นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature ) - ตอนที่ 98
ตอนที่ 98 – จะต้องห่วงใยมากสินะ
อย่างไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว ถึงเวลาที่เหล่านักท่องเวลาจะต้องทะลุมิติอีกแล้ว
ข้างนอกวิพากษ์วิจารณ์คดีกันอย่างครึกโครม ดังนั้น ชิ่งเฉินที่เล่นบทผู้ฆ่าคนปิดหน้าคนนั้นก็เข้าไปสู่สายตาของทุกคน
แต่ทุกคนเพียงรู้ว่าเขาแทบจะฆ่าล้างองค์กรคนร้าย รู้ว่าเขาไล่ล่าล้างแค้นในรัตติกาล
กลับไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร
สิ่งที่ไร้ข้อกังขาสักนิดเดียวคือ ในหมู่นักท่องเวลาที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศได้เพิ่มบุคคลคนใหม่อีกคนแล้ว
เร้นลับเหมือนกับเหอเสี่ยวเสี่ยว
นับถอยหลัง 00:10:00
ประเทศเกาะ โอซาก้า
ติดกับชินไซบาชิ ในห้องสวีทชั้นสูงที่สุดของโรงแรมเดอะ เซนต์รีจิส
เด็กสาวคนหนึ่งนั่งกอดเข่าบนเก้าอี้ข้างหน้าต่างเต็มผนังบานมหึมา เธอสวมกางเกงขาสั้นสีเขียวอ่อนกับทีเชิ้ตสีขาวที่ดูสดชื่น ก้มหน้าดูโทรศัพท์มือถือ
ข่าวคดีลักพาตัวนักท่องเวลาของเขาเหล่าจวินแพร่กระจายมาถึงประเทศเกาะแล้ว ก่อให้เกิดคลื่นลูกใหญ่ด้วยเช่นกัน
ณ ขณะนี้ คดีถูกทำร้ายที่เกี่ยวกับนักท่องเวลาเพิ่มไปเป็นร้อย ๆ คดีแล้ว
มีคนถูกแย่งชิงอวัยวะจักรกลโดยใช้กำลัง ยังมีคนที่เพิ่งจะเอายากลับมาก็ถูกเพื่อนฆาตกรรม
สิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายคือ คดีอาชญากรรมของคนรู้จักในระหว่างเพื่อนฝูงและญาติมิตรมีอัตราสูงมาก
เด็กสาวจินได โซราเนะมองทุกสิ่งนี้ ในใจเกิดความงงงันเศษเสี้ยวหนึ่ง
เดิมทีเธอเพียงอยากจะเป็นศิลปินดี ๆ ทำไมจู่ ๆ ตกลงไปในเรื่องราวประเภทนี้แล้วล่ะ
ก็เพราะว่าเรื่องราวประเภทนี้นี่ล่ะที่ทำให้เธอรู้สึกไม่ปลอดภัยมาก
ในโลกภายนอก เธอต้องกังวลว่าคนอื่นจะค้นพบสถานะนักท่องเวลาของตนเอง
ในโลกภายใน เธอก็ต้องรับมือตระกูลจินไดอย่างระมัดระวัง กันไม่ให้อีกฝ่ายค้นพบ
หลายวันก่อน ตระกูลจินไดดำเนินการตรวจสอบภายในตระกูลอย่างละเอียด แล้วดำเนินการทรมานไต่สวนนักท่องเวลาเจ็ดคนที่หาเจออย่างน่าสยดสยอง
ในการตรวจสอบรอบนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ “ภาษาจีนกลาง”
เนื่องจากตระกูลจินไดหลอมรวมไปในสหพันธรัฐตั้งแต่แรก ดังนั้นตระกูลจินไดของโลกภายในก็พูดภาษาจีนกลางอย่างแพร่หลายตั้งแต่แรก มีเพียงสมาชิกสายตรงในตระกูลถึงจะยังคงรักษาการสืบทอดของภาษาญี่ปุ่นเอาไว้
