้เตรียมป้องกันสักนิด พลังของการผลักมั่ว ๆ ครั้งนี้ของเขาก็แรงเกินไปแล้ว
หลิวเต๋อจู้กระวนกระวายอยู่นิดหน่อย เขาฉวยโอกาสที่กลุ่มคนเปิดช่องว่าง รีบขึ้นจักรยานปั่นไปโรงเรียน
เพียงแต่หลังจากเขาหนีจากกลุ่มคนกลับตกอยู่ในห้วงคิด
อันที่จริงเขาไม่ได้ปั่นป่วนอย่างที่จินตนาการเอาไว้เลย เพราะว่านักท่องเวลาที่สวมหน้ากากหน้าแมวคนนั้นได้บ่งบอกเขาล่วงหน้าแล้วว่าวันนี้อาจจะเปิดอะไรขึ้น แถมสอนเขาว่าจะแสดงพลังของตัวอย่างคล้ายกับไม่ได้ตั้งใจอย่างไร
แสดงพลังก็เท่ากับยอมรับอย่างลับ ๆ แล้วว่าตนเองได้รับการสืบทอดของหลี่ซูถงแล้ว
สำหรับการสืบทอดของหลี่ซูถงสุดท้ายแล้วเป็นอะไร ยังไงทุกคนก็ไม่รู้อยู่แล้ว
หรืออาจจะไม่ใช่ได้รับการสืบทอด เพียงได้รับการยอมรับ
หลิวเต๋อจู้คิดในใจว่านักท่องเวลาคนนั้นกระทำเรื่องราวด้วยท่าทางรัดกุมเสมอ ไม่น่าล่ะอีกฝ่ายได้รับการยอมรับของหลี่ซูถง ตนเองไม่ได้
เขาเห็นนักท่องเวลาจำนวนมากออกมาพูดว่าอันที่จริงแล้วยาแปลงพันธุกรรมหายากสุด ๆ แต่ตนเองแค่ร้องขอไปนักท่องเวลาที่สวมหน้ากากหน้าแมวคนนั้นก็หามาให้เขาแล้ว
ในระยะเวลาหนึ่งวัน
พลังแห่งเทพของเทพเจ้าประเภทนี้ทำให้หลิวเต๋อจู้จู่ ๆ มีความเชื่อมั่นขึ้นมาในใจ ก็เหมือนกับการเล่นเกม ตัวคุณเองไก่ก็ไม่เป็นไร แต่ขอแค่คุณเกาะขาใหญ่ให้ดี ๆ แล้วร้อง 666 ก็สามารถอัพดาวได้เหมือนกัน!
เพียงแต่หลิวเต๋อจู้ยังคงไม่มีทางยืนยันว่าบอสใหญ่ท่านนี้สรุปว่าแกร่งไปถึงระดับไหนแล้ว
เขาแช่อยู่ในห้องขังเดี่ยวจนแทบจะตัดขาดจากโลกข้างนอก ไม่อาจได้รับข่าวสารใด ๆ ของข้างนอก
ถึงเมื่อคืนนี้เขาจะได้รับความเจ็บปวดเจียนตาย แต่ประสิทธิภาพในการแปลงสภาพของยาแปลงพันธุกรรมเปิดเผยออกมาแล้ว เวลาแค่หนึ่งชั่วโมงหลิวเต๋อจู้ก็เหมือนเกิดใหม่เลือดเต็ม แจ่มใสคึกคัก
ถึงโรงเรียน หลิวเต๋อจู้พอเข้าห้องเรียนก็รู้สึกว่าบรรยากาศไม่ถูกต้องอยู่บ้าง
แต่ครั้งนี้ทุกคนไม่ได้มองเขา ทว่ามองโทรศัพท์มือถือ
มีคนโพสต์ข่าวชิ้นหนึ่งลงในกลุ่มแชต มี ID บนติ๊กต๊อกชื่อ “ฉ่วงหวาง” จู่ ๆ โพสต์ข่าวที่เกี่ยวกับโลกภายในหนึ่งอัน
หลี่ซูถงก้าวออกจากเรือนจำในรอบ 8 ปี มุ่งหน้าไปรับประทานอาหารที่อาคารหย่งเหิงกับบุรุษหน้ากากหน้าแมวหนึ่งคน
หลี่ซูถงกินหมูน้ำแดงหนึ่งจาน บุรุษหน้ากากหน้าแมวกินบะหมี่ผัสซอสหนึ่งจาน
รายงานบอกว่า คืนนั้นหลานชายคนโตตระกูลเฉินยอดฝีมือแรงค์ A เฉินเหย่หูมุ่งไปโน้มน้าวด้วยตนเอง หวังว่าอีกฝ่ายจะกลับเข้าไปในเรือนจำหมายเลข 18
เวลาเดียวกัน ฐานทัพตระกูลชิ่ง, ตระกูลหลี่เกิดปฏิกิริยาขึ้นมาโดยพร้อมเพรียง มีคนเห็นด้วยตาตนเองว่า ยานบินชื่อ “ยานลาดตระเวนภาคพื้น” ของตระกูลชิ่งบินขึ้นกลางอากาศ
อย่างที่ทุกคนทราบ ยานลาดตระเวนภาคพื้นถูกตระกูลชิ่งใช้รองรับวัตถุต้องห้าม ACE-009 มาโดยตลอด แต่ไม่มีคนเคยเห็นว่าวัตถุต้องห้ามอันนี้สรุปแล้วคืออะไรมาโดยตลอด
ดังนั้นมีความเป็นไปได้มากว่าตระกุลชิ่งคิดจะใช้งานวัตถุต้องห้าม เอามาจัดการกับหลี่ซูถงที่จู่ ๆ ก็ออกสู่โลก
ถึงตอนนี้ ตัวตนของบุรุษหน้ากากหน้าแมวกลายเป็นปริศนา สาเหตุที่หลี่ซูถงก้าวออกจากเรือนจำก็ไม่ทราบ เรื่องนี้ก่อให้เกิดคลื่นลมขนานใหญ่ไปทั่วทั้งสหพันธรัฐ
หลิวเต๋อจู้อ่านข่าวชิ้นนี้เงียบ ๆ พูดให้แม่นยำคืออ่านประโยคที่ว่า “มุ่งหน้าไปรับประทานอาหารที่อาคารหย่งเหิงกับบุรุษหน้ากากหน้าแมวหนึ่งคน” อย่างทึมทื่อ
ในที่สุดเขาเข้าใจแล้วว่าการรับรู้ที่ตนเองมีต่อบอสใหญ่ยังคงไม่ได้ชัดเจนพอ
……………………………………..
ร้อง 666 เป็นการชมว่าอีกฝ่ายเก่งมาก
ตอนที่ 69 – อยู่บ้านพี่ได้ไหม