[นิยายแปล] ร้านป้ายแดงของสาวนักแปรธาตุมือใหม่ - ตอนที่ 37 [1] เสียงเล่าจากสายลม [Part 9]
- Home
- [นิยายแปล] ร้านป้ายแดงของสาวนักแปรธาตุมือใหม่
- ตอนที่ 37 [1] เสียงเล่าจากสายลม [Part 9]
โชคดีที่ถึงพวกเขาจะหันหลังจากไปแล้ว ตัวจ่าฝูงก็ไม่ได้ขยับตัวหรือละสายตาออกไปจากฉันเลย
“คุณไอริส ช่วยหลบไปก่อนนะคะ”
“…เข้าใจแล้วค่ะ”
คุณไอริสเงียบไปครู่นึงหลังจากที่ฉันพูดไปแบบนั้น ก่อนจะพยักหน้าตอบอย่างเศร้าๆ แล้วก็ถอยไปจากข้างตัวฉันช้าๆ
อาจจะเพราะฉันเป็นคนเดียวที่เผชิญหน้ากับตัวมันตรงๆ แล้ว ตัวจ่าฝูงก็เริ่มขยับตัวหน่อยๆ แต่ฉันเองก็ขยับตัวออกมาจากคนอื่นๆ แล้วก็ทิ้งระยะห่างออกมาเหมือนกัน
บางทีอาจจะหมดความอดทนกับการเคลื่อนไหวของฉันแล้วก็ได้ เจ้าตัวจ่าฝูงถึงได้อ้าปากออกกว้าง
พ่นไฟสินะ
มันจะอันตรายแค่ไหนก็ขึ้นกับสถานการณ์ แต่ถ้าฉันเจอกับมันแบบ 1 ต่อ 1 ฉันก็รับมือได้อยู่
“{วอเตอร์บอล (ลูกบอลน้ำ)} !”
ลูกบอลน้ำขนาดประมาณหัวของฉันก็พุ่งกระแทกเข้าไปในปากที่อ้าจนกว้างของมัน
*กุอั๊ก!*
น้ำที่สำลักขึ้นมาไหลทะลักออกทางจมูก จนเจ้าตัวจ่าฝูงก็ร้องออกมาด้วยเสียงที่เจ็บปวดเลย
ฉันกระโดดเข้าไปในช่องว่างตรงนั้น แล้วก็เหวี่ยงดาบของตัวเอง―――แต่ มันตื้นไป
จากแขน 4 ข้างของมัน ฉันฟันแขนซ้ายล่างของมันไปได้ครึ่งนึง แต่ก็ไปไม่ถึงส่วนลำตัว
เดิม ฉันตั้งใจเล็งไปที่คอของมันนะ แต่ความสูงของมันอยู่เลยหัวฉันขึ้นไปเยอะเลย
ถ้ามันก้มตัวลงต่ำ แล้ววิ่งถลาเข้ามาก็คงดี แต่มันอาจจะจำได้ว่าเฮล เฟลม กริซลีตัวแรกตายได้ยังไงก็ได้ ขนาดแขนของมันถูกฟันไปแบบนั้น มันก็ไม่ได้ก้มหัวลงมาซักนิดเดียวเลย
ดูท่ามันจะไม่ใช่สถานการณ์ที่จะเรียกว่าเป็นวัตถุดิบได้แล้วนะ
ถึงดาบที่ฉันถืออยู่อาจจะดีมาก แต่ถ้าฉันโดนแขนหนาปึกนั่นตบเข้าใส่แค่ครั้งเดียว ทุกอย่างก็จบเลย
ถ้าฉันไม่เหลือแรง ไม่สามารถเสริมแกร่งร่างกายได้ ก็จบเหมือนกัน
ยังดีที่คนอื่นๆ เองก็พยายามกันอย่างเต็มที่ แล้วก็ไม่เข้ามาขวางกันเลย
“―――!”