นักท่องเวลาญี่ปุ่นที่ทะลุไปยังเมืองสามเมืองทิศเหนือของจินไดแบ่งออกเป็นมาจากโตเกียว, โอซาก้า, โกเบ นอกจากจินได โซราเนะแล้ว ไม่มีคนที่สามารถพูดภาษาจีนกันเลย
จึงตายหมู่
เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ จินได โซราเนะถูกพาไปที่เมืองหมายเลข 18 มาพบเด็กหนุ่มที่ชื่อชิ่งเฉินพอดี ตระกูลจินไดใส่ใจผลลัพธ์ของการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์รวมทั้งผลกระโยชน์หลังจากแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ครั้งนี้มาก ดังนั้นความเข้มงวดในการตรวจสอบเธอไม่ได้สูงเลย
คิดถึงการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ จินได โซราเนะจู่ ๆ พิมพ์คำว่า “ชิ่งเฉิน” สองคำลงไปในเสิร์ชเอนจินภาษาจีนของโทรศัพท์มือถือ
แต่ก็เหมือนกับหลายครั้งก่อน ยังคงไม่มีข้อมูลที่มีประโยชน์อะไร
“ขณะนี้ดูท่ายังไม่อาจยืนยันว่าเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นนักท่องเวลาหรือไม่…… ครั้งก่อนที่ไปก็ไม่ได้พบเขา ครั้งนี้ไม่รู้ว่าจะสามารถเจอเขารึเปล่านะ? เอ๋? ถ้าฉันไปเจอเขาบ่อย ๆ เขาจะรู้สึกว่าฉันชอบเขารึเปล่า งั้นฉันต้องไว้ตัวหน่อยรึเปล่าล่ะ ทิ้งระยะสักช่วงหนึ่งแล้วค่อยไปใหม่”
ทิวทัศน์ราตรีอันรุ่งเรืองของโอซาก้าประดุจเนบิวลาก้อนหนึ่ง ส่วนจิตใจของเด็กสาวกำลังไหวเอนในท้องฟ้าราตรี
นับถอยหลังถึงศูนย์
……
โลกที่มืดลงและแตกสลายเริ่มก่อตัวขึ้นมาใหม่
ชิ่งเฉินกลับมาสู่ในเรือนจำอันมืดสลัว แทบจะล้มลงพื้นพร้อมเสียงร้องอึกอัก
ผลคือร่างกายเพิ่งจะเอียงก็ถูกเยี่ยหว่านใช้เก้าอี้รับไว้ ให้เขานั่งลงไป
ก่อนคืนกลับครั้งที่แล้ว เยี่ยหว่านจู่ ๆ หยิบเก้าอี้ออกมาตัวหนึ่ง ตอนนั้นชิ่งเฉินยังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายหยิบเก้าอี้มาทำอะไร……
ชั่วขณะนี้ชิ่งเฉินยิ้มแล้ว ที่แท้เยี่ยหว่านคาดการณ์ได้แต่แรกว่าตนเองจะขาทั้งคู่เดี้ยง ดังนั้นเตรียมเก้าอี้ให้ตนเองล่วงหน้า
ก็เหมือนกับที่อีกฝ่ายคาดการณ์ได้แต่แรกว่าถึงตนเองปากจะพูดว่าคนพวกนั้นไม่คุ้มค่าให้ตนเองเสี่ยงอันตรายเลย แต่สุดท้ายยังไม่อาจยับยั้งความเลือดเดือดของตนเอง
หลี่ซูถงประเมินได้ถูกมาก ในส่วนลึกของสมองที่เยือกเย็นและทรงพลังของตนเองมีความเลือดเดือดอันยากจะจินตนาการฝังอยู่จริง ๆ
ขัดแย้งและผสมกลมกลืนกัน
“กลับมาแล้วเหรอ ดูท่าทางจะบาดเจ็บไม่เบานะ” หลินเสี่ยวเสี้ยวเอ่ยสบาย ๆ “แต่กลับมาแล้วก็เป็นเรื่องดี”
เยี่ยหว่านยิ้มแล้วพยักหน้า “นอกจากความเป็นความตายก็ไม่มีเรื่องใหญ่แล้ว เพียงแต่ว่า ศูนย์จุดศูนย์กว่าวินาทีที่แล้วคุณยังดี ๆ อยู่ จู่ ๆ กลายมาเป็นย่ำแย่ขนาดนี้มันทำให้คนปรับตัวไม่ทันไปหน่อยจริง ๆ”
