[นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ - ตอนที่ 156 ความโรแมนติกที่น่าสะอิดสะเอียน / ตอนที่ 157 ผู้น้อย
- Home
- [นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ
- ตอนที่ 156 ความโรแมนติกที่น่าสะอิดสะเอียน / ตอนที่ 157 ผู้น้อย
ตอนที่ 156 ความโรแมนติกที่น่าสะอิดสะเอียน
[เรื่องนั้นไม่ใช่อย่างที่นายคิดแบบนั้นเลย นายคิดดูนะ ถ้าฉันรู้ว่าเขาจะพูดแบบนั้น ฉันจะให้เขารับสายทำไม ต่อมาฉันกับเขาก็ทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้] การตอบกลับของหลิวเฮ่อทำให้ชุยหังยิ่งดูแคลนเขาไปอีก
‘เพราะว่าเรื่องนั้น พวกเขาเลยมีปากเสียงกัน เกี่ยวกับเขาแม้แต่ปลายเล็บด้วยหรือไง’
‘หรือว่าเพราะว่าสายโทรศัพท์นั้นทำให้ตัวเองรู้แล้วว่าหลิวเฮ่อทางนั้นก็มีอีกคนอยู่แล้ว?’
‘เพียงแต่ว่าเขาอยากเหยียบเรือสองแคม ไม่อยากเปิดเผย อยากจะซุ่มดูก่อนงั้นเหรอ’
‘คนหนึ่งวางแผนระยะยาว? อีกคนใช้มาแก้ปัญหาแรงกระตุ้นทางร่างกาย?’
เดิมทีชุยหังไม่อยากจะให้ความสนใจเขา แต่ว่าคิดไม่ถึงว่าหลิวเฮ่อจะส่งข้อความมาอีกว่า
[นายบล็อกวีแชทฉันอีกวีแชทนึง ฉันหมดหนทางจะแอดนาย ฉันก็เลยสมัครวีแชทอีกวีแชทหนึ่งมา นายให้ฉันแชทเสร็จก่อนได้ไหม]
ชุยหังชะงักมือตัวเองที่เพิ่งจะเลือกลบหลิวเฮ่อลง
[ระหว่างพวกเรา ที่จริงไม่มีอะไรที่น่าจะต้องพูดกันแล้ว ฉันไม่อยากจะเสียเวลาอะไรกับนายแล้ว ในเมื่อนายคบกับคนอื่นไปแล้ว ก็อย่ามาสร้างเรื่องวุ่นวายให้ฉันอีกเลย] ชุยหังพิมพ์ตอบกลับไป
หลิวเฮ่อรีบตอบกลับมาในทันใด [เลิกกันแล้ว พวกเราเป็นเพื่อนกันได้ไหม]
[ไม่ได้] ชุยหังตอบกลับอย่างเด็ดขาด
หลังจากนั้นเขาก็ลบเบอร์นี้ของหลิวเฮ่อไปทันที
หลังจากลบแล้ว เขาถึงเพิ่งนึกขึ้นมาได้ เมื่อครู่นี้ตัวเองควรจะบล็อกไปด้วย
แต่ว่าก็ช่างเถอะ ถึงอย่างไรก็แสดงท่าทีอย่างชัดเจนแล้ว ต่อให้เขามาก่อกวนตัวเองอีก ตัวเองก็แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นก็โอเคแล้ว
‘เขาคิดได้ยังไง คิดไม่ถึงว่าจะยังมีหน้ามาติดต่อตัวเองได้’
‘ตัวเองเป็นคนประเภทที่นึกจะเรียกให้มาก็มา นึกจะเรียกให้ไปก็ไปหรือไง’
เขาเพิ่งจะลบหลิวเฮ่อไป ทางนั้นก็เริ่มจะแอดเขาไม่หยุด
[ฉันเลิกกับเขาแล้ว นายอย่าโกรธเลยนะ]
[ตอนนั้นฉันอดใจไม่ได้ชั่ววูบ นายได้โปรดอภัยเถอะนะ ต่อไปฉันจะชดเชยให้นายแน่]
[เอ่อใช่ นายมีเงินใช้พอหรือเปล่า ฉันให้นายเอาไหม]
ข้อความยืนยันมาต่อกันเรื่อยๆ มันหนักหัวชุยหังแล้ว
ชุยหังทนไม่ไหว ติดต่อเขาอีกครั้ง หลังจากนั้นก็ส่งข้อความเข้าไป
[ฉันไม่อยากจะเกี่ยวข้องอะไรกับนายแล้ว ฉันเองก็ไม่ใช่ขอทาน เมื่อก่อนก็ไม่เคยได้ใช้เงินของนาย ต่อไปก็ไม่มีทาง นายไม่ต้องมาใช้วิธีที่น่าสะอิดสะเอียนแบบนี้มาพูดอะไรกับฉันแล้ว]
