[นิยายวาย] ทะลุระบบข้ามภพมาหารัก - ตอนที่ 40 แก้แค้นโลกมายา เจ้าของร่างคนนี้เซ็งนิดหน่อย (9) / ตอนที่ 41 แก้แค้นโลกมายา เจ้าของร่างคนนี้เซ็งนิดหน่อย (10)
- Home
- [นิยายวาย] ทะลุระบบข้ามภพมาหารัก
- ตอนที่ 40 แก้แค้นโลกมายา เจ้าของร่างคนนี้เซ็งนิดหน่อย (9) / ตอนที่ 41 แก้แค้นโลกมายา เจ้าของร่างคนนี้เซ็งนิดหน่อย (10)
ตอนที่ 40 แก้แค้นโลกมายา เจ้าของร่างคนนี้เซ็งนิดหน่อย (9)
พอตกกลางคืน กองถ่ายก็เลิกงานกันแล้ว ตันหวายนอนไม่หลับพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง
ยามเจอหน้าเริ่นตงหลิวตอนกลางวัน เนื่องด้วยเรื่องของเวลา เขาจึงมีเรื่องอีกมากมายที่ยังไม่ทันได้ถาม
เริ่นตงหลิวกับจวินเฉิงหน้าตาไม่เหมือนกัน นอกจากไฝเม็ดเล็กนั้นบนเปลือกตาแล้ว สิ่งเดียวที่ทำให้ตันหวายจดจำได้ก็คือความรู้สึกที่เขาส่งผ่านมาถึงเขา
เยี่ยชิวหน้าตาไม่เหมือนกับตนเช่นกัน พวกเขาทั้งคู่มีบุคลิกนิสัยแตกต่าง เยี่ยชิวเหมาะสมที่จะปรากฏตัวอยู่บนจอหนังใหญ่มากกว่า
(ท่านเจ้าของร่าง H3883 ขอแจ้งเตือนท่าน ช่วยนอนให้มันหลับซะที คุณไม่หลับเราก็พักผ่อนไม่ได้!)
ตันหวายแค่นหัวเราะออกมา กล่าวเสียงเย็นเยียบ “คุณบอกไม่ใช่เหรอว่าเจ้าของร่างสองคนไม่มีทางปรากฏตัวพร้อมกันในโลกได้ ถ้าอย่างนั้นแล้วเกิดอะไรขึ้นกับไป๋เยว่?”
(เราขอสาบานด้วยเกียรติของระบบเรา ในโลกนี้ไม่มีเจ้าของร่างสองคนอย่างแน่นอน)
ตันหวายเลิกคิ้วขึ้น “คุณแน่ใจ?”
ระบบขี้เกียจจะสนใจเขาแล้ว ระบบอย่างมันจะมีเวลาสักแค่ไหนกันเชียวถึงได้ว่างไปหลอกเจ้าของร่างเล่น
ไม่มีเจ้าของร่างสองคนจริงๆ หรือ?
ตันหวายหรี่ตา ผุดลุกขึ้นมานั่งบนเตียงทันที
เพื่อความสะดวกสบาย โรงแรมที่กองถ่ายจองไว้จึงเป็นห้องพักติดกันทั้งหมด ช่างบังเอิญว่าเริ่นตงหลิวพักอยู่ห้องข้างๆ ของข้างๆ ของข้างๆ…เขาพอดี
ตันหวายไม่อยากคิดแล้วว่าที่นี่มีอีกกี่ข้างกันแน่ อย่างน้อยก็อยู่ชั้นเดียวกัน ตันหวายปลอบใจตัวเอง
ตันหวายที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องของเริ่นตงหลิวลังเลใจ ตอนนี้สามทุ่มกว่าแล้ว จู่ๆ ตนมาเคาะประตูห้องของผู้กำกับ มองอย่างไรมันก็ทะแม่งๆ อยู่นะ
ทันใดนั้นใครบางคนก็ตบบ่าเรียกเบาๆ ตันหวายขนลุกซู่ หันหลังกลับอย่างแข็งทื่อ ก่อนจะมองเห็นใบหน้าของเทพแห่งความซวย
ตันหวาย “นาย—”
“ฉันไม่ได้ขายประกันจริงๆ” สุยยางตัดบทตันหวาย จ้องมองเขาด้วยสายตาสับสน ความเสียใจอย่างสุดซึ้งเปี่ยมล้นอยู่ภายใน
ไอ้คนโรคจิต!
