[นิยายวาย] ทะลุระบบข้ามภพมาหารัก - ตอนที่ 50 แก้แค้นโลกมายา เจ้าของร่างคนนี้เซ็งนิดหน่อย (19) / ตอนที่ 51 แก้แค้นโลกมายา เจ้าของร่างคนนี้เซ็งนิดหน่อย (20)
- Home
- [นิยายวาย] ทะลุระบบข้ามภพมาหารัก
- ตอนที่ 50 แก้แค้นโลกมายา เจ้าของร่างคนนี้เซ็งนิดหน่อย (19) / ตอนที่ 51 แก้แค้นโลกมายา เจ้าของร่างคนนี้เซ็งนิดหน่อย (20)
ตอนที่ 50 แก้แค้นโลกมายา เจ้าของร่างคนนี้เซ็งนิดหน่อย (19)
ต่างคนต่างครุ่นคิดระหว่างทานอาหารตลอดทั้งมื้อ ตันหวายชี้ไปยังน้ำแกงชามหนึ่งตรงหน้าตน ถามว่า “แกงนี้คือแกงอะไรครับ? ผมว่ามันอร่อยมากเลย คุณไม่ลองชิมดูบ้างหรือ?”
เริ่นตงหลิวปฏิเสธค่อนข้างเด็ดขาด “ผมไม่ต้องการ”
ไว้หน้ากันสักนิดไม่ได้หรือไง ไม่รู้เหรอว่าฉันคิดแต่หาเรื่องคุยอยู่คนเดียวจนเหนื่อยจะตายแล้ว ตันหวายบ่นในใจ
เริ่นตงหลิวเหลือบมองน้ำแกงบนโต๊ะ สายตาฉายแววประหลาด “มันคือแกงอัณฑะกวาง”
“พรืด—แค่กๆ!” ตันหวายสะบัดหน้าไปพ่นน้ำแกงออกจากปากทันที ถามอย่างไม่อยากเชื่อว่า “คุณบอกว่านี่แกงอะไรนะ?”
เริ่นตงหลิวเลิกคิ้ว ใบหน้าดุจหยกทอแววขบขันเล็กน้อย พลางกล่าวซ้ำอีกรอบ “แกงอัณฑะกวาง”
“แหวะ~” ตันหวายรู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมาทันใด ก่อนกล่าวอย่างโกรธเคืองว่า “ทำไมคุณไม่บอกผมเล่า!”
เริ่นตงหลิวยักไหล่อย่างไม่รู้ไม่ชี้ “คุณไม่ได้ถามผมนี่”
ตันหวายปรี๊ดแตก!
โซ้ยข้าวชนิดไก่เตลิดหมากระเจิงตลอดทั้งมื้อ ตอนกินเสร็จตันหวายรู้สึกเหมือนว่าตนอยู่ในสภาพปางตาย
“กี่โมงแล้ว?” ตันหวายถามเสียงอ่อย
“เก้าโมงครึ่ง”
ตันหวายลุกพรวดขึ้นยืนพลางกะพริบตาปริบ “คุณบอกว่ากี่โมงนะ?”
“เก้าโมงครึ่ง” เริ่นตงหลิวเอ่ยตอบอีกรอบ น้ำเสียงสงบราบเรียบ
พอเห็นเขานิ่งเฉยขนาดนี้ ใบหน้าของตันหวายก็เต็มไปด้วยความฉงนสงสัย “ตอนเช้าไม่ต้องถ่ายทำหรือ?”
