(นิยายแปล)ผลลัพธ์จากการที่โอตาคุผู้ชื่นชอบรายการเช้าวันอาทิตย์เกิดใหม่เป็นตัวร้ายทำให้ธงหายนะพังทลาย - ตอนที่ 119 เพราะจะไม่ทิ้งคุณให้โดดเดี่ยว
- Home
- (นิยายแปล)ผลลัพธ์จากการที่โอตาคุผู้ชื่นชอบรายการเช้าวันอาทิตย์เกิดใหม่เป็นตัวร้ายทำให้ธงหายนะพังทลาย
- ตอนที่ 119 เพราะจะไม่ทิ้งคุณให้โดดเดี่ยว
เพราะจะไม่ทิ้งคุณให้โดดเดี่ยว
「……เกิดเรื่องอะไรหลายอย่าง เลยเป็นกังวลเหรอ?」
「อืม……นิดหน่อย ไม่สิ อาจจะค่อนข้าง……กังวลใจเลยก็ได้……」
เมลต์ที่ถูกเยนซึ่งรู้สึกเป็นกังวลถามเช่นนั้น ไม่กล้าให้คำตอบยืนยันในทันที
เธอในตอนนี้กำลังกังวลที่ได้เผชิญหน้ากับเรื่องราวต่างๆ เพราะสิ่งจำเป็นคือการเข้าใจและทำความใกล้ชิดกับความกังวลนั้น
สิ่งจำเป็นไม่ใช่คำตอบที่เบาบางไร้เหตุผลรองรับ ต้องบอกหลังจากที่ค่อยๆทำความเข้าใจความรู้สึกแล้ว คำว่าไม่เป็นไรประโยคเดียวนั่นแหละคือสิ่งที่เยนต้องการในตอนนี้
เพื่อให้รู้สึกใกล้ชิดกับความกังวลและความเจ็บปวดของเธอ เมลต์จึงรับฟังเรื่องราวของเยน
「ฉันคิดว่าเรื่องที่ซังกะพูดไม่ผิด อดีตที่ฉันเคยทำเรื่องชั่วร้ายจะไม่หายไป เหมือนกับที่พวกคนในหน่วยรักษาความปลอดภัยนั่นเป็นแบบนั้น มีผู้คนมากมายที่มุ่งเป้าไปที่อดีตนั้นและยังคงสงสัยฉันต่อไป บางทีมันอาจจะเป็นแบบนี้ไปตลอดชีวิต ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนแต่สายตาของพวกคนที่มองฉันก็จะไม่เปลี่ยน……พอคิดแบบนั้น มันก็เกิดกลัวขึ้นมา……」
「……งั้นเหรอ เป็นอย่างนั้นสินะ กังวลกับหลายๆเรื่องสินะ」
แม้จะไตร่ตรองถึงความผิดพลาดของตนเอง และหลังจากสำนึกผิดต่อเรื่องนั้นก็พยายามเดินไปบนเส้นทางที่ถูกต้อง แต่สิ่งที่เรียกว่าอดีตไม่มีทางสลัดทิ้งได้ง่ายดายแบบนั้น
การประเมินจากคนรอบตัว ความรู้สึกของตนเอง มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่จะส่งผลเสียไม่น้อยในส่วนนั้น
เยนเองก็น่าจะเตรียมใจกับเรื่องนั้นแล้ว……ใช่ น่าจะเป็นแบบนั้น
ทว่า ด้วยภาระที่ชื่อว่าอดีตของตนเองมันเข้ามาโจมตีด้วยแรงกดดันมากกว่าที่คิดไว้ จนไม่สามารถระงับความกังวลที่สะสมอยู่ในส่วนลึกสุดของจิตใจได้อีกต่อไป
สำหรับเมลต์ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ ทำผิดพลาดหรือเสียใจกับอดีตนั้นไม่อาจปัดเป่าความกังวลของเยนที่เป็นเช่นนั้นได้ง่ายๆ
ทว่า……ตอนที่ฟังเรื่อวราวของเธอ ภาพของชายหนุ่มคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นมาภายในใจของเมลต์
「……ไม่เป็นไรหรอกเยน เยนน่ะต้องเริ่มต้นใหม่ได้อย่างแน่นอน」
「ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ? เมลต์ต่างกับฉันที่เดินอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องเรื่อยมา เป็นเด็กดีใช่ไหมล่ะ? เมลต์ที่เป็นแบบนั้นทำไมถึง……?」
「จริงอยู่ที่ฉันต่างกับเยน แต่ว่านะ……มีคนที่เหมือนกับเยนมากๆอยู่ใกล้ๆ」
เมลต์หลับตาหลังจากตอบเช่นนั้นกับเยนที่ถามตนเองพร้อมแสดงความรู้สึกเป็นกังวลออกมา
ตอนนี้ ขณะที่นึกถึงเขาซึ่งตกอยู่ในสถานการณ์ที่คล้ายกับเพื่อนที่กำลังเป็นกังวลอยู่เบื้องหน้าตนเอง เธอเล่าเรื่องของบุคคลนั้นด้วยน้ำเสียงเรียบสงบ