ตันหวายกลุ้มใจ ทำไมต้องเจอหน้าไอ้แฟนเก่าคนนี้ทุกที่ทุกเวลาด้วย ไม่ทราบว่าเขามาหาศรีภรรยาเราหรือ?
สุยยางเม้มริมฝีปาก จู่ๆ ก็คว้าจับบ่าของตันหวายไว้ กล่าวด้วยความเจ็บปวดเสียใจ “ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่! เมื่อก่อนนายไม่ใช่คนแบบนี้! มีคนบังคับนายใช่หรือเปล่า?”
ตันหวาย “…”
“ฉันรู้อยู่แล้วว่าทำไมนายถึงได้แสดงหนังของเริ่นตงหลิว ที่แท้…ฉันรู้อยู่แล้ว ผู้กำกับใหญ่อะไรวะ เป็นลูกผู้ชายดันลักกินขโมยกินไปทั่ว!”
นายด่าย้อนเข้าตัวเองไปด้วยแล้วขอบใจ!
เดี๋ยวก่อน ชิบหาย! เขาด่าศรีภรรยาของเรานี่หว่า! ตันหวายได้สติกลับคืนมา ร่างทั้งร่างชักเริ่มจะอาการไม่ดี
ตันหวายขบกรามพลางยิ้มเย็น คิดว่าสุยยางไม่ใช่แค่สวะไร้ค่า แต่ยังไร้หัวคิดอีกด้วย ขณะเตรียมจะสอยเขาสักหมัด ตันหวายยังไม่ทันลงมือ ก็ได้ยินเสียงเปิดประตูดังขึ้น
เริ่นตงหลิวที่ได้ยินเสียงดังจนออกมาตรวจดูเห็นคนทั้งสองยื้อยุดกันไปมาก็นิ่งเงียบไป
ตันหวายเบิกตากว้าง ตวัดขาเตะสุยยางที่จับบ่าของเขาให้ผละออก มองเริ่นตงหลิวด้วยท่าทางน่าสงสาร
“เยี่ยชิว?” สุยยางเบิกตาค้าง มองภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ
อย่ามาเรียกชื่อตรูนะเฟ้ย! ทำให้ศรีภรรยาตรูเข้าใจผิดแล้วเอ็งจะชดใช้ไหวไหมล่ะ?
ตันหวาย “เมียจ๋าฟังผมอธิบายก่อน!”
เริ่นตงหลิวเบนสายตาไปจับจ้องที่ใบหน้าของตันหวายอยู่เนิ่นนาน จากนั้นก็มองสุยยางพลางกล่าวอย่างนิ่งเฉยว่า “พรุ่งนี้ยังต้องถ่ายทำอีก คุณจะรบกวนชาวบ้านอยู่ตรงนี้หรือไง?”
สุยยางอ้าปากค้าง ชำเลืองมองตันหวายด้วยความกังวล ก่อนเดินหน้าม่อยคอตกจากไป
ในโถงทางเดินอันกว้างใหญ่เหลือแต่เพียงตันหวายกับเริ่นตงหลิวสบตากัน นัยน์ตาของเริ่นตงหลิวช่างลึกล้ำยิ่งนัก มองจนตันหวายชักทำอะไรไม่ถูก
“เข้ามาคุยสิ” เริ่นตงหลิวหันตัวหลีกทางให้เข้าประตู
ตันหวายดีอกดีใจ ก้าวพรวดเข้าไปในห้องของเริ่นตงหลิว
“มีคนมาเหรอ?” เสียงผู้ชายที่ฟังดูเอื่อยเฉื่อยเล็กน้อยดังมาจากห้องนอนด้านใน ประตูส่งเสียงลั่นเอี๊ยดเปิดออก เจ้าของเสียงปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าตันหวาย
ชายหนุ่มเปลือยร่างกายท่อนบน ด้านล่างผูกเสื้อคลุมอาบน้ำคลุมไว้เท่านั้น ตอนที่นัยน์ตาดอกท้อมองเห็นตันหวายก็ตกตะลึงเล็กน้อย แต่กลับสงบเป็นปกติอย่างรวดเร็ว
ตอนที่ 41 แก้แค้นโลกมายา เจ้าของร่างคนนี้เซ็งนิดหน่อย (10)
ถ้าหากคุณเห็นผู้ชายร่างกายเปลือยเปล่าเพิ่งออกมาจากห้องอาบน้ำในห้องของภรรยาคุณ ความรู้สึกของคุณจะเป็นอย่างไร?
