[นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ - ตอนที่ 308 โกหก / ตอนที่ 309 ช่วงเวลาเอาอกเอาใจ
- Home
- [นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ
- ตอนที่ 308 โกหก / ตอนที่ 309 ช่วงเวลาเอาอกเอาใจ
ตอนที่ 308 โกหก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่ชุยหังกำลังสะลึมสะลือก็รู้สึกได้ว่าเหมือนมีคนกำลังมือไม้อยู่ไม่สุขเลื้อยไปทั่วตัวของตนอยู่ไม่หยุด
เขาเบิกตาขึ้นเห็นหลูจื้อที่กำลังมองเขาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“นายตื่นแล้ว?” หลูจื้อเอ่ยถาม
ชุยหังหาวออกมาเบาๆแล้วพูดว่า: “ทำไมนายถึงตื่นเช้าขนาดนี้ล่ะ”
“เมื่อคืนวานทำไมนายถึงไม่ปลุกฉัน?” หลูจื้อเอ่ยถาม
ชุยหังพูดขึ้น: “เห็นว่านายเหนื่อยเกินไปแล้วเลยอยากให้นายนอนหลับให้มากอีกหน่อย”
“นายกลัวว่าฉันจะเหนื่อยหรือกลัวว่าตัวเองจะเหนื่อย?” มือของหลูจื้อเริ่มจะไหลลงไปข้างล่าง
ชุยหังพูดขึ้น: “แน่นอนว่าต้องกลัวนายเหนื่อยอยู่แล้ว ในเมื่องานที่ต้องออกกำลังมันเป็นของนาย”
“จริงหรอ ไม่งั้นวันนี้นายขยับเอง?” หลูจื้อเอ่ยถาม
ชุยหังพูดอย่างรวดเร็วว่า: “ไม่ได้ ฉันไม่เหมาะ…”
“เอาเถอะ ดูเหมือนว่ายังต้องเป็นฉันลงมือเองถึงจะสามารถอิ่มหนำสำราญได้สินะ”
หลังจากหลูจื้อพูดจบก็พลิกตัวขึ้น
ในตอนเช้า การเป็นชายหนุ่มที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วจะมีปฏิกิริยานั้นเป็นเรื่องปกติทั่วไปมาก
ชุยหังรู้สึกว่าตัวเองถูกคนจับกินในขณะที่กำลังกึ่งหลับกึ่งตื่น แต่ความรู้สึกนั้นก็เต็มอิ่มมากทีเดียว
หลูจื้อยังคงเป็นหลูจื้อคนนั้น ส่วนตนก็ยังคงเป็นตนคนนั้น
ถึงแม้ว่าสถานะจะแตกต่างจากในอดีต แล้วก็เคยผ่านประสบการณ์เรื่องราวมาไม่น้อย แต่ว่าความรู้สึกระหว่างพวกเขายังคงเป็นเหมือนเดิมเมื่อก่อน
หลูจื้อนอนอยู่บนตัวของชุยหังแล้วกอดเขาเอาไว้แน่น
“วันนี้ฉันอยากจะนอนตื่นสายกับนาย” เขาเบาลมเบาๆตรงข้างหูของชุยหังแล้วเอ่ยขึ้น
ชุยหังพูดขึ้นว่า: “ได้สิ ยังไงซะวันนี้ก็ไม่มีเรื่องอะไรอยู่แล้ว”
ท้องฟ้าค่อยๆสว่างขึ้นมา แสงแดดค่อยๆแอบสาดส่องทะลุผ่านตามช่องว่างตรงผ้าม่านเข้ามา ตกกระทบลงบนพื้นเกิดเป็นจุดที่สว่างเป็นพิเศษ