ชุยหังเป็นคนที่หักดิบง่ายมาก เขาไม่อยากจะเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าที่เลิกกันแล้วอีก
ถ้าเวลาผ่านไปนาน คนสองคนไม่ชอบอีกฝ่ายแล้ว เพราะเกิดปัญหาในความรักความสัมพันธ์จริงๆ แบบนั้นได้
แต่ว่านี่เป็นเรื่องของหลักการ เป็นหลิวเฮ่อที่หักหลังเขา ตัวเองไม่มีความยับยั้งชั่งใจ
ชุยหังไม่ไปคิดอยากจะตำหนิเด็กผู้ชายคนนั้น เพราะว่านี่เป็นปัญหาของหลิวเฮ่อ
ขอเพียงแต่หลิวเฮ่อเองต้องการจะหักหลัง ต่อให้ไม่ใช่เด็กผู้ชายคนนั้น ก็ต้องเป็นคนอื่นอยู่ดี
ผู้ชายที่เปลี่ยนใจไปแล้วคนหนึ่ง ถ้าปัดความรับผิดชอบให้บุคคลที่สามด้วยความเคยตัวตลอดก็ยิ่งจะไร้ยางอายเกินไปแล้ว
[จะไม่เกี่ยวได้ยังไง นายกลับมาเถอะ หรือว่าฉันเข้าไปหางาน แบบนี้นายจะได้เห็นฉันได้แล้ว] หลิวเฮ่อตอบกลับมา
ชุยหังยิ้มหัวเราะ เวลานี้ยังจะมาใช้อะไรที่เรียกว่าความโรแมนติกแบบนี้มามอมเมาตัวเอง
[ไม่ต้องหรอก ตอนนี้นายจะไปไหนก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันทั้งนั้น วันหลังฉันจะไปไหนก็ไม่ต้องให้นายมาเป็นห่วงหรอก พวกเราต่างคนต่างอยู่]
คิดไม่ถึงว่าหลิวเฮ่อยังมีคำพูดที่ทำลายทัศนคติต่อโลก ชีวิต และคุณค่าสามสิ่งนี้ของชุยหังด้วย เขาส่งเข้ามาทันที
[เรื่องนี้จะโทษฉันทั้งหมดก็ไม่ได้หรอกมั้ง ถ้าไม่ใช่ว่าตอนแรกนายแกล้งทำเป็นไร้เดียงสา ไม่ให้ฉันแตะเนื้อต้องตัวอยู่ตลอด ฉันอึดอัดถึงขั้นกลายเป็นแบบนี้ไหม]
ตอนที่ 157 ผู้น้อย
ชุยหังเห็นข้อความนี้ เขาแทบจะเด้งตัวขึ้นมาจากเตียงแล้ว
‘นี่มันอะไรกัน เขานอกใจ คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเพราะตัวเองไม่ให้เขาแตะเนื้อต้องตัวงั้นเหรอ…
…แล้วตัวเองยังตกเป็นจำเลยโทษฐานที่แกล้งทำเป็นไร้เดียงสางั้นเหรอ…
…เขาเห็นตัวเองเป็นอะไรไปแล้ว เป็นเครื่องมือระบายความใคร่ให้เขางั้นเหรอ…
…คนอย่างเขาคนแบบนี้ หรือว่าตัวเองทำให้เขาได้ตัวแล้ว เขาก็จะไม่นอกใจแล้วงั้นเหรอ’
ผู้ชายกากเดนก็คือผู้ชายกากเดน มีความเฉพาะตัวของเขาโดยแท้
ในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง ชุยหังรู้สึกว่าหลิวเฮ่อเป็นแบบนี้ ตัวเองจริงใจด้วยไม่ไหวหรอก
[ส่งเหอะๆ ให้นายอีก นายไปทำความเข้าใจเองแล้วกัน] ชุยหังตอบกลับ
[หรือว่าไม่ใช่เหรอ คนสองคนคบกัน หรือว่าเรื่องทางนั้นไม่สำคัญ? ฉันเป็นผู้ใหญ่ เป็นคนธรรมดา มีความต้องการก็เป็นเรื่องปกตินี่] หลิวเฮ่อยังคงเถียงข้างๆ คูๆ
ชุยหังโกรธจนมือไม้อยู่ไม่เป็นสุขแล้ว หนังศีรษะก็ชาไปด้วย
[อืม ตอนนี้ฉันเพิ่งรู้ว่านายก็เป็นแค่อวัยวะสืบพันธุ์เดินได้ อะไรก็ไม่ต้องพูดแล้ว ในสายตาคนอย่างพวกนาย ในเมื่อฉันเป็นคนผิด งั้นก็ปลอบใจตัวเองแบบนี้ ฉันไม่มีเวลาว่างมาคุยไร้สาระกับนายขนาดนั้น]
