[นิยายวาย] ทะลุระบบข้ามภพมาหารัก - ตอนที่ 25 สิงร่างลูกผู้ดี แล้วปรี่เข้าประจบท่านอ๋อง (25)
- Home
- [นิยายวาย] ทะลุระบบข้ามภพมาหารัก
- ตอนที่ 25 สิงร่างลูกผู้ดี แล้วปรี่เข้าประจบท่านอ๋อง (25)
ชิวเลี่ยวันแรกของต้าโจวจะมีการปล่อยนกปีกขาวตัวหนึ่งเข้าไปในป่า นกชนิดนี้นิสัยดุดันและตื่นตัว จับได้ยากอย่างยิ่ง ตลอดร้อยปีมานี้ มีเพียงองค์ปฐมจักรพรรดิที่เคยจับนกปีกขาวได้ในช่วงฤดูชิวเลี่ย ดังนั้นผู้ใดที่สามารถจับนกปีกขาวได้ ล้วนจัดว่าเป็นผู้ท้าชิงอันดับหนึ่งอย่างสมศักดิ์ศรี
ดวงดาวบนฟากฟ้าสว่างสุกใส ทว่าหัวใจคนบนผืนดินกลับซับซ้อนดุจหมู่ดาวนับร้อยล้านดวงบนฟ้าเรียงสลับทับซ้อนกัน ภรรยาของตนเก่งกาจกว่าตนเองจะทำอย่างไรดี? ตันหวายครุ่นคิด ใบหน้านุ่มนวลอ่อนเยาว์ฉายแววเคร่งขรึมอย่างไม่สมวัย
ที่สำคัญที่สุดคือตลอดหลายวันที่จวินเฉิงอยู่กับเขาไม่ได้ไล่จับนกปีกขาวอะไรนั่นเลย พูดอีกอย่างก็คือ นกตัวนี้เขาจับได้ในวันสุดท้าย!
“เห็นหรือยังล่ะ?” เหอหรูกู้ขยับเข้ามาใกล้ น้ำเสียงเต็มเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจ “ท่านลุงข้าหากต้องการได้ที่หนึ่งก็ย่อมทำได้ หากทำไมได้ นั่นก็หมายถึงไม่อยาก”
ผู้คนรอบข้างต่างพากันชื่นชม กล่าวเซ็งแซ่ว่าซีหนานอ๋องคือบุรุษหนุ่มผู้เก่งฉกาจโดยแท้
เหอจินหมิงหน้านิ่วคิ้วขมวด นกปีกขาวที่มีเพียงองค์ปฐมจักรพรรดิล่าจับได้ตกไปอยู่ในมือเจ้าครองแคว้นจะให้คิดว่าอย่างไร? ฮ่องเต้อย่างเขาจะเอาหน้าไปซุกไว้ที่ไหน?
กวาดตามองดูรอบๆ ผู้คนรอบข้างถูกเหอจินหมิงมองจนเงียบกริบกันหมด ทั้งมีบางคนกำลังมองสำรวจสีหน้าของเขาอยู่เงียบๆ
เก็บซ่อนความรู้สึกในใจไว้ยังก้นบึ้งดวงตา เหอจินหมิงยกยิ้มเบาบาง ก้าวขึ้นสู่บัลลังก์มังกรอย่างสุขุมเยือกเย็น
เหอจินหมิงเคาะนิ้วกับแท่นวางแขนบนเก้าอี้อย่างไม่เป็นธรรมชาติ คล้ายยิ้มไม่ยิ้มกล่าว “ซีหนานอ๋องต้องการสิ่งใด?”