เช้าที่เงียบสงบเช่นนี้เหมาะสำหรับการที่คนรักกันสองคนจะนอนกอดกันอยู่บนเตียงมากจริงๆ นอนกอดกันและกัน ไม่ต้องทำอะไรค่อยๆปล่อยเวลาเดินผ่านไป
แต่ว่าช่วงเวลาอันแสนอบอุ่นเช่นนี้กลับถูกเสียงโทรศัพท์ของหลูจื้อรบกวนเสียแล้ว
หลูจื้อขมวดคิ้วก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือจากหัวเตียงมาดู จากนั้นลุกขึ้นนั่งอย่างตื่นเต้นประหม่าเล็กน้อย
“แม่ มีอะไรครับ”
เมื่อได้ยินคำเรียกชื่อนี้ อารมณ์ของชุยหังที่เดิมทีกำลังผ่อนคลายมากยังต้องเริ่มไม่สบายใจตามไปด้วย
ก็ไม่รู้ว่าทางด้านนั้นพูดอะไรกันแน่ ชุยหังฟังไม่เข้าใจแล้วก็ไม่อยากจะแอบฟังด้วย
หลูจื้อพูดว่า: “กลับมาเมื่อวานครับได้พักหนึ่งวันก็เลยไม่ได้กลับไป”
ดูเหมือนว่าคุณแม่ของหลูจื้อจะรู้เรื่องที่หลูจื้อกลับมาแล้ว
เป็นไปได้มากที่จะรู้ว่าหลูจื้อไม่กลับบ้านเป็นเพราะสาเหตุอะไร เดิมทีเมื่อวานเขายังคิดอยากให้หลูจื้อกลับบ้านไปหาพ่อกับแม่ แต่ภายหลังมาคิดๆดูแล้วเรื่องแบบนี้ต้องให้หลูจื้อเป็นคนประสานเข้าหากัน ตนไม่สามารถที่จะเอาแต่แสร้งทำเป็นยิ่งใหญ่และทำให้คนอื่นเข้าใจตนผิดไปหมด
อย่างไรก็ตามไม่ว่าตนจะทำอะไร ครอบครัวของหลูจื้อต่างก็เกลียดตนอยู่ดี ไม่สู้ทำให้ตัวเองสบายใจขึ้นหน่อยจะดีกว่า
“วันนี้ผมดูสถานการณ์ก่อนแล้วกัน ไม่อยากขยับเลย หลายวันมานี้เหนื่อยมากเลยพักอยู่ที่กองทัพเลย”
“ใช่สิ จะไม่ใช่ได้ยังไงล่ะ ผมก็อยู่ที่กองทัพไงไม่ได้ออกไป”
“แม่คิดอะไรเนี่ย ไม่มี ไม่มีจริงๆ”
หลังจากฟังคำพูดของหลูจื้อแล้ว ชุยหังก็พอจะสามารถเดาได้แล้วว่าทางด้านนั้นถามคำถามว่าอะไร
ต้องกำลังสอบถามว่า หลูจื้ออยู่ที่กองทัพจริงๆหรือเปล่า หรือว่าอยู่กับตนหรือเปล่าอย่างแน่นอน
คาดไม่ถึงว่าหลูจื้อจะเริ่มพูดโกหกเพื่อเขา นี่ก็คงคิดอยากจะปกป้องตนแหละมั้ง
ในเมื่อตอนนี้เขาเลิกรากับผู้หญิงคนนั้นไปแล้วเพราะตน ต้องทำให้พ่อแม่ของเขาผิดหวังมากบวกกับโกรธมากอย่างแน่นอน
นอกจากนี้เขายังยอมรับกับครอบครัวอย่างตรงไปตรงมาแล้วว่าเขาชอบผู้ชายคนหนึ่ง นี่คงจะยิ่งทำให้พ่อแม่ของเขายอมรับไม่ได้มากขึ้นไปอีก
เพียงแต่ว่า ถ้าอยากทำให้พวกเขายอมรับยังจะต้องเดินทางต่อไปอีกไกลแค่ไหนกันล่ะ?
