(นิยายแปล)ผลลัพธ์จากการที่โอตาคุผู้ชื่นชอบรายการเช้าวันอาทิตย์เกิดใหม่เป็นตัวร้ายทำให้ธงหายนะพังทลาย - ตอนที่ 69 แม้แต่เด็กผู้หญิงก็เป็นฮีโร่ได้!
- Home
- (นิยายแปล)ผลลัพธ์จากการที่โอตาคุผู้ชื่นชอบรายการเช้าวันอาทิตย์เกิดใหม่เป็นตัวร้ายทำให้ธงหายนะพังทลาย
- ตอนที่ 69 แม้แต่เด็กผู้หญิงก็เป็นฮีโร่ได้!
แม้แต่เด็กผู้หญิงก็เป็นฮีโร่ได้!
「ย้าาาาา!」
「กิ๊ซ ชู่ว……」
สัตว์เกราะมารรับการโจมตีแบบทุ่มสุดตัวของหญิงชรา มันส่งเสียงครวญครางพร้อมเลือดสีฟ้าที่ไหลออกมาจากสถานที่ที่ถูกฟัน
ทว่า แค่มีดมาเชเต้ธรรมดาไม่ได้สร้างความเสียหายใหญ่หลวง อีกฝ่ายตั้งท่าใหม่อีกครั้งในทันที
สัตว์เกราะมารเหวี่ยงแขนโจมตีสวนกลับในทันที หญิงชราที่ถูกปัดมีดมาเชเต้ปลิวกระเด็นไปร่างกายล้มไปด้านหลัง
เมลต์ที่เห็นสภาพนั้น รีบวิ่งเขาไปหาเธอและส่งเสียงเรียก
「ยาย ทำใจๆดีไว้! ไม่เป็นไรนะ!?」
「ยายไม่เป็นไรหรอก สำคัญกว่านั้น หนูพาพวกเด็กๆหนีไปเถอะ เพราะตรงนี้ยายแก่คนนี้จะเป็นตัวล่อแล้วยื้อเวลาให้เอง」
「แบบนั้นมัน!? พูดอะไรกันคะ!?」
「สิ่งต่างๆมีลำดับของตัวมันเอง พวกหนูคนหนุ่มสาวไม่จำเป็นต้องทำเกินตัวและเสี่ยงชีวิต ยายใช้ชีวิตมาพอแล้ว หากได้ใช้ชีวิตนี้เพื่อพวกหนูละก็สมใจแล้วละ ยายจะไปพบกับตาที่ล่วงหน้าไปรอก่อนน่ะ」
หญิงชราลุกขึ้นยืนโซเซ กำหมัดแน่นเข้าท้าทายสัตว์เกราะมารเพื่อเมลต์และเหล่าเด็กๆ
เมลต์ที่ได้เห็นภาพนั้นสูดหายใจเฮือกใหญ่ คิดพร้อมกับกัดฟันต่อความใจเสาะของตนเอง
(ยัยบ้าเอ๊ย……! ทั้งที่ยายที่ไร้พลังต่อสู้พยายามหยุดสัตว์เกราะมารอย่างเอาเป็นเอาตายแท้ๆ แต่กลับเอาแต่วิตกกังวลว่าไม่รู้จะทำยังไง……คนที่มีเป้าหมายจะเป็นอัศวินวิถีเวทเพื่อปกป้องผู้คนจะมาเผยสภาพใจเสาะแบบนี้ให้เห็นไม่ได้!)
