[นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ - ตอนที่ 260 ร้องไห้แล้ว / ตอนที่ 261 ข้อพับแขน
- Home
- [นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ
- ตอนที่ 260 ร้องไห้แล้ว / ตอนที่ 261 ข้อพับแขน
ตอนที่ 260 ร้องไห้แล้ว
ชุยหังถูกการกอดแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยของหลูจื้อทำเอาไม่กล้าพูดอะไรแล้ว
หัวฝักบัวหล่นตกลงไปบนพื้นก่อนจะพ่นน้ำกระจายไปทั่วทุกทิศทาง แต่พวกเขาก็ยังคงกอดกันอยู่แบบนั้น ชุยหังรู้สึกได้ถึงหัวใจดวงนั้นที่อยู่ในทรวงอกอันแข็งแรงของหลูจื้อกำลังเต้นตึกตักๆ และตระหนักได้ว่าตนผิดไปแล้วจริงๆ
ถึงแม้ว่าเขาจะทำเพื่อให้หลูจื้อสามารถกลับไปใช้ชีวิตแบบปกติได้ แต่เขากลับไม่เคยถามความคิดเห็นของหลูจื้อเลยสักคำ
ในระดับหนึ่งเขาเพียงแค่ยืนอยู่ในมุมมองของตัวเอง รู้สึกว่าตัวเองเสียสละมาก รู้สึกว่าการตัดสินใจในครั้งนี้มันยากลำบากมากจริงๆ ไม่อยากให้หลูจื้อต้องมาร้าวฉานกับคนในครอบครัวเพราะตนเอง ยิ่งไปกว่านั้นคือไม่อยากให้เขาต้องใช้ชีวิตอยู่กับความรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต
แต่ว่าตนไม่ได้นึกถึงเลยว่าตัวของหลูจื้อเองจะคิดยังไง
เผื่อว่าความสามารถของเขาสามารถจัดการเรื่องนี้ไปได้ด้วยดีล่ะ?
ในความเป็นจริงส่วนใหญ่แล้วที่เขาเป็นแบบนี้ก็เพราะหลูจื้อมีเวลาให้เขาน้อยลงไปเรื่อยๆ แล้ว จนทำให้เขาเป็นทุกข์เป็นร้อนในเรื่องผลได้ผลเสียของตนเอง
แทนที่จะถูกทิ้งเขาจึงเลือกที่จะปล่อยไปเอง
ดูจากภายนอกแล้วเหมือนจะเข้มแข็งมาก ยิ่งใหญ่มาก แต่หลูจื้อจะต้องโกรธมากแน่นอน
แต่ชุยหังไม่ได้เห็นแก่ตัวจริงๆ ไม่ใช่เพราะรู้สึกว่าตนรักหลูจื้อไม่มากพอและไม่ได้รู้สึกว่าหลูจื้อรักตนไม่มากพอ เพียงแค่ในความเป็นจริงมันโหดร้ายมาก
ในสภาพแวดล้อมสังคมนี้มันก็เป็นแบบนี้ สำหรับคนอย่างพวกเขาระดับการรับรู้มันต่ำเกินไป
ในความเป็นจริงตลอดชีวิตของมนุษย์ที่จริงก็ต้องเลือกนั่นเลือกนี่อยู่ตลอดเวลา แต่การเลือกอะไรแบบนี้มันยากมากจริงๆ
เขาไม่ต้องการให้หลูจื้อต้องตกมาอยู่ในทางเลือกที่แสนเจ็บปวดทรมานแบบนี้ เพราะเวลาเป็นสิ่งที่มิอาจฉุดรั้งได้ เขาฉุดรั้งไม่ได้
ปัญหาใหญ่ที่สุดระหว่างพวกเขาสองคนก็คือครอบครัวของหลูจื้อ
ชุยหังพูดขึ้น: “ฉันก็ไม่อยากหนี นี่นายก็หาฉันเจอแล้วไม่ใช่หรอ…”
“นายยังกล้าพูด? ฉันยอมรับว่าช่วงนี้ฉันละเลยนายมากเกินไปหน่อย แต่มันก็เพื่อจะให้คำอธิบายกับครอบครัวฉันนะ แล้วฉันไม่อึดอัดหรอ?” หลูจื้อพูด
ชุยหังก็จนปัญญามาก พวกเขาแต่ละคนต่างก็เจ็บปวดกันทั้งนั้น ทั้งหมดก็เป็นเพราะผู้หญิงที่ไม่ควรปรากฏตัวคนนั้น
แล้วยิ่งไปกว่านั้นหลูจื้อก็บอกไปแล้วว่าไม่ชอบหล่อน หล่อนก็ยังยืนยันที่จะคบกับหลูจื้ออีก