“วันนี้ช่วงเช้าถ่ายสปอตโปรโมท” เริ่นตงหลิวชำเลืองมองเขาแวบหนึ่ง “ฉากของคุณตัดต่อเอาจากในหนังเลยก็เสร็จแล้ว เราไม่จำเป็นต้องไป”
โอเค นายเป็นลูกพี่ นายพูดอะไรก็ถูกหมดนั่นแหละ
ตันหวายนั่งรถของเริ่นตงหลิวตอนที่กลับมาถึงกองถ่าย เพราะว่าเป็นตอนกลางวัน คนส่วนใหญ่จึงกำลังพักผ่อน คนที่เตร็ดเตร่อยู่ในลานจอดรถก็มีอยู่แค่สองคน อีกทั้งสองคนนั้นยังออกมาจู๋จี๋พลอดรักกัน
“ทำไมผมรู้สึกว่าสองคนข้างหน้าดูหน้าตาคุ้นๆ จัง” ตันหวายหรี่ตา มองคนทั้งสองที่จูบกันเร่าร้อนอยู่ข้างรถไปพลางเคี้ยวมันฝรั่งในมือไปพลาง
เริ่นตงหลิวบังคับพวงมาลัย สายตาเหลือบไปมองตามตันหวายแล้วกล่าว “นั่นไม่ใช่แฟนเก่าคุณกับสปอนเซอร์ของเขาหรอกหรือ”
เริ่นตงหลิวกล่าวอย่างไม่ไยดี ไม่ใส่ใจคนทั้งสองที่มาพลอดรักกันที่นี่แม้แต่น้อย
เมื่อตันหวายเพ่งดูก็เห็นว่าใช่จริงๆ คนที่โอบกอดสาวใหญ่พลางขบกัดไปมาอยู่นั่น คือไอ้แฟนเก่าเวรตะไลของเจ้าของร่างเดิมไม่ใช่หรือ?
ตันหวายแค่นหัวเราะหึๆ ลดกระจกรถลงพลางโบกมือให้คนทั้งสองที่มัวเมาจนลืมตัว ยิ้มกล่าวว่า “เฮ้! คนขายประกัน บังเอิญจังเลย”
ตันหวายเห็นสองคนนั้นหยุดชะงักอย่างชัดเจน พากันหันมามองอย่างตกอกตกใจ
ทันทีที่สุยยางมองเห็นตันหวายก็สีหน้าซีดเผือด ก้าวถอยไปข้างหลังพลางอ้าปากค้าง คล้ายว่าอยากจะพูดบางอย่าง แต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรออกมา ยายแม่มดที่ถูกขัดจังหวะสีหน้าเริ่มไม่ค่อยจะดี ทั้งใบหน้าก้มต่ำ ดำมืดเป็นก้นหม้อ
เริ่นตงหลิวเลี้ยวรถจอดเข้าซอง ทว่าไม่ได้ลงจากรถ ก่อนจะล็อกประตูรถไว้ สวมแว่นตาดำเอนพิงลงกับเบาะอย่างสบายอารมณ์ ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
ตันหวายฟุบตัวลงเกาะขอบหน้าต่างพลางยิ้มหวาน กล่าวหยอกล้อว่า “แหมเจ้านาย ท่านก้มหน้ามุ่ยเชียวนะครับ ริ้วรอยท่านโผล่ออกมาเต็มเลย จุ๊ๆ อายุมากแล้ว เนื้อหนังก็เลยหย่อนยาน”
ยายแม่มดมองเห็นตันหวายก็แค่นหัวเราะ เกือบจะขบฟันเงินทั้งปากของตนจนแตกละเอียดอยู่แล้ว
อย่ามองว่าคนพวกนี้ฐานะสูงส่ง แต่ฝีปากก็ไม่คล่องแคล่วเอาเสียเลยจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนย่างเข้าวัยทองเหมือนเช่นยายแม่มด
ยายแม่มดปรายตามองสุยยางด้านหลังอย่างเย็นชา กล่าวอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “เธอจะยืนบื้อทำอะไร? ยังไม่ไปลากคอมันมาหาฉันอีก!”
สุยยางรูม่านตาหดเล็กลง เม้มริมฝีปากไม่ยอมขยับเขยื้อน
“ตัดใจจากชู้ของเธอไม่ลงหรือไง? ทำไม เห็นแก่ที่เคยนอนด้วยกันเลยไม่ลงมือ?”
ตันหวายหรี่ตาพลางสวนกลับไปทันที “ท่านว่าท่านเป็นสาวเป็นนาง พูดจาสกปรกขนาดนี้ได้อย่างไรกัน? กับเขา? ผมตาบอดก็ไม่ทำให้โง่หรอก!”
ตันหวายที่ภายนอกสุขุมเยือกเย็นหวาดหวั่นอยู่ในใจ ยายแม่มดแก่นี่พูดมั่วซั่วอะไร ถ้าทำให้ภรรยาตนเข้าใจผิดจะทำอย่างไรเล่า!