[แน่จริงนายก็อย่าบล็อกฉันสิ ฉันจะต้องจีบนายกลับมาให้ได้ นายเชื่อไหม] ไม่รู้ว่าหลิวเฮ่อไปเอาความมั่นใจมาจากไหน
แต่ว่าเขาเตือนชุยหังแล้วจริงๆ บล็อกเด็ดขาด
‘คนแบบนี้ ตัวเองจะเก็บเขาไว้ทำอะไร’
นึกถึงคำพูดเหล่านั้นเมื่อครู่นี้ของหลิวเฮ่อ จู่ๆ ชุยหังก็รู้สึกว่าสิ่งที่เขาทุ่มเทไปก่อนหน้านี้ช่างไร้ค่า
‘ตัวเองรักนวลสงวนตัว เพื่อแลกความคิดแบบนี้กลับมาเหรอ…
…อีกอย่างเขายังมีเหตุผลมากอีก…
…หรือว่าตัวเองผิดไปแล้วจริงๆ …
…นี่เป็นปัญหาของตัวเอง หรือเป็นปัญหาของคนอื่น…
…ถ้าเป็นปัญหาของตัวเองจริงๆ แล้วหลูจื้อจะมีความคิดเหมือนหลิวเฮ่อหรือเปล่า อึดอัดจนรู้สึกแย่’
เดิมทีที่วันนี้ซ่งไข่โทรมาคุยกับเขาเสร็จ หลังจากที่เขารู้สถานการณ์ของหลูจื้อทางนั้นแล้ว เขาก็กลุ้มใจมากแล้ว
ตอนนี้ยังมีเรื่องอะไรแบบนี้เพิ่มมาอีก
เขาหมดหนทางจะนอนได้แล้ว นอนไม่หลับโดยสิ้นเชิง
เขาพลิกตัวลงจากเตียง แล้วคว้ากะละมัง ไปห้องน้ำล้างตัว
ไม่กี่วันก่อนหน้านี้เขาไม่กล้าพูดกับหลูจื้อว่าตัวเองลบไปแล้ว
คิดดูแล้ว เขาส่งวีแชทหาหลูจื้อ [รูปถ่ายพวกนั้นก่อนหน้านี้ ตอนที่ฉันล้างประวัติในวีแชท เผลอลบไปไม่ทันระวัง ส่งมาให้ฉันอีกหน่อยสิ]
แน่นอนเขาไม่มีทางจะยอมรับว่าตัวเองเป็นฝ่ายที่อยากจะลบเอง แบบนั้นคาดว่าตัวเองจะตายอย่างหน้าอนาถมากจริงๆ
หลูจื้อไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ อยู่นานสองนาน ชุยหังไม่รู้ว่าเขากำลังยุ่งกับงานหรือว่ายุ่งกับการดูตัวอยู่
ถ้าไม่มีคำพูดเหล่านั้นที่ซ่งไข่พูดกับเขา เขาก็จะไม่นึกถึงเรื่องหาคู่ดูตัวเรื่องนี้เด็ดขาด
แต่ว่าครอบครัวแบบนั้น หลูจื้อเองก็คงจะทำอะไรมากไม่ได้เหมือนกัน
ตอนที่หลูจื้อตัดสินใจจะคบกับตัวเอง การตัดสินใจของหลูจื้อที่จริงแล้วยิ่งใหญ่กว่าตัวเองเสียอีก
เว้นเสียแต่ว่าเขาแค่เพียงอยากจะเล่นๆ กันเท่านั้น
แต่ว่าชุยหังเองก็ยังไม่เคยเห็นคนที่โยกย้ายงานแลกกับเส้นทางที่เลื่อนขั้นอย่างยากลำบากกว่าเดิมได้เล่นอย่างนี้มาก่อน
พุ่งชนด้วยจุดนี้ เขาจึงยอมเชื่อหลูจื้อ ยอมรอเขาเอ่ยปากกับตัวเอง
เวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ในที่สุดก็ได้ข่าวคราวของหลูจื้อสักที
[ไม่มีอะไรทำมาล้างประวัติวีแชทอะไร]
ชุยหางรีบอธิบาย [มือถือเครื่องเดินช้าแล้ว เลยล้างขยะสักหน่อย]
[ก็เลยลบรูปฉันลงถังขยะไปด้วยเลย?] คำถามของหลูจื้อทำให้ชุยหังระแวงขึ้นมาในทันใด
‘เจ้าหมอนี่ เรื่องเยอะจริงๆ ให้นายส่งก็ส่งมาสิ จะมาพล่ามอะไรมากมายขนาดนั้น’
แต่ว่าเขาก็ทำได้แค่บ่นอุบอิบอยู่ในใจ ไม่กล้าส่งออกไปตรงๆ
[ไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย…นายส่งให้ฉันอีกได้ไหม]