(นิยายแปล)ผลลัพธ์จากการที่โอตาคุผู้ชื่นชอบรายการเช้าวันอาทิตย์เกิดใหม่เป็นตัวร้ายทำให้ธงหายนะพังทลาย - ตอนที่ 8 ทำไมน้องถึงเชื่อใจพี่ล่ะ
- Home
- (นิยายแปล)ผลลัพธ์จากการที่โอตาคุผู้ชื่นชอบรายการเช้าวันอาทิตย์เกิดใหม่เป็นตัวร้ายทำให้ธงหายนะพังทลาย
- ตอนที่ 8 ทำไมน้องถึงเชื่อใจพี่ล่ะ
ทำไมน้องถึงเชื่อใจพี่ล่ะ?
「ขอโทษนะฟี่ นอกจากจะทำให้เจอเรื่องอันตรายแล้วยังทำให้ไม่ได้กินมื้อเที่ยงอย่างสงบใจด้วยน่ะ……」
「ไม่ต้องคิดมากหรอก พี่ก็บอกเองนี่นา ว่าที่ผิดคือเจ้าพวกนั้น……สำคัญกว่านั้น การใช้บลาสเตอร์ได้ถึงขนาดนั้น สุดยอดจริงๆเลยละ! ทั้งที่ตั้งแต่ที่ให้ไปก็ยังไม่ถึงวันเลยแท้ๆแต่สามารถยิงกระสุนพลังเวทออกมาได้เนี่ย สมกับเป็นพี่จริงๆ!」
หลังจากนั้นสักพัก ทั้งสองคนที่ซื้อขนมปังที่ร้านสะดวกซื้อ ก็กำลังกินมื้อเที่ยงอยู่ที่มุมหนึ่งของสวนซึ่งเป็นที่พักของยูโกในปัจจุบันเพื่อซ่อนจากสายตาของผู้คน
ฟี่เปลี่ยนหัวข้อสนทนาพร้อมกับเปลี่ยนตำแหน่งคนที่ถูกให้กำลังใจเป็นคนให้กำลังใจ ชื่นชมความสำเร็จของยูโกที่ได้เห็นในการประลองก่อนหน้านี้ด้วยเสียงดังลั่น
ยูโกไม่เข้าใจว่ามันน่าทึ่งขนาดไหนยิ้มออกมาอย่างคลุมเครือ จากนั้นก็ถามน้องชายถึงเรื่องที่เขาคาใจเล็กน้อย
「นี่ ฟี่ เกราะนี้มันเป็นของตกรุ่นจริงๆเหรอ? ถึงมันจะไม่ได้ป้องกันอย่างสมบูรณ์ก็เถอะ แต่การที่มันสามารถเผด็จศึกคู่ต่อสู้ที่สวมเกราะที่คล้ายกันได้ในนัดเดียว ไม่ใช่ว่ามันเป็นของที่ค่อนข้างสุดยอดเลยเหรอ?」
「ไม่ใช่แบบนั้นหรอก เดิมทีตัวของอุปกรณ์เวทประเภทเกราะทั้งตัวมันอ่อนแอ บลาสเตอร์นั่นมันเป็นของตกรุ่นผลิตจำนวนมากที่ถูกพัฒนาขึ้นเมื่อหลายสิบปีก่อนนะ?」
「เอ๊ะ? เป็นงั้นหรอกเหรอ? ทั้งที่ดูเท่ขนาดนี้และมีพลังป้องกันสูงแท้ๆ ทำไมถึงได้คิดแบบนั้นล่ะ?」
ยูโกตกใจต่อคำพูดของฟี่ที่บอกว่าอุปกรณ์เวทประเภทเกราะทั้งตัวนั้นอ่อนแอเมื่อถามถึงเหตุผลนั้น เขาก็ช่วยอธิบายคำถามนั้นอย่างละเอียด
「ก็จริงตามที่พี่บอก อุปกรณ์เวทประเภทเกราะทั้งตัวนั้นมันมีพลังป้องกันแต่ว่า……มันไม่ได้ยกระดับขึ้นอย่างก้าวกระโดดเลย แรกเริ่มเดิมทีถ้าเป็นอัศวินวิถีเวทฝึกหัดที่หมั่นฝึกซ้อมต่อสู้ ก็สามารถกางบาเรียพลังเวทปกป้องร่างกายได้อยู่แล้ว นอกจากจะแข็งเทียบเท่ากับสวมชุดเกราะแล้วยังสามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ดีกว่าสวมชุดเกราะด้วยเพราะงั้นก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องลำบากไปสวมชุดเกราะหนักๆเลยใช่ไหมล่ะ?」