ความฝันของตนเองคือการเป็นอัศวินวิถีเวท เป็นดาบอันแข็งแกร่งที่ปกป้องผู้คน
เพราะไม่มียูโกอยู่ข้างๆ เพราะตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤต เพราะไม่รู้จะทำอะไรดีก็เลยขยับตัวไม่ได้ มันไม่มีทางจะแก้ตัวแบบนั้นได้
ต่อสู้จนถึงที่สุดของที่สุด เพื่อเหล่าผู้คนที่ควรปกป้อง ตามความภาคภูมิใจของอัศวินวิถีเวท
เงื่อนไขของฮีโร่ข้อที่หนึ่ง……ห้ามยอมแพ้เด็ดขาด เมลต์ที่นึกถึงคำพูดของยูโกได้เข้าไปยืนอยู่เบื้องหน้าหญิงชราที่พยายามจะต่อกรกับสัตว์เกราะมารและพูดกับเธอ
「ยาย ถอยไปเถอะ ไม่เป็นไร หนูจะไม่แพ้เด็ดขาด หนูน่ะ เพราะหนู่น่ะ……เป็นฮีโร่ยังไงล่ะ!」
เมลต์ทุ่มเทจิตวิญญาณยิงดาบพลังเวทเข้าใส่สัตว์เกราะมารปูที่กำลังพ่นฟองออกจากปากพร้อมส่งเสียงอันไม่พึงประสงค์
ทว่าการโจมตีนั้นกระทบเข้ากับเปลือกที่แข็งและไม่สามารถสร้างความเสียหายได้มากนัก
แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังคงให้กำลังใจตนเองว่าอย่ายอมแพ้ และคิดให้ลึกขึ้นเพื่อหาวิธีฝ่าฟันจนถึงทางออก และแล้วเธอก็รู้สึกได้ถึงสิ่งนั้น
(ใช่แล้ว การโจมตีของยายเมื่อกี้ ทะลุผ่านเจ้านั่นได้ หรือว่า……!)
การโจมตีด้วยมีดมาเชเต้ที่ไม่ได้ใส่พลังเวทจากหญิงชราที่ไร้พลัง และไม่มีอะไรพิเศษ ทว่าสิ่งนั้นกลับทำให้สัตว์เกราะมารเลือดไหลออกมาจริงๆ
ได้ยังไงกัน……เมื่อคิดหาสาเหตุของสิ่งนั้น เมลต์สังเกตเห็นว่าเลือดสีฟ้าได้ไหลออกมาจากช่องว่างระหว่างเปลือกของสัตว์เกราะมาร
จริงอยู่ที่เปลือกของปูนั้นแข็ง แต่มันมีช่องว่างระหว่างเปลือกด้วยกันอยู่
เพราะการโจมตีของหญิงชราก่อนหน้านี้ได้บังเอิญเข้าไปที่ช่องว่างนั้นพอดี จึงสร้างความเสียหายให้กับอีกฝ่ายได้……เมลต์ที่มองเห็นทางออกเช่นนั้นได้เตรียมใจพร้อมเริ่มถ่ายเทพลังเวทเข้าสู่ซอร์ด ริง
(การขว้างปาจากระยะไกลใช้ไม่ได้ เล็งไปที่ช่องว่างเปลือกของอีกฝ่ายด้วยดาบพลังเวทที่บางและคมสุดขีดแล้วกัน!)
บอกตรงๆว่ากลัว หัวใจของเมลต์ที่เพิ่งได้เห็นสภาพที่เซน่อนถูกทุบตีมีความหวาดกลัวต่อสัตว์เกราะมารอยู่
ทว่า เธอรู้ดีว่าการต่อสู้และก้าวข้ามสิ่งนั้นนั่นแหละคือหน้าที่ของอัศวินวิถีเวท หน้าที่ของฮีโร่ เธอจับดาบที่สร้างขึ้นแล้วเข้าท้าทายสัตว์เกราะมาร
「ย้าาาา!!」
「กิ๊ซ……」
สัตว์เกราะมารโจมตีสกัดกั้นด้วยกรงเล็บอันหนักหน่วงเข้าใส่เมลต์ที่เข้ามาใกล้
ทว่าเธอมองการเคลื่อนไหวอันเชื่องช้านั้นออก เนื่องจากเป็นวงสวิงใหญ่จึงใช้ประโยชน์จากช่องว่างที่ศัตรูสร้างขึ้นแทงดาบสีม่วงเปล่งประกายเข้าใส่ช่องว่างของเปลือกระหว่างแขนกับไหล่
(กะแล้ว! เจ้านี่อ่อนแอกว่าตัวที่ยูโกสู้! การเคลื่อนไหวเองก็ช้า มองออกได้ง่ายๆ!)