ชุยหังไม่สามารถตอบคำถามของหลูจื้อได้ เมื่อนึกถึงหลายวันที่ผ่านมาสิ่งที่เขาต้องทนแบกรับ แถมยังมีความเจ็บปวดจากความรักความคิดถึงจนอดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตาให้ไหลลงมาอีกครั้ง
“ห้ามร้องไห้ กลั้นเอาไว้” หลูจื้อว่า
ถึงแม้ว่าเขาจะพูดแบบนี้ แต่เมื่อชุยหังมองเขาก็พบว่าที่มุมดวงตาของเขาก็เปียกชื้นเช่นกัน
คนที่ควรจะร้องไห้ จริงๆ ก็ไม่ควรจะเป็นพวกเขาคนเดียวคนใดคนหนึ่ง ถนนสายนี้มันยากเกินไปจริงๆ
นับตั้งแต่หลูจื้อตัดสินใจจะกลับมาหาชุยหังมันก็กำหนดแล้วว่าพวกเขาจะต้องผ่านความยากลำบากอีกมากมาย
แต่ว่านี่มันพึ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น ชุยหังก็ถอยหนีเสียแล้ว
แบบนี้มันดูเหมือนว่าหลูจื้อทำให้คนอื่นปวดใจเกินไปแล้ว ดูเหมือนว่าสิ่งที่เขาทำมาทั้งหมดก่อนหน้านี้มันสูญเปล่ายังไงอย่างนั้น
ส่วนชุยหังที่นอกจากรู้สึกผิดในใจ เหนื่อยใจ เจ็บปวดใจ ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ทำอะไรเพื่อหลูจื้อเลยจริงๆ
เขารู้สึกละอายใจเล็กน้อยที่ตนบีบบังคับจนหลูจื้อกลายเป็นแบบนี้ ชายหนุ่มผู้งามสง่า นายทหารใหญ่คนหนึ่ง หลังจากยอมทอดทิ้งอะไรหลายต่อหลายอย่างขนาดนั้นแล้วยังต้องวิ่งมาเสียไกลเพื่อไล่ตามเมียของตัวเองกลับ แถมยังจะไม่กล้าลงไม้ลงมือทำได้แค่น้ำตาคลอกับตัวเองเท่านั้น
ชุยหังรู้สึกปวดใจมันรู้สึกราวกับว่ามีใครบางคนคว้าหัวใจของเขาเอาไว้แน่ แล้วดึงมันออกมา
“อาบเสร็จแล้วก็ออกไปเถอะฉันต้องนอนพักสักหน่อยจริงๆ นั่นแหละ” หลูจื้อว่า
ในที่สุดเขาก็ยอมรับแล้วว่าเขาเหนื่อย
ชุยหังพูดขึ้น: “โอเค ฉันจะอยู่กับนาย”
“ไม่อยู่กับฉัน นายยังคิดจะทำอะไร? ถ้านายกล้าถือโอกาสตอนที่ฉันนอนหลับหนีไปก็ถือว่ารนหาที่ตายเองแล้ว” หลูจื้อว่า
ตอนที่ 261 ข้อพับแขน
ชุยหังรีบหันใบหน้าพร้อมรอยยิ้มที่ดูเหมือนเด็กขี้ประจบสอพลอคนหนึ่งพลางพูดว่า: “ไม่หรอก ฉันไม่กล้า”
“นายกล้าได้แน่ เพราะฉันก็รู้สึกว่าช่วงนี้นายกล้ามากเลย” หลูจื้อว่า
“ต่อไปไม่กล้าแล้ว ถ้านายไม่พูดฉันไม่มีทางไปเด็ดขาด” ชุยหังว่า
ถือโอกาสตอนนี้ที่หลูจื้อกำลังเหนื่อย ตนต้องรีบทำตัวเชื่อฟังนี่เป็นวิธีการที่ดีที่สุดแล้ว
ส่วนหลังจากที่เขาตื่นขึ้นมาแล้วจะมีการลงโทษอย่างอื่นอีกหรือเปล่า อันนั้นค่อยว่ากันทีหลัง
เขาสามารถยืนมาตลอดทั้งคืนจากเมืองเอ้อเพื่อมารับคนที่บล็อกตัวเองทุกทางแบบนี้กลับไป มันก็อธิบายปัญหาได้มากมายแล้ว
ตั้งแต่ออกมาจากห้องน้ำชุยหังยังคงหลบหน้าหลบตาอย่างเดิมพูดว่า: “ฮ่าๆ นอนเถอะ ฉันจัดที่นอนให้นายเอง”
“ทำไม มีแรงแล้ว?” หลูจื้อถาม
ชุยหังรีบพูดอย่างรวดเร็วว่า: “ไม่ใช่ นี่เป็นแรงเฮือกสุดท้ายแล้ว…”
“นอนด้วยกันเถอะ” หลูจื้อกล่าว
“หือ?” ชุยหังผงะ
“นอนกอดนายถึงจะวางใจได้ กันไว้เผื่อนายหนีไปอีก ถ้านายหนีไปอีกฉันก็ไม่รู้ว่าจะไปตามหานายที่ไหนแล้ว” หลูจื้อพูด