สายตาจากรอบทิศจับจ้องไปยังจวินเฉิง ต่างก็อยากฟังดูว่าเขาจะพูดอย่างไร ต่างก็คิดว่าสิ่งที่ทำให้ซีหนานอ๋องเอ่ยขอได้นั้นย่อมล้วนเป็นของดี
จวินเฉิงมองข้ามสายตาของฝูงชน ดวงตาสบกับเหอจินหมิงกล่าวว่า “กระหม่อมมีความประสงค์จะทูลขอให้ฝ่าบาททรงพระราชทานงานสมรสพ่ะย่ะค่ะ”
ตันหวายตกตะลึง จู่ๆ ก็รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา
นิ้วที่รัวเคาะเก้าอี้อยู่หยุดนิ่งลง เหอจินหมิงหรี่ตา รอคอยคำพูดต่อไปของจวินเฉิง
“กระหม่อมปรารถนาครองรักนิรันดร์กับตันฝูเซิง จูงมือฟันฝ่าอุปสรรค แม้นโลกนี้มีหญิงงามมากมาย ตราบชีพวายรักแท้มิแปรเปลี่ยน”
เหอจินหมิงชะงักไป ก่อนหันหน้าไปมองตันฝูเซิง คล้ายยิ้มไม่ยิ้มถามว่า “ฝูเซิง เจ้าคิดว่าอย่างไร? จัดงานสมรสครั้งนี้ย่อมต้องยินยอมพร้อมใจทั้งสองฝ่าย เราอยากจะฟังดูว่าฝูเซิงเห็นอย่างไร”
ตันหวายสมองว่างเปล่าไปหมด ไม่รู้ว่าจวินเฉิงทำไมจู่ๆ ถึงได้มาไม้นี้ เขาเห็นฝูงชนเริ่มส่งเสียงกระซิบกระซาบกัน ราวกับกำลังพูดว่าทำไมเขาถึงมาหลงชอบพอคนพรรค์นั้น
“ข้า…” ตันหวายเอ่ยปากพูด ฉีกยิ้มฝืดเฝื่อนพลางกล่าว “ข้าไม่รู้จักมักจี่อะไรกับซีหนานอ๋อง ข้ารู้จักแต่เพียงฝ่าบาท ข้าความจำเสื่อมแล้ว ฝ่าบาทเคยบอกข้าว่าคนที่ข้าชอบก็คือท่าน”
ตันหวายเห็นเหอจินหมิงค่อยๆ ยกมุมปากขึ้น สีหน้าพึงพอใจปรากฏอยู่บนใบหน้า จากนั้นก็หันไปมองจวินเฉิงอย่างลำพองในชัยชนะ
ชั่วพริบตานั้น ตันหวายพลันรู้สึกอยากจะฉีกทึ้งหน้าของเขานัก ทำไมต้องมีคนจอมปลอมอย่างนี้อยู่ด้วยนะ
จวินเฉิงหลุบนัยน์ตาลง จู่ๆ ก็หัวเราะออกมา “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่สู้ฝ่าบาททรงพระราชทานแก้วแหวนเงินทองตามสมควรเถิด ซีหนานยากจนนัก กระหม่อมยังต้องการเงินใช้สอย”
ตันหวายหัวใจชาวาบ มองดูไฝน้อยบนเปลือกตาของจวินเฉิงพลางคิด รอยตำหนิที่ยามยลกลับไร้นี้ ปรากฏขึ้นอยู่ตรงหน้าเขาอีกครั้ง
ตลอดเส้นทางขากลับตันหวายนั่งเหม่ออยู่ในรถม้าโดยไม่โผล่ออกมาอีก เขาเบิกตาอย่างเหม่อลอยพลางถามระบบว่า “เหลืออีกนานเท่าไหร่? เมื่อกี้ผมไม่ทันได้ฟัง”
ระบบนิ่งเงียบไปชั่วครู่ ข้อความท่อนหนึ่งปรากฏขึ้นในหัวของตันหวาย
(รายงานท่านเจ้าของร่าง ท่านยังเหลือเวลาอีกเจ็ดสิบห้าวันเต็ม)
เจ็ดสิบห้าวันเหรอ…
จู่ๆ ตันหวายก็รู้สึกหดหู่ ถามว่า “ถ้าตอนนี้ผมถือมีดไปฆ่าเหอจินหมิง ภารกิจนี้ก็จะสำเร็จใช่ไหม?”
(ขออภัยท่านเจ้าของร่าง ทำไม่ได้ แม้ว่าท่านจะมาเยือนโลกใบนี้ แต่ก็ไม่สามารถทำให้โลกใบนี้วุ่นวายได้ หากเหอจินหมิงถูกท่านสังหารกะทันหัน ถ้าเช่นนั้นผู้คนจำนวนมากที่นี่ล้วนจะได้รับผลกระทบ)
“ระบบ” ตันหวายพิงกับรถม้าพลางหลับตากล่าว “คุณว่าไหม ถ้าผมไม่ไปแกล้งแหย่เขาก็คงจะดี ผมมีเวลาอีกแค่ไม่กี่วัน ถ้าผมแต่งงานกับเขา ไม่ใช่ว่าจะสร้างภาระให้เขาหรอกหรือ?”
ระบบไม่ได้ตอบรับเขา แต่กลับแจ้งเตือนทันที
(เหลือเวลาก่อนภารกิจสิ้นสุดอีกเจ็ดสิบห้าวันเต็ม ท่านเจ้าของร่างโปรดบรรลุภารกิจโดยเร็วที่สุด)