ตอนที่ 309 ช่วงเวลาเอาอกเอาใจ
หลังจากที่หลูจื้อวางสายโทรศัพท์ไปสีหน้าของเขาก็ดูอึดอัดเล็กน้อย
ชุยหังยังคงแกล้งหลับอยู่ เขาไม่อยากทำให้หลูจื้อต้องลำบากใจ
ในความเป็นจริงแล้วในใจของหลูจื้อก็เข้าใจดี สำหรับชุยหังคนประเภทที่มีปณิธานแบบนี้เขาก็ต้องคอยปกป้องอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็นอนลงกอดชุยหังเข้ามาไว้ในอ้อมแขนแน่น
ผ่านไปนานหลูจื้อพูดขึ้นว่า: “เมียครับตื่นได้แล้ว พวกเราไปหาของกินสักหน่อยเถอะ สามีของนายหิวแล้ว”
ชุยหังรีบพูดอย่างรวดเร็วว่า: “ฉันไปทำโจ๊กให้นายสักหน่อยแล้วกัน นายนอนอีกสักพักเถอะ”
“ฉันรู้อยู่แล้วว่านายตื่นแล้ว…” หลูจื้อกล่าว
ชุยหังคาดไม่ถึงว่าหลูจื้อจะใช้วิธีการแบบนี้เพื่อทำให้ตนพูดออกมา ไอคิวของตนตอนนี้เหมือนจะไม่ได้กำลังออนไลน์อยู่แล้ว
แต่ก็ไม่มีทางเลือก ในเมื่อไม่ว่าอะไรหลูจื้อก็รู้ดีทุกอย่าง ตนจะแสร้งต่อไปยังไงก็ไม่มีความจำเป็นแล้ว
“ไอคิวของนายนี่เอามาใช้เพื่อคำนวณฉันหมดแล้วมั้ง” ชุยหังพึมพำ
หลังจากพูดจบเขาก็พลิกตัวหันหลังให้หลูจื้อ
หลูจื้อโอบกอดเอวของชุยหังแล้วพูดขึ้นว่า: “หันหลังให้ฉันเป็นเรื่องที่อันตรายมากนายไม่รู้หรอ”
ชุยหังกลับพูดขึ้นว่า: “ทหารอย่างพวกนายไม่ใช่ต่างก็ว่ากันว่าคนที่สามารถหันหลังให้กับเขาได้ถึงเป็นคนที่ตนไว้ใจมากที่สุดหรอกหรอ”
หลูจื้อหัวเราะแล้วพูดว่า: “อยู่บนเตียงมันก็ไม่แน่เสมอไปหรอก โดยเฉพาะนายกับฉัน…”
ครั้งนี้ชุยหังกลับไม่มีความกังวล เพราะหลูจื้อไม่ได้กระทำเคลื่อนไหวอะไรในขั้นต่อไป
ดังนั้นเขาพูดขึ้นว่า: “นอนอีกสักพัก ฉันจะไปต้มโจ๊กให้นาย”
“ไม่ต้อง ที่บ้านมีเส้นก๋วยเตี๋ยวอยู่ไม่ใช่หรอ ต้มง่ายๆสักหน่อยก็โอเคแล้ว” หลูจื้อกล่าว
“ก็ได้ ฉันจะใส่ไข่ให้นายอีกสองฟอง”
หลูจื้อโน้มตัวไปข้างหน้าอีกครั้งพลางพูดว่า: “อะไรคือใส่ให้ฉันสองฟอง นายไม่กินไง?”
