(นิยายแปล)ผลลัพธ์จากการที่โอตาคุผู้ชื่นชอบรายการเช้าวันอาทิตย์เกิดใหม่เป็นตัวร้ายทำให้ธงหายนะพังทลาย - ตอนที่ 17 เริ่มเปิดศึก!
เริ่มเปิดศึก!
「เป็นสัตว์ประหลาดที่น่าเกลียดอะไรอย่างนี้ นี่คือสัตว์เกราะมารเหรอ」
「 เกี๊ยก……?」
ถ้อยคำถากถางดังก้องภายในถ้ำอันมืดมิด อารัคโร่ที่ได้ยินเสียงนั้นร้องคำรามและหันหน้าไปทางต้นเสียงนั้น
มาร์กอสยืนประจันหน้ากับสัตว์อสูรอย่างสง่าผ่าเผย ในขณะที่เสียงกรรไกรของกิก้าซิสเซอส์ซึ่งสวมใส่อยู่ที่แขนซ้ายดังกระทบกัน เขาก็ชี้ปลายนั้นไปที่สัตว์เกราะมารและตะโกนออกไป
「ฉันคือบุตรชายคนโตแห่งตระกูลบัลก์ มาร์กอส บัลก์! เจ้าสัตว์ประหลาดน่าเกลียดเอ๋ย ฉันคนนี้จะเป็นคนตัดคอแกเอง!」
「เดี๋ยวเซ่!? หมอนั่นทำอะไรกันเนี่ย!」
ยูโกตบมุกในขณะที่ทำหน้าซีดต่อมาร์กอสที่ประกาศชื่อต่อหน้าอารัคโร่และทำเสียงเค้นจมูกดังฮึ
ยูโกตื่นตกใจต่อความโง่เขลาของเขาที่เปิดเผยตัวเองโดยที่ไม่รู้ทั้งที่อยู่และจำนวนของศัตรู เขารีบส่งเสียงเรียกเมลต์ที่อยู่ข้างๆ
「เมลต์ รีบไปช่วยพวกคนที่ถูกจับตัวไว้เร็ว! ถ้าถูกพวกพ้องที่กำลังซ่อนตัวอยู่จับเป็นตัวประกันจะลำบาก!」
「ขะ เข้าใจแล้ว!」
เดิมทีอยากจะคิดให้รอบคอบอีกสักหน่อย แล้วเคลื่อนไหวโดยให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้คนที่ถูกจับตัวไว้
ในขณะที่เตือนตัวเองว่าถึงแม้จะแค้นเคืองมาร์กอสที่ทำทุกอย่างนั้นพังก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา อย่างน้อยก็ต้องพยายามช่วยเหล่าผู้โดยสารในระหว่างที่อารัคโร่ถูกเขาดึงความสนใจไป ยูโกที่คิดอย่างนั้นพุ่งตัวออกไปพร้อมกับเมลต์ ไปหาคนอื่นๆ
「โอเคไหมครับ!? มาช่วยทุกคนแล้วครับ กรุณาใจเย็นๆอย่าขยับนะครับ!」
ยูโกตัดใยด้วยมีดที่เมลต์สร้างขึ้นจากความสามารถของซอร์ด ริง และปฏิบัติการช่วยเหลืออย่างเอาเป็นเอาตาย
แต่ทว่า การปลดปล่อยผู้โดยสารหลายสิบคนออกจากตาข่ายอันแข็งแกร่งที่สร้างจากใยของอารัคโร่ด้วยคนเพียงสองคนเป็นเรื่องยาก และต้องใช้เวลา
ในบรรดาคนที่ช่วยออกมา คนที่ยังมีแรงเหลืออยู่ก็เข้ามาช่วยด้วยมีดที่สร้างขึ้นใหม่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังต้องใช้เวลาพอสมควร
แม้จะกังวลว่าอาจจะถูกพวกสัตว์เกราะมารเข้าโจมตีแต่ยูโกก็ยังคงพยายามช่วยเหลือต่อไป อย่างน้อยถ้ามาร์กอสเอาชนะอารัคโร่ได้ละก็ในขณะที่มีความหวังอันริบหรี่เช่นนั้นก็ลองมองไปทางเขาแต่ทว่า――
「บะ บ้าเอ๊ย! ไอ้สัตว์ประหลาดขี้ขลาด!」
「กุเกี๊ยเกี๊ยเกี๊ยเกี๊ยเกี๊ย!」
――น่าเสียดายสิ่งที่เขาเห็นคือสภาพที่มาร์กอสซึ่งกำลังดิ้นรนก่นด่าสาปแช่ง
มาร์กอสกำลังต่อสู้กับอารัคโร่แต่ลูกน้องของเขาพ่ายแพ้ให้กับสัตว์ประหลาดสองตัวที่โผล่ออกมาจากที่ไหนสักแห่ง ถูกไล่ต้อนให้ตกอยู่ในสภาพเสียเปรียบด้วยจำนวนสามต่อหนึ่ง
แถม กิก้าซิสเซอส์อาวุธของเขาก็ถูกพันด้วยใยตรงส่วนกรรไกร ทำให้เปิดไม่ได้
สิ่งที่เรียกว่ากรรไกรจะสำแดงพลังอันแข็งแกร่งออกมาในยามที่ปิด แต่เพื่อการนั้นต้องเปิดออกก่อน