ชุยหังรู้สึกละอายใจเล็กน้อย การเดินจากมาของตัวเองทำให้หลูจื้อเป็นห่วงกังวลจนกลายเป็นแบบนี้เลยหรอ
เขารีบนอนลงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะแนบชิดตัวหลูจื้อเอาไว้แน่น
หลูจื้อกอดชุยหังไว้อย่างเป็นธรรมชาติ ชุยหังรู้สึกได้ว่าอุณหภูมิในร่างกายของหลูจื้อก็ส่งผ่านมาสู่ตัวของเขาอย่างเป็นธรรมชาติเหมือนกัน
ความมั่นคงและความสบายใจที่คนอื่นไม่สามารถให้เขาได้
“นอนเถอะ ฉันรู้ว่าช่วงนี้นายก็นอนไม่ค่อยหลับ” หลูจื้อว่า
แม้ว่าชุยหังจะหันหลังให้หลูจื้อแต่เขาก็รู้ว่าสีหน้าของหลูจื้อในตอนนี้คงจะเป็นห่วงมากเหมือนกัน
เขาพูดขึ้น: “ฉันสัญญาว่าจะไม่ไปไหน นายนอนเถอะ”
“ข้อพับแขนให้นาย” หลูจื้อว่า
หลังจากพูดจบเขาก็ยื่นแขนออกมา
ตอนแรกชุยหังไม่อยากหนุนเพราะกลัวว่าจะทำให้แขนของเขาชา
แต่หลูจื้อพูดขึ้นว่า: “เร็วๆ อย่าอืดอาดยืดยาด”
เดิมทีชุยหังซาบซึ้งมาก ก่อนจะนอนลงไป แต่สุดท้ายกลับได้ยินหลูจื้อพูดขึ้นมาว่า: “ยังไงการตอบสนองของพวกทหารอย่างเราก็เร็วมาก มันมีปฏิกิริยาการตอบสนองของกล้ามเนื้อ ถ้าหากนายกล้าขยับเขยื้อนฉันก็จะจัดการล็อคคอนายซะ”
เส้นขีดสีดำปรากฏขึ้นมาบนในหน้าของชุยหัง เอาเถอะ ครั้งนี้เป็นตัวเองที่ทำผิดไปย่อมไม่กล้าพูดอะไรอยู่แล้ว
เขานอนอยู่บนข้อพับแขนของหลูจื้อ จากนั้นใช้มือซ้ายจับมือขวาของหลูจื้อที่ยื่นออกมานั้นเอาไว้อย่างเป็นธรรมชาติ
หลังจากนั้นไม่นานหลูจื้อก็เริ่มส่งเสียงกรนออกมาเบาๆ
ชุยหังถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ยังคงนอนอยู่ตรงนั้น คิดไปเรื่อยเปื่อย
ถ้าหลูจื้อไม่มาตามหาตน ตนจะมีสภาพกลายเป็นแบบไหนกันนะ?
เรื่องนี้เขาไม่สามารถคิดได้และไม่กล้าคิดเรื่องนี้ด้วย
ตนจากมาโดยที่ไม่บอกไม่กล่าว ตนออกห่างจากเหล่าเพื่อนร่วมชั้นพวกนั้น ไม่ต้องไปรับฟังข่าวลือซุบซิบพวกนั้นอีกต่อไปแล้ว แต่สำหรับหลูจื้อแล้วดูเหมือนมันจะไม่ยุติธรรมเลยสักนิด
ในส่วนหนึ่งเขาก็ฟังคำพูดของตนถึงได้ตบปากรับคำคนที่บ้าน แล้วยอมแสดงละครกับผู้หญิงคนนั้นมาตลอด
ส่วนตนกลับคิดไปสุ่มสี่สุ่มห้ามาตลอด คิดเรื่องไร้ประโยชน์พวกนั้นแล้วยังยอมแพ้ไปเองด้วย
ความคิดนี้เชื่อว่าหลูจื้อคงจะรู้แล้วมั้ง?
ส่วนเรื่องที่โดยหลิวเฮ่อแฮ็คตนในเวยป๋อนั้นเชื่อว่าซ่งไข่ก็คงจะบอกเขาแล้วเหมือนกัน
ดูจากท่าทีของเขาก็รู้แล้วว่าเขาไม่เชื่อมันเลยสักนิด
เพราะตอนที่ตนเจอเขา ตนเป็นยังไง ผ่านจากการรู้จักคุ้นเคยกันเขาก็ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้
ระหว่างคนเราอาจจะสามารถแสร้งได้วันสองวัน แสร้งได้สามสี่วัน แต่ถ้าให้เสแสร้งไปตลอดมันก็คงจะไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่
ยิ่งไปกว่านั้นถ้าตนเสแสร้ง มีแผนการอื่นกับเขาล่ะก็ตนคงไม่หนีออกมาแบบนี้
เหตุผลนี้เชื่อว่าเขาเองก็ต้องเข้าใจอย่างแน่นอน