[นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ - ตอนที่ 126 ไม่ต้องแล้ว / ตอนที่ 127 ในสายตามีแต่นาย
- Home
- [นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ
- ตอนที่ 126 ไม่ต้องแล้ว / ตอนที่ 127 ในสายตามีแต่นาย
ตอนที่ 126 ไม่ต้องแล้ว
“นายหยุดนะ” หลูจื้อตะโกนจากด้านหลัง
ชุยหังกลับไม่หยุด เขาไม่อยากมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับผู้ชายที่พัวพันกันอุตลุดแบบนี้
สิ่งที่เขาพูดเมื่อครู่นี้มันก็ชัดเจนมากแล้ว เขามีความรับผิดชอบต่อครอบครัวของตัวเองและเขาจะต้องแต่งงานอย่างแน่นอน
ในเมื่อเป็นแบบนี้ก็ไม่ต้องมายั่วแหย่ตนอีกแล้ว
เมื่อเทียบกับชย่าอวี่ชิวที่สามารถให้คำมั่นสัญญากับตนว่าจะไม่แต่งงานและเทียบกับซ่งไข่ที่หย่าร้างไปแล้ว ไม่มีความกดดันในเรื่องของสถานะแล้ว ถ้าเขาคบกับหลูจื้อขึ้นมาจะต้องเหนื่อยมากอย่างแน่นอน ต้องใช้ดุลยพินิจกับเรื่องราวอีกมากมายเกินไป
เมื่อรู้ตั้งแต่แรกว่าไม่เหมาะสมกันก็ไม่จำเป็นต้องทำให้ตัวเองลำบาก ในขณะเดียวกันก็ทำลายคนอื่นด้วย
ดังนั้นเขาอยากจะเค้นคอฆ่าความสัมพันธ์นี้ให้ตายตั้งแต่ในช่วงที่พึ่งจะเริ่มงอก
แต่ว่าหลูจื้อกลับรีบตามมาจากทางด้านหลังแล้วคว้าเขาเอาไว้
แรงของหลูจื้อเยอะเกินไป แถมชุยหังก็ดื่มเหล้ามาจึงไม่สามารถดิ้นรนต่อสู้ได้ตั้งแต่แรกแล้ว
เขาถูกหลูจื้อจับให้หันกลับไปอย่างไม่มีทางเลือก
แต่ว่าหลูจื้อกลับมองเขา หายใจเข้าออกลึกๆ บวกกับหอบหายใจแรง แต่ก็ไม่ได้ทำอะไร
ชุยหังเอ่ยถาม: “มีอะไรครับ อยากจะเรียนรู้บทเล่นจูบแรงๆ ของพวกไอดอลหรอ”
ประโยคนี้ทำให้มือของหลูจื้อที่จับชุยหังไว้ด้วยความโกรธจัดค่อยๆ คลายมือลง
“ครูฝึก คุณควรกลับไปได้แล้ว กองทัพของพวกคุณคงจะควบคุมเข้มงวดมาก พึ่งจะได้เลื่อนตำแหน่ง ถ้ากลับไปช้า ทำให้หัวหน้าของคุณไม่พอใจขึ้นมาคงไม่ดีนะ” ชุยหังว่า
อันที่จริงเขานับว่าค่อนข้างโชคดี โชคดีที่เมื่อครู่นี้หลูจื้อไม่ได้จูบลงมาจริงๆ มิฉะนั้นคงจะไม่มีวิธีจัดการรับมือด้วยแน่
“ทำไมนายถึงได้โผงผางตรงไปตรงมาขนาดนี้” หลูจื้อกล่าว
ชุยหังพูดตอบ: “เดินเส้นทางนี้ก็ควรจะโผงผางตรงไปตรงมาแบบนี้แหละ ไม่อย่างนั้นจะถูกประนีประนอมเอาได้ง่ายๆ พอยอมประนีประนอมก็จะเหมือนกับตายทั้งเป็น”
อันที่จริงหลูจื้อไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมชุยหังถึงจริงจังกับปัญหานี้มากขนาดนี้
เขามองชุยหังและพูดว่า: “ไม่งั้นนายให้เวลาฉันอีกหน่อยนะ ฉันขอคิดอีกหน่อย”
ชุยหังส่ายหน้าไปมาและพูดว่า: “ไม่ต้องแล้ว ครูฝึก คุณอย่างทรมานตัวเองเลยนะ กลับไปนอนหลับสักตื่น ถือเสียว่าเรื่องก่อนหน้านี้มันคือความฝัน คุณไม่เคยมาที่มหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคและไม่เคยเจอผมมาก่อน”