“แค่ฉันพูดแบบนี้ก็ทำให้ฉันดูรู้เรื่องรู้จักคิดแล้วไม่ใช่หรอ ตัวฉันต้องใส่เพิ่มอีกหน่อยถึงจะพอ ฮิฮิ” ชุยหังเริ่มพูดล้อเล่นขึ้นมา
“คือจะเพิ่มพลังกายหรอ”
“ไม่ใช่ ฉันไม่เหนื่อยสักหน่อย” ชุยหังกล่าว
ประโยคนี้ทำให้หลูจื้อขยับร่างกายในที่สุดพลางพูดว่า: “ในเมื่อไม่เหนื่อยงั้นก็รอให้เหนื่อยแล้วค่อยว่ากันเถอะ”
หลังจากพูดจบ พายุฝนบ้าคลั่งก็โหมกระหน่ำอีกรอบ
เพียงแต่พายุฝนลมพายุในครั้งนี้มากะทันหันเกินไปนิด ชุยหังยังรู้สึกสับสนอยู่นิดหน่อย
ตลอดทั้งช่วงเช้านอกจากกินก๋วยเตี๋ยวแล้ว แทบทั้งหมดก็คือนอนอยู่บนเตียงนอน
หลูจื้อยังคงกำลังบ่นว่าชุยหังทำให้ตนกลายเป็นพวกเสื่อมทรามไปแล้ว ที่ตลอดทั้งเช้าไม่ได้ตื่นนอนขึ้นมาอย่างจริงจังเลย
ชุยหังไม่เห็นด้วย วันหยุดสุดสัปดาห์ไม่ได้มีไว้นอนตื่นสายหรอกหรอ
“ลุกขึ้นเถอะ นอนต่อไปไม่ได้แล้ว ไม่งั้นแขนขาจะได้เสื่อมสภาพแล้ว” หลูจื้อกล่าว
ชุยหังมองดูเวลา มันเป็นเวลาเที่ยงแล้วก็ควรจะลุกได้แล้ว
“ได้ งั้นลุกไปทำอะไรล่ะ” ชุยหังเอ่ยถาม
“ฉันจะพานายไปซอยเทศบาลฮู่ปู้เซี่ยง” หลูจื้อกล่าว
ซอยเทศบาลฮู่ปู้เซี่ยง? คือสถานที่ที่พวกเขาไปด้วยกันเมื่อครั้งก่อนแล้วหลูจื้อทิ้งชุยหังเอาไว้ที่นั่นคนเดียว?
ดูเหมือนว่าหลูจื้อคิดอยากจะชดเชยความเสียใจของตนแล้วสินะ
“ตอนนี้ที่นั่นคงไม่มีอะไรอร่อยหรอกใช่ไหม” หลูจื้อถาม
“ที่นั่นหนึ่งปีสี่ฤดูกาลต่างก็มีของอร่อยตลอด ถ้าไม่มีฉันเอาตัวฉันเองให้นายกินเลย โอเคไหม” หลูจื้อเอ่ยถาม
ชุยหังพูดขึ้นว่า: “ไปเถอะ ถึงแม้ว่าจะไกลไปหน่อยก็เถอะ”
“อืม วันนี้ฉันจะนั่งรถบัสไปกับนาย” หลูจื้อกล่าว
ชุยหังพยักหน้ารับ อันที่จริงแบบนี้ดียิ่งกว่า สองคนนั่งอยู่แถวเดียวกันแล้วก็สามารถมองวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่างรถไปด้วยกันได้ ใช้หัวใจซึมซับความรู้สึกของพวกเขา
เมื่อหลูจื้อลุกขึ้นเพื่อไปใส่เสื้อผ้าก็พบว่าเสื้อผ้าของตัวเองที่ถอดออกเมื่อวานได้ถูกซักเรียบร้อยแล้ว มุมปากขยับยกขึ้นพลางพูดว่า: “ไม่กี่วันที่ฉันไม่อยู่นายไปทำอะไรมาทำไมจู่ๆถึงได้เปลี่ยนเป็นละเอียดอ่อนมากขนาดนี้ล่ะ?”
ชุยหังพูดขึ้นว่า: “ฉันก็แค่แสดงในช่วงเริ่มต้น จับนายเอาไว้ให้แน่นก่อน เมื่อรอจนกระทั่งนายไปจากฉันไม่ได้แล้วฉันค่อยเผยโฉมหน้าเดิมออกมาให้หมด”
“โอเค งั้นนายรีบเผยโฉมรูปร่างที่แท้จริงออกมาเถอะ ดูสิว่าฉันจะมีฝีมือเฉียบขาดพอที่จะจัดการนายได้หรือเปล่า”