ตันหวายรู้สึกว่าทั้งร่างของตนชักจะอาการไม่ดีแล้ว ก่อนลุกพรวดขึ้นมา มือเริ่มสั่นเทาอย่างห้ามไม่อยู่
คนคนนี้เป็นใคร? ทำไมถึงมาอยู่ในห้องของเริ่นตงหลิว แล้วยัง…
ดวงตาของตันหวายเต็มไปด้วยแววขมุกขมัว เขาหลับตาลงพลางคิดอย่างเหม่อลอย หรือว่าเขาจะมาช้าเกินไปเสียแล้ว?
ชายหนุ่มมองสีหน้าของตันหวายแล้วคลี่ยิ้ม เดินเข้ามาบีบหน้าของเขาแล้วกล่าว “นี่ คุณเห็นผมทำไมทำเหมือนเห็นแฟนคุณนอกใจอย่างนั้นล่ะ คงไม่ได้แอบรักผมหรอกนะ”
เริ่นตงหลิวขมวดคิ้วมองมือของชายหนุ่มที่บีบแก้มของตันหวาย ก่อนฉุดตันหวายมาอยู่ข้างหลังอย่างสงบเยือกเย็น กล่าวเสียงไม่พอใจว่า “ยังไม่เข้าไปใส่เสื้อผ้าอีก!”
ชายหนุ่มเบะปากคว่ำ แม้จะไม่พอใจนิดหน่อย แต่ก็ยังเข้าไปในห้องอย่างเชื่อฟัง
เริ่นตงหลิวเอามือล้วงหยิบบุหรี่มวนหนึ่งขึ้นมาจุดไฟ พลางชำเลืองมองตันหวาย ก่อนจะตกใจเมื่อพบว่าขอบตาของเขาแดงก่ำไปหมด
นึกว่าเป็นเพราะสุยยางขุดคุ้ยเรื่องเจ็บปวดของเขาขึ้นมา เริ่นตงหลิวขมวดคิ้ว เอ่ยเบาๆ ว่า “อนาคต”
ได้ยินคำพูดของเริ่นตงหลิวแล้วตันหวายก็ตาแดงก่ำยิ่งกว่าเดิม มองจนเริ่นตงหลิวใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวไปพักใหญ่
“พอได้แล้ว นี่คุณมาคอสเพลย์เป็นกระต่ายอยู่ตรงนี้หรือไง?” เริ่นตงหลิวดึงกระดาษทิชชู่แผ่นหนึ่งยื่นให้กับเขา “ก็แค่ผู้ชายคนนึงไม่ใช่เหรอ?”
ความรู้สึกโกรธเคืองเอ่อท้นขึ้นในใจ ตันหวายเบิกดวงตาแดงก่ำทั้งคู่กล่าวว่า “ใช่สิ ก็แค่ผู้ชายคนนึงไม่ใช่เหรอ!”