พูดจบเขาก็หันหลังเดินกลับออกไปอีกครั้ง
ครั้งนี้หลูจื้อไม่ได้ร้องเรียกเขาจากด้านหลังและไม่ได้พุ่งเข้ามาดึงรั้งเขาไว้อีกแล้ว
ชุยหังเดินอยู่คนเดียวบนถนน มองไปยังต้นไม้สองข้างทางพลางพูดกับตัวเองว่า อย่าร้อง ห้ามร้องไห้ ร้องไม่ได้เด็ดขาด
แต่ว่าน้ำตาก็รินไหลออกมาอย่างกลั้นเอาไว้ไม่ไหว
เขาไม่กล้าตรงกลับไปที่หอพักเลย เพราะอาจจะถูกทุกคนเห็นเข้าว่าพึ่งจะร้องไห้มา
เขาเดินตรงไปที่สนามกีฬา จากนั้นนั่งลงตรงมุมบันไดเวทีทางฝั่งขวามองดูคู่รักที่อยู่ด้านล่าง แต่ละคู่ๆ เดินเล่นควงแขนกันไปมาช้าๆ
บางคนก็ทีหยุดอยู่ที่มุมๆ หนึ่งก่อนจะจูบกันเบาๆ จากนั้นผู้ชายก็จะยีผมผู้หญิงให้ยุ่งขึ้นอีกนิด หรือบางคนก็จะให้ผู้หญิงขี่หลังแล้วเดินกลับไป
“อยู่ตรงนี้คนเดียวสนุกไหม” มีใครบางคนพูดอยู่ข้างๆ ของชุยหัง
ชุยหังเอียงศีรษะไปมองก็เห็นชย่าอวี่ชิวที่สวมชุดวิ่งยืนอยู่ตรงนั้น
“นายก็มาวิ่ง?” ชุยหังเอ่ยถาม
“ทำไมฉันจะวิ่งไม่ได้? ลดน้ำหนักไงอ้วนถึงขนาดนี้แล้ว” ชย่าอวี่ชิวว่า
“ไม่เป็นไร อ้วนนิดหน่อยก็ดีออก จิตใจสบายร่างกายก็อ้วนท้วม คนที่อ้วนไม่ขึ้นสักทีสิที่หมายความว่าจิตใจกำลังหน่วงลง คิดมากไปจะมีประโยชน์อะไร” ชุยหังพึมพำ
ชย่าอวี่ชิวรู้สึกมึนงงเล็กน้อย นี่เขาพูดเรื่องอะไร พูดมาเสียเป็นกองโตเลย
“นายดื่มเหล้าหรอ” เขาถาม
ชุยหังพูดขึ้น: “อืม งานเลี้ยงคนบ้านเดียวกันน่ะ”
“ไปเถอะ อย่ามัวตากลมอยู่ตรงนี้เลย หยุดอยู่ตรงนี้ฉันจะไปส่งนายกลับเอง”
พูดจบเขาก็เดินเข้ามาหาจากนั้นก็เอาตัวของชุยหังแบกไว้บนหลังของตัวเอง
ตอนที่ 127 ในสายตามีแต่นาย
สายลมโบกพัดมาช้าๆ เมฆสีเขียวเคลื่อนไหวไปมา
เขาก้มซบอยู่บนหลังของชย่าอวี่ชิว กลิ่นเหงื่อจางๆ โชยมา ชุยหังอยากจะนอนหลับไปเลย เรื่องของโลกภายนอกถ้าไม่รู้ก็คงจะดี
แต่ว่าแค่หลับตาลงใบหน้าของหลูจื้อก็จะปรากฏขึ้นมาในความทรงจำ
เขาไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรไป ทั้งๆ ที่พูดไปแล้วแท้ๆ ว่าจะปล่อยมือ และยังปล่อยมือจริงๆ แล้วด้วย แต่ทำไมในใจถึงยังทิ้งภาพของเขาเอาไว้ชัดเจนขนาดนี้
“ทำไมนายหนักจัง” ชย่าอวี่ชิวถาม
ชุยหังพูดขึ้น: “ฉันแค่หกสิบกิโลเองนะ ยังหนักอีกหรอ”
“นายขยับขึ้นข้างบนหน่อย กางเกงฉันจะถูกนายเบียดจนหลุดแล้วเนี่ย” ชย่าอวี่ชิวว่า
ชุยหังรู้สึกอายนิดหน่อยและพูดว่า: “งั้นนายวางฉันลงเถอะ ฉันเดินไปเองได้”
ชย่าอวี่ชิวพูดขึ้น: “เดินอะไรล่ะ ฉันดูสภาพนายอย่างกับขาไม่มีกระดูกจนจะกลายเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวแล้ว”
“งั้นฉันจะเดินไปถึงสนามกีฬาได้ยังไงล่ะ” ชุยหังถาม
ชย่าอวี่ชิวพูดขึ้น: “ผีคงรู้ว่านายไปยังไง บางทีอาจจะคลานไปแหละมั้ง”
“นายพูดอะไรที่มันน่าฟังหน่อยได้ไหม…ระวังฉันจะอ้วกราดตัวนายนะ”