เจ้าตัวจ่าฝูงเคลื่อนไหวแล้ว
แขนข้างนึง เหวี่ยงจากจุดที่สูงเหนือจากหัวของฉันลงมา
พอฉันรีบหลบแขนนั่น กรงเล็บที่แหลมคมของมันก็ทะลวงลงไปในดิน ก่อนที่ดินและหินก็แตกกระจายพร้อมกับเสียง *ตู้ม* ยังกับว่าพื้นดินโดนระเบิดลงยังไงยังงั้น
ถึงความเจ็บปวดที่วิ่งใส่ที่ตัวจะทำเอาฉันขมวดคิ้วเข้าหากัน ฉันก็ก้าวเข้าไป และก็ยกดาบขึ้น
ตัวจ่าฝูงก็พยายามจะดึงแขนออกเหมือนกัน แต่ก็ช้าเกินไปหน่อยแล้ว
แขนข้างบนขวาของมันที่ตัดจนขาดออกมาอย่างสมบูรณ์ ก่อนที่แขนข้างหนึ่งที่ใหญ่พอๆ กับตัวเด็กคนนึงก็กลิ้งไปตามพื้น
*โฮกกกกก!*
โกรธสินะ เจ็บสินะ
เจ้าจ่าฝูงบิดตัวไปมา พร้อมกับทำให้เลือดไหลทะลักออกมาจากแขนที่ขาดไปครึ่งนึงของมัน
ทีนี้ ก็เหลือแขนแค่ 2 ข้างแล้ว
พลังโจมตีคงลดไปครึ่งนึงล่ะมั้ง?
ไม่สิ ดูจากปริมาณเลือดที่ไหลออกมาแล้ว อาจจะเหลือน้อยกว่านั้นก็ได้
แต่ฉันก็ยังประมาทไม่ได้
สำหรับฉันแล้ว จะตายหรือเปล่า นั่นก็เหวี่ยงซ้ายสุดขวาสุดเลย ถ้าฉันโดนมันตะปบเข้าไป ฉันก็ยังตายอยู่ดี
ถ้าเป็นจะแบบนี้ ฉันน่าจะเตรียมเกราะเอาไว้ซักประมาณนึงนะ
แต่ว่า เรื่องนั้นมันก็สายเกินแก้แล้ว
เอาชีวิตรอดจากวันนี้ เพื่อให้เห็นวันพรุ่งนี้ให้ได้
“{ฟอร์ซ บุลเล็ต (กระสุนพลัง)} !! {ฟอร์ซ บุลเล็ต (กระสุนพลัง)} !!”
ฉันทิ้งระยะห่างจากตัวจ่าฝูงที่อาละวาดออกมาอีกเล็กน้อย และยิงเวทมนตร์โจมตีใส่เข้าไปรัวๆ
ความแตกต่างทางร่างกายมันมากเกินไป ถ้าเกิดมันไม่ล้ม มันก็ยากที่จะสร้างแผลฉกรรจ์ได้
เจ้าตัวจ่าฝูงที่ถูก {ฟอร์ซ บุลเล็ต (กระสุนพลัง)} ยิงเข้าไป 2 นัดอย่างรุนแรงที่ปลายจมูกของมัน คางของมันถูกซัดจนเงยในนัดแรก แล้วนัดที่ 2 ก็ทำให้มันเซไปข้างหลังได้เยอะ
ฉันก้าวเข้าไปในจังหวะนั้นเลย
ขาที่ไร้การป้องกัน เล็งไปตรงนั้นนี่แหละ
ฉันฟันขาซ้ายออกไปได้ทั้งหมด ส่วนขาขวา ฉันก็ฟันไปได้ครึ่งนึง ก่อนจะทิ้งระยะห่างออกมาไกล
*ตึ้ม!*
เฮล เฟลม กริซลีตัวจ่าฝูงก็ล้มหงายหลังลงไป สร้างเสียงกระแทกแน่นทึบดังออกมา
แขน 1 ข้างกับขา 1 ข้างขาดออกไปเลย แล้วก็มีแขน 1 ข้างกับขา 1 ข้างถูกฟันไปครึ่งนึง
ปริมาณเลือดที่ไหลทะลักออกมาจากตรงนั้นค่อนข้างเยอะ แบบที่สามารถเห็นได้ทันทีเลยว่าบริเวณรอบตัวจ่าฝูงก็เป็นแอ่งเลือดเลย แล้วการเคลื่อนไหวของตัวจ่าฝูงก็ช้าลงไปเหมือนกัน
“แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก…”
ฉันใช้มือทั้ง 2 ข้างค้ำเข่าที่สั่นไปหมดเอาไว้ ก่อนจะหยิบเอาโพชั่นฟื้นฟูกำลังกายออกมาจากกระเป๋าที่เอวของตัวเองโดยไม่ละสายตาจากเจ้าตัวจ่าฝูงเลย
อือ รสชาติแย่จัง
ไม่ใช่ว่าดื่มไม่ได้หรอก แต่เหนื่อยขนาดนี้ ถ้ามันมีรสหวานๆ หน่อยก็ดีสิ
ถ้าทำให้เจ้านี่อร่อยซักหน่อย อาจจะขายดีก็ได้
นั่นก็เป็นมุมมองของผู้ใช้ล่ะนะ
ระหว่างที่ฉันรู้สึกว่าแรงกายค่อยๆ ฟื้นคืนมาทีละนิดๆ ฉันก็ไปตรวจสอบที่เจ้าตัวจ่าฝูงที่หยุดเคลื่อนไหวไปแล้ว ถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วก็มอบไปรอบๆ
การต่อสู้ยังดำเนินอยู่เลย
เจ้าหมีแต่ละตัวถูกล้อมไว้ด้วยคน 3-4 คนช่วยกันจัดการ แล้วก็ไม่มีใครเจ็บสาหัสถึงชีวิตเลย แต่ก็ดูจะมีหลายคนที่หลบออกไปแล้วเหมือนกัน
ถึงจะมีโพชั่น (ยาแปรธาตุ) ไว้ใช้รักษาอาการบาดเจ็บ แต่มันก็ไม่ได้ช่วยฟื้นฟูกำลังกายกลับมาด้วย แล้วก็เพราะวัตถุดิบที่มีอยู่ พวกเราก็เลยกระจายโพชั่นฟื้นฟูกำลังกายได้มากเท่าไหร่
“ตอนนี้ก็ โจมตีทีเผลอจากข้างหลัง แล้วก็ลดจำนวนลงป-―――”
*ปรี๊ด―! ปรี๊ด―! ปรี๊ด―!*
“อีกแล้ว!? แล้วครั้งนี้―――อึก”
เสียงนั้นที่ฉันได้ยิน ดังมาจากทางบ้านของฉันเองเลย
บ้านของคุณแจสเปอร์ก็อยู่ทางนั้นด้วย แต่ไม่ใช่แค่คุณแจสเปอร์นะ คุณเอลลิสเองก็ออกมาช่วยที่นี่เหมือนกัน แสดงว่า คนเดียวที่อยู่แถวนั้นก็―――
“โลเรียจัง!”
“คุณผู้จัดการคะ! ไปได้เลยค่ะ!”
“แต่ว่า!”
“นายท่านผู้จัดการ! พวกเราจัดการที่เหลือได้ค่ะ!”
“โอ้! ผู้ชายหน้าไหนที่ช่วยอะไรแบบนี้ไม่ได้ ก็ไม่ใช่ผู้ชายแล้ว! ใช่มั้ย!”
“““แน่อยู่แล้ว!”””
คุณแจสเปอร์ตอบรับคำพูดของคุณไอริส ก่อนที่นักเก็บสะสมคนอื่นๆ จะร้องตะโกนกู่ก้องกัน
“――ขอฝากด้วยนะคะ!”
ฉันวิ่งฝ่าพวกซากเฮล เฟลม กริซลี แหวกทางมุ่งหน้ากลับไปที่บ้าน
ฉันก็คิดไว้แล้วว่าจะมีผิดแผนไปบ้าง แต่ไม่เคยคิดเลยว่ามันจะมาที่บ้านของฉันเองแบบนี้น่ะ
ไม่ใช่ว่าไม่ได้คิดหรอกนะ เพราะข้างหลังบ้านก็หันเข้าชนกับป่าเลย―――
ฉันวิ่งตัดผ่านป่า ผ่านบ้านของคุณเอลลิส จนมาถึงหลังบ้านของฉัน
“―――อ๊า!!”