เมลต์เเหวี่ยงดาบที่แทงเข้าไปลง ตัดแขนของสัตว์เกราะมารลงไปครึ่งแขน
ตัวที่รัชกลายร่างจะงอกแขนออกมาใหม่ได้ในทันที……แต่ตัวนี้ทำแบบนั้นไม่ได้และปล่อยแขนที่ห้อยลงมาไว้ทั้งแบบนั้น
ทั้งเทคนิคต่อสู้ ทั้งความสามารถที่มี ทั้งหมดต่ำกว่าตัวที่เคยเผชิญหน้าก่อนหน้านี้ สัตว์เกราะมารนี้เป็นตัวที่อ่อนแอลงอย่างมาก
「ทำได้แน่ ถ้าเป็นแบบนี้ละก็!」
「ก๊าซ……」
เหวี่ยงดาบอีกครั้งโดยเล็งไปที่แขนซึ่งกำลังจะขาด ด้วยเหตุนั้นแขนซ้ายของสัตว์เกราะมารจึงขาดออกจนหมด
เมลต์เห็นอีกฝ่ายที่กำลังตกใจพร้อมจ้องไปที่ตรงนั้นโดยไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นในขณะที่เลือดสีฟ้าพุ่งออกมาจากไหล่ จึงพยักหน้าอย่างแรงและมั่นใจว่าความคิดของตนเองนั้นถูกต้อง
ถึงเธอจะไม่มีทางรู้แต่ในโลกของโทกูซัตสึมีกฏที่เข้ากับสถานการณ์เช่นนี้อยู่
『ไคจินที่เกิดใหม่นั้นจะอ่อนแอกว่าออริจินอล』……หากยูโกอยู่ในสถานที่แห่งนี้ คงจะพูดเช่นนั้นอย่างแน่นอน
เมลต์กลับสู่ความเยือกเย็นเมื่อเห็นว่าพลังของตนเองสามารถต่อกรกับคู่ต่อสู้ได้ เมื่อตั้งท่าดาบอีกครั้งก็จ้องมองไปยังสัตว์เกราะมาร
ทว่า……ในเวลาเดียวกันเธอรู้สึกได้ว่าพวกตนเองกำลังถูกต้อนจนมุมอย่างช้าๆ
(คนที่พอจะต่อสู้ได้มีแค่ฉันไม่เหลือใครแล้ว ถึงจะโค่นสัตว์เกราะมารตัวนี้ได้ แต่จะทำอะไรสักอย่างกับพวกคนที่แปลกไปพร้อมกับพาพวกยายไปส่งยังเขตปลอดภัยได้รึเปล่า……?)
เหล่าพวกพ้องที่ตกอยู่ในสภาพตื่นตระหนกเพราะความพ่ายแพ้ของเซน่อน ทุกคนหนีไปจากสถานที่แห่งนี้หรือไม่ก็ถูกพาเข้าไปในหมอกไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
คนที่เหลืออยู่มีแค่เมลต์ เธอไม่มีทางต่อสู้และคุ้มกันพร้อมกันเพียงลำพังคนเดียวได้อยู่แล้ว
แถมสถานการณ์ดูเหมือนจะยิ่งเลวร้ายขึ้นไปอีก……?
「ปิ้วกี้!!」
「อึก!? สัตว์เกราะมารตัวใหม่!? ไม่จริงน่า……!」
เมื่อรู้สึกว่าได้ยินเสียงกรีดร้องจากภายในหมอก สัตว์เกราะมารที่ดูเหมือนจะอยุ่ในสภาพแปลกๆก็พุ่งตัวออกมาจากภายในนั้น
สัตว์อสูรที่เป็นร่างรวมของเห็ดกับผึ้ง สัตว์เกราะมารที่เป็นบอสของคำร้องนี้ โทดสตริงเกอร์
สัตว์เกราะมารปู โทดสตริงเกอร์และผู้คนที่กลายเป็นฝูงชน สถานการณ์ที่ต้องปกป้องผู้คนในขณะที่รับมือกับคู่ต่อสู้ทั้งสามนั้นช่างน่าสิ้นหวัง
ทว่า เมลต์ไม่ยอมแพ้ กำดาบที่สร้างขึ้นมาแน่น และร้องตะโกนส่งไปถึงผู้คนที่อยู่ข้างหลัง
「ทุกคน อย่ายอมแพ้! ได้โปรดเชื่อในตัวฉัน! ฉันจะ……ปกป้องทุกคนให้ได้อย่างแน่นอน!!」
จะสิ้นหวังงั้นหรือ จะยอมแพ้งั้นหรือ จะต่อสู้ฝ่าฟันจนถึงที่สุดของที่สุด
เมลต์ไร้ซึ่งความสิ้นหวัง แต่แค่กระตุ้นตัวเองด้วยความรู้สึกที่จะปกป้องผู้คนที่อยู่ข้างหลัง และในตอนที่พยายามเข้าท้าทายกับศัตรูซึ่งลุกไล่เข้ามานั้นเอง
「รอเดี๋ยวเซ่! ไอ้เจ้าไคจินเห็ดนี่!!」