ตันหวายหันตัวขวับ ใบหน้าเล็กเคร่งขรึมขณะตบหน้าอกยืนยัน “เมียจ๋า ผมรับรองว่าตัวเองขาวสะอาดไร้มลทิน!”
ตอนที่ 51 แก้แค้นโลกมายา เจ้าของร่างคนนี้เซ็งนิดหน่อย (20)
บรรยากาศในกองถ่ายดูผิดแปลกไปเล็กน้อย ทีมงานถ่ายทำเบิ่งตาโตด้วยความสงสัยว่าตนเกิดอาการเห็นภาพหลอนหรือเปล่า
เริ่นตงหลิวรีบสาวเท้าเดินเข้ามา ตันหวายวิ่งเหยาะไล่ตามมาข้างหลัง ตันหวายยังพยายามจะเข้าไปประคองเอวให้ผู้กำกับเริ่นของพวกเขานับครั้งไม่ถ้วนด้วยสีหน้าเป็นกังวล
สุยยางเดินหน้าซีดตามหลังคนทั้งคู่ มุมปากยังมีรอยฟกช้ำขนาดใหญ่อย่างชัดเจน
เริ่นตงหลิวหาเก้าอี้พับมานั่งลง พลางลากมาให้ตันหวายด้วยอีกตัว ตันหวายชำเลืองมองสุยยาง แล้วจึงนั่งลงอย่างปลื้มอกปลื้มใจ นี่เป็นเก้าอี้ที่ศรีภรรยาตนยกมาให้กับตนเชียวนะ
ช่างแต่งหน้าท่าทางตุ้งติ้งเล็กน้อยเดินออกมาจากห้องแต่งหน้า พอเหลือบเห็นรอยฟกช้ำที่มุมปากของสุยยางก็อดหัวเราะไม่ได้ “เดี๋ยวนี้ประหยัดกระทั่งค่าแต่งหน้าแล้ว?”
สุยยางถูกช่างแต่งหน้าเหน็บแนมจนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก สายตาเลื่อนไปมองตันหวายโดยไม่รู้ตัว
เมื่อสังเกตเห็นสายตาของคนขายประกัน ตันหวายก็โบกหมัดไปมา
ทำไม อยากโดนต่อยอีกรึไง?
สายตาจับจ้องที่รอยฟกช้ำตรงมุมปากของสุยยาง ตันหวายหรี่ตามองอย่างพึงพอใจยิ่งนัก วันนี้ต้องถ่ายฉากที่สุยยางโดนคนรุมซ้อมพอดี เขาออกแรงเต็มเหนี่ยวทีเดียวกว่าจะต่อยเขาจนได้ผลงานออกมาเหมือนแต่งหน้าเช่นนี้
อดแขวะรสนิยมเจ้าของร่างเดิมอีกยกใหญ่ไม่ได้ คนดีๆ คนหนึ่งดันตาบอดตั้งแต่อายุน้อยเสียอย่างนั้น
ในลานจอดรถเมื่อครู่นี้ พอยายแม่มดแก่นั่นเอาเศษเงินเล็กๆ น้อยๆ มาขู่เข้าหน่อยสุยยางก็หวั่นไหว แถมยังคิดจะเข้ามาต่อยเขาอีก
แต่น่าเสียดายที่ตันหวายเป็นคนอารมณ์ร้อน จึงอดรนทนไม่ไหวจริงๆ พลางบอกให้เริ่นตงหลิวปลดล็อกประตูรถแล้วลงไปต่อยกับเขายกหนึ่ง
“อ้าว กลับมาแล้ว?” ซีหร่านเดินยิ้มหวานเข้ามานั่งข้างๆ เริ่นตงหลิว ถือน้ำมะนาวแก้วหนึ่งไว้ในมือ ทั้งยังตั้งใจยื่นไปไว้ตรงหน้าเริ่นตงหลิวแล้วถามเขาว่าอยากดื่มหรือเปล่า
เมินสายตาราวกับอยากฆ่าคนของตันหวาย เริ่นตงหลิวผลักออกไปโดยไม่กล่าวสักคำ
ลู่ซีหร่านไม่ใส่ใจเช่นกัน เงยหน้าขึ้นเหลือบมองสุยยางตรงหน้า หัวเราะร่ากล่าวว่า “พ่อลูกผู้ชายตัวจริง นายบังแสงอาทิตย์น่ะ”
