(นิยายแปล)ผลลัพธ์จากการที่โอตาคุผู้ชื่นชอบรายการเช้าวันอาทิตย์เกิดใหม่เป็นตัวร้ายทำให้ธงหายนะพังทลาย - ตอนที่ 64 ปริศนาหมอกแดง
ปริศนาหมอกแดง
「ยายปลอดภัยดีสินะ ดีใจจริงๆ」
「ทางเธอต่างหากที่ปลอดภัยก็ดีเหนือสิ่งอื่นใดแล้วละจ้ะ ยังไงก็เถอะ มันเกิดอะไรขึ้นนะ ทำไมจู่ๆทุกคนในหมู่บ้านถึงกลายเป็นแบบนี้……」
เมื่อยูโกยืนยันแล้วว่าหญิงชราปลอดภัยก็โล่งใจและพูดเช่นนั้น ทางเธอเองก็ดีใจที่เขาปลอดภัยเช่นกันราวกับโชคดีในความโชคร้าย
เมื่อทั้งสองคนมองไปรอบๆเหล่าชาวบ้านหลายคนที่ปลอดภัยกับเหล่านักเรียนหลายสิบคนที่หนีมายังสถานที่แห่งนี้ เมลต์ก็พูดขึ้น
「คนที่ปลอดภัยมีแค่นี้เหรอคะ? แล้วคนอื่นๆทุกคน……」
「อา ถูกทุกคนที่แปลกไปพาตัวไปแล้วละ เพื่อปกป้องเหล่าเด็กๆกับคนแก่อย่างยายน่ะ…」
คนที่ถูกช่วยเอาไว้ในหมู่พวกชาวบ้านคือเด็กและคนชรา
ยูโกที่ได้ยินว่าพวกชาวบ้านคนอื่นๆเสียสละตนเองเพื่อปกป้องพวกเขาแสดงสีหน้าหม่นหมองและส่ายหัวไปมา
บางทีในหมู่ผู้คนที่เซน่อนฟันไปก่อนหน้านี้อาจจะมีคนที่เสียสละตนเองด้วยความตั้งใจเช่นนั้นอยู่ก็ได้ในขณะที่เมลต์คิดเช่นนั้นพร้อมทำสีหน้าเศร้าหมอง หญิงชราที่มองออกไปข้างนอกบ้านก็ส่งเสียงพึมพำ
「หมอกสีแดงนั่น ผู้คนปรากฏตัวออกมาจากหมอกนั่น หลังจากพวกเขาถูกกลืนกินโดยหมอกนั่นก็เริ่มแปลกไป หมอกนั่นมันอะไรกันแน่นะ?」
「แม้แต่ยายก็ไม่รู้จักเหรอ? ยายเคยได้ยินเรื่องทำนองนั้นหรืออะไรสักอย่างมาบ้างไหม?」
「ไม่เลย……ยายใช้ชีวิตที่หมู่บ้านแห่งนี้มาหลายปี แต่ไม่เคยได้ยินหรือได้เห็นหมอกแปลกๆแบบนั้นมาก่อนเลย ได้ยินพร้อมกับทุกคนที่หนีมาที่นี่ แบบเดียวกับทุกคนนั่นแหละ」
ยูโกและเมลต์ที่ฟังเรื่องราวจากหญิงชรา จ้องมองข้างนอกจากช่องหน้าต่างอีกครั้ง
ทั้งสองคนเห็นฝูงชนที่กำลังไล่ตามมาทางนี้ทีละนิดและหมอกแดงที่ลอยคละคลุ้งอย่างพิศวงอยู่ข้างหลังนั้น ทั้งคู่ถอนหน้าออกมาแล้วเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งนั้น
「เมลต์ รู้รึเปล่าว่าหมอกนั่นคืออะไร? ตามที่ยายบอกดูเหมือนคนที่ถูกหมอกนั่นกลืนกินจะเริ่มแปลกไป」
「ไม่ละ ไม่รู้เลย……คิดว่าน่าจะเปลี่ยนสีเพราะอิทธิพลของพลังเวท แต่ไม่รู้เลยว่าทำไมถึงกลายเป็นแบบนั้นไปได้น่ะ……」
หมอกนั่นมีอะไรบางอย่างผิดปกติไม่ผิดแน่ แต่ไม่รู้ว่าความผิดปกติโดยเฉพาะเจาะจงอยู่ตรงไหนและทำไมถึงเกิดของแบบนั้นขึ้นมาได้
ทว่าสิ่งเดียวที่รู้คือ จะถูกหมอกนั่นกลืนกินไม่ได้ ถ้าถูกกลืนกินท้ายที่สุดจะกลายเป็นพวกเดียวกันกับฝูงชนที่สูญเสียความมีชีวิตชีวาไป
「……คนที่ถูกหมอกกลืนกินเห็นได้ชัดว่ากำลังโจมตีคนที่ยังปกติอยู่สินะ และกำลังพยายามทำให้เป็นพวกพ้องของตัวเองอยู่」
「มีใครบางคนควบคุมอยู่งั้นเหรอ? หมอกนั่นเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยฝีมือมนุษย์เหรอ? อ๊า โธ่เว้ย……! เหมือนจะเข้าใจแต่ไม่เข้าใจเลย……!」
ถึงแม้จะพิจารณาอย่างถี่ถ้วนด้วยข้อมูลอันน้อยนิดที่ได้มา แต่มองไม่เห็นสิ่งที่น่าจะเป็นคำตอบเลย
หากในเวลาแบบนี้มีฟี่ผู้ฉลาดหลักแหลมอยู่ละก็……ยูโกคิดเช่นนั้นแต่ส่ายหัวไปมา ตอนนี้ควรคิดถึงสิ่งที่ตนเองควรทำ
(ถึงจะฝืนคิดเรื่องที่ไม่รู้คำตอบต่อไปมันก็เปล่าประโยชน์ ตอนนี้ต้องส่งผู้คนที่ปลอดภัยไปยังเขตปลอดภัย……!)