รั้วใหม่เอี่ยมที่พวกคุณเกเบิร์กเพิ่งทำให้เมื่อไม่นานนี้เอง
ข้างหลังนั่น ประตูรั้วที่ทำเพื่อให้เดินเข้าเดินออกได้สะดวก แต่ตอนนี้ มันแตกเป็นชิ้นๆ มีรอยจากกรงเล็บขนาดใหญ่ทิ้งเอาไว้ด้วย กระจายไปบนพื้นอย่างน่าอนาถเลย
แถม ยังมีร่องรอยความเสียหายอยู่ที่กำแพงรอบๆ ด้วย
“บ้าที่สูดดดดด! ต้องลำบากขนาดไหนรู้มั้ยเนี่ย!”
พอฉันรีบเหยียบเข้าไปในสวนหลังบ้าน สิ่งที่กระจายเกลื่อนอยู่ตรงนั้นเป็นภาพที่สะเทือนใจยิ่งกว่าซะอีก
สวนสมุนไพรที่ฉันดูแลมันมาอย่างยากลำบาก สมุนไพรราคาแพงที่ฉันเก็บมาอย่างทะนุถนอมจากในป่าน่ะ
โดนเหยียบย้ำไปหมด จนสภาพไม่เหลือชิ้นดีเลย
แล้วก็มีเฮล เฟลม กริซลี 2 ตัวที่พังประตูหลังบ้าน พยายามมุดหัวของพวกมันเข้าไปข้างใน
ดูเหมือนพวกมันจะพยายามฝืนเข้าไปข้างในผ่านช่องทางเข้าแคบๆ นี่ให้ได้ จนแม้แต่กำแพงรอบๆ ประตูก็พังไปด้วย
“บ้านของฉันมัน…”
―――หมีน่ะ ต้องตายสถานเดียว
ความเร็วของฉันในตอนนั้น อาจจะสูงที่สุดเท่าที่ฉันเคยทำมาเลยก็ได้
ขาหลังทั้ง 4 ข้างของสัตว์ 2 ตัวนั่น ถูกฟันขาดในแนวระนาบเดียวกัน ก่อนฉันจะกระฉากแผงขนที่หลังมันตัวนึงเหวี่ยงออกมา พร้อมๆ กับตัดคอมันขาดกระเด็น
ส่วนอีกตัว ก็เตะเข้าที่ท้องจนกระเด็น แล้วก็ฟันคอของมันออกแบบเดียวกับเมื่อตอนที่ร่างของมันปลิวไป
ก่อนที่ฉันจะโยนพวกมันออกไปจากบ้าน
“โลเรียจัง!! ปลอดภัยมั้ย!?”
“คุณซาราสะ! ไม่เป็นไรค่ะ”
ฉันโดดเข้าไปทางห้องครัวที่พังไป แล้วตะโกนร้องถาม ก็ได้ยินเสียงตะโกนของโลเรียจังดังตอบกลับลงมาจากชั้น 2
พอได้ยินเสียงนั้น ฉันก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกเลย
“โลเรียจัง มีมาที่นี่ 2 ตัวเหรอ?”
“ค่ะ! เท่าที่ฉันเห็นจากตรงนี้นะคะ”
“ยังงี้เอง รอตรงนี้ก่อนอีกซักพักนะ!”
“เข้าใจแล้วค่า~”
ฉันดื่มโพชั่นฟื้นฟูกำลังกายเข้าไปอีกขวด ก่อนจะเริ่มออกวิ่งอีกรอบเพื่อดูสถานการณ์รอบๆ หมู่บ้าน
แต่ว่า ก็โชคดีที่ เมื่อตอนที่ฉันออกมาจากบ้าน เฮล เฟลม กริซลีที่เหลือก็ถูกจัดการได้เรียบร้อย สุดท้าย การพยายามสุดท้ายของฉันก็เลยสูญเปล่าเลย
TN: หมีผิดไรอะ? หมีออกจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารัก 555