「อื~ม พอถูกบอกแบบนั้นมันก็จริงแฮะ……แต่ว่า อุปกรณ์เวทมันพัฒนาต่อเนื่องเรื่อยๆใช่ไหมล่ะ? ถ้างั้นแค่สร้างอุปกรณ์เวทประเภทเกราะแบบใหม่ที่ใช้โลหะที่เบาและทนทานก็พอไม่ใช่เหรอ」
「เนื่องจากการบีบอัดพลังเวทเข้าไปในโลหะจะทำให้เกิดความทนทานและความยืดหยุ่น ดังนั้นจึงมีการฝังคริสตัลลงไปเพื่อให้เกิดการส่งผ่านพลังเวท……ถ้าเปรียบเทียบการสร้างดาบหนึ่งเล่มกับชุดเกราะหนึ่งชุดเป็นกระบวนการเดียวกัน มันต้องใช้ทั้งเวลาและความพยายามทั้งวัสดุเป็นจำนวนมาก ไม่เหมาะกับการผลิตจำนวนมากด้วย ถึงแม้จะทำการพัฒนาอุปกรณ์เวทแบบสั่งทำพิเศษแต่ด้วยต้นทุนที่เท่ากันผลิตแบบหลายประเภทมันดีกว่านะ ที่เหลือก็นะ เป็นความต่างเรื่องความสะดวกแบบเรียบง่ายละมั้ง ถึงบลาสเตอร์จะสามารถหุ้มมือและขาทั้งสองข้างด้วยพลังเวทได้แต่มันก็ไม่มีฟังก์ชั่นไปมากกว่านั้นแล้ว ถ้าต้องใช้อุปกรณ์เวทอันอื่นเพื่อยิงโจมตี ก็ไม่มีความหมายที่จะต้องสวมเกราะเลยใช่ไหมล่ะ?」
「……ขอบคุณที่ช่วยอธิบายนะ แต่ว่ารู้สึกเหมือนมองเห็นความจริงอันเจ็บปวดยังไงไม่รู้……」
「 อุปกรณ์เวทประเภทเกราะมันไม่ได้สูญหายไปหมดซะทีเดียวหรอกนะ ในหมู่ตระกูลอันทรงเกียรติก็มีการส่งต่ออุปกรณ์เวทประเภทเกราะที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยโบราณด้วยนะ」
ถึงฮีโร่แปลงร่างมันจะเท่ แต่ในโลกที่ผู้คนสามารถแข็งแกร่งขึ้นได้แม้ไม่ต้องแปลงร่างเลยให้ความสำคัญกับทางประสิทธิภาพมากกว่ารูปลักษณ์ภายนอก
ยูโกรู้สึกเสียใจต่อความจริงที่ไม่มีความโรแมนซ์อยู่เลย และถามฟี่ที่กำลังช่วยปลอบใจตนเองอีกหนึ่งเรื่อง
「นี่ ฟี่……ทำไมนายถึงได้ใจดีกับฉันที่เป็นแบบนี้ล่ะ? ถึงจะรู้สึกผิดที่ต้องพูดแต่ฉันเป็นคนที่ถูกเกลียดที่สุดในสถาบันใช่ไหมล่ะ? ทั้งอย่างนั้นทำไมนายถึงได้ดีด้วยขนาดนี้ล่ะ?」
「……เพราะพี่สำหรับผมคือผู้มีพระคุณน่ะ แต่เพราะสูญเสียความทรงจำอยู่คงจะจำไม่ได้ เพราะคนที่ใจดีกับผมเป็นคนแรกสุดในตระกูลนั้นคือพี่ยังไงล่ะ……」
ถึงจะยังเป็นช่วงเวลาสั้นๆหลังจากที่ได้มาเกิดใหม่เป็น ยูโก เคลย์ แต่ชีวิตจนถึงตอนนี้ยูโกเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ว่าตนเองถูกเกลียดจากคนรอบข้างขนาดไหน
นักเรียนในหอหักเองก็ใช่ คนที่ตะโกนก่นด่าในระหว่างการประลองเองก็ใช่ แม้ว่ามาร์กอสจะมีปัญหาเช่นเดียวกันแต่ก็ยังแสดงพฤติกรรมที่เข้าใจได้ว่าเกลียดตนเองอย่างชัดเจน มีแค่เพียงฟี่เท่านั้นที่ชื่นชมเขา
เมื่อถามคำถามที่ค้างคาใจมาตั้งแต่เมื่อวานกับฟี่ว่าทำไมถึงใจดีกับตนเองเขาก็เริ่มตอบคำถามนั้นอย่างเงียบๆ