สุยยางหลีกถอยอย่างกระอักกระอ่วน
สุยยางมาที่นี่เพื่อแสดงเป็นตัวประกอบที่ม่องเท่งตั้งแต่ต้นเรื่อง แม้กระทั่งชื่อก็ยังไม่มี จัดเป็นพวกกุ้งฝอยที่หลงเข้ามาในห้องลับ ออกฉากไม่เยอะ บทพูดยิ่งไม่มีเลย
วันนี้เป็นฉากสุดท้ายที่สุยยางเล่นพอดี เนื้อเรื่องคือถูกตัวเอกสองสามคนมองว่าเป็นคนชั่ว หลังจากโดนซ้อมจนน่วมก็ถูกบอสใหญ่ในเงามืดฆ่าตายไป
พระเอกคิดว่าคนบริสุทธิ์ผู้นี้กลับต้องมาถูกพวกเขาซ้อมจนตาย จึงตกอยู่ในความทุกข์ทรมานใจอย่างไร้ที่สิ้นสุด ส่งผลให้เกิดจุดไคลแม็กซ์เล็กๆ ในช่วงหนึ่งของหนัง
ขณะที่ถ่ายทำฉากนี้สุยยางนึกว่าตันหวายจะแอบเอาคืน ก็เลยเตรียมพร้อมถูกต่อยอีกรอบ แต่คาดไม่ถึงว่าฉากนี้กลับราบรื่นอย่างน่าแปลกใจ จนกระทั่งเริ่นตงหลิวตะโกนว่าผ่านแล้ว ตันหวายก็ไม่ได้ต่อยเขาจริงๆ
ลุกขึ้นมาจากพื้นด้วยอารมณ์สับสน ตันหวายไม่แม้แต่เหลียวมองเขาด้วยซ้ำ เพียงแค่วิ่งตึกตักไปอยู่ข้างกายเริ่นตงหลิว
สุยยางอ้าปากค้าง รู้สึกขมขื่นอยู่ในใจ คนคนนี้เดิมทีควรจะวิ่งแบบนั้นมาหาเขา
เริ่นตงหลิวเงยหน้าขึ้นมองราวกับพินิจพิเคราะห์ ก่อนจะส่งสายตาเป็นเชิงตักเตือนเขา แล้วก้มหน้าลงพูดคุยกับตันหวายอีกครั้ง
ฉากทั้งหมดของภาพยนตร์เรื่องนี้ล้วนอยู่ในห้องลับ คล้ายกับพล็อตเรื่องแนวหนีเอาชีวิตรอดจากห้องกักขัง เหล่าตัวเอกทุกวันต้องเผชิญกับการคุกคามจากความตายและความเจ็บปวดทางเนื้อหนัง อ้อนวอนขอชีวิตในระหว่างที่ดิ้นรนอย่างไม่มีจุดจบ
เจียงหลีที่ตันหวายรับบทเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยด้านศิลปะ เรียนสาขาวิชาจิตรกรรม ติดนิสัยแปลกๆ อยู่อย่างหนึ่งคือเห็นสิ่งใดก็วาดสิ่งนั้น เป็นเพราะนิสัยเช่นนี้เอง เขาได้วาดภาพเหตุการณ์ตอนตายของทุกคนที่เสียชีวิตในห้องลับ จึงทำให้ตัวเอกหาบอสใหญ่ที่ซ่อนอยู่ในเงามืดจนเจอ
ตันหวายทักษะการแสดงไม่ไหวเลย แต่ฝีมือการวาดภาพต้องยกคะแนนให้จริงๆ อีกทั้งได้คำชี้แนะจากเริ่นตงหลิวกับหม่าจี้ ฝีมือการแสดงในตอนนี้จึงพัฒนาขึ้นบ้างแล้ว อย่างน้อยก็ไม่บาดตาใครเหมือนเช่นก่อนหน้านี้
เริ่นตงหลิวไม่ได้พูดจาประนีประนอมกับเขา ตลอดหลายเดือนที่ถ่ายทำกันมาก็เอาแต่ด่าเขาไม่มีหยุดพัก หลายครั้งบรรดาทีมงานต่างทนดูต่อไปไม่ไหว สุดท้ายก็ถูกเริ่นตงหลิวจ้องเขม็งเรียกให้กลับมาเดี๋ยวนั้น