「คนๆนั้นน่ะนะ ดูเหมือนว่า……จะเคยทำเรื่องเลวร้ายมาเยอะจนถูกผู้คนมากมายเกลียด ฉันไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ไม่คิดว่าคนๆนั้นจะทำเรื่องแบบนั้นได้เลย แต่ว่าคนๆนั้นน่าจะเคยสร้างบาดแผลให้กับผู้คนมากมายโดยที่ฉันไม่รู้ แม้ว่าตอนนี้จะเปลี่ยนเป็นนิสัยซื่อตรงแล้วแต่คนๆนั้นก็ถูกเรียกว่าสวะอันดับหนึ่งในสถาบัน ถูกขับไล่ออกจากทั้งตระกูลทั้งหอพักที่เคยอาศัยแล้วตั้งแคมป์กลางแจ้ง แต่ว่านะ……แม้เขาจะเป็นแบบนั้นแต่ก็ไม่เคยโดดเดี่ยวละ」
เมลต์เคยเห็นเขาถูกดูหมิ่นจากเหล่านักเรียนคนอื่นอยู่หลายครั้ง คนที่มาเตือนตนเองซึ่งกลายเป็นเพื่อนกับเขาก็มีอยู่มากมาย แม้กระทั่งตอนนี้สายตาที่มองด้วยอคติจากเหล่านักเรียนที่มีต่อเขาก็แทบจะไม่เปลี่ยนไปเลย
แต่อย่างไรก็ตาม……เขาก็ยังคงเดินไปบนเส้นทางที่ถูกต้องต่อไปโดยไม่หวั่นไหว รอบๆตัวคนที่เชื่อในตัวเขาที่เป็นเช่นนั้นเหมือนกับตนเองก็มีอยู่มากมาย
เพราะน้องชายเชื่อในตนเองนั่นแหละ ตนจึงอยากจะกลายเป็นฮีโร่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดเพื่อตอบสนองต่อความเชื่อมั่นนั้น ขณะจินตนาการว่าเขากำลังพูดเช่นนั้น เมลต์ก็พูดกับเยนอย่างมั่นคง
「จริงอยู่ที่มีคนที่เอาแต่มองอดีตของเยนอยู่มากมาย แต่ว่า คนที่มองความพยายามของเยนในตอนนี้ก็มีอยู่ใช่ไหมล่ะ? ฉันเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ถ้าเป็นเยนละก็จะต้องกลายเป็นคนที่ตัวเองคิดไว้ได้อย่างแน่นอนเลยละ เพราะงั้น เนอะ……ก่อนอื่นเยนก็เชื่อในตัวเองสิ อาจจะเป็นกังวล อาจจะกลัว แต่ว่า……ถ้าคิดว่ามีใครสักคนกำลังเชื่อในตัวเองอยู่ละก็ น่าจะเข้มแข็งขึ้นได้อย่างแน่นอนเลยละ」
「เชื่อ ในตัวเอง……」
「ใช่ ถ้าทำแบบนั้นได้ เยนเองก็เปลี่ยนแปลงได้เหมือนกัน ไม่เป็นไร เพราะฉันรับประกันยังไงล่ะ」
เพราะแม้จะเคยผิดพลาดในอดีต แม้จะถูกตำหนิอย่างรุนแรงจากผู้คนรอบข้าง แต่ก็ยังคงเห็นแผ่นหลังนั้นมุ่งไปข้างหน้าต่อไปโดยไม่ยอมแพ้นั่นแหละ เมลต์จึงพูดได้
เยนเองก็เป็นแบบเขาได้เช่นกัน ตราบใดที่ยังคงมีคนที่เชื่อมั่นในตัวเธออยู่เคียงข้างละก็จะต้องสามารถเริ่มต้นใหม่ได้อย่างแน่นอน
และ เมื่อมองไปทางเยนด้วยสายตาอันแรงกล้าที่เต็มไปด้วยความตั้งใจที่จะสนับสนุนเธอในฐานะเพื่อน และแสดงออกว่าตนเองคือคนที่เชื่อเช่นนั้น เธอที่สัมผัสความรู้สึกของเมลต์ได้ก็ยิ้มเล็กน้อยออกมาทั้งน้ำตา
「ขอบคุณนะ เมลต์……! ขอบคุณจริงๆ……!」
「ไม่ต้องพูดขอบคุณแบบนั้นหรอก เพราะเป็นเพื่อนยังไงล่ะ เวลามีปัญหาก็ต้องช่วยมันแน่นอนอยู่แล้วใช่ไหมล่ะ?」
เมลต์พูดเช่นนั้นขณะจับมือของเยนที่กำลังร้องไห้อย่างอ่อนโยน และพยักหน้าอย่างมั่นคง
เธอส่งรอยยิ้มที่แสดงถึงมิตรภาพและความเชื่อใจ และพูดขึ้นพร้อมพยายามให้กำลังใจเยน
「พยายามเข้าละ เยน มันอาจจะยากแต่ว่ายังมีคนที่คอยอยู่เคียงข้างเธอเยอะแยะเลยละ เพราะงั้นอย่ายอมแพ้นะ」
「อื้ม……!」
เมลต์รู้สึกได้ถึงแสงสว่างเจิดจ้าที่ใบหน้าของเยนซึ่งจับมือของตนเองกลับอย่างมั่นคง จึงยิ้มเขินอายอย่างมีความสุข
ไม่มีคำโกหก เธอเชื่อจากใจจริงว่าเยนสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ และรู้สึกดีใจที่เห็นเพื่อนกลับมามีแรงใจอีกครั้ง ขณะจ้องมองอย่างอ่อนโยนต่อไป