ตอนนี้ที่ไม่สามารถทำเรื่องนั้นได้ อุปกรณ์เวทของเขาก็มีความหมายแค่เพียงเกราะป้องกันไหล่ซ้ายเท่านั้น แทบจะใกล้เคียงกับของประดับ
「เจ้าพวกนั้นมันเรียนรู้ได้! มันเฝ้าสังเกตุการต่อสู้ของพวกพ้องกับมาร์กอสแล้วค้นพบจุดอ่อนของอุปกรณ์เวท!」
ยูโกเคยคิดว่าความน่ากลัวของอารัคโร่คือความสามารถของแมงมุมที่โอคุโมะมี……ใยที่ขัดขวางการเคลื่อนไหวและกรงเล็บอันแหลมคมทว่า เมื่อเห็นมาร์กอสที่กำลังดิ้นรนก็ตระหนักได้ถึงภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น
สิ่งนั้นคือสติปัญญา วิธีใช้อาวุธของตนเองให้เกิดประโยชน์สูงสุด ค้นหาจุดอ่อนของอีกฝ่าย มีสติปัญญาของก็อบลินที่จะคิดหาวิธีในการโจมตีสิ่งนั้นให้ได้อย่างแน่นอน……ความน่ากลัวของสัตว์เกราะมารที่ผสมผสานความสามารถของสัตว์อสูรสองชนิดเข้าด้วยกันเขาเข้าใจมันแล้ว ทันใดนั้นก็มองเข้าไปในความมืดรอบๆ
(อารัคโร่ที่อยู่ตรงนั้นคือสามตัว! ยังมีศัตรูซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่ง! เจ้าพวกนั้นน่าจะกำลังเฝ้ามองมาทางพวกเราอยู่!!)
ศัตรูมีอย่างน้อยห้าตัว แม้ว่ามาร์กอสจะดึงความสนใจอารัคโร่ไปสามตัว แต่ในสถานที่นี้น่าจะยังมีสัตว์เกราะมารมากกว่าสองตัวที่ยังไม่โผล่ออกมา
เจ้าพวกนั้นตอนนี้ที่คิดวิธีตอบโต้มาร์กอสได้ น่าจะกำลังจับตาดูพวกตนเองทำการช่วยเหลืออยู่ไม่ผิดแน่ยูโกรับรู้ได้เช่นนั้นแต่ทว่า ในชั่วพริบตานั้นใยแมงมุมเหนียวๆสีขาวก็พุ่งเป้ามาที่แขนขวาซึ่งถือมีดอยู่
「โอ๊ะ!?」
「ยูโก!? ว๊าย!!」
เพราะการโจมตีทีเผลอทำให้ยูโกทำมีดที่สร้างขึ้นจากพลังเวทสีม่วงหลุดมือและมือขวาติดเข้ากับผนัง อารัคโร่ซึ่งปรากฏตัวออกมาจากบนหัวโดยใช้ใยราวกับทาร์ซานพุ่งเข้าหาเมลต์
คงจะเห็นตอนที่สร้างมีดออกมาจากแหวนของเธอล่ะมั้ง พวกอารัคโร่ที่เข้าจับมือเมลต์ได้ ร้องออกมาด้วยความดีใจพร้อมน้ำลายไหล
「ชูร่าเกี๊ยระระระ!」
「กี กิ กี้!」
「เจ้าพวกนี้……! ปล่อยนะ!」
แม้เมลต์ที่ถูกผลักล้มลงกับพื้นจะพยายามขัดขืนอย่างสุดชีวิต แต่อารัคโร่ที่ถ่ายน้ำหนักคร่อมบนตัวเธอก็ไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย
เมื่อสัตว์เกราะมารที่มองเมลต์ซึ่งเป็นสาวน้อยแสนสวยด้วยสายตาลามกตั้งแต่ใบหน้าจนถึงหน้าอกกัดฟันหัวเราะ อารัคโร่อีกตัวก็ใช้กรงเล็บอันแหลมคมหมายจะฉีกเสื้อผ้าของเธอ
「กุชูวชูวชูว! กุโบะโบะโบะ!!」
「อย่ามาล้อเล่นนะ ไอ้โรคจิตนี่! ใครจะไปโชว์ชุดชั้นในให้คนอย่างแกดูกันยะ!」
เมลต์ใช้พลังเวท กางบาเรียเพื่อป้องกันไม่ให้เสื้อผ้าขาด แต่ทว่าความต้านทานนั้นหากพลังเวทหมดลงคงจะถูกทำลายเป็นแน่
เหล่าผู้โดยสารเองก็ไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้เนื่องจากหวาดกลัวเหล่าอารัคโร่ ทำได้แค่กรีดร้องเท่านั้น
ในขณะนั้นเอง ยูโกซึ่งถ่ายเทพลังเวทไปที่สร้อยข้อมือในมือซ้ายเสร็จแล้ว ก็ตะโกนอย่างสุดกำลังพร้อมใส่พลังไปที่กำปั้น
「แปลง……ร่าง!!」(เฮน……ชิน!!)