「ผมน่ะร่างกายอ่อนแอ ไม่ใช่ลูกของภรรยาหลัก เกิดมาโดยไม่มีพรสวรรค์ในการเป็นอัศวินวิถีเวท เป็นความล้มเหลว เพราะแบบนั้นเลยได้รับการปฏิบัติอย่างเย็นชาจากคุณพ่อคุณแม่ ผมเองก็คิดขึ้นมาว่าตัวเองเป็นตัวตนไร้ค่าเหมืนกัน แต่ว่าพี่ช่วยเปลี่ยนผมที่เป็นแบบนั้นน่ะ」
「ฉันเหรอ?」
「อืม ถึงนายจะไม่มีพรสวรรค์ในการเป็นอัศวินวิถีเวท แต่มีพรสวรรค์ในฐานะนักวิจัย รุ่งอรุณที่ฉันได้สืบทอดตระกูลจะให้นายมารับหน้าที่เป็นมือขวาของฉัน ช่วยพูดแบบนั้นกับผมที่เป็นลูกของภรรยารอง ผมดีใจมากเลย……มีคนที่ยอมรับผมที่เป็นแบบนี้อยู่ ผมมีความสุขจริงๆที่พี่พูดแบบนั้น จะกลายเป็นคนที่คู่ควรกับการเป็นมือขวาของพี่ให้ได้ เพราะมีเป้าหมายจึงมีความพยายามขึ้นมา เพราะเหตุนั้นผมจึงเข้ามาที่สถาบันการศึกษาลูกมินัส ถ้าไม่มีพี่อยู่ ตอนนี้ผมคงใช้เวลานั่งกอดเข่าอยู่ในบ้านที่ไม่มีที่สำหรับผมไม่ผิดแน่ คนที่ทำให้ผมในตอนนี้รู้สึกขอบคุณที่มีชีวิตแบบนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะพี่」
ฟี่จ้องมองยูโก ตอบคำถามพร้อมกับหวนนึกถึงอดีตและสถานการณ์ของตนเอง
ยูโกมองเห็นความรู้สึกขอบคุณและความไว้วางใจที่ไม่สั่นคลอนในดวงตาคู่นั้น เขายิ้มให้ยูโกและพูดขึ้น
「พี่เท่สุดๆเลยละ พี่ที่บอกว่าไม่มีทางแพ้เด็ดขาดแล้วชนะได้จริงๆเท่สุดๆไปเลย ผมน่ะจะเชื่อพี่ไปตลอดต่อไปเรื่อยๆนะ ถ้าทำอย่างนั้นพี่ก็จะชนะต่อไปเรื่อยๆใช่ไหมล่ะ? ถึงแม้จะมีสถานการณ์ยากลำบากในตอนนี้ ถึงแม้จะมีเสียงก่นด่าจากผู้คนรอบข้าง พี่ก็จะไม่มีวันแพ้ เพราะผมเชื่อแบบนั้น」
「ฟี่……」
ยูโกรู้สึกทึ่งและประทับใจต่อคำพูดอันกินใจของน้องชายที่เชื่อมั่นในตนเองถึงแม้จะถูกเรียกว่าสวะต่ำช้าจากรอบข้างก็ตาม
เขาซึ่งได้รับพลังจากสายตาอันเข้มแข็งของฟี่ที่เชื่อมั่นในตัวพี่ชายว่าจะเปิดอนาคตใหม่และจะไม่แพ้แม้จะมีสถานการณ์อันยากลำบาก ยิ้มออกมาพร้อมทั้งลูบหัวน้องชายแล้วพูดขึ้น
「งั้นเหรอ……ถ้างั้น ฉันเองก็จะท้อแท้ไม่ได้แล้วละนะ เพื่อกลายเป็นคนที่ไม่ว่าใครก็ต่างยอมรับ เพื่อกลายเป็นพี่ใหญ่ที่นายรู้สึกภาคภูมิใจได้ ต้องมุ่งหน้าต่อไปเรื่อยๆ」
「เป็นได้แน่นอนอยู่แล้วละ! ผมรับประกันเลย พี่ไม่ใช่ทั้งสวะทั้งคนที่ชั่วร้ายที่สุด เพราะสำหรับผมพี่คือฮีโร่ยังไงล่ะ……!」
ได้เกิดใหม่ต่างโลก ยังเป็นเวลาที่ผ่านไปไม่ครบวัน บอกตามตรงว่ายังไม่ได้คิดว่าจะทำอะไรในโลกนี้
แต่ว่า ตอนนี้……รู้สึกว่าอยากจะตอบสนองต่อความคาดหวังและความเชื่อมั่นของน้องชายที่เชื่อใจตนเองอย่างบริสุทธิ์ไร้เดียงสานี้
ยูโกยิ้มออกมาและลูบหัวฟี่ผู้อ่อนโยนพร้อมกับเชื่อมั่นในอนาคตของตนเองว่าถึงแม้จะเป็นการเริ่มต้นจากศูนย์ที่สูญเสียทุกอย่างแต่ก็น่าจะสามารถเริ่มต้นใหม่ได้อย่างแน่นอน