ตันหวายลุกพรวดขึ้นมา ก้าวเข้าไปประชิดตัวเริ่นตงหลิว ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันจ้องมองเขา
เริ่นตงหลิวตกใจเขาจนผงะ ก่อนหยิบบุหรี่ที่คาบไว้ในปากตนออกมา ขมวดคิ้วมองใบหน้าที่อยู่ห่างไปเพียงคืบ
ต้องยอมรับว่าใบหน้านี้งดงามจริงๆ ไม่อย่างนั้นก็คงไม่เป็นที่นิยมชมชอบของพวกผู้ชายสัปดนมากมายขนาดนั้น และคงไม่ทำให้สุยยางเฝ้าคิดถึงไม่ลืมเลือน
“เอ็งนึกว่าข้าจะหลงชอบผู้ชายอุบาทว์อย่างเอ็งเรอะ!” ตันหวายขบกราม สมองเริ่มเลอะเลือน กัดไหล่ของเริ่นตงหลิวเข้าไปเต็มคำ
ข้างในห้องเปิดแอร์เอาไว้ เริ่นตงหลิวจึงสวมแค่เสื้อกล้ามแขนกุดเพียงตัวเดียว จู่ๆ ถูกตันหวายกัดเข้าเต็มคำก็เจ็บจนต้องสูดปาก
“เอ่อ…ผมมาขัดจังหวะพวกคุณหรือเปล่า?” ชายหนุ่มที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยเปิดประตูมาเห็นฉากแบบนี้เข้าพอดี จึงหลิ่วตามองเหมือนกำลังดูละครสนุกๆ
ตันหวายหยุดชะงัก ง้างฟันคลายออก แล้วพุ่งออกจากห้องไปโดยไม่แม้แต่โงหัวขึ้นมอง
เริ่นตงหลิวมองตัยหวายที่ยังคงดวงตาแดงก่ำพลางขมวดคิ้ว เอาแต่คิดว่ามีตรงไหนไม่ถูกต้อง
ชายหนุ่มที่ดูละครฉากเด็ดผิวปากหวีดหวิว ดึงสายตาของเริ่นตงหลิวกลับมา หัวเราะเยาะกล่าวว่า “ผู้กำกับใหญ่เริ่นช่างร้ายกาจ นี่เพิ่งกลับประเทศได้ไม่นานก็รู้จักเป็นเสี่ยดันแล้ว? สายตาไม่เลว”
เริ่นตงหลิวปรายตามองเขาอย่างเย็นชา ก่อนลุกขึ้นเดินเข้าห้องไป ถือโอกาสกล่าวทิ้งท้ายประโยคหนึ่ง “โซฟาก็ไม่ต้องนอนแล้ว อีกเดี๋ยวจะมีคนมารับนาย”
ชายหนุ่มสีหน้าเปลี่ยนทันที “เริ่นตงหลิวคนใจดำ!”
_________
“เป้าหมายยึดครองของผมคือเริ่นตงหลิวจริงๆ หรือ?”
(ท่านเจ้าของร่าง นี่เป็นครั้งที่ยี่สิบเจ็ดแล้วที่คุณถามคำถามเดิม)
ตันหวายผุดลุกขึ้นเดินไปเดินมาด้วยความขุ่นเคือง กล่าวว่า “แต่ว่าเขาไม่ได้เป็นโสดแล้วนะ! คุณจะให้ผมเป็นมือที่สามเหรอ?”
ระบบนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง พยายามเตือนสติตันหวายอย่างระมัดระวังที่สุด (ท่านเจ้าของร่าง เราไม่ใช่เกมคู่รัก ท่านไม่จำเป็นต้องทำให้เขาตกหลุมรักท่าน ท่านสามารถประจบประแจงระหว่างทำงานได้)
ตันหวายเม้มปากด้วยรู้ว่าระบบพูดถูกต้อง เริ่นตงหลิวย่อมจะสนับสนุนให้เขาก้าวหน้าในสายอาชีพได้อย่างมากแน่นอน ถ้าหากได้คบกันเป็นเพื่อน เขาก็ยิ่งใกล้บรรลุเป้าหมายมากขึ้นอีกขั้น
แต่พอนึกถึงผู้ชายคนนั้นในห้องของเริ่นตงหลิว ตันหวายก็รู้สึกเจ็บแปลบในอก หากไม่ใช่จวินเฉิงเขาคงไม่ว่าอะไร แต่นั่นมันจวินเฉิงนะ จวินเฉิงของเขา
เขานึกว่าเขาจะมาเป็นเนื้อคู่ตนเสียอีก ใครจะรู้ ใครจะรู้ว่ากลับ…