หลี่ซูถงยิ้มแล้วตบไหล่เขา “ตอนปกติขาดความกระฉับเฉงของวัยรุ่นขนาดนั้นมันทำให้คนไม่ชินมากจริง ๆ ชีวิตอาจจะมอบความทุกข์ทรมานสักหน่อยให้เธอ จึงทำให้เธอเก็บงำนิสัยของเด็กหนุ่มไปแต่แรก แต่ว่าคนหนุ่มสาวเดิมก็ควรจะบุ่มบ่ามสักหน่อยถึงจะถูก เรื่องบางอย่างตอนที่เธอเป็นวัยรุ่นไม่ทำ รอจนเธออายุเท่าฉันก็จะค้นพบว่าพลาดไปเยอะมาก”
วัยหนุ่มสาวก็คือช่วงอายุที่เลือดร้อนและไม่รู้เรื่องรู้ราว เวลานี้คุณอาจจะทำผิดไปบ้าง หรือแม้กระทั่งทำผิดไปมากมาย แต่อันที่จริงเมื่อวัยหนุ่มสาวจบสิ้น คุณก็จะค้นพบว่า ที่แท้การทำผิดพลาดมันก็คือหนึ่งในสาเหตุที่วัยหนุ่มสาวงดงามและรุ่งโรจน์
เวลานี้คุณผลุนผลัน, ทะยานหนี, ไร้ความกลัว แต่ไม่เคยเสียใจภายหลัง
หลังจากชิ่งเฉินนั่งลงบนเก้าอี้ เยี่ยหว่านให้เขาถอดรองเท้ากับเสื้อ “มาดูซิว่าคุณเจ็บหนักแค่ไหน ด้านเสี่ยวเสี้ยวเตรียมยาทาให้คุณไว้แล้ว”
ตอนที่ทุกคนเห็นบาดแผลเล็กละเอียดใต้ฝ่าเท้าของชิ่งเฉินและยังมีร่องเลือดลึกบนไหล่ แทบจะสามารถจินตนาการได้เลยว่าเด็กหนุ่มคนนี้ประสบกับอะไรมาในระยะเวลาสองวันที่แล้ว
บาดแผลใต้ฝ่าเท้าหมายความว่าชิ่งเฉินเคยเดินเท้าเปล่าบนถนนมากแค่ไหน
ร่องเลือดบนไหล่หมายความว่าเขาเคยเผชิญหน้ากับศัตรูที่ถือปืน
สำหรับเด็กหนุ่มทั่วไปคนหนึ่ง นี่นับว่าเป็นจุดสุดยอดของความอันตรายแล้ว แต่อีกฝ่ายยังคงกลับมาอย่างปลอดภัย
หลิวเสี่ยวเสี้ยวกล่าวว่า “ขอแสดงความยินดีด้วย อุปสรรคที่ผ่านยากที่สุด คุณข้ามผ่านมาแล้ว”
อุปสรรคที่เขาพูดถึงก็คือการต่อสู้ครั้งแรกในชีวิตคน
การต่อสู้ที่ฝังในกระดูกสลักในใจ
อันที่จริงพวกเขาเหล่าคนที่มีประสบการณ์ล้วนรู้ว่า การต่อสู้ครั้งแรกของชีวิตเป็นสิ่งที่สำคัญมาก มันจะกำหนดความสำเร็จในอนาคต
ไม่ได้จะบอกว่าความแข็งแกร่งพัฒนาขึ้นมากมาย ทว่าตอนที่คุณเผชิญหน้ากับศัตรูคนอื่นในภายภาคหน้าจะระย่อหรือไม่ ยังจะครอบครองความกล้าหาญและเลือดเดือดอันไร้เทียมทานหรือไม่
ความแข็งแกร่งกำหนดขีดจำกัดล่าง สภาวะจิตใจจึงกำหนดขีดจำกัดบน!
เยี่ยหว่านที่ด้านข้างจ้องใต้ฝ่าเท้าของชิ่งเฉินเอ่ยอย่างทอดถอนว่า “ชิ่งเฉิน นี่เป็นบาดแผลที่ใครทำให้คุณเหรอ ละเอียดเกินไปแล้ว เดิมทีผมยังนึกว่าต้องทำให้คุณใหม่ ถึงยังไงการย่ำเท้าเปล่าบนพื้นจะมีเศษสิ่งสกปรกที่ละเอียดมากฝังอยู่ในเนื้อ ทิ้งต้นตอโรคเอาไว้ คนที่ทำแผลให้คุณค่อนข้างเอาใจใส่ทีเดียว”
……………………………………………
ตอนที่ 99 – การลงทัณฑ์ที่จำเป็นต้องรับ