「โกเกียโร่!?」
เกิดระเบิดแสงสีแดง เมื่ออารัคโร่ที่รู้สึกถึงกระแสของพลังเวทอันท่วมท้นร้องคำราม ร่างของพวกมันก็ลอยอยู่กลางอากาศ
ในเวลาเดียวกับที่บลาสเตอร์สำแดงพลังยูโกที่กระชากใยซึ่งพันธนาการมือขวาออก ก็พุ่งเข้าไปเตะสัตว์ประหลาดที่กดเมลต์เอาไว้ ปลิวกระเด็นไป
「ชาร์จพลังเวทเสร็จสมบูรณ์แล้ว จะลุยละนะ!!」
หลังจากแยกสัตว์ประหลาดออกจากพวกพ้องกับเหล่าคนที่ถูกจับตัวไว้และมันยืนเรียงกันสองตัวแล้ว ยูโกก็ถ่ายพลังเวทไปที่บลาสเตอร์
เขาเสริมพลังกระโดดด้วยการส่งพลังเวทไปที่คริสตัลตรงข้อเท้า และกระโดดเข้าใส่เหล่าอารัคโร่ แล้วยกมือขวาที่ถ่ายพลังเวทในทำนองเดียวกันขึ้นเหนือหัว
อารัคโร่พ่นใยออกจากปากทันทีเพื่อสกัดกั้นอัศวินชุดเกราะดำที่โจมตีจากบนฟ้า แต่ทว่า ดาบสันมือของยูโกที่เหวี่ยงลงมาก็ระเบิดเข้าที่หัวพร้อมผ่าสิ่งนั้นออกเป็นสองซีก
「เซย้า! ฮ้าา!!」
「โกโบะ!?」
ชั่วพริบตาต่อมาที่ครึ่งซีกของอารัคโร่มองเห็นสภาพที่แสงฟาดฟันสีแดงวิ่งผ่านตั้งแต่หัวจนถึงหว่างขา ลำตัวของสัตว์เกราะมารที่รับดาบสันมือของยูโกก็แยกเป็นสองซีกและทรุดลง
จากนั้นเขาหมุนตัวปลดปล่อยการโจมตีฟาดฟันต่อเนื่องอารัคโร่ที่รับสิ่งนั้นเข้าไป ยังไม่ทันได้ตกใจกับการตายของพวกพ้องร่างกายครึ่งบนและครึ่งล่างก็ถูกผ่าครึ่ง ตามพวกพ้องไปหลังจากนั้น
「บลาสเตอร์ ไดนามิกสแลช……! แข็งแกร่งจนต้องร้องไห้เลยใช่ไหมล่ะ?」
และพูดขึ้นหลังจากนั้น……ระหว่างที่ผู้คนกำลังเฝ้าดูการต่อสู้ของยูโกที่ระบุชื่อท่าหลังจากเอาชนะศัตรูได้ เขาก็ข้ามร่างกายส่วนบนไปและเข้าไปหาเมลต์ที่กำลังเฝ้ามองการต่อสู้อยู่
เมื่อเธอที่กำลังอึ้งยืนขึ้นพร้อมปัดสิ่งสกปรกบนเสื้อผ้า ยูโกที่ยิ้มออกมาภายใต้หมวกเกราะและพยักหน้าก็พูดเช่นนี้กับเมลต์
「ดูเหมือนว่าจะปลอดภัยสินะ เมลต์ โทษทีแต่ฝากคนเหล่านี้ได้ไหม?」
「ก็ไม่มีปัญหาหรอก……แต่ยูโกจะทำอะไรล่ะ?」
「เพราะกลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว มีแต่จะต้องทำลายเจ้าพวกนั้นทั้งหมดให้สิ้นซาก ถ้าไม่ช่วยมาร์กอสจะเป็นอันตรายด้วย ฉันจะไปจัดการพวกมันทางนั้น!」