เหตุการณ์นี้มีสาเหตุมาจากอะไร? ตรงนั้นเป็นจุดที่เป็นกังวลอย่างไม่ต้องสงสัย
ทว่า สิ่งที่พวกตนเองในตอนนี้ควรทำคือคุ้มกันพวกชาวบ้านที่ปลอดภัยไปยังเขตปลอดภัย การสืบสวนหาสาเหตุเอาไว้ทีหลังก็ได้
หากส่งคนเหล่านี้ไปจนถึงหมู่บ้านใกล้ๆ และร้องขอกำลังเสริมจากหน่วยรักษาความปลอดภัยในตอนนั้นได้ละก็ แบบนั้นก็ดี
สิ่งเลวร้ายที่สุดคือ ถูกกวาดล้างจนหมดเพราะให้ความสำคัญกับการค้นหาสาเหตุของเหตุการณ์ แล้วไม่มีคนไปรายงานสถานการณ์ผิดปกตินี้
「ยาย บอกทุกคนให้เตรียมตัวเคลื่อนย้ายที อาจจะลำบากแต่ว่าคนที่แปลกไปกำลังเข้ามาใกล้ที่นี่แล้ว ถ้าไม่ออกจากหมู่บ้านนี้ละก็แย่แน่」
「อา เข้าใจแล้วจ้ะ……ตา ไม่คิดเลยนะว่าได้ใช้ของดูต่างหน้าแบบนี้ ช่วยปกป้องฉันกับพวกเด็กๆทีนะ……!」
หญิงชราพยักหน้าให้กับคำพูดของยูโกหยิบมีดมาเชเต้ที่วางไว้บนชั้น และพูดด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์
คงจะเป็นของดูต่างหน้าของสามีผู้ล่วงลับที่ล่วงหน้าไปสวรรค์ก่อนแล้วแม้จะเสียใจที่ต้องใช้สิ่งนั้นเป็นอาวุธสำหรับป้องกันตัวเองแทนที่จะใช้ทำงาน แต่เธอก็จะพยายามทำเท่าที่ทำได้เพื่อที่จะปกป้องเหล่าเด็กๆยูโกและเมลต์จ้องมองภาพนั้น จากนั้นเซน่อนก็ส่งเสียงเรียก
「ทั้งสองคน ขอเวลาหน่อยได้ไหม? ฉันคิดว่าควรออกจากที่นี่แล้วเคลื่อนย้ายไปหมู่บ้านอื่น เราควรรายงานสถานการณ์ผิดปกตินี้แล้วร้องขอการดำเนินการจากหน่วยรักษาความปลอดภัย พวกเธอคิดว่าไง?」
「ฉันเองก็เห็นด้วย ทำศึกล้อมปราสาทที่นี่มันไม่มีวันสิ้นสุด อ๊ะ ไม่สิ เมื่อกี้ไม่ได้ล้อเล่นนะ」
「ฉันเองก็คิดอย่างนั้นนะ ถ้าหนีออกจากหมู่บ้านนี้ ลงไปข้างล่างภูเขายัมยัมละก็น่าจะไปถึงหมู่บ้านอื่นได้……」
หมอกมาจากข้างบนเขา หมายความว่าหากหนีไปทิศทางตรงข้ามละก็น่าจะปลอดภัยในระดับหนึ่ง
ถึงจะอยู่ในบ้านพักทั้งๆแบบนี้ฝูงชนก็คงผลักดันเข้ามาอยู่ดี หากไม่หนีออกจากหมู่บ้านโดยเร็วที่สุดอาจจะถูกกวาดล้างได้
เช่นเดียวกับเซน่อน ยูโกและเมลต์คิดว่าแผนที่ดีที่สุดคือการหลบหนีออกจากหมู่บ้านนี้ และเมื่อเห็นด้วยกับข้อเสนอของเขาเซน่อนก็พูดต่อ
「ดีใจที่เข้าใจนะ แต่แค่มันมีปัญหาอยู่หนึ่งเรื่อง ผู้คนที่อพยพทุกคนเป็นแค่เด็กกับคนแก่คงคาดหวังความเร็วในการเคลื่อนย้ายไม่ได้ การเคลื่อนย้ายพวกเขาในสถานการณ์วิกฤติแบบนี้มันอันตรายเกินไป」