“โอเค โอเค นายก็ให้ฉันเอาเปรียบนายสักหน่อยไม่ได้หรอ” ชย่าอวี่ชิวถาม
ชุยหังไม่ได้พูดอะไรอีก ปล่อยให้ชย่าอวี่ชิวขยับๆ ตัวเขาให้ขึ้นมาด้านบนอีกนิด จากนั้นก็ปล่อยมือวางลงไปอย่างเป็นธรรมชาติ
“คราวนี้นายลงมาได้แล้ว ต้องขึ้นตึกแล้ว” ชย่าอวี่ชิวกล่าว
คิดไม่ถึงว่าจะมาถึงตึกหกเก่าแก่รวดเร็วขนาดนี้
ชุยหังรู้สึกอายๆ จึงอยากจะลง
ปรากฏว่าชย่าอวี่ชิวร้องอุทานขึ้นมาว่า: “อะไรอ่ะ เปียกๆ แฉะๆ …”
ชุยหังรู้สึกอายมากกว่าเดิม มันคือน้ำลายของตัวเองที่หยดลงบนคอของชย่าอวี่ชิวแล้ว
เขาเช็ดปากไปมาเบา ๆ และพูดว่า: “คือว่าเกือบจะหลับไปเลยคิดว่านายเป็นหมูหันย่าง…”
ชย่าอวี่ชิวพูดไม่ออกบอกไม่ถูก: “เอาล่ะๆ พรุ่งนี้ช่วยฉันซักผ้าด้วยนะ วันนี้นายดื่มมากไปแล้ว ฉันจะไม่รังแกนายแล้ว”
“อืม ฉันขึ้นไปเองได้ นายไม่ต้องไปส่ง นายกลับไปเถอะวันนี้ขอบคุณนายมากนะ” ชุยหังกล่าว
ชย่าอวี่ชิวพูดขึ้นว่า: “นายขึ้นไปเองได้แน่นะ? ไม่ก็โทรหาคนในห้องพักพวกนายสักคนให้ลงมารับนายเถอะ”
“อืม นายไม่ต้องสนใจแล้วล่ะ นายกลับไปก่อนเถอะแล้วไปอาบน้ำดีๆ …” ชุยหังว่า
ชย่าอวี่ชิวหัวเราะและพูดว่า: “คงต้องอาบน้ำจริงๆ นั่นแหละ น้ำลายของนายมีฤทธิ์กัดกร่อนสูงเกินไป”
พูดจบเขาก็เดินหัวเราะจากไป
ชุยหังกำลังนั่งอยู่ตรงขั้นบันไดทางเข้าหอพัก ในตอนนั้นก็อยู่ตรงนี้ เขายืนอยู่บนขั้นบันได ส่วนหลูจื้อยืนอยู่ด้านล่างขั้นบันได เขาไม่รู้ว่าหลูจื้อยืนอยู่ด้านหลังของตัวเองก็เลยรีบหันกลับไป จนจูบเข้าที่ริมฝีปากของหลูจื้อเข้าพอดี
เขาส่ายหัวไปมา ไม่ได้ อย่าไปคิดถึงหลูจื้ออีก
เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วกดโทรไปหาถังเฉิง
“เหล่าซื่อ นายนอนหรือยัง”
“ยังเลย เหลาอู่ นายอยู่ไหนอีกแล้วเนี่ย เหลียงจื้อที่อยู่ห้องตรงข้ามกลับมาตั้งนานแล้ว นายคงจะไม่ได้บังเอิญเจอผีผู้หญิงมาปล้นนายไปแล้วหรอกนะ” ถังเฉิงถามออกไปตรงๆ
ตอนนี้ชุยหังไม่มีแรงจะมาต่อปากต่อคำกับเขาแล้ว เขาพูดขึ้นว่า: “เหล่าซื่อ ฉันกลับมาแล้ว นายลงมาหน่อยสิ ดูเหมือนว่าฉันจะขึ้นไปไม่ไหวแล้ว”
เมื่อถังเฉิงได้ยินน้ำเสียงของเขาก็ดูเหมือนจะไม่ไหวจริงๆ จึงรีบถามไปว่า: “โอเค นายอยู่ที่ไหน”
“ฉันอยู่ชั้นล่างของหอพัก” ชุยหังกล่าว
“นายอยู่ตรงนั้นอย่าขยับไปไหน ฉันจะลงไปเดี๋ยวนี้” ถังเฉิงพูดจบก็วางสายโทรศัพท์ไปทันที
ชุยหังวางโทรศัพท์ลง จากนั้นก็มองไปทางอาคารสาม ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล
ด้านหน้าตึกดูเหมือนจะมีเงาของใครคนหนึ่ง สั่นไหวไปมาอยู่ตรงนั้น
ในใจของชุยหังตื่นตัวขึ้นมา คงจะไม่ใช่หลูจื้อหรอกใช่ไหม?
หลายครั้งก่อนหน้านี้เวลาตนออกไปไหนมาไหนกับชย่าอวี่ชิวก็จะถูกเขาเห็นเข้าตลอด
แต่ว่าเมื่อเขาเพ่งมองตรงนั้นอย่างละเอียดอีกครั้งกลับพบว่าที่ตรงนั้นไม่มีใครอยู่เลยแม้แต่คนเดียว