นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature ) - ตอนที่ 95
ตอนที่ 95 – คีย์เวิร์ด
บนทางภูเขาของเขาเหล่าจวิน เจิ้งหย่วนตงที่สวมชุดจงซานสีดำทั้งร่างกำลังเดินอยู่ในทางภูเขาช้า ๆ
รอยเท้าเลือดรอยแล้วรอยเล่าบนพื้นชี้นำให้เขาทบทวนเรื่องราวเมื่อคืนนั้น
บนทางด่วนกระจัดกระจายไปด้วยปลอกกระสุนซับโซนิค 9 ปลอก รูกระสุนบนหูของหัวหน้าคนร้าย ทั้งหมดแสดงว่าผู้ที่ไล่ล่ากับมือสังหารเคยเกิดการดวลปืนที่นี่
คุนหลุนยังได้เก็บรวบรวมหัวกระสุนเปื้อนเลือดสองนัด แต่ตัวอย่างเลือดแสดงว่ารอยเลือดบนหัวกระสุนสองนัดนี้ก็มาจากคนละคนกัน
นี่หมายความว่า อาจารย์ปิดหน้าที่ฆ่าคนร้ายตายคนนั้นก็ได้รับบาดเจ็บ
เจิ้งหย่วนตงยืนอยู่ตรงสถานที่ซึ่งชิ่งเฉินโยนก้อนหินออกไป กล่าวกับลู่หยวนที่อยู่ข้างหลังว่า “เขาได้รับบาดเจ็บบนทางด่วน จากนั้นรู้ว่าตนเองไม่อาจไล่คนร้ายทันบนทางด่วน จึงได้ทะลุผ่านป่าเขาหย่อมเมื่อกี้นี้มาถึงที่นี่ โยนหินก้อนใหญ่ออกไป”
ลู่หยวนขมวดคิ้ว “จากนั้นก็โจมตีถูกรถ MPV ที่คนร้ายขับ? การโยนนี้ก็แม่นยำเกินไปรึเปล่าครับ ความสูงนี้มันประมาณสิบกว่าเมตรเลยนะ นี่มันคำนวณได้แม่นยำขนาดไหนกัน?”
“อืม เทียบกับความสามารถให้การแทงม้ามอย่างแม่นยำแล้ว นี่จึงเป็นฝีมือที่ร้ายกาจที่สุดของอีกฝ่าย : การคำนวณ” เจิ้งหย่วนตงกล่าว “DNA ในรอยเลือดเทียบผลออกมาแล้วไหม”
ลู่หยวนส่ายหน้า “ผลออกมาแล้ว แต่ในฐาน DNA ไม่มีตัวอย่าง DNA ของคนคนเดียวกันเลย”
“ตรวจสอบอีกทีหาอันที่คล้ายคลึงกัน ไม่แน่ว่าจะสามารถหาเจอญาติของเขา” เจิ้งหย่วนตงกล่าว
“โอเคครับ” ลู่หยวนพยักหน้า “นี่อาจจะช้าหน่อย แต่อย่างมากที่สุดสามวันก็สามารถมีคำตอบแล้ว”
เจิ้งหย่วนตงกล่าวว่า “ถ้าหาเจอก็สุภาพหน่อย คุณหลุนตอนนี้ต้องการคนประเภทนี้ คนที่สามารถลุยเดี่ยวเผชิญหน้า”
……
พวกชิ่งเฉินสามคนพักที่เขาเหล่าจวิน ไม่ได้รีบกลับไปในเมืองเป็นพิเศษ
เจียงเสวี่ยใส่ยาให้ชิ่งเฉินใหม่ “ถ้ารู้แต่แรกว่าคุณจะได้รับบาดเจ็บ ฉันก็จะซื้อยารักษาบาดแผลที่มีประสิทธิภาพจากทางโลกภายในแล้ว ยาของฝั่งนั้นเทียบกับของโลกภายนอกจะต้องใช้ดีกว่าแน่ ๆ ฉันสามารถเอาตัวยาใส่หลอดเล็ก ๆ อมไว้ในปากเอากลับมา”
“ไม่เป็นไรครับน้าเจียงเสวี่ย” ชิ่งเฉินยิ้ม “ตอนนี้ไม่ได้เจ็บขนาดนั้นแล้ว”
“จริงสิ” เจียงเสวี่ยเอ่ยอย่างกังวลใจกะทันหัน “คุณทิ้งรอยเท้าเลือดเยอะขนาดนั้นไว้ในสถานที่เกิดเหตุ จะต้องมีคนสามารถอาศัยการเทียบ DNA มาหาคุณเจอแน่ ๆ เลยรึเปล่า ถึง DNA ของคุณไม่เคยถูกบันทึกเอาไว้ แต่ว่า พ่อของคุณถูกกักตัวแล้ว……”
ทุกวันนี้ ผู้ที่เคยถูกกักตัวล้วนจะโดนเก็บตัวอย่างเลือด
ทว่าชิ่งเฉินส่ายหน้า “ไม่หรอกครับ ผมรู้ดีอยู่แก่ใจอยู่แล้ว”
เจียงเสวี่ยมองชิ่งเฉินแวบหนึ่งอย่างรู้สึกเหนือคาดอยู่บ้าง เธอตระหนักว่าตรงนี้เหมือนจะยังมีความลับ เพียงแต่เด็กหนุ่มที่อยู่เบื้องหน้าไม่เต็มใจจะพูดเพิ่มแล้ว
ในเหตุการณ์ทั้งหมด มีปัจจัยสำคัญสองอย่างที่จะเปิดเผยตัวตนของชิ่งเฉิน หนึ่งคือหนานเกิงเฉิน อีกอันหนึ่งก็คือตัวอย่างเลือด
แต่ถ้าเป็นอันแรก ชิ่งเฉินเชื่อว่าหนานเกิงเฉินอย่างน้อยที่สุดจะไม่เลอะเลือนกับเรื่องราวอย่างนี้ จะต้องพูดให้ข้อมูลชักนำคุนหลุนผิด ๆ บางอย่าง
ถ้าเป็นอย่างหลัง คุนหลุนเป็นไปไม่ได้ที่จะหาตัวอย่างยีนที่สอดคล้องกันมาทำการเปรียบเทียบ นี่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวเก่าก่อนบางอย่าง
ไม่อย่างนั้น ชิ่งเฉินก็ไม่กล้าไล่ฆ่าคนเท้าเปล่าหรอก
ชิ่งเฉินกล่าวว่า “น้าเจียงเสวี่ย ผมอยากอยู่คนเดียวสักพัก มีเรื่องต้องจัดการ”
“อืม งั้นฉันจะพาเสี่ยวอวิ๋นไปเดินเล่น มีธุระคุณก็โทรหาฉันนะ ฉันจะไม่ไปไกล” เจียงเสวี่ยกล่าว
จนกระทั่งหลี่ถงอวิ๋นและเจียงเสวี่ยล้วนออกไปจากห้อง ชิ่งเฉินจึงหยิบโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์สื่อสารของตนเองออกมา
เขาปลดล็อกอุปกรณ์สื่อสารก่อน ข้างในเต็มไปด้วยข้อความของหลิวเต๋อจู้ :
“บอสใหญ่ คนของท่านก็เท่ระเบิดเกินไปแล้วปะ ถึงกับฆ่าล้างโคตรคนร้ายเลย!”
“บอสใหญ่ ขอบคุณท่านที่เตือนทันเวลา ขอบคุณท่านที่ให้คนของท่านช่วยชีวิตผม ผมหลิวเต๋อจู้ชั่วชีวิตนี้ต่อให้ต้องบุกน้ำลุยไฟเพื่อท่านก็จะไม่ลังเลเลยแน่นอน!”
“บอสใหญ่ ผ่านคืนนี้ไป ผมมีจิตใจแน่วแน่ไม่แปรผันต่อท่านแล้วจริง ๆ หลังจากนี้ไม่แคร์แล้ว อันตรายที่คนอื่นไม่กล้าเสี่ยง ผมจะไปเสี่ยงเพื่อท่าน ขอเพียงท่านสั่งมาสักคำ สถานที่ที่นกยังไม่อึ ผมจะไปอึเอง!”
“บอสใหญ่ ท่านทำไมไม่พูด”
“จริงสิบอสใหญ่ พวกเรากลับถึงเมืองลั่วแล้ว ตอนเช้าพวกเพื่อนนักเรียนอาจจะอยากไปเยี่ยมหูเสี่ยวหนิว, จางเทียนเจินด้วยกัน ถึงเวลาผมจะช่วยท่านเก็บเงินกลับมา!”
ชิ่งเฉินมองเวลาแวบหนึ่ง 9 โมงเช้า
นับถอยหลัง 39:00:00
จากที่คืนกลับครั้งที่แล้วเพิ่งจะผ่านมาเก้าชั่วโมง
ชิ่งเฉินตอบข้อความให้หลิวเต๋อจู้ว่า “เพิ่งตื่น รอให้ผมทำความเข้าใจจากลูกน้องว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วค่อยว่ากัน”
หลิวเต๋อจู้ทางด้านอุปกรณ์สื่อสารฝั่งนั้นเลื่อมใสอย่างลึกล้ำ บอสใหญ่ก็คือบอสใหญ่ เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ยังสามารถนอนหลับ แต่ก็ใช่ บุคคลระดับบอสใหญ่ย่อมจะนั่งนิ่งได้ท่ามกลางพายุโหมกระหน่ำ ไม่ยินดีกับวัตถุ ไม่เศร้ากับตนเอง……
ในเรื่องราวนี้ หลิวเต๋อจู้ค้นพบรายละเอียดหลายอย่าง :
จุดที่หนึ่ง บอสใหญ่ไม่รู้ว่าตนเองจะมาเขาเหล่าจวิน แล้วก็ไม่รู้ว่าตนเองจะมาล่วงหน้า เพราะตอนที่บอสใหญ่อธิบายเรื่องราวที่โลกภายในไม่คล้ายกับเสแสร้งจริง ๆ
ดังนั้น ขีดฆ่าการคาดเดาว่าบอสใหญ่อยู่ที่ข้างกายตนเองชั่วคราว งั้นบอสใหญ่ก็คือศิษย์เก่าในโรงเรียน หรือว่าเป็นรุ่นพี่ชั้นปีสามสักคน
จุดที่สอง ผู้ฆ่าคนปิดหน้าคนนั้นเมื่อคืนนี้จะเป็นตัวบอสใหญ่หรือไม่กันนะ?
ก่อนอื่นถ้าวิเคราะห์จากนิสัยไม่ได้คล้ายนัก เพราะความประทับใจที่บอสใหญ่มอบให้ตนเองเป็นตัวละครเจ้าเล่ห์ที่วางแผนในกระโจมเสมอมา
เจ้าเล่ห์ เจ้าเล่ห์เป็นพิเศษ
ส่วนคนเมื่อคืนที่ดูเหมือนจะล้างแค้นให้สมาชิกคุนหลุนแสดงโฉมหน้าที่เลือดเดือดเป็นพิเศษ
นี่กับบอสใหญ่ในความประทับใจของหลิวเต๋อจู้ไม่เหมือนกันจนเกินไป
สรุปก็คือ หลิวเต๋อจู้ประเมินเป็นการชั่วคราวว่าถึงจะไม่ขีดฆ่าความระแวง แต่ผู้ฆ่าคนปิดหน้าเมื่อคืนน่าจะไม่ใช่ตัวบอสใหญ่เอง
อย่างนี้ดูไปแล้ว บอสใหญ่ได้ปลุกปั้นพลังอำนาจและลูกน้องของตนเองขึ้นที่โลกภายในแล้วสิ
……
ณ ขณะนี้ ชิ่งเฉินไม่ได้รีบตอบหลิวเต๋อจู้เลย ทว่าตัดสินใจแกล้งทำเป็นว่ากำลังทำความเข้าใจสถานการณ์ ปล่อยให้อีกฝ่ายรอเก้อไปก่อนครู่หนึ่ง
เขาเปิดโทรศัพท์มือถือ ค้นพบว่าในกลุ่มแชตห้องที่ตนเองอยู่ระเบิดตูมตั้งนานแล้ว
เพื่อนนักเรียนมากมายล้วนพูดว่า หลิวเต๋อจู้กับพวกพ้องที่เร้นลับของเขาช่วยชีวิตทุกคน
ถึงตัวหลิวเต๋อจู้เองไม่ได้ยอมรับเลย แต่ทุกคนไม่เชื่อการปฏิเสธของเขาเลย
กรรมการนักเรียนอวี๋จวิ้นอี้เอ่ยอย่างตื้นตันว่า “ตอนนั้น ตอนที่คนร้ายยังไม่ได้ปรากฏตัว หลิวเต๋อจู้ก็รับรู้จากโลกภายในล่วงหน้าแล้ว แถมให้ทุกคนรีบหนี แต่ว่า เวลานั้นไม่มีคนเชื่อเขา ตอนนั้นฉันยังรู้สึกว่าเขาบ้าไปแล้วเลย ตอนนี้คิด ๆ ดูแล้วละอายใจจริง ๆ”
เพื่อนนักเรียนหญิงคนหนึ่งเอ่ยอย่างตื่นเต้นว่า “หัวหน้าคนร้ายคนนั้นยังเอาปากกระบอกปืนจ่อหัวเขา ถามว่าพวกพ้องเขาอยู่ที่ไหน ผลคือเพื่อนหลิวเต๋อจู้แกร่งมากเลย ข้อมูลสักนิดเดียวก็ไม่เผยให้อีกฝ่าย”
อันที่จริงเธอไม่รู้ว่า ตอนนั้นหลิวเต๋อจู้ไม่ทราบชัดจริง ๆ ว่าบอสใหญ่เร้นลับกับลูกน้องเร้นลับนั้นอยู่ที่ไหน อยากจะพูดก็พูดไม่ได้อะ!
ภายหลังไป๋หว่านเอ๋อร์พูดลงกลุ่มแชตห้องถึงเรื่องราวที่ประสบเหตุ ผลักดันเทรนด์ของการวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นไปถึงจุดพีค : อีกฝ่ายไม่เพียงช่วยชีวิตคน ยังช่วยล้างแค้นให้สมาชิกคุนหลุนสองคนนั้น
ชิ่งเฉินกำลังคิดว่า ป้ายยี่ห้อของหลิวเต๋อจู้ทุกวันนี้ยิ่งมายิ่งดัง ตนเองจากสามารถอาศัยเจ้าหมอนี่กล่อมนักท่องเวลาที่เชื่อถือได้มาจำนวนหนึ่งได้หรือไม่
ไม่ว่าจะทำธุรกิจกับพวกเขาก็ดี หรือว่าช่วยเหลือเกื้อกูลกันและกันก็ดี บางที ณ จุดใดจุดหนึ่งจะมีส่วนช่วยเหลือ
เขาปิดวีแชต เปิดแพลตฟอร์มอื่น ๆ
รุ่งสางเมื่อคืน ตอนที่เพลิงไหม้เริ่มลุกลาม เรื่องบนเขาเหล่าจวินก็แพร่กระจายไปทั้งประเทศแล้ว
เวยป๋อ, ติ๊กต็อก, สถานี B ทุกแห่งหนล้วนเป็นคลิปและข่าวของเขาเหล่าจวินเกิดเพลิงไหม้
แต่ในเรื่องราวนี้ ทุกคนบรรยายฉากเหตุการณ์หลังเพลิงไหม้มากกว่า ไม่ได้มีใครลุกขึ้นมาประกาศลำดับขั้นตอนของเรื่องราวเลย
พวกเขาเพียงอาศัย ID ที่ชื่อว่า “คุนหลุนลู่หยวน” อันหนึ่งจึงได้รู้ว่า คนร้ายวางเพลิงทั้งหมดล้วนถูกสังหารแล้ว คดีลักพาตัวนักท่องเวลาก็ยุติลงเป็นการชั่วคราว
เวลานี้ทุกคนจึงได้เข้าใจว่าที่แท้คนร้ายที่วางเพลิงก่ออาชญากรรมก็คือผู้ร้ายคดีลักพาตัวนักท่องเวลาที่โด่งดังก่อนหน้านี้
ไม่มีคนเอ่ยถึงผู้ฆ่าคนที่ปิดหน้า ไม่มีคนเอ่ยว่าใครสังหารคนร้าย เพราะว่าชิ่งเฉินซ่อนตัวได้ดีเกินไป
วันนี้เป็นวันชาติวันที่สอง เหล่านักท่องเที่ยวที่เดิมทีอยากจะมาเที่ยวเขาเหล่าจวิน หลังได้ยินข่าวที่นี่ล้วนพากันขอคืนเงินแล้ว
ยังมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก แม้แต่พระอาทิตย์ขึ้นที่ยอดเขาจินยังไม่ดู พากันนั่งรถบัสไปจากเขตชมวิว
ว่ากันว่า รถบัสคันแรกตอนเช้าตรู่ของเขาเหล่าจวินคนเบียดกันแน่นเอี๊ยดแล้ว ระบบการขนส่งของเขตชมวิวอยู่ในภาวะชะงักงักเป็นการชั่วคราว
ชิ่งเฉินสำรวจทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ในความทรงจำ หลังจากที่เขายืนยันว่านอกจากหลี่ถงอวิ๋น, เจียงเสวี่ย, หนานเกิงเฉินจะไม่มีคนยืนยันตัวตนของเขาได้
จู่ ๆ เขาคิดถึงเรื่องที่สำคัญเป็นพิเศษอย่างหนึ่งขึ้นมา : ทองแท่ง
ในยามราตรีเมื่อวานนี้ ท่ามกลางความอลหม่านหูเสี่ยวหนิวเคยพูดประโยคที่สำคัญเป็นพิเศษมาหนึ่งประโยค
เปลี่ยนเป็นคนอื่นอาจจะลืม หรือจะละเลยไปเพราะว่าตึงเครียด
แต่ชิ่งเฉินจะไม่
ตอนนี้ในสมองของเขา ทองแท่งเป็นคีย์เวิร์ดที่พิเศษมีเอกลักษณ์คำหนึ่ง
……………………………
ตอนที่ 96 – ทางเลือกของหลิวเต๋อจู้