「เฮ้ยๆ พูดอะไรน่ะ? คงจะไม่บอกว่าตั้งใจจะทิ้งคนเหล่านั้นไว้ที่นี่หรอกนะ? ฉันไม่เห็นด้วยเฟ้ย ถ้าเป็นแบบนั้นฉันจะรับหน้าที่คุ้มกันท้ายขบวนเองเพราะงั้นระหว่างที่ยื้อเวลาเอาไว้พวกนายก็ช่วยนำทางไปซะ」
「ถ้าอย่างนั้นฉันเองก็จะอยู่ด้วยละ ถ้าเป็นสองคนละก็ต้องเอาชนะได้อย่างแน่นอน!」
「……เอาน่า ใจเย็นๆก่อนสิ ฉันเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้น ที่ฉันอยากจะพูดคือแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มที่จะคอยหยุดฝูงชนอยู่ที่นี่กับกลุ่มที่จะลงเขาไปด้วยกันกับพวกชาวบ้านที่จะหนี มาแบ่งหน้าที่แล้วผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกันเถอะ」
หลังจากที่มองเมลต์ซึ่งยืนกรานในทันทีว่าจะอยู่ที่นี่ด้วยกันกับยูโก เซน่อนก็บอกแผนการของตนเองต่อพวกเขา
การหลุดพ้นจากสถานการณ์วิกฤตโดยไม่ทอดทิ้งใครเลยนั่นคงจะดีที่สุดแล้ว ยูโกที่ตัดสินใจเช่นนั้นพยักหน้าหนักแน่นเห็นด้วยกับสิ่งที่เซน่อนพูด
「อา เอาแบบนั้นแล้วกัน แบบนั้นก็ดีตามที่บอกไปเมื่อกี้ ฉันจะขอเข้าร่วมกลุ่มที่จะคอยยื้อเวลาให้ละ」
「ฉันเองก็จะทำแบบนั้นเหมือนกัน แล้วคนที่เหลือล่ะ?」
「ฉันกับสมาชิกที่ฉันเลือกจะเข้าร่วมกลุ่มหยุดการลุกคืบ ที่เหลือเป็นกลุ่มคุ้มกันชาวบ้านแล้วลงภูเขาไปก่อน ก็อยากพูดคุยเรื่องการแบ่งกลุ่มอย่างละเอียดอยู่หรอก……แต่ดูเหมือนจะพูดเรื่องนั้นไม่ได้」
「อา เหมือนจะอย่างนั้นละนะ」
ฝูงชนลุกไล่เข้ามาใกล้จะถึงตัวบ้านแล้ว ไม่มีเวลาประชุมไปมากกว่านี้แล้ว
เซน่อนที่หันมาหาออกคำสั่งกับพวกเขาและเหล่าชาวบ้านกับเหล่านักเรียนที่จ้องมองมาทางนี้เสียงดัง
「ทุกคนล่วงหน้าหนีไปก่อนเถอะ! ลงจากภูเขาแล้วไปรายงานสถานการณ์ฉุกเฉินนี้! พวกฉันจะอยู่ที่นี่แล้วคอยยื้อเวลาให้! เอาละรีบไปเถอะ!」
ในระหว่างที่เหล่านักเรียนซึ่งได้รับคำสั่งของเซน่อนเริ่มเคลื่อนไหว ยูโกก็จ้องมองไปที่ฝูงชนซึ่งลุกไล่เข้ามาทางนี้และกำหมัดแน่น
หมอกแดงยังอีกไกล เขาตัดสินใจว่าจนกว่าสิ่งนั้นจะมาถึงทางนี้ไม่ว่ายังไงก็จะต้องยื้อเวลาเอาไว้ใด้ หลังจากสูดหายใจเฮือกใหญ่ก็พูดขึ้นด้วยดวงตาที่เปล่งประกายท่ามกลางแสงจันทร์
「ศึกล่าถอยเหรอ ถึงจะเป็นสถานการณ์เสียเปรียบแต่มันคือฉากที่ศักยภาพที่แท้จริงของฮีโร่จะถูกแสดงออกมา เพื่อไม่ให้มีผู้ตกเป็นเหยื่อไปมากกว่านี้……ลุยละนะ!」
เขาตั้งหมัดที่กำแน่นไว้ตรงหน้า ใส่แรงจนส่งเสียงดังเปรี๊ยะๆ
เขาเงยหน้าขึ้นจ้องมองหมอกที่กำลังลุกไล่เข้ามาทางนี้ และเปิดใช้งานบลาสเตอร์พร้อมตะโกนคำพูดที่ใช้ประจำ
「แปลงร่าง!